[CARROT TALK]
Canteen ของ X HYPE SCHOOL
"กินไรดีแครอท?"
ไอน้ำเอ่ยถามฉันเมื่อเราได้โต๊ะนั่งกินข้าวกลางวันด้วยกันแล้ว ฉันส่ายหน้าให้ไอน้ำไปอย่างไร้สติ แล้วเดินตรงมายังร้านขายอาหารที่เรียงรายมากมาย
ฉันเดินเหม่อลอยมาเรื่อยๆ เหมือนคนไร้จุดหมายโดยที่ในหัวเอาแต่ท่องสูตรฟิสิกส์ตีกับสูตรเคมี ตารางธาตุ ตีกันยุ่งไปหมด ช่วงใกล้สอบนี้คือเวลานรกสำหรับเด็กนักเรียนตาดำๆ แบบพวกเราจริงๆ
"v = s ส่วน..."
เอี๊ยดดด..
เท้าฉันเบรกกะทันหันเมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะเดินเลยร้านโปรด รีบเดินเลี้ยวเข้าไปต่อแถวอย่างว่องไว โชคดีที่ตอนนี้คนต่อแถวรอซื้อไม่เยอะ
"วันนี้เอาอะไรจ๊ะลูกค้าประจำของป้า?"
ป้าเจ้าของร้านเอ่ยทักทายและแซวฉันไปด้วย ฉันจึงตอบป้าไปแบบมั่นใจ เพราะเป็นเมนูประจำที่ฉันกินเกือบทุกวัน
"กวยจั๊บน้ำตกชามนึงจ้ะป้า"
"กวยจั๊บร้านป้าไม่ใส่น้ำตกนะนังหนู"
"อุ๊ย! ขอโทษทีค่ะป้า น้ำข้นค่ะ แฮะๆ"
ฉันพูดใหม่พลางยิ้มแห้งให้ป้าไป สมองฉันเบลอแค่ไหนคิดดู ขนาดน้ำข้น ยังพูดเป็นน้ำตกได้เลย รู้สึกหน้าร้อนฉ่าอับอายขายขี้หน้าให้ป้าแบบสุดๆ T..T
"หึๆๆ..เมนูเดิมเกือบทุกวันเลยนะ...กวยจั๊บน้ำข้นชามนึง"
ป้าขำเบาๆ พลางเอ่ยแซวให้ฉัน ก่อนจะหันไปพูดสั่งกับลุง ซึ่งเป็นสามีของป้าและผู้เป็นคนทำกวยจั๊บ เพราะป้ารับหน้าที่เป็นคนรับออเดอร์และเก็บเงิน
"หนุ่มหล่อข้างหลังเอาอะไรจ๊ะ?"
"กวยจั๊บน้ำ..ข้นครับ"
ได้ยินเสียงของคนด้านหลังก็ทำฉันชะงัก เสียงทุ้มเน้นคำว่า 'ข้น' เหมือนจะล้อเลียนฉัน แต่ทว่ากลับดูหล่ออะไรขนาดนี้ ทำเอาฉันอยากเห็นหน้าเลยว่าจะหล่อเหมือนที่ป้าเรียกเขาไหม แต่ไม่กล้าหันไปเพราะกำลังอับอายอยู่
"อ๊ายยย~..หล่อไม่ไหว"
"กิ๊ด..อ๊ายยย~"
เสียงดี๊ด๊าของคนด้านหลังทำให้ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของฉันพุ่งทะยาน ฉันตัดสินใจค่อยๆ หันไปมองคนด้านหลัง และดวงตาโตก็สบเข้ากับดวงตาคมกริบแบบเต็มๆ
ตึกตัก...ตึกตัก...ตึกตัก
หัวใจของฉันกระตุกวูบและชะงักงันไป ได้อยู่ใกล้เขาแบบระยะประชิดแบบนี้ทำเอาฉันเกร็งจนรู้สึกหายใจติดขัด เขามีผลต่อหัวใจฉันจริงๆ นี่สินะอาการเวลาอยู่ใกล้คนหล่อ
ฉันรีบหันขวับกลับมามองตรง ไม่กล้าหันกลับไปมองข้างหลังอีกแล้ว เพราะหัวใจฉันกำลังทำงานหนัก อยู่เฉยๆ น่าจะเป็นการดีที่สุด
พุทโธ ธัมโม สังโฆ
แล้วฉันจะท่องบทสวดมนต์หาพระแสงอะไรเนี่ย อ้อ! ท่องให้ใจตัวเองสงบลง โอ๊ยยยย!
