บทที่ 4 เพื่อนบ้านที่รู้จักกันดี

1177 Words
เวลาต่อมา... "สองแฝด" ใบหม่อนเอ่ยเรียกลูกชายฝาแฝดทั้งสอง เมื่อได้ยินเสียงแม่เรียก ทั้งคิมหันต์และเหมันต์ก็รีบขานรับและวิ่งแจ้นเข้ามาอย่างทันทีทันใด "ครับ/ครับคุณแม่" "แม่ฝากเอาไข่ลูกเขยไปให้บ้านป้าพิ้งค์กับบ้านป้าเกรซหน่อยสิคิมหันต์" "ได้ครับ" "ส่วนเหมันต์ แม่ฝากเอาไปให้บ้านน้าชาเขียวกับป้าแซนดี้หน่อยจ้ะ" "ครับผม" ใบหม่อนจัดแจงให้ลูกชายทั้งสองเอาอาหารไปฝากให้เพื่อนบ้าน ซึ่งลูกชายทั้งสองก็ว่าง่ายและเต็มใจทำ เพราะพวกเขาอยากไปพบปะเพื่อนบ้านเช่นกัน ทั้งสองแยกย้ายกันไปตามบ้านที่ได้รับมอบหมาย โดยมีผู้เป็นแม่มองตามแผ่นหลังด้วยความภูมิใจและอิ่มอกอิ่มใจให้ลูกชายทั้งสองที่มีน้ำใจและว่านอนสอนง่าย "ใช้ลูกเอากับข้าวไปฝากเพื่อนบ้านอีกแล้วเหรอที่รัก?" อีธานเดินเข้ามาโอบไหล่ภรรยาสุดน่ารักและเอ่ยถามขึ้น สีหน้าดูภูมิใจให้ลูกชายทั้งสองไม่ต่างจากภรรยา "ใช่ค่ะ..ต้องเอาใจเพื่อนบ้านหน่อย มีกันอยู่แค่ 5 หลังเองนี่คะ" "น่ารักและเป็นเพื่อนบ้านที่ดีจริงๆ เมียพี่" อีธานและใบหม่อนยิ้มให้กัน ก่อนอีธานจะขยับเข้าไปบรรจงริมฝีปากจูบลงที่หน้าผากมนของภรรยาอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน ใบหม่อนในวัย 39 ปี แม้จะอายุมากขึ้น แต่ความสวยน่ารักและความสดใสของเธอก็ยังคงไม่ลดน้อยลงเลยสักนิด เธอเปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ประจำบ้าน ที่คอยให้ความอบอุ่นและพลังงานบวกแก่คนในครอบครัว เพราะเธอคือผู้หญิงคนเดียวในบ้านและก็เป็นแม่ ผู้มีอภิสิทธิ์เหนือกว่าทุกคนในบ้าน เพื่อนบ้านที่ใบหม่อนสั่งให้ลูกแฝดสองคนเอาไข่ลูกเขยไปให้ ก็คือบ้านของเพื่อนสนิทแสนใกล้ชิดของอีธานนั่นเอง หลังจากสมาชิกทุกคนในแก๊ง EXTRA ต่างก็แต่งงานมีครอบครัวที่แสนอบอุ่นพร้อมลูกรักและภรรยากันทุกคน ก็มีความต้องการอยากจะย้ายมาอยู่ใกล้กัน เพื่อจะได้ไปมาหาสู่กันได้อย่างสะดวก เมื่อตัดสินใจได้อย่างถี่ถ้วนดีแล้ว ก็รวมเงินกันลงทุนซื้อที่ดิน จากนั้นก็จัดการสร้างหมู่บ้านนี้ขึ้นมา โดยที่ในหมู่บ้านนี้มีบ้านเพียงแค่ 5 หลังเท่านั้น ติ๊งต่อง... เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้นไม่นาน เจ้าของบ้านก็เดินจ้ำอ้าวออกมาเปิดประตูให้ "อ้าวคิมหันต์นั่นเอง" 'พิ้งค์' แม่ของพีไอหรือภรรยาของเอ็กซ์คิว เอ่ยทักทายหลานชายด้วยรอยยิ้มหวาน ยามที่เห็นหน้าคิมหันต์หรือเหมันต์ทีไรก็ทำเอาอดนึกถึงอีธานไม่ได้ทุกที พวกเขาสองคนช่างหน้าตาละม้ายคล้ายพ่อเสียจริงๆ "คุณแม่ฝากมาให้ครับ" คิมหันต์ยื่นกล่องใส่ไข่ลูกเขยให้ป้าพิ้งค์ ผู้เป็นป้าจึงรับมาด้วยความปลาบปลื้มใจ อดภูมิใจในตัวคิมหันต์แทนพ่อแม่ของเขาไม่ได้ "ขอบใจจ้ะ" คิมหันต์สงบเสงี่ยมและพูดน้อยจนพิ้งค์อดคิดไม่ได้ว่านิสัยของเขาช่างคล้ายกับลูกชายของเธอที่วันๆ เอาแต่ขลุกตัวอยู่แต่ในห้อง เอาแต่อ่านแต่หนังสือแบบไม่ทำอะไรอย่างอื่น ชอบทำหน้านิ่ง พูดจานับคำได้ ซึ่งนิสัยพวกนี้เขาได้พ่อมาเต็มๆ "เข้ามาในบ้านก่อนสิคิมหันต์ ป้าจะฝากแกงเขียวหวานกลับไปบ้านเราด้วย" คิมหันต์หลุบตามองกล่องใส่ไข่ลูกเขยที่เหลืออยู่ในมืออีกหนึ่งกล่องเป็นเชิงบอกพิ้งค์ว่าเขาไม่สะดวก "ผมต้องไปบ้านป้าเกรซต่อ" "งั้นรอแป๊บนะจ๊ะ" ผู้เป็นป้าเมื่อเห็นดังนั้นก็เข้าใจ เอ่ยบอกหลานชายก่อนจะหายกลับเข้าไปในบ้านอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกลับมาพร้อมกล่องใส่แกงเขียวหวาน "เอากลับไปกินน้าา" "ขอบคุณครับ" คิมหันต์เอ่ยขอบคุณพลางโค้งหัวเล็กน้อยให้ป้าพิ้งค์ ก่อนจะเดินตรงไปยังบ้านอีกหลังที่อยู่ติดกัน ติ๊งต่อง... คิมหันต์กดออดหน้าบ้านอีกหลัง รอไม่นานเจ้าของบ้านก็เดินออกมาเปิดประตูบ้านให้เขา "เข้ามาดิ" คิมหันต์เอียงคอมองหน้าคนที่เดินออกมาเปิดประตูบ้าน เขาดูแปลกใจไม่น้อยที่เห็นเพื่อนสนิท แทนที่จะเป็นแม่ของเขา "พ่อแม่มึงล่ะ?" "แม่กูทำเล็บอยู่ มึงเข้ามาก่อนดิ กูจะชวนเล่นเกมใหม่" คิมหันต์พยักหน้าเข้าใจ เพียงได้ยินคำว่า 'เกม' ก็เรียกความสนใจให้คิมหันต์อยากเข้าไปในบ้านได้อย่างไม่ต้องคิดมาก "แม่เราฝากกับข้าวมาฝากป้าอีกแล้วเหรอคิมหันต์?" "ใช่ครับ" คิมหันต์ตอบป้าเกรซไป ซึ่งนิสัยและท่าทางนิ่งซึนของเขาก็เรียกความเอ็นดูให้กับบรรดาป้าๆ เพื่อนบ้านได้ไม่น้อย จนเก็บรอยยิ้มเอาไว้ไม่อยู่ "ปุณณ์รับของมาจากเพื่อนสิลูก" "ค้าบบบ" ปุณณ์ทำตามคำสั่งของผู้เป็นแม่ เดินไปรับกล่องใส่ไข่ลูกเขยจากคิมหันต์เดินไปเก็บในห้องครัวอย่างรวดเร็ว "ฝากขอบใจแม่เราด้วยนะคิมหันต์" "ครับ" "ขึ้นไปเล่นเกมที่ห้องกูกัน" ปุณณ์พูดชวนเมื่อเดินออกมาจากห้องครัว คิมหันต์จึงพยักหน้ารับ แล้วทั้งคู่ก็รีบวิ่งตามกันขึ้นบันไดมาชั้นสองของบ้าน เมื่อทั้งคู่ขึ้นมาบนห้องนอนของปุณณ์แล้ว ปุณณ์ก็จัดการกดเข้าเกมและยื่นจอยเกมให้คิมหันต์ ก่อนจะเริ่มต้นเล่นเกมด้วยกันพลางแหกปากดังลั่นห้อง "มึงตายแน่ไอ้คิมจิ! (กิมจิ)" "กูไม่ยอมมึงหรอก!" ทั้งคู่กดจอยเกมกันอย่างเมามัน ตะโกนโหวกเหวกโวยวายด้วยความที่ต่างไม่ยอมแพ้ให้กันและกัน ตัวละครในเกมต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย ก่อนตัวละครของคิมหันต์จะน็อคเพราะสู้ปุณณ์ไม่ไหว "แพ้อีกแล้ว!" "ฮ่าๆๆๆ บอกแล้วว่าอย่างมาหยองกับกู" ปุณณ์ทำหน้าตาล้อเลียนคิมหันต์อย่างสะใจที่สามารถเอาชนะคิมหันต์ได้ "กูไม่เล่นล่ะ!" คิมหันต์เมื่อเห็นหน้าตาสะใจปนกวนประสาทของปุณณ์ก็วางจอยเกมกระแทกลงโซฟาอย่างหัวเสีย ก่อนจะสับเท้าเดินหนี แต่ปุณณ์ก็เรียกไว้ก่อนจะเดินออกไป "เดี๋ยวๆ มึงเอาแกงเขียวหวานของป้าพิ้งค์กลับไปด้วยเว้ย" คิมหันต์ตวัดตามองเคืองให้ปุณณ์ เดินฟึดฟัดกลับมาหยิบกล่องใส่แกงเขียวหวานแล้วเดินออกไป "ฮ่าๆๆๆ" ท่าทางของคิมหันต์ทำให้ปุณณ์หัวเราะร่าอย่างนึกเอ็นดูให้เพื่อนสนิทที่ทำหน้างอนตุ๊บป่อง แม้ทั้งคู่จะทำเหมือนโกรธและไม่พอใจให้กันจะเป็นจะตาย แต่พอเวลาผ่านไปไม่นานทั้งคู่ก็จะหายโกรธให้กันไปเอง เหมือนไม่เคยเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ซึ่งมันคือเรื่องปกติของมิตรภาพของแก๊งเพื่อนผู้ชายในวัยรุ่นแบบนี้นั่นเอง ไม่ได้ถือโทษโกรธกันนานเช่นกลุ่มแก๊งเพื่อนผู้หญิง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD