“พูดมากน่าสตีฟ ฉันแค่คิดไม่ถึงว่าเธอจะมาทำงานที่นี่ ขอดูประวัติหน่อยได้มั้ยอยากรู้ว่าจบอะไรมาถึงได้มาทำงานฝ่ายการตลาดได้” หัสดินถามสตีเว่นที่นั่งตำแหน่งรองประธานบริษัทและยังเป็นทายาทคนที่สามของตระกูลดังที่มีธุรกิจมากมายและเพื่อนของเขาได้มาดูแลบริหารงานบริษัทนี้ที่ดูแลห้างสรรพสินค้าทุกแห่งของบริษัททั้งลอสแอนเจลีสและลาสเวกัส
“อะไรยังไงกันแน่วะพอล นี่ถึงขนาดขอดูประวัติเลยเหรอ” สตีเว่นยังแซวเพื่อนไม่เลิกเพราะหัสดินไม่สนใจผู้หญิงไปมากกว่าเซ็กส์
“ฉันแค่อยากรู้ว่าพนักงานใหม่ของนายมีประวัติความเป็นมายังไงและจบอะไรมาเท่านั้น คิดมากไปได้” หัสดินว่าเพื่อนที่พูดแซวหยอกเย้าเขา
“โอเคๆ นายได้สิทธิ์นั้นเลยเพื่อน” สตีเว่นตอบเพื่อนแล้วตบไหล่เบาๆ
จากนั้นสองหนุ่มก็คุยเรื่องงานแล้วหัสดินก็ต้องมอบหมายงานของเขาให้กับผู้บริหารคนใหม่ที่จะมารับผิดชอบงานต่อจากเขาหลังลาออกจากบริษัทเพื่อกลับไปทำงานที่เมืองไทย
เวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์
หลังจากที่หัสดินดูข้อมูลประวัติของลันลนาแล้วก็เห็นว่าเธอเป็นเด็กกรุงเทพแต่มาเรียนที่นี่จนจบปริญญาตรีสาขาการบริหารระหว่างประเทศและปริญญาโทสาขาการตลาดและผลการเรียนเรียกเก่งมากและยังมีประวัติการทำงานพาร์ทไทม์ของเธอหลายที่และตรงกับที่เรียนมาทำให้เธอมีประสบการแม้จะเป็นบริษัทเล็กๆ เขาจึงให้เธอวางแผนงานการตลาดร่วมกับทีมของแผนกการตลาดโดยมีเขาคอยดูแลทุกขั้นตอนการทำงานเพื่อให้งานออกมาดีที่สุด
“ตู้ดด..” เสียงโทรศัพท์ของหัสดินดังขึ้นขณะที่เขากำลังคิดแผนงานของพนักงานใหม่และมองจุดบกพร่องเพื่อให้เธอเอาไปแก้ไข
“สวัสดีครับแม่ ทำไมนอนดึกจังเลยครับ” ชายหนุ่มทักทายแม่ที่โทรมาหาเขาก่อนจะดูเวลาตอนนี้ในอเมริกาสิบนาฬิกาส่วนเมืองไทยก็เที่ยงคืนต่างกันสิบสี่ชั่วโมง
“แม่นอนไม่หลับน่ะสิลูก แม่คิดถึงโปรดมากเลยเมื่อไหร่จะกลับบ้านเราล่ะลูก” วรชาพูดกับลูกชายด้วยความคิดถึงและอยากถามลูกชายให้สามีด้วย
“อีกไม่กี่เดือนแล้วครับแม่”
“เฮ้อ แม่อยากให้โปรดมาเร็วๆจังเลยลูก”
“ทำไมครับ”
“ลูกจะได้ไปช่วยงานคุณพ่อที่บริษัทไงจ๊ะ” วรชาพูดเสียงอ่อนหวานกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอหากไม่มีหัสดินเธอคงไม่ได้อยู่ดีสบายมีหบ้านหลังใหญ่มีรถให้ขับมีหน้าที่การงานที่ดีและมีเงินใช้ไม่ขาดมือและตอนนี้เธออยากให้ลูกชายมีวสิทธิ์ในทรัพย์สินหมื่นล้านของสามีก่อนที่เมียหลวงจะฮุบเอาไปหมดและเธอได้ข่าวมาว่าผลิตาวางแผนให้หลานสาวเข้ามาทำงานช่วยตัวเอง
“ผมจะช่วยอะไรคุณเต้ได้ล่ะครับ” เมื่อก่อนเขาไม่รู้ว่าแม่ทำอะไรแต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าแม่ยอมเป็นเมียรองเพราะความสุขสบายและเขาเองก็เป็นเครื่องมือของแม่ที่ใช้ต่อรองกับพ่อเพราะพ่อกับเมียแต่งไม่มีลูกด้วยกัน
“คุณเต้อะไรกันล่ะลูก นั่นพ่อของลูกนะ” วรชาพูดกับลูกชายและที่เธอทำก็เพื่อความสุขสบายของครอบครัว
“ผมก็เรียกแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วผมก็จะเรียกแบบนี้ต่อไปครับ”
“โปรด..”
“แม่มีอะไรอีกมั้ยครับ ผมต้องทำงานแล้วครับ”
“ไม่มีแล้วจ้ะ โปรดทำงานเถอะแล้วจะกลับเมืองไทยเมื่อไหร่ก็บอกแม่ด้วยนะลูก”
“ครับแม่ สวัสดีครับ” หัสดินพูดกับแม้แล้วก็วางสายแล้วถอนหายใจเพราะเขาอยากสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัวเองไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจของพ่อผู้ให้กำเนิด
จากนั้นก็เรียกผู้จัดการฝ่ายการตลาดมาคุยและวางแผนงานให้เพื่อจะได้ช่วยกันคิดช่วยกันทำและะเรื่องธุรกิจจะช้าไม่ได้เพราะเวลาเป็นเงินเป็นทองแล้วหลังจากเลีฟกงานเขาก็ไปสังสรรค์กับเพื่อนตามปกติ
“นายจะกลับเมืองไทยจริงเหรอพอล” โอลีฟเวอร์ลูกพี่ลูกน้องของสตีเว่นถามเพื่อนเพราะตอนนี้เหลือแค่หัสดินคนเดียวที่ยังทำงานอยู่ที่นี่ส่วนตริน แทนคุณ เกื้อกูล เพื่อนทั้งสามกลับไปเมื่อปีก่อนหลังจากทั้งสามหาประสบการณ์ที่นี่คนละสองปี
“อื่อ แม่โทรมาตามบ่อยแล้วก็คงต้องกลับ”
“แล้วนายจะทำอะไรล่ะ จะไปช่วยงานแด๊ดของนายหรือเปล่า”ลูคัสถามเพื่อนเพราะหัสดินไม่ปิดบังเรื่องครอบครัวแต่นั่นไม่ได้ทำให้พวกเขาเลิกคบกันกลับทำให้สนิทกันเพราะต่างก็นิสัยคล้ายกัน
“ยังไม่รู้เลย แต่ฉันดูลู่ทางไว้บ้างแล้วล่ะ” เขาทำงานเก็บเงินและเล่นหุ้นได้เงินก้อนใหญ่ก็เอาไปลงทุนเปิดบริษัทขายอุปกรณ์ตกแต่งรถ ศูนย์ซ่อม คาร์แคร์และแต่งรถกับตรินเมื่อปีก่อนและเปิดให้บริการเมื่อต้นปีแล้วกิจการก็ไปได้ดีมีลูกค้ามากมายและเป็นแหล่งรวมรถหรูเพราะครอบครัวของตรินทำธุรกิจนำเข้ารถหรูหลายยี่ห้อและพ่อแม่ของเขาก็ไม่รู้เรื่องนี้
“นายมันเก่งเพื่อน ฉันเชื่อว่านายทำได้แต่ถ้าต้องการหุ้นส่วนก็บอกฉันนะพอล ฉันวางแผนอยากไปลงทุนที่เมืองไทย” เออวินบอกเพื่อนเขาอยากลงทุนต่างประเทศเพราะที่แม็กซิโกเครอบครัวของเขาก็มีธุรกิจที่มั่นคง
“นายจะไปเลี้ยงวัวที่เมืองไทยหรือไงเออวิน”
“ทำไม่ได้เหรอพอล”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ถ้านายสนใจจริงๆฉันแนะนำได้”
“เอาจริงสิเพื่อน ฉันอยากทำธุรกิจของตัวเองแต่ฉันเลี้ยงวัวมาตั้งแต่เด็กฉันก็อยากประสบความสำเร็จเหมือนปู่เหมือนพ่อโดยที่ฉันทำด้วยตัวเอง” คนเลี้ยงวัวมาตั้งแต่เด็กแต่ขับลัมโบกินี่ แอสตันมาติน บูกัตติเวย์รอนและอีกหลายยี่ห้อต้อนวัวในฟาร์มแทนม้าพูดกับเพื่อนเพราะเขามีเงินทุนมากพอที่จะทำฟาร์มของตัวเอง
“งั้นนายก็ให้เกื้อมันดูที่ดินให้ก่อนแล้วมันจะแนะนำนายเองว่าที่ไหนจะเหมาะกับเลี้ยงวัว” เขาไม่ได้อยู่เมืองไทยนานแล้วก็ไม่รู้ว่าที่ไหนจะเหมาะกับการทำฟาร์มโคนม แต่เกื้อกูลน่าจะรู้เพราะครอบครัวของเพื่อนทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะหาที่ดินให้ได้ง่ายกว่าเขา
“ขอบใจมากนะพอล อ้อ ฉันอยากให้นายหุ้นด้วยนะเพราะนายเป็นคนไทยทำธุรกิจจะง่ายกว่าฉัน” เออวินบอกเพื่อนเพราะการทำธุรกิจในต่างประเทศมันไม่ง่ายแต่ถ้ามีคอนเน็คชั่นเป็นพลเมืองของประเทศนั้นก็จะง่ายขึ้น
“ให้ฉันกลับเมืองไทยก่อนแล้วค่อยคุยกันอีกทีนะเออวิน” เขากลับเมืองไทยปีละครั้งและสองปีมานี้เขาไม่ได้กลับแต่แม่มาหาเขาที่นี่ ส่วนพ่อก็แค่โทรคุยกันแต่ก็นานๆครั้ง
“ไม่มีปัญหา ฉันไม่