bc

กลหัวใจซาตาน

book_age18+
546
FOLLOW
3.7K
READ
revenge
possessive
sex
counterattack
arrogant
scandal
confident
sweet
bxg
office/work place
like
intro-logo
Blurb

เวรุณีผู้สูญเสียน้องชาย

ธรณ์ผู้สูญเสียน้องสาวเพราะน้องชายเธอ

คนอื่นอาจมีน้ำตา ... แต่กับเขาความสูญเสียคือไฟแค้น

++++++++++++++++++++++++

“คุณแย่ใส่ผมก่อน พูดว่าน้องสาวผมตาย น้องชายคุณตายก็เจ๊ากันไป ว่าผมเป็นเกย์ แล้วยังลามปามถึงแม่ผมอีก”

สายตาส่งมาโกรธเกรี้ยวราวกับจะเผาให้เป็นจุณ

“เออ...ก็ได้ ฉันขอโทษ”

เธอพยายามแก้สถานการณ์คับขัน อยู่ในห้องปิดตายกับเขาสองต่อสอง เกิดพี่ชายธิณาบ้าที่น้องคนเดียวตายไป จับเธอโยนจากหน้าต่างล่ะ นี่ชั้นยี่สิบกว่าๆ นะ

“ตอแหล ไม่ได้มีความจริงใจเลย”

แรงนิ้วมือจิกท้ายทอยเธอแรงยิ่งขึ้น จนน่ากลัวหนังหัวจะหลุดตามออกมาเป็นแผ่นๆ

“น้องชายคุณทำผมหมดสิ้นทุกอย่าง น้องสาวคนเดียว ทายาทตระกูลผมหมดแล้ว”

ธรณ์พึมพำกับเธอราวคนบ้า

“แล้วจะให้ฉันทำยังไง บ้านฉันก็หมดตระกูลแล้วเหมือนกัน จะให้ฉันรับผิดชอบมีลูกให้เลยไหมล่ะ”

คำประชดทำเอาอีกฝ่ายสะดุดกึก มองพินิจเธอด้วยแววตาคาดไม่ถึง

“อย่าพูดอะไรบ้าๆ น่ะ คุณไม่ใช่สเปคผม”

เสียงเยาะเจือดูถูก เวรุณีหน้าร้อน

“คุณก็ไม่ใช่สเปคฉันเหมือนกัน!”

+++++++++++++++

chap-preview
Free preview
1
รถมอเตอร์ไซด์รับจ้างคันนั้นเคลื่อนออกไป ทิ้งไว้เพียงควันเทาจากท่อไอเสียลอยอ้อยอิ่ง ร่างอ่อนล้าเหลือเกินค่อยๆ เลื่อนประตูรั้วเหล็กเข้าทาวเฮ้าส์หลังเล็ก ที่อาศัยอยู่มาตั้งแต่เกิด       เวรุณีเหลียวดูลานจอดรถซึ่งเว้าเข้าไปในบ้าน ใกล้หน้าต่าง ข้างระเบียง ...ว่างเปล่า ไร้มอเตอร์ไซด์นายเวลาผู้เป็นน้องชาย แสดงว่ายังไม่กลับ เธอแบ่งแกงจืดเต้าหู้หมูสับและยำปลาทูใส่ตู้ไว้ให้ ส่วนตัวเองยกอาหารมาจัดการหน้าโทรทัศน์ ว่าจะลดมื้อเย็นแล้วเชียว แต่วันนี้เหนื่อยจริงๆ เงินหายไปยี่สิบห้าสตางค์ ต้องรื้องบบัญชีมาตรวจใหม่ ป้ายหน้าธนาคารบอกปิดบ่ายสามครึ่ง แต่ความจริงกว่าจะออกมาได้ก็เกือบหนึ่งทุ่ม เวรุณีดูโทรทัศน์สลับกดโทรศัพท์มือถือติดต่อน้องชาย เวลาอายุครบยี่สิบเดือนหน้า กำลังจะจบปวส. เขาคุยกับเธอขอทำงานสักหนึ่งปี แล้วค่อยสอบเข้ามหาวิทยาลัย เพื่อแบ่งเบาภาระ เวรุณีไม่ขัดน้อง ดีเสียอีกจะได้มีเวลาตั้งตัวเก็บเงินบ้าง เงินเดือนพนักงานธนาคารกับการกินอยู่สองปากในเมืองหลวง ทำเอาชักหน้าไม่ถึงหลังอยู่บ่อยๆ โชคดีที่บ้านไม่ต้องผ่อน เพราะเป็นมรดกตกทอดจากพ่อแม่ผู้ล่วงลับ หน้าจอตัดเข้าสู่ข่าวซึ่งในสื่อโซเซียลรายงานตัดหน้าไปก่อนแล้ว เธอจึงเก็บจานชามไปล้าง เวรุณีมองอาหารเกลี้ยงจานสลับกับเอวตน เธอน้ำหนักไม่ได้เกินมาตรฐาน เพียงแต่ไม่ได้ดูผอมบางอย่างสาวๆ หลายคนสมัยนี้ อกอวบอิ่ม เอวเว้า ก้นกลม มีทรวดทรง ตั้งใจอยากให้น้ำหนักลดลงจากเดิมสามสี่กิโล แต่ด้วยงานทั้งหนักและเครียด ส่งผลให้ทำอย่างที่ตั้งใจไม่ได้เสียที “หนูทิปๆ” ป้าจันทร์คนข้างบ้านตะโกนอยู่หน้ารั้ว “ไทม์น้องชายหนู รถชนนะ รู้หรือยัง หน้าปากซอยนี่เอง” เวรุณีหน้าซีด “เขาเอาส่งโรงพยาบาลแล้ว ตามไปเร็ว!” หญิงสาวรีบโบกรถแท็กซี่ซึ่งมาส่งคนในซอยไปที่หมายทันที “หมอเสียใจด้วยนะครับ คนไข้อาการหนักมาก มาถึงโรงพยาบาลช้าไป” หมอสูงวัยอธิบายเสียงเรียบ “ทำไมช่วยน้องฉันไม่ได้คะ เหตุการณ์เกิดไม่ถึงชั่วโมงเลย!” “คนไข้คอหักครับ หมอช่วยไว้ไม่ได้จริง” เวรุณีรับฟังน้ำตาไหลพราก ทรุดลงนั่งกับเก้าอี้พลาสติกหน้าห้องฉุกเฉิน ระหว่างสมองยังมึนงง จับต้นชนปลายอะไรไม่ถูกนั้น ฝีเท้าหนักๆ หลายคู่ก็ย่ำเข้ามาใกล้ “หมอครับ น้องสาวผมเป็นยังไงบ้าง คนไข้ที่ชื่อธิณา” ร่างสูงในชุดสูทเทาผูกเนคไทน์ดำถามร้อนรน “เสียใจด้วยครับ คนขับกับคนซ้อนท้ายเสียชีวิตทั้งคู่” “อุบัติเหตุเพิ่งเกิดชั่วโมงเดียวนะ ทำไมช่วยไว้ไม่ได้” คนมาด้วยอีกคนยกมือแตะอกเสื้อปราม เพราะเขาทำท่าพร้อมกระโจนใส่หมอทุกเมื่อ “ทั้งสองคนคอหักครับ ช่วยไว้ไม่ได้” ว่าแล้วหมอก็ขอตัวไปดูคนไข้อื่น ผู้ชายคนนั้นร่างสั่นเทิ้ม กำมือทั้งสองแน่นสะกดอารมณ์ “คุณเป็นญาติผู้ตายใช่ไหมคะ” พยาบาลเดินเข้ามาคลายสถานการณ์โศกเศร้า “ค่ะ นายเวลา ...