ความขุ่นเคืองปนน้อยใจยังไม่หายไปจากใจหล่อนง่ายๆ แต่เมเบลจำต้องเชื่อฟัง เพราะการกลับมาอาศัยอยู่เมืองไทยในครั้งนี้ จะต้องอาศัยการคุ้มครองจากพ่อเป็นพ่อ หล่อนยังไม่สามารถใช้ชีวิตได้ด้วยตัวเองในช่วงแรก
อีกอย่างที่ยินยอมที่จะกลับมา หญิงสาวเบื่อสังคมหน้าไหว้หลังหลอกที่นั่น อาชีพนางแบบนอกจากความตื่นเต้น โดดเด่น เป็นที่ยอมรับแล้ว นอกจากนั้นแทบไม่มีอะไรเลย เมื่ออายุเพิ่มขึ้นพบว่าความเป็นส่วนตัวจางลง การไม่เจอผู้คนคือสิ่งที่ตนปรารถนามากกว่า อีกอย่างนางแบบหน้าใหม่เข้าวงการมาเรื่อยๆ ความน่าสนใจจะถูกส่องไปยังเด็กเหล่านั้น หล่อนที่ถึงจุดอิ่มตัวจึงไม่จำเป็นต้องแข่งขันกับใคร ให้เสียสุขภาพจิตแบบวันต่อวัน
ดังนั้น การกลับมาสานต่อธุรกิจของครอบครัวจึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ที่สุดเกี่ยวกับอนาคตข้างหน้า อาชีพที่หล่อนจะฝากไว้ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป เพราะกว่าจะมีกินมีใช้เหลือเฟือจนทุกวันนี้ แม่ของเธอก็ขึ้นชื่อว่าเป็นคนหนึ่งของการบุกเบิก ไม่ควรปล่อยให้คนนอกเข้ามาชุบมือเปิบฉาบฉวยไป
ธุรกิจที่ว่าเป็นธุรกิจเกี่ยวกับการค้าเพชร มีอยู่หลายสาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศ แถมยังเป็นเจ้าแรกที่กวาดซื้อเพชรมาเจียระไนเองด้วย แน่นอนเงินเก็บที่มีไม่ต้องพูดถึง เป็นถุงเป็นถังใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด แต่กระนั้นก็ประมาทไม่ได้ ขืนปล่อยให้คนไร้ความสามารถมาบริหาร เงินที่ว่ามหาศาล วันหนึ่งอาจไม่มีแม้แต่ข้าวสารกรอกหม้อ
ร่างสูงสง่าในชุดดำทั้งชุดราวกับเจ้าหญิง หลุดออกมาจากคฤหาสน์ตรงไปยังรถหรูคันที่จอดรอมาสักพัก ตามคำสั่งของบิดา เพื่อมุ่งหน้าไปยังสนามยิงปืน
วันนี้วีนัสไม่ได้ติดตามมา เพราะติดประชุมนัดสำคัญที่บริษัทซึ่งถูกมอบหมายด้วยอเล็กอีกที คนเป็นลูกสุขใจไม่น้อย รู้สึกตัวของตัวเองมากขึ้นเมื่ออยู่ต่อหน้าพ่อ เธอพูดไปหัวเราะไป เล่าถึงเรื่องตลกของตัวเองสมัยตอนอยู่เมืองนอกให้ฟัง ตลอดการเดินทางที่อยู่ในรถ
ในขณะคนเป็นลูกเล่า คนเป็นพ่อก็เอาแต่มองหน้าฟังอย่างตั้งใจ เขาเองก็อยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับลูกเช่นเดียวกัน ใบหน้านั้นทำให้อดนึกถึงภรรยาเก่าไม่ได้ หากหล่อนไม่ด่วนตายจากไปเสียก่อน ป่านนี้คงภูมิใจน่าดูที่มีลูกสาวถอดแบบมาจากตัวเองอยากกับเคาะกันออกมาเลย
ส่วนวีนัสภรรยาใหม่ของเขา เป็นผู้หญิงที่ผ่านปัญหาชีวิตรันทดมามากมาย จนทำให้เขาสงสาร และค่อยๆรักหล่อนในที่สุด
.....หากวันนั้นอเล็กไม่ทุ่มทุนประมูลหล่อนให้หลุดออกจากคู่แข่งทางธุรกิจ วันนี้เขาคงไม่มีที่ปรึกษาและเลขาที่ดีแบบนี้แน่ และหล่อนก็คงจะตายทั้งเป็น เพราะถูกพวกมันย่ำยี
ยอมรับ วีนัสเป็นผู้หญิงทั้งมีเสน่ห์ทั้งฉลาด ชวนน่าหลงใหลเป็นส่วนใหญ่ที่ผู้ชายชอบ และเขาก็คือหนึ่งในนั้น หล่อนสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี และล่วงรู้ความลับหลายอย่างที่ส่งผลในด้านดีต่อธุรกิจ ผลประโยชน์ที่เขาจะได้รับมากว่าลบ เขาจึงจำเป็นต้องเลี้ยงเอาไว้ แม้รู้ดีจะไม่ลงรอยกับลูกสาวก็ตาม
...สนามยิงปืน...
....ลานกว้างสำหรับฝึกซ้อม....
ผู้สมัครเข้ามามากเกินความคาดหมาย ตั้งเป้าไว้แค่หลักร้อย แต่มีถึงหลักพัน ในขณะผู้ว่าจ้างต้องการเพียงคนเดียว จะต้องเก่งที่สุดและไว้ใจได้ที่สุด เสมือนเพชรน้ำงามหรือช้างเผือกในหิมพานต์ลึก เลยต้องมีด่านคัดตัวที่โหดสักหน่อย
อเล็กยืนดูอยู่นานจนเหลือสิบคนสุดท้าย และหนึ่งในนั้นมี โดมินิก ซึ่งอยู่ในคราบชื่อปลอมอย่าง ดีแลน ด้วย
“เอาล่ะ ด่านสุดท้าย”
เอี๊ยด!
ทันทีที่เสียงตะโกนของครูฝึกดังขึ้น อีคอนที่กำลังก้มหน้าก้มตาเปลี่ยนเป็นตั้งใจฟัง เขามองรถบรรทุกน้ำหนักไม่น้อยไปกว่า 12 ตัน แล่นมาจอดอยู่เบื้องหน้าแล้วยืนนิ่ง ส่วนคนอื่นซึ่งยืนอยู่ข้างกันถึงกับชะงักค้าง คิดไม่ถึงว่าพวกมันจะใช้สิ่งนี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในเกมคัดเลือก ต่างจากอีคอนที่ทำได้เพียงขมวดคิ้วยุ่ง ขบกรามแน่นก็เท่านั้นให้กับการถูกเอารัดเอาเปรียบ
ผู้เข้าคัดเลือกบางคนเหนื่อยจากการว่ายน้ำลึกมาก่อนหน้านี้ ไม่ได้พักไม่พอยังไม่มีมื้อเที่ยงตกถึงท้อง แล้วจะเอาแรงที่ไหนมาใช้ลากรถใหญ่ขนาดนี้เล่า
“หึ”
แต่หนักแค่ไหนก็คงไม่เท่ากับความแค้นในใจของเขาที่มีอยู่ตอนนี้หรอก ต่อให้ต้องลากเครื่องบินเขาก็ยังยืนหยัดที่จะทำ
ตึง!
ร่างสูงเหลือบตามองเชือกเส้นยักษ์ที่ถูกโยนมาตรงหน้า พร้อมอุปกรณ์เซฟตี้ร่างกายไม่ให้บาดเจ็บแล้วแค่นยิ้ม นับตั้งแต่ตกลงไปบนเรือลำนั้นของตามุน เขาลากอวนเช้าเย็นที่หนักไม่น้อยไปกว่ารถคันเล็กๆมาทั้งชีวิต กะอีแค่รถบรรทุกร่างกายสมดุลไปด้วยมวลกล้ามเนื้อแห่งความแข็งแกร่ง แน่นกำยำจนแผงหน้าท้องขึ้นรอนสวย คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่กระมัง
“ภายในห้านาที พวกเอ็งต้องลากมันให้เคลื่อนตัวให้ได้ เข้าใจไหม?!”
“รับทราบ!”
“เอาล่ะ ทีละคน เริ่มจากเอ็ง...”
“ครับ”
ชี้มายังทหารนายหนึ่ง ซึ่งมีร่างกายกล้ามเนื้อกำยำไม่แพ้กัน ทว่าไม่ได้หมายความว่าจะแข็งแรงเหมือนกันทุกคน ระยะเวลาผ่านมานานพอควร แต่ละคนที่ถูกชี้เป้าเรียงคิวมาลาก ต่างแพ้พ่ายตามๆกันไป บ้างก็ยอมตั้งแต่ยังไม่ทันได้ออกแรง บ้างก็ออกแรงแล้วล้อไม่ขยับเขยื้อน บ้างได้รับบาดเจ็บจากการเป็นตะคริว
จนกระทั่ง...
มาถึงอีคอนเป็นรองสุดท้าย เขาก้าวเท้าออกไปอย่างมั่นใจ ใช้เชือกอย่างชำนาญการและถูกวิธี แววตามุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยว ดุจแม่ทัพนายหนึ่ง ซึ่งเป็นเวลาประจวบเหมาะกับที่เมเบลหันมาสนใจพอดี เธอมองชายหนุ่มคนนั้นอย่างไม่วางตา
“หมอนั่นเป็นใคร”
“มันชื่อดีแลนครับท่าน”
“หน่วยก้านดีใช้ได้ ฝึกการยิงปืนแล้วหรือยัง”
“เรียบร้อยแล้วครับ”
“เป็นไง?”
“ไม่พลาดสักนัดเลยครับ”
“ดี”
จบบทสนทนากับลูกน้องคนสนิทที่ถูกวานให้มาทำการฝึกประลองดังกล่าว อเล็กถึงได้หันไปมองลูกสาวหวังขอความเห็น พบว่าหล่อนมองหนุ่มคนนั้นไม่วางตาอยู่แล้ว
“คนนี้ไหม พ่อว่ามันปกป้องลูกได้”
หล่อนเงียบไปอึดใจหนึ่ง
“แล้วแต่พ่อค่ะ เบลดูไม่เป็นหรอก”
“แน่ใจนะ ว่าลูกไม่กลัวมัน”
เธอหันไปมองอีคอนอีกครั้ง แล้วหันกลับมาใหม่
“เขาก็..ไม่เห็นจะดูน่ากลัวตรงไหนนี่คะ”
“โอเค เดเนียล ทำตามที่ลูกสาวฉันบอก ตามไอ้หมอนั่นไปพบฉัน บอกมันว่าเราเลือกมัน”
“ครับนาย”
“เสร็จแล้วใช่ไหม งั้นกลับกันเลยนะคะพ่อ เบลหิวข้าวแล้ว”
อยู่กันสองคนพ่อลูก ได้ทีเมเบลก็อ้อนใหญ่ แวบแรกอเล็กทำท่าอิดออดแต่หล่อนรู้ทัน จึงเอาหน้าไปซบ
“ไม่นะคะ ถ้าพูดว่าติดงานออกมาแค่คำเดียว เมเบลจะไม่คุยกับพ่ออีก”
“ฮ่าๆๆ ร้ายจริงๆ”
สร้างความลำบากใจให้คนบ้างานให้หัวหมุนไม่น้อย คิดไม่ผิดที่ตัดสินใจเปิดรับสมัครคนดูแลให้กับหล่อน ไม่งั้นคงจะติดเขาแจ ไม่เป็นอันทำการทำงานแน่
“ไปนะคะ น้า..เมเบลหิวแล้ว”
“โอเคๆ” ตอบรับหล่อนอย่างเลี่ยงไม่ได้ ยกนิ้วขึ้นมาชี้ ออกคำสั่งให้หล่อนทำตาม “เฉพาะวันนี้เท่านั้นนะ หลังจากนี้ ลูกคงต้องไปกับบอดี้การ์ดของลูก”
เมเบลยิ้มกว้างจนเห็นฟันสวยทุกซี่ โน้มหน้าลงไปซบไหล่แกร่งอีกครั้ง พยักหน้ารัวๆ ปานเด็กเพิ่งได้ของเล่น
“ได้เลยค่ะ คุณพ่อ..”
หารู้ไม่..ชีวิตหลังจากนี้ของหล่อนกำลังจะดิ่งลงเหว
“อ้อ! เดี๋ยว มีอีกเรื่อง”
“คะ?”
“ห้ามเถลไถลเหมือนแต่ก่อน ลูกไม่ใช่เด็กแล้ว ต้องไปช่วยพ่อทำงาน”
“แหม...พ่อก็ เรื่องนั้นทราบค่า”
“ฮ่าๆๆ มันต้องได้อย่างนี้สิ”
“แต่ว่า...”
“หืม?”
“ต้องรอหนูพร้อมเท่านั้นนะคะ ตอนนี้ขอหนูเที่ยวเมืองไทยให้เต็มที่ก่อน ไม่ได้กลับมานานคิดถึงเพื่อนๆที่อยู่ที่นี่ค่ะ ไหนๆก็ไหนๆแล้วก่อนจะทำงานจริงจัง หนูขออนุญาตคุณพ่อจัดปาร์ตี้ที่บ้านได้ไหมคะ”
“เอาสิ! แล้วแต่ลูกเลย ดีซะอีก ถือว่าเป็นการเลี้ยงต้อนรับที่ลูกกลับมาซะด้วยเลย”
“จริงนะคะ”
อเล็กยินยอมพร้อมใจ ระหว่างรถเคลื่อนที่เดินทางไปยังภัตตาคารหรู สร้างความดีอกดีใจให้เมเบลไม่น้อย ชอบที่พูดอะไรตอนนี้ พ่อของเธอก็เหมือนจะเชื่อเธอไปซะทุกอย่าง ยกเว้นก็แต่ตอนอยู่กับวีนัส ที่หล่อนมักจะแพ้พ่ายเสมอ
“ขอบคุณนะคะพ่อ เมเบลรักพ่อที่สุดเลย~”
“แล้วอย่าดื้อนักล่ะ”
“รับทราบฮะ!”