ฉันทะเลาะกับตัวเองในสมองไม่นานกวยจั๊บที่สั่งไปก็ได้แล้ว ป้าเลื่อนชามกวยจั๊บกลิ่นหอมฉุยมาให้ฉัน ฉันจึงยื่นบัตรอาหารให้ป้าไปตัดเงินด้วยมือที่สั่นเทา
"อีกชามก็ได้แล้วนะจ๊ะหนุ่มหล่อ"
ป้าเอ่ยบอกคนข้างหลังพร้อมยื่นบัตรอาหารคืนมาให้ฉัน ฉันจึงเอื้อมมือไปรับมันมา ทว่าจังหวะที่มือของฉันกำลังจะยกชามกวยจั๊บและเป็นจังหวะเดียวกับที่เขารับชามกวยจั๊บที่ป้าเลื่อนมาให้ มือของเราก็แตะสัมผัสกันเบาๆ ก่อนจะรีบขยับออกจากกันในเวลาเสี้ยววินาที แม้จะเป็นเพียงสัมผัสบางเบาแต่ก็ทำให้รู้สึกเหมือนไฟฟ้าสถิตชั่วครู่หนึ่งได้
ฉันระบายยิ้มเล็กๆ ให้เขา ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินถือถาดอาหารออกมาจากตรงนั้น เดินออกมาได้ไกลจากตรงนั้นฉันก็แทบอยากจะร้องกรี๊ดออกมาดังๆ แต่ก็พยายามเก็บกลั้นมันเอาไว้ ไม่คิดว่าตัวเองจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดเขามากขนาดนี้ อ๊ายๆๆๆๆ
[CARROT END]
ปั่ก!
คิมหันต์วางชามกวยจั๊บลงบนโต๊ะทานอาหาร ก่อนเขาจะสอดตัวนั่งลงเก้าอี้ตัวยาว
"แปลกๆ นะวันนี้"
มาร์คหรี่ตามองจับผิดเพื่อนสนิทผู้นิ่งขรึมที่วันนี้ทำตัวแปลกไปจากทุกวัน ทว่าคิมหันต์ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
"อะไรวะ?"
ปุณณ์รีบเงยหน้าจากจานข้าวขึ้นมาถามมาร์คด้วยความอยากรู้อยากเห็น เรดาร์ความขี้เผือกทำงาน
"ก็ไอ้คิมจิอ่ะดิ ปกติกูไม่เคยเห็นมันแดกกวยจั๊บอ่ะดิ แต่จู่ๆ วันนี้แมร่งก็บอกกูว่าจะไปต่อแถวซื้อกวยจั๊บ ทำเอากูงงเป็นไก่ตาเขียว.."
"ตาแตก!"
ปุณณ์แก้ประโยคให้แบบทันท่วงที พลางคิดในใจว่าเพื่อนของเขาช่างพูดจามั่วซั่วไปเรื่อยไปเปื่อยเสียจริง
"เออนั่นแหละ..มึงลืมกินยาคูลท์ตอนเช้ารึเปล่าวะ แปลกๆ ไปนะ"
มาร์คตอบปุณณ์ไปปัดๆ หันถามคิมหันต์อย่างสอดรู้สอดเห็น ทว่าคิมหันต์กลับไหวไหล่เบาๆ ให้ ก่อนจะก้มมองกวยจั๊บตรงหน้าเมินคำถามของเพื่อนสนิท
"ทำไมมึงถึงถามมันว่าลืมกินยาคูลท์รึเปล่า?"
คนขี้เผือกอย่างปุณณ์ถามด้วยความสงสัย ผลักจานข้าวออกแล้วเอามือเท้าคางถามอย่างจริงจัง การได้เผือกเรื่องชาวบ้าน โดยเฉพาะเรื่องของเพื่อนทำให้เขารู้สึกอิ่มมากกว่าการกินข้าว
"ก็แบบไม่ได้กินก็จะถ่ายไม่ออก ของเสียคั่งในร่างกายไง"
"ไอ้เจริญศรี มึงก็เด็กวิทย์เกิ้น!"
"ใครวะเจริญศรี?"
มาร์คเอียงคอถามปุณณ์ ทำสีหน้างงงวยแต่แฝงด้วยความกวนบาทา
"แม่มึงมั้ง!"
"แม่กูชื่อเจริญพร พ่าม!"
"ถุย! ไอ้เวร ไร้สาระฉิบหายมึงอ่ะ!"
"มีสาระก็ไม่ใช่กูสิ"
"จ้า ไอ้คนไม่มีสาระ!"
คิมหันต์ตวัดตามองเพื่อนสองคนที่ตบมุกกันไปมาอย่างระอา ใจลึกๆ คิดว่าเขาไม่น่าพลาดท่ามาเป็นเพื่อนกับสองคนนี้เลย เพราะทั้งบ้าบอและจุ้นจ้านเกินใคร
คิมหันต์ส่ายหน้าไปมาอย่างเหนื่อยใจกับเพื่อนสองคน ก่อนจะลงมือตักกวยจั๊บขึ้นมากินคำแรก รสชาติไม่คุ้นชินทำเขาเอียงคอขมวดคิ้วสงสัย ก่อนจะตักขึ้นมากินอีกครั้งคำที่สอง
"เป็นไรวะพ่อยาคูลท์?"
เหมันต์เอ่ยถามพี่ชายฝาแฝดเมื่อสังเกตเห็นว่าทำหน้าสงสัยในรสชาติของกวยจั๊บ
"แปลกๆ"
"แปลกดิ ปกติมึงเคยกินที่ไหน"
"อร่อยแบบแปลกๆ"
"หา!/หา!"
ทั้งมาร์คและปุณณ์ที่กำลังเถียงกันอยู่รีบร้องออกมาเสียงดังพร้อมกันแบบอึ้งๆ เพราะไม่คิดว่ามนุษย์ผู้ชอบกินข้าวเป็นชีวิตจิตใจอย่างคิมหันต์จะบอกว่ากวยจั๊บอร่อย และโดยปกติคิมหันต์ไม่ค่อยชอบกินเมนูเส้นสักเท่าไหร่
"เอามาชิมดิ้"
"เออๆ"
ปุณณ์และมาร์คยกช้อนขึ้นมาเตรียมจะตักชิมกวยจั๊บของคิมหันต์ ทว่าก็ต้องถือค้างกลางอากาศเพราะคิมหันต์รีบยกชามกวยจั๊บหนี แล้วถลึงตาใส่เพื่อนจอมจุ้นทั้งสอง
"ไม่!"
"ไอ้ขี้หวง กูไปซื้อมาลองกินเองก็ได้วะ!"
"เออ กับเพื่อนกับฝูงอ่ะ"
ปุณณ์กับมาร์คพากันทำหน้าบูดบึ้งอย่างง้องอนให้คิมหันต์
"พวกมึงก็เลิกไปเสือกกับชีวิตมันเถอะ"
เหมันต์ต่อว่าให้เพื่อนจอมจุ้นทั้งสองพลางพ่นลมหายใจออกมาอย่างเพลียใจ จากนั้นก็เหล่ตามองพี่ชายฝาแฝดที่กำลังกินกวยจั๊บพลางยิ้มเล็กยิ้มน้อยไปด้วย ในใจก็นึกเห็นด้วยกับมาร์คที่ว่าพี่ชายของเขาดูแปลกไปจากทุกวันจริงๆ...
เมื่อทุกคนกินข้าวเที่ยงเสร็จ ก็พากันเดินจับกลุ่มกันออกมาจาก Canteen ทว่าคิมหันต์ที่เหลือบตาไปเห็นบางอย่างก็หยุดชะงักเท้าและมองจ้องอย่างให้ความสนใจ
"ไม่ไป?"
พีไอเมื่อเห็นคิมหันต์หยุดเดินก็หันกลับมาถาม
"ไปดิ"
คิมหันต์เอ่ยตอบไป ละสายตาจากสิ่งที่เรียกความสนใจของเขาและเดินตามเพื่อนๆ ไป
สิ่งที่ทำให้คิมหันต์ให้ความสนใจก็คือแครอทที่กำลังนั่งกินไอติมกับไอน้ำอยู่อย่างเอร็ดอร่อยตรงม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่นั่นเอง