คนตาย เป็นน้องชายฉัน” คนสวมสูทหันควับมาทางเวรุณี ดวงตากร้าววาวโรจน์ “ผมเป็นพี่ชายของธิณา คนที่น้องชายคุณพาไปตาย” เธออ้าปากค้างกับเรื่องใหม่ “เอ๊ะ! อย่ามากล่าวหากันสิคุณ” แวดได้เท่าที่แรงมี เงยสู้เขาไม่หวั่นเกรง แม้น้ำตายังพรั่งพรูก็ตาม “หมอก็บอกแล้วนี่ว่าตายทั้งคู่ น้องสาวคุณ น้องชายฉัน” เวรุณีกำลังเศร้า ไม่พร้อมเจอเหตุการณ์อะไรอีก “ถ้าน้องชายคุณไม่พาน้องสาวผมไปแว๊นซ์ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์คงไม่เกิดเรื่อง” “ใจเย็นๆ ครับคุณธรณ์” คนสวมสูทอีกคนเข้ามาคั่นกลางระหว่าง เวรุณีที่นั่งอยู่ กับธรณ์ผู้ทำท่าจะขย้ำเธอได้ทุกเมื่อ “ใครจะไปรู้ล่วงหน้าล่ะ ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ เราต่างเสียคนที่รักไปทั้งคู่ ก็เจ๊ากันไป” ด้วยอารมณ์ไม่ปรกติ สมองไม่แล่น เวรุณีจึงเลือกใช้คำง่าย ...จนยิ่งไปสุมไฟในใจอีกฝ่าย “ไม่มีเจ๊ากัน อย่ามาพูดอะไรไร้ความรับผิดชอบแบบนี้ ผมมีน้องสาวคนเดียวนะ!” “ฉันก็มีน้องชายคนเดียวเหมือนกัน!” “เอาละค่ะๆ ญาติทั้งสองฝ่ายพอได้แล้ว” พยาบาลรีบห้ามก่อนยืดเยื้อมากกว่านี้ “คนตายไปแล้ว จะจัดการอะไร ยังไงขอให้เป็นเรื่องทีหลัง แต่ตอนนี้ไปจัดการเอกสารกับโรงพยาบาลก่อน ตามมาทางนี้ค่ะ” เวรุณีลุกขึ้นสะบัดหน้าพรืด เดินตามพยาบาลไป โดยไม่สนใจว่าร่างสูงจะมาด้วยหรือไม่ งานศพเวลาเต็มไปด้วยความเงียบเหงา เธอกับน้องเหลือญาติไม่มากนัก บางคนก็อยู่ไกล ที่มาร่วมงานส่วนมากจะเป็นเพื่อนบ้านกับเพื่อนร่วมงานธนาคาร เพื่อนเวลามาไหว้ศพเป็นกลุ่มใหญ่ และเล่าเรื่องธิณากับน้องคร่าวๆ “เขาเป็นเด็กใจแตก ไทม์มันคุยดีด้วย เพราะเห็นเป็นลูกค้าร้านเบียร์” เวลามีงานพิเศษเป็นเด็กเสิร์ฟร้านเบียร์ แต่ไม่เคยเหลวไหล การเรียนดีตลอด กลับมานอนบ้านทุกคืน “หลังๆ ธิณาตามมันแจเลยละครับ บางครั้งก็มาหาทั้งชุดนักเรียน” “เขาอายุเท่าไรกันแน่ เด็กคนนั้น” พี่ชายคนตายเธอจำหน้าไม่ได้ ด้วยขณะนั้นม่านน้ำตาแห่งความเสียใจครอบคลุมทุกสิ่ง แต่คะเนจากการแต่งตัว ...ว่าต้องมีฐานะดี “ม.ห้าครับ” เพื่อนน้องชายอึกอัก “แต่ไทม์มันไม่มีอะไรนะครับ มันสงสารเด็ก คุยด้วยเฉยๆ บางทียังไล่ให้ไปทำการบ้านส่งครูเลย” โชคชะตาช่างยุติธรรม หยิบยื่นความตายให้โดยไม่ละเว้น ไม่ว่ารวยหรือจนล้วนเท่าเทียม เสียแต่ว่าพรากชีวิตพวกเขาไปเร็วเหลือเกิน หนุ่มสาวอายุยังน้อย เวรุณีคิดพลางถอนหายใจขณะมองกลุ่มควันจากปล่องเมรุเผาน้องชาย   “ทิปเป็นยังไงบ้าง” พจนารถเพื่อนร่วมงานทักเมื่อเห็นเธอวางกระเป๋าเก็บในล็อกเกอร์ก่อนเข้างาน เวรุณียิ้มเซียวๆ แทนคำตอบ “ทำใจให้สบายนะ เกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดาของโลก” “ขอบใจ” เธอไม่รู้จะพูดอะไรได้มากกว่านี้ “ทุกคนมานี่หน่อย ผู้การมีเรื่องจะแจ้ง” หัวหน้างานเรียกเข้าห้องประชุมซึ่งผู้จัดการธนาคารนั่งบนหัวโต๊ะ เรื่องที่ผู้จัดการหรือเรียกย่อตามปากคนธนาคารว่า ‘ผู้การ’ แจ้งคือจะมีการเปลี่ยนผู้บริหาร ธนาคารเวรุณีถูกเทคโอเวอร์มาหนึ่งปีแล้ว โดยกลุ่มธุรกิจใหญ่ แรกๆ ก็ให้ผู้บริหารชุดเดิมบริหารไปก่อนเพื่อความต่อเนื่องในนโยบาย จนมาปีนี้ก็เข้ามาบริหารเต็มตัว ผู้จัดการแจ้งทุกอย่างยังเหมือนเดิม ไม่มีผลกระทบต่อพนักงานระดับปฏิบัติการเล็กๆ อย่างพวกเธอ เวรุณีประคองสติทำงานด้วยใจอันพยามยามเข้มแข็ง ต่อแต่นี้ต้องอยู่คนเดียวแล้ว ไม่มีน้องชาย บ้านก็เงียบเหงา การทำงานเป็นสิ่งเดียวในชีวิตที่ช่วยให้เธอไม่ร้องไห้ คลายความเศร้าโศกจากความสูญเสีย บ่ายหนึ่งพจนารถชวนไปทานข้าว เขาพยายามคุยเรื่องต่างๆ ปลอบ ชายหนุ่มเข้าใจอารมณ์เธอ เพราะเขาเพิ่งเสียแม่ไปด้วยโรคมะเร็งเมื่อปีที่แล้ว เวรุณีทานนิดเดียว เขี่ยข้าวในจานไปมารอเวลาเข้าทำงาน เมื่อกลับมา ภายในออฟฟิศเกิดโกลาหลย่อยๆ เพื่อนโต๊ะใกล้กันกระซิบ “ซีอีโอใหม่จู่ๆ ก็มาเยี่ยมชั้นเรา เก็บของให้เรียบร้อยเร็ว ผักชีโรยหน้าหน่อย” สักพักรองผู้จัดการมาบอก “ทิปมานี่หน่อย” เขาพาเธอมายังห้องประชุมเล็ก เคาะสองสามทีประตูก็เปิดออก ในห้องมีผู้ชายสองคน หนึ่งอยู่หลังประตูยิ้มละไมให้ ส่วนอีกหนึ่งหันหน้าเข้าหน้าต่างกระจกใสซึ่งฉายทิวทัศน์ตึกสูงทันสมัย และถนนเต็มไปด้วยรถรามากมายในเมืองหลวง “ทุกคนออกไปก่อน” ร่างสูงในสูทดำหันมาประจันหน้า เขาคุ้นตาแปลกๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ผิวขาว คิ้วดำสนิทเหมือนเส้นผมซึ่งหวีเสยเรียบ จมูกโด่ง ริมฝีปากสีเข้มบาง หล่อไม่ถึงขนาดดารา ...แต่มาดดูดีมีฐานะ “ทำงานอยู่ที่นี่เองเหรอ”

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
11.1K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
32.8K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
4.2K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
6.4K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
2.4K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook