ตอนที่1 นอกใจ
บทที่ 1
ที่คอนโดหรูสูงสามสิบชั้นและชั้นยี่สิบก็เป็นรังรักของชนินท์ บริลักษ์สกุล หนุ่มใหญ่วัยห้าสิบหกปีประธานบริษัทสยามคอมปอร์เรชั่น จำกัด. ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มอีกหลายประเภทหนึ่งในสามของเมืองไทยและยังนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากต่างประเทศรายใหญ่ที่มีการแข่งขันสูงเพื่อชิงอันดับหนึ่งในตลาดกับบริษัทคู่แข่งมาตลอดและยังมีบริษัทในเครืออีกมากมายอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นๆของเมืองไทยมีทรัพย์สินนับหมื่นล้าน กับเมียน้อยสาววัยสี่สิบแปดที่ลักลอบมีความสัมพันธ์กันมานานกว่ายี่สิบเจ็ดปีโดยที่เมียหลวงจับไม่ได้เพราะพวกเขาใช้เวลาทำงานพูดคุยกันและนัดหมายมีความสัมพันธ์กันอย่างลับๆมีอำนาจคนสนิทของชนินท์ที่รับหน้าแทนเจ้านายที่อ้างว่าวรชาเป็นแฟนเขาจนมาถึงตอนนี้ก็ยี่สิบกว่าปีและอำนาจก็มีภรรยาแล้ว ชนินท์ใช้เงินปิดปากคนสนิทกับภรรยาให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับและให้ภรรยาของอำนาจเป็นแม่บ้านดูแลบ้านให้วรชา
“อ้ะ อ้า พี่เต้ขา อู้วว เอาแรงๆอีกค่ะ อ่า ถึงใจชาที่สุด อ้ะๆ อ้าๆ..” สาวใหญ่ร้องเสียงดังลั่นห้องแล้วกระดกสะโพกรับท่อนเอ็นลำยาวที่กระแทกเข้าออกร่องสวาทของเธออย่างแรงไม่หยุด
“ปั้บบๆๆ ปั้บบๆๆ..”
“พี่จะหมดแรงแล้วนะชา อ่า อื้มม..” ร่างใหญ่ถาโถมแรงทั้งหมดกระแทกกระทั้นท่อนเอ็นลำยาวเข้าออกรัวเร็วๆเพื่อพาเมียรักขึ้นสวรรค์ไปพร้อมกัน
“งั้นชาจะขี่พี่เต้เองค่ะ อ่า อ้ะ อ้า..” วรชาพูดเสียงหอบกระเส่าเพราะเธอปรนเปรอสามีอย่างถึงอกถึงใจทุกครั้งที่เจอกันและป้อนเขาจนอิ่มเอาอกเอาใจเขาทุกอย่างทำให้เธอเป็นเมียน้อยยืนหนึ่งมาตลอดและรอวันที่เขาเลิกกับภรรยามานานเขาก็ไม่เลิกเพราะไม่อยากแบ่งสมบัติทั้งที่เธอมีทายาทให้เขาซึ่งมันขัดใจเธอ แต่ไม่กล้าโวยวายหรือเร่งเร้าเขาแต่ตอนนี้ลูกชายของเธอเรียนจบปริญญาโทพร้อมจะกลับมาช่วยงานพ่อแต่ไม่สามารถออกหน้าได้
“ขอพี่เสร็จรอบนี้ก่อนนะชา อ่า หอยชายังฟิตแน่นเหมือนเดิมเลยตอดกล้วยพี่โคตรแน่นเลย อ่า อื้มม..” ชนินท์จับเอวบางแล้วสาวเข้าหาตัวกระแทกท่อนเอ็นลำยาวเขาใส่รัวเร็วๆจนเสียงเนื้อกระทบกันดังลั่นห้อง
“ปั้บบๆๆ ปั้บบๆๆ..”
“ชะชา จะเสร็จแล้วพี่เต้ อ่า อ้ะ อ้ายยยส์...”
“โอ้ว อ๊าาากซ์..” ร่างใหญ่เกร็งกระตุกถี่ๆแล้วปลดปล่อยน้ำรักเข้าใส่ร่องสวาทของเมียรักอมากมายก่อนจะทิ้งตัวลงทับแผ่นหลังร่างเล็กอวบอิ่มราวกับสาวแรกรุ่นทั้งที่อายุเกือบห้าสิบแต่วรชายังสวยเหมือนตอนเธอมาฝึกงานที่บริษัทและใช้เต้าไต่ขึ้นมาจนตอนนี้เป็นหนึ่งในผู้บริหารฝ่ายโฆษณาของบริษัททำให้เธอต้องดูแลตัวเองให้มีภาพลักษณ์ที่สวยงามตลอดเวลา
“ที่รักขา..” วรชาพลิกตัวมาหาเขาทันทีที่ร่างใหญ่ลงจากตัวเธอ
“ว่าไงที่รัก อยากได้อะไรอีกล่ะ” หนุ่มใหญ่ถามอย่างรู้ใจเมียรักที่เขาหลงใหลเธอหัวปักหัวปำจนมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคนและตอนนี้ก็ไปเรียนต่อต่างประเทศและลูกชายก็รู้ดีว่าเขาเป็นพ่อและเขาส่งลูกชายไปอยู่โรงเรียนประจำที่สหรัฐอเมริกาตั้งแต่อายุสิบสองปีจนตอนนี้เรียนจบปริญญาโทจบแล้วยังทำงานในบริษัทใหญ่ที่อเมริกาได้เกือบสามปีเพื่อพิสูจน์ฝีมือการทำงานแล้วเขาก็อยากให้มาช่วยงานแต่ไม่รู้จะบอกลูกยังไงจึงให้คนเป็นแม่คุย
“อยากได้กล้วยของพี่เต้ค่ะ” วรชามองสามีแล้วยิ้มก่อนจะลุกขึ้นแล้วนั่งคร่อมหน้าท้องของเขาแล้วจับท่อนเอ็นลำยาวที่มันอ่อนตัวลงบีบรูดเร็วๆจนมันแข็งสู้มือเธอก็จับหัวมันจ่อกลางร่องสวาทแล้วกดสะโพกลงทีเดียวจนมันหายเข้าไปทั้งลำยาว
“โอ้วว ที่รักสุดยอดมาก อ่า อื้มม..”
“อ้า อู้วว พี่เต้ขา มันทั้งเสียวทั้งจุกเลยค่ะพี่ อ่า อื้ออ..” สาวใหญ่ร้องครางเสียงดังแล้วเธอก็บรรเลงเพลงรักอย่างถึงพริกถึงขิงทั้งขย่มโยกไปมาควบขี่อย่างมัวเมาจนน้ำแตกก็ย้ายไปเอาหน้ากระจกและในห้องน้ำจนหมดแรงไปด้วยกันอย่างมีความสุข
ขณะที่ชนินท์กำลังสนุกกับเมียรักสุดสวาทของเขาที่คอนโดหรูกลางเมือง ผลิตาภรรยาตัวจริงของเขาไปเที่ยวอเมริกากับเพื่อนและแวะแคลิฟอร์เนียหาหลานสาวคนโตที่เธอส่งเสียเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กหลังรู้ว่าไม่สามารถมีลูกได้และตอนนี้ลันลนาก็เรียนปริญญาโทและทำงานไปด้วยและเธอก็อยากให้หลานสาวไปช่วยงานที่บริษัทเพราะเธอไม่มีลูกกับสามีจึงคุยกับน้องสาวขอหลานสาวคนโตมาเลี้ยงดูเพื่อให้สืบทอดธุรกิจของเธอกับสามีแม้ไม่ใช่ทายาทที่แท้จริงแต่ลันลนาเป็นหลานสาวมีสายเลือดเดียวกันกับเธอ
“ป้าลีฟจะซื้ออะไรอีกมั้ยคะ” ลันลนาถามป้าของเธอที่เดินช้อปปิ้งกับเพื่อนของท่านและเธอหิ้วของเต็มสองมือจนไม่มีมือจะถือแล้ว
“ตายแล้วเธอ ดูสิหนูแคลร์ถือของหนักแย่เลย ฉันว่าเราไปนั่งดื่มกาแฟกันก่อนดีมั้ย มาจ้ะหนูแคลร์ป้าช่วยถือลูก” ทิพยาดาบอกเพื่อนที่พากันช้อปปิ้งเพลินจนลืมไปว่าไม่มีคนช่าวถือของเหมือนอยู่กรุงเทพ
“ไม่เป็นไรค่ะคุณป้ายาดา แคลร์ถือไหวค่ะ”
“เอามาเถอะยัยแคลร์ มันหนักนะ แกก็ไม่บอกป้าว่าของเยอะ” ผลิตาว่าหลานสาวแล้วยื่นมือไปช่วยถือของและแบ่งให้เพื่อนทั้งสองที่มาด้วยกันถือ
“ขอบคุณค่ะป้าลีฟ” ลันลนาขอบคุณป้ากับเพื่อนของท่านแล้วเดินตามหลังทั้งสามไปร้านกาแฟ แม้บางครั้งป้าจะอารมณ์ร้อนดุด่าเธอบ้างแต่เวลาป้าใจดีก็ดีใจหายและเธอก็ต้องเชื่อฟังท่านเพราะถ้าไม่มีท่านเธอก็ไม่มีวันนี้ไม่ได้มาเรียนไกลถึงอเมริกาและพ่อแม่ของเธอก็ได้ป้าช่วยเหลือออกทุนให้ทำธุรกิจขายเฟอร์นิเจอร์ที่จังหวัดแพร่บ้านเกิดของพ่อหลังจากตาไม่ให้ความช่วยเหลือเพราะพ่อของเธอทำธุรกิจค้าส่งขาดทุนทำให้บริษัทขาดทุนแล้วท่านก็พาแม่ของเธอไปอยู่บ้านเกิดของพ่อและตอนนี้พ่อแม่ก็ขยายร้านและสร้างโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ขายเองแต่ก็ยังสั่งจากโรงงานเจ้าประจำด้วยเพราะมีหน้าร้านที่กรุงเทพที่แม่เป็นคนดูแล ส่วนพ่อก็ไปๆมาๆระหว่างจังหวัดแพร่กับกรุงเทพ เธอจึงเลือกเรียนการตลาดและบริหารธุรกิจ ส่วนธุรกิจของตาก็ให้ป้าบริหารและควบรวมกับธุรกิจของลุงเขยไปเรียบร้อยและตอนนี้ก็เป็นหนึ่งในสามของวงการธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเมืองไทย
“หนูแคลร์เรียนจบแล้วจะกลับเมืองไทยเลยมั้ยจ้ะ” ธิติมาถามหลานสาวของเพื่อนหากลันลนาเป็นลูกสาวของผลิตาจริงก็ดีสิเธอจะได้จับคู่กับลูกชายเพื่อส่งเสริมทางธุรกิจ
“แกเรียนให้จบก็น่าจะกลับบ้านเลยนะยัยแคลร์ จะไปทำงานให้เสียเวลาทำไมหรือแกไม่อยากกลับบ้าน” ผลิตาขัดใจหลานสาวที่ขอทำงานต่อหลังเรียนจบและเธอก็ปฏิเสธไม่ได้เมื่อหลานสาวบอกว่าขอหาประสบการณ์ก่อน
“แคลร์ก็อยากกลับค่ะ แต่แคลร์ขอทำงานหาประสบการณ์ก่อนนะคะป้าลีฟ” หญิงสาวอ้อนป้าเพราะเธออยากทำงานหาประสบการอีกสักปีสองปีก่อนกลับเมืองไทยไปช่วยงานท่าน
“ไปหาเอาที่บริษัทก็ได้นี่ หรือว่าแกมีอะไรแล้วไม่บอกป้าล่ะ”
“เปล่าค่ะ แคลร์แค่อยากเรียนรู้งานจากที่นี่ก่อนจะได้ไม่มีใครว่าแคลร์ใช้เส้นสายของป้าลีฟเข้าทำงานแคลร์อยากทำงานราบรื่นในบริษัทมากกว่าจะถูกเขม่นเอาได้ค่ะ” เพราะไม่ได้มีแค่เธอแต่ยังมีลูกหลานแท้ๆของท่านเจ้าสัวหาญอีกและเธอก็มีหน้าที่ทำตามคำสั่งของป้า
“แกไม่ต้องไปสนใจเพราะป้าจะให้แกมาเป็นผู้ช่วยของป้า” เธอวางแผนไว้แล้วว่าจะให้หลานสาวเป็นผู้ช่วยเพื่อเรียนรู้งานบริหารและเป็นตัวแทนของเธอในบริษัท
“นั่นยิ่งแล้วใหญ่เลยค่ะ ถ้าป้าลีฟทำแบบนั้นผู้บริหารจะต้องมีอคติและเวลาประเมินผลงานและประชุมบอร์ดบริหารแคลร์กับป้าลีฟจะมีปัญหาค่ะ”
“หลานมันคิดก็ดีนะลีฟ ตอนนี้ทางน้องสาวของคุณชนินท์ก็ให้ลูกชายเข้าไปทำงานในบริษัทแล้วก็ยังไม่ได้ตำแหน่งด้วยนี่และถ้าไม่เก่งจริงทำงานจริงก็อยู่ไม่ได้เธอก็รู้ดีไม่ใช่หรือไงลีฟ” ทิพยาดาพูดกับเพื่อนเพราะสามีของเพื่อนเข้มงวดมากแม้แต่หลานแท้ๆยังเข้มงวดและถ้าไม่ผ่านงานก็ไม่สามารถไปเป็นหนึ่งในผู้บริหารของบริษัทได้
“ฉันกลัวว่าพวกเขาจะเข้ามาสร้างคอนเนคชั่นในบริษัทก่อนที่ยัยแคลร์จะกลับน่ะสิ” เธอตั้งใจถ่ายทอดวิชายุทธในเชิงธุรกิจให้หลานสาวที่เธอสามารถควบคุมได้
“และถ้าหนูแคลร์ไม่มีประสบการณ์เลยแล้วจะทำให้ใครเชื่อถือได้ล่ะ อย่างน้อยที่นี่ก็มีบริษัทชั้นนำมากมายที่เปิดโอกาสให้คนมีความรู้ความสามารถได้แสดงฝีมือนะลีฟ” ธิติมาพูดตามความเป็นจริงและไม่ว่าบริษัทไหนก็เหมือนกันหากมีประสบการก็จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษและยิ่งได้ร่วมงานกับบริษัทใหญ่มาก่อนก็ยิ่งมีโอกาสได้งานมากกว่าด้วย
“งั้นก็ลองดูแต่ป้าให้แกแค่ปีเดียวนะแคลร์”
“ขอบคุณค่ะป้าลีฟ” ลันลนายกมือไหว้ของคุณป้าที่ยอมให้เธอทำงานหนึ่งปีก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำและเธอก็ไปสมัครงานไว้และสัมภาษณ์เรียบร้อยเหลือแค่ทางบริษัทจะโทรมาแจ้งผลว่าเธอจะได้งานหรือไม่
“หนูแคลร์ทั้งสวยน่ารักแบบนี้ต่อไปเธอก็ต้องระวังหนุ่มๆไว้ด้วยล่ะลีฟ”
“ยัยแคลร์ยังไม่มีใครใช่มั้ยลูก” เธอสั่งหลานสาวไว้ว่ามาเรียนห้ามมีแฟนและฝากเพื่อนฝรั่งที่อยู่ที่นี่ช่วยดูแลให้และหลานสาวของเธอก็อยู่ในกรอบมาตลอด
“ไม่มีค่ะ”
“ดีแล้ว แกยังเด็กยังไม่ถึงเวลามีแฟนเอาไว้กลับเมืองไทยเมื่อไหร่ป้าจะแนะนำให้รู้จักกับลูกชายเพื่อนของป้าละกัน” ผลิตาพูดกับหลานสาวเป็นเชิงห้ามไปด้วยว่าห้ามมีแฟน
“ค่ะป้า แคลร์ขอตัวไปห้องน้ำแป๊บนะคะ” และนี่เป็นอีกเรื่องที่เธอไม่อยากกลับเมืองไทยเพราะต้องถูกป้าควบคุมชีวิตของเธอให้อยู่ภายใต้การดูแลควบคุมของท่านไม่ว่าจะชี้ไปซ้ายเธอก็ต้องไปเพื่อตอบแทนบุญคุณของท่าน
“รีบไปเถอะ เดี๋ยวจะได้กลับโรงแรม” ผลิตาบอกหลานสาวเบาๆ