บทที่ 1 โปรยเสน่ห์
เขาเหมือนสายลมในฤดูร้อนที่พัดเข้ามากลางใจ ทำให้ฉันตกหลุมรักแบบไม่รู้ตัว...คิมหันต์
ณ Canteen ของ X HYPE SCHOOL
"นั่น คิมหันต์"
เสียงตื่นเต้นของไอน้ำพร้อมกับนิ้วที่สะกิดเรียกให้แครอทเงยหน้าขึ้นไปมองชายหนุ่มที่เธอกำลังพูดถึง ทำให้แครอทที่กำลังขะมักเขม้นกับการลอกการบ้านอยู่ต้องจำใจเงยหน้าจากการบ้านตรงหน้าขึ้นไปมองดูเขาอย่างไม่สบอารมณ์มากนัก แต่เมื่อสายตาของเธอปะทะเข้ากับร่างสูงโปร่งแถมมีออร่าความหล่อแพร่กระจายไปทั่วบริเวณของคิมหันต์ เธอก็ต้องเผลออ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
ชายหนุ่มตรงหน้าทำเธอชะงักค้างและตกอยู่ในภวังค์ เธอไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะหล่อได้มากขนาดนี้ แต่ก็อย่างว่า เขาคือหนุ่มฮอตประจำโรงเรียน ความหล่อความมีเสน่ห์ก็ต้องอยู่คู่กับเขาอยู่แล้ว
เธอมองจ้องเขาแบบไม่กะพริบตาและอ้าปากค้างอยู่นานหลายนาทีก่อนจะรู้สึกตัว รีบสะบัดหน้าสองสามทีเพื่อให้ตัวเองหลุดออกจากภวังค์ แม้เขาจะหล่อมากขนาดไหน แต่เธอก็เอื้อมไม่ถึง...
"หล่อดีนะ"
เธอพูดบอกไอน้ำเสียงเรียบอย่างเก็บอาการ ก่อนจะก้มหน้าลงไปตั้งหน้าตั้งตาลอกการบ้านต่ออย่างรีบร้อน อีกไม่นานเสียงออดบอกเวลาเข้าเรียนคาบแรกก็ใกล้จะดังขึ้นแล้ว เธอต้องรีบปั่นการบ้านให้เสร็จก่อนถึงเวลานั้น แม้จะอยากเชยชมความหล่อของผู้ชายสุดหล่อเหลาคนนั้นต่อ แต่ชะตาชีวิตของเธอสำคัญกว่า
"อะไรเนี่ย!?..แกพูดชมเขาด้วยเสียงเย็นชาชะมัด"
ไอน้ำบ่นอุบเมื่อได้ยินเพื่อนรักพูดชมอย่างไรอารมณ์ แถมยังเมินชายหนุ่มสุดหล่อดั่งสวรรค์ปั้นตรงหน้าและสนใจการบ้านมากกว่าเขาได้ลงคอ
"แกช่วยเงยหน้าขึ้นมาหวีดผู้ชายเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้มะ!"
ไอน้ำพูดต่อว่าให้แครอทพลางดึงสมุดการบ้านของตัวเองออกเพื่อให้แครอทเลิกขมุกขมัวกับการลอกการบ้าน แครอทที่พยายามจะแย่งสมุดกลับมา แต่ทว่ามือดันไปชนขวดน้ำที่เปิดฝาทิ้งไว้จนมันล้มลงและน้ำหกเลอะกระเป๋าของไอน้ำ
"เฮ้ย!"
"ไอ้แครอท!"
เสียงโวยของไอน้ำดังขึ้นเสียงดังด้วยความตกใจ เรียกความสนใจจากคนรอบข้างให้หันมองทั้งคู่เป็นตาเดียว
"โทษทีเว้ย เดี๋ยวรีบเช็ดให้!"
แครอทรีบเอ่ยขอโทษอย่างรู้สึกผิดพลางรีบคว้านหากระดาษทิชชู่มาเช็ดและซึบน้ำที่เปียกกระเป๋าให้ไอน้ำอย่างลุกลี้ลุกลน เพราะกระเป๋าเป้ของโรงเรียนไม่ใช่ราคาถูกและมันก็ตัดเย็บโดยหนังแท้ หากปล่อยให้เปียกน้ำนานๆ อาจราขึ้นได้
"ไม่ต้องลอกการบ้านฉันเลย!"
"ก็เช็ดให้แล้วเนี่ย!"
ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าหล่อเหลาหยุดเดินเมื่อได้ยินเสียงเจื้อยแจ้ว ก่อนจะค่อยๆ หันไปเหลียวตามองหญิงสาวที่กำลังง่วนกับการเอาทิชชูซับสมุดที่เปียกน้ำ ข้างๆ มีเพื่อนพูดบ่นไม่พักปาก แต่เธอก็ไม่ยอมเป็นฝ่ายโดนบ่นเพียงฝ่ายเดียว ต่อล้อต่อเถียงกับเพื่อนกลับไปอย่างออกรสออกชาติ สีหน้าจริงจังของเธอทำเขานึกขำ และรอยยิ้มบางๆ ก็ผุดขึ้นที่ริมฝีปาก
"มองอะไรของมึง?"
'มาร์ค' เพื่อนสนิทในแก๊งของคิมหันต์ เอ่ยถามคิมหันต์ที่ยืนนิ่งมองอะไรบางอย่างด้วยความสงสัย แต่คิมหันต์กลับไม่ตอบ เขาเพียงแค่ตวัดหางตามองดุใส่มาร์คและเดินนำไปก่อน ทำเอาคิ้วหนาของมาร์คขมวดชนกันด้วยความงงงวย ก่อนจะวิ่งตามเพื่อนสนิทไป...
"ไปไหนมา?"
เหมันต์เอ่ยถามพี่ชายฝาแฝดคนละฝาขึ้นทันทีที่เห็นเขาเดินเข้ามานั่งลงที่โต๊ะนั่งประจำของแก๊งพวกเขา เพราะพอมาถึงโรงเรียนและลงจากรถ พี่ชายของเขาก็หายตัวเข้ากลีบเมฆ และก็พึ่งโผล่หัวมาตอนนี้
"พี่ชายมึงก็ไปโปรยเสน่ห์มาไงครับ"
มาร์คเสนอหน้าตอบแทน คิมหันต์จึงหันไปตวัดตามองแรงให้เพื่อนจอมจุ้นที่ชอบอาสาพูดตอบแทนเขาไปเสียทุกอย่าง
"ไม่รู้ถูกใจอะไรในโรงอาหาร เดินผ่านทุกวัน แต่ไม่เคยสั่งข้าวแดก"
ปุณณ์พูดแซะพลางแสยะยิ้มมุมปากให้คิมหันต์ แต่คิมหันต์หาได้สนใจเพื่อนๆ ที่พากันพูดแซวและพากันจับผิด เขาหยิบมือถือขึ้นมากดเล่นลอยหน้าลอยตาทำเป็นเมินไม่สนใจ
"ความหวังของหมู่บ้านมาแล้วเว้ย!"
เสียงมาร์คพูดขึ้นเสียงดังเมื่อสายตาเหยี่ยวมองเห็นคนที่ถูกเรียกว่า 'ความหวังของกลุ่ม' เดินตรงมาทางที่พวกเขากำลังนั่งอยู่
"มาเลยครับ เอามา"
มาร์คแบมือตรงหน้าพีไอทันทีที่เขาเดินเข้ามาหยุดยืนเตรียมจะนั่งลงบนม้าหินอ่อน พีไอเลิกคิ้วถามมาร์คด้วยความงุนงง ไม่เข้าใจว่ามาร์คต้องการอะไรจากเขา
"อะไร?"
"การบ้านคณิตไงว่ะ เอามาลอกหน่อย"
"มีปัญญาก็รู้จักทำเองบ้าง"
พีไอพูดสวนไป หากเป็นคนอื่นอาจรู้สึกเจ็บจี๊ดเข้ากระดูกสันหลังสะดุ้งถึงสมอง แต่มาร์คหาได้แคร์ไม่ เขาหน้าด้านหน้าทนมากกว่าที่คิด แถมยังต่อปากต่อคำเก่งเป็นที่หนึ่ง
"โทษทีว่ะเพื่อน พอดีกูไม่มีปัญญา"
"หน้าด้านมากมึง"
"ฮิๆ เอามา"
"ไม่!"
"ไอ้พีไอ!"
เพื่อนๆ ที่เห็นทั้งคู่เถียงกันก็พากันส่ายหัวไปมาด้วยความเอือมระอา ก่อนจะพากันหยิบหนังสืออ่านหรือมือถือขึ้นมากดเล่นรอเสียงออดบอกว่าเข้าเรียนคาบแรก และที่สำคัญโรงเรียนนี้ก็ไม่มีการเข้าแถวเคารพธงชาติก่อนเข้าเรียนด้วย เด็กนักเรียนจึงมีเวลาค่อนข้างมากในการเตรียมตัวก่อนเข้าเรียน