EP 4 : หลักฐานชัดเจน

1438 Words
ตอนที่ 4 : หลักฐานชัดเจน ห้องกิจการนักศึกษา แก๊งรุ่นพี่ปีสี่เดินนำหน้าแก๊งปีสาม และตามมาด้วยแก๊งปีหนึ่ง เข้ามาในห้องกิจการนักศึกษา โดยที่ฟินิกซ์ โอโซน และพอร์ชยืนรออยู่อีกมุมหนึ่งให้ดีเซลจัดการเพียงคนเดียว รวมถึงคนอื่นด้วยยกเว้นแต่หัวโจกของแก๊งที่จะได้เคลียร์กันตัวต่อตัว "ขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่โรงอาหารช่วงเที่ยงหน่อย" "ได้ครับ" คนที่เฝ้าดูความเรียบร้อยของกล้องวงจรปิดในมหา'ลัยทำตามคำสั่งของดีเซล และเปิดภาพเคลื่อนไหวจากกล้องวงจรปิดให้ทุกคนได้เห็น ถึงจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่การที่หัวหน้านักศึกษาคณะวิศวะเข้ามาขอดูภาพกล้องวงจรปิดคงมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น ชิลินมองภาพจากกล้องวงจรปิดและยกยิ้มมุมปากชอบใจ เธอมั่นใจว่าตัวเองถูก และเป็นคนวางกระเป๋าก่อนตามที่บอกไปตั้งแต่แรก ทำให้สายตาชำเลืองมองคู่อริรุ่นพี่ปีสามที่กำลังทำสีหน้าไม่สู้ดีกระอักกระอ่วน คงรู้ว่าตัวเองผิด ดวงตากลมโตปรายตามองชายหนุ่มร่างสูงเจ้าของใบหน้าเรียบนิ่งก่อนจะเบือนหน้าไปทางภาพเคลื่อนไหวตรงหน้า ...ถึงแม้จะปากไม่ดีแต่เขาก็ยังค้นหาความถูกต้อง ค่อยเหมาะกับคำว่ารุ่นพี่หน่อย "ขอโทษซะ" "คะ?" ชิลินแสดงสีหน้าแปลกใจเพราะตอนที่พี่ดีเซลพูดหันมาทางเธอราวกับเธอคือผิด สายตาคู่นั้นมองเธอไม่วางตา "พี่ดีเซลเห็นแล้วใช่ไหมคะว่าคนที่ผิดคือน้องชิลิน" ยัยนี่พกความมั่นใจมาจากไหน ทั้งที่ภาพมันฟ้องชัดเจนว่าตัวเองมาทีหลังแถมยังมาหาเรื่องเธอก่อน "ฉันเห็นว่าใครผิด...ขอโทษน้องปีหนึ่งเดี๋ยวนี้" ดีเซลปรายตามองรุ่นน้องปีสามและหันมาประสานกับดวงตากลมโตที่ทำตาปริบ ๆ อยู่ตรงหน้า "ขอโทษ" "อะไรนะคะ ชิลินไม่ได้ยิน ตอนด่าที่โรงอาหารดังกว่านี้อีกนะ" "ขอโทษ" รุ่นพี่ปีสามกัดฟันและเอ่ยคำขอโทษออกมาแบบที่ไม่เต็มใจ "ถึงจะฟังดูไม่เต็มใจแต่รับไว้ก็ได้ค่ะ ขอตัวนะคะ หิวข้าว" ชิลินมองพี่ดีเซลและมองรุ่นพี่ปีสามด้วยสายตาไม่ชอบหน้าอย่างเปิดเผย ก่อนจะเดินไปหากลุ่มเพื่อนที่รออยู่ สาวสวยปีสามเดินกระฟัดกระเฟียดไปพร้อมกับเพื่อน ตามหลังกลุ่มของชิลินออกไป เพราะไม่กล้าที่จะเถียงอะไรอีกด้วยที่หลักฐานชัดขนาดนั้น "ปวดประสาทตั้งแต่วันแรก" ดีเซลส่ายหัวไปมาเล็กน้อยกับส่ิงที่ต้องเคลียร์ ถึงแม้เขาจะเหมือนคนไม่สนใจโลกแต่ก็ให้ความสำคัญกับความถูกต้อง และไม่คิดพิศวาสเด็กนั่น ถ้าเกิดเปิดภาพวงจรปิดขึ้นมาแล้วเด็กปีหนึ่งทำความผิด เขาก็จะให้ขอโทษเช่นกัน "เด็กปีหนึ่งคนนี้แสบไม่เบา" ฟีนิกซ์ชอบใจในความก๋ากั่นของแก๊งเด็กปีหนึ่ง "ดูทรงแล้วไม่ใช่คนที่นี่ซะด้วยสิ" พอร์ชพูดเสริม "จะคนที่ไหนก็ชั่ง กูก็อยากรู้ว่าจะแน่สักแค่ไหนเหมือนกัน" ดีเซลยกยิ้มมุมปากเพราะการรับน้องไม่ใช่แค่ปากเก่ง แต่ต้องใช้ความอดทน คนที่ปากเก่งสุดท้ายก็ร้องไห้กันทุกรายกว่าจะรับน้องจบ ช่วงเย็นของวัน หลังจากเลิกกิจกรรมรับน้อง แก๊งสี่สาวปีหนึ่งเดินกลับออกมาจากใต้อาคารพร้อมกัน เพราะวันนี้มีนัดกันว่าจะไปตลาดใกล้ ๆ กับมหา'ลัย รุ่นพี่ในคณะบอกมาอีกทีว่ามีทั้งของถูกและของอร่อย จุดรวมพลนักศึกษาหลังเลิกเรียน "ดีหน่อยช่วงบ่ายยังไม่มีอะไรมาก สอนเต้น สอนร้องเพลง ก็สนุกไปอีกแบบ" "อืม ก็จริง แต่พรุ่งนี้คงโดนหนักแน่ รุ่นพี่ให้เตรียมเสื้อดำกางเกงวอร์มมาเปลี่ยนด้วย" "พรุ่งนี้ก็ส่วนพรุ่งนี้ ตอนนี้หิวแล้ว อยากรู้ว่าตลาดใกล้มหา'ลัยเป็นแบบไหน" ชิลินไม่ได้สนใจเรื่องอื่น แต่ใจจดจ่อกับการเดินตลาด และรู้สึกตื่นเต้นจนใบหน้าหวานแสดงอาการออกมา "ทำเหมือนไม่เคยเดินตลาดอย่างนั้นแหละ" พราวถามเพื่อนสาวเพราะเห็นสีหน้าและแววตาตื่นเต้น "ก็ใช่น่ะสิ อารมณ์แบบเพิ่งได้ออกจากกระดองอะไรประมาณนั้น มีแต่ห้างไม่ค่อยมีตลาด" "ก็อย่างว่าเด็กกรุงเทพก็แบบนี้แหละ" ชิลินระบายยิ้มและพยักหน้า ต่อให้เธอไม่ใช่ลูกสาวมาเฟียก็ไม่ค่อยได้เดินตลาดหรอก เพราะด้วยสังคมและการเป็นอยู่ของคนกรุงเทพต่างกับที่นี่อย่างสิ้นเชิง ใช้เวลาไม่นานแก๊งสี่สาวก็เดินมาถึงตลาดตามที่รุ่นพี่แนะนำ ผู้คนมากมายต่างมาจับจ่ายใช้สอยซื้อของกินของใช้ มีทั้งนักศึกษา นักเรียน และคนทำงาน ด้วยที่กว่ากิจกรรมรับน้องจะเลิกก็ห้าโมงเย็นแล้ว เป็นเวลาเลิกงานพอดีคนเลยเยอะ "มีแต่ของน่ากิน" ของละลานตาทำให้แววตาของชิลินเป็นประกายแถมราคายังถูกมากจนน่าตกใจ หลงรักชีวิตมหา'ลัยที่แบบไม่ต้องมีใครคอยตาม คอยดูแลซะแล้วสิ "โอ๊ะ นั่นพี่ดีเซลมากับสาวด้วย ดูเหมือนจะเป็นรุ่นพี่มอเราแต่น่าจะคณะอื่น" ชิลินมองไปตามคำบอกกล่าวของเพื่อนสาว เห็นอย่างที่เพื่อนบอกแต่ไม่สนใจ สิ่งที่น่าสนใจคือของกิน สองชั่วโมงผ่านไป หญิงสาวร่างเล็กเดินเข้ามาที่คอนโดตัวเองข้าวของเต็มไม้เต็มมือ กว่าจะเลือกซื้อของที่ตลาด และรอรถสองแถวกลับคอนโดท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้ว ถึงจะสนุกแต่ก็เหนื่อยใช่เล่น อาจเป็นเพราะวันนี้ทำกิจกรรมทั้งวันเสียพลังงานไปเยอะ แถมยังมีเรื่องกับรุ่นพี่อีกยิ่งปวดประสาท เท้าเรียวเล็กเดินเข้าลิฟต์ที่กำลังจะปิด ทำให้เธอร้องเรียกคนที่อยู่ด้านในให้กดประตูลิฟต์รอเธอด้วย "รอด้วยค่ะ" ประตูลิฟต์ที่เกือบปิดไปถูกเปิดออกเมื่อเธอกดปุ่มด้านนอกไม่ใช่คนด้านในกดเปิดเพื่อให้เธอเข้า แต่ต้องชะงักไปเมื่อเจอรุ่นพี่ปีสี่กำลังยืนเคียงข้างกับผู้หญิง แต่แล้วคิ้วเรียวสวยขมวดเป็นปมเพราะไม่ใช่คนที่เจอตอนที่อยู่ตลาดใกล้มหา'ลัย แถมเข็มที่ติดหน้าอกเสื้อนักศึกษายังไม่ใช่มหา'ลัยเดียวกันกับเธอ ...อย่าบอกนะว่าพี่ดีเซลขั้วเด็กในมหา'ลัยและนอกมหา'ลัย "จะไปหรือเปล่าคะ ถ้าไม่ไปก็ถอยออกไป" หญิงสาวที่ยืนอยู่เคียงข้างดีเซลเอ่ยถามเด็กที่ขอไปด้วย "อ่อ ๆ ไปค่ะ ขอบคุณค่ะ" ชิลินเดินเข้าไปในลิฟต์และกดชั้นเป้าหมายของตัวเอง ซึ่งอยู่ห่างกับคนข้างหลังเพียงชั้นเดียว เขาอยู่ชั้นแปด ส่วนเธออยู่ชั้นเจ็ด แต่ก็ไม่คิดว่าโลกจะกลมจนมีรุ่นพี่ในคณะอยู่ในคอนโดเดียวกัน ดีเซลมองเด็กสาวตัวเล็กที่ยืนอยู่ด้านหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า เพราะไม่รู้จะเบนสายตาไปทางไหนด้วยที่ลิฟต์คับแคบทำให้มองตรงไปแต่ข้างหน้าก็เป็นรุ่นน้องในคณะ "ทำไมวันนี้ถึงมารับฟ้าช้าละคะ" "วันนี้ปล่อยเด็กรับน้องช้า เด็กมีปัญหาเยอะ" "นึกว่าดีเซลจะไม่มารับฟ้าแล้ว" ชิลินเหล่ตามองคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง เพราะก่อนหน้านี้เธอเจอเขาที่ตลาดใกล้มหา‘ลัยกับผู้หญิงอีกคนคงมารับผู้หญิงคนนี้ช้า เลยเอาเรื่องรับน้องมาเป็นข้ออ้าง ติ๊ง… ประตูลิฟต์เปิดออกเมื่อมาถึงชั้นเป้าหมาย ทำให้ชิลินเดินออกไปทันที ดีเซลมองคนตัวเล็กที่ก้าวเท้าออกจากลิฟต์ สายตาคมกริบมองเลขชั้นที่บ่งบอกว่าเธออยู่ชั้นอะไร "สักวันรถไฟจะชนกันนะพี่ดีเซล หึหึ" ชิลินพูดกึ่งหัวเราะเมื่อเดินมาถึงหน้าห้องของตัวเอง อยู่ ๆ ก็มีเรื่องตลกให้ขำระหว่างที่ขึ้นลิฟต์ ติ้ด แกร่ก... มือเรียวเล็กหยิบคีย์การ์ดขึ้นมาแตะและบิดลูกบิดเพื่อเปิดประตูเข้าห้องก่อนจะวางของที่ถือมา ฟุบ ร่างเล็กล้มตัวลงนั่งบนโซฟาตัวยาว แผ่หลาแบบไร้เรี่ยวแรง "ชีวิตนักศึกษาแค่วันเดียว เหมือนกับไปออกรบมาเลย"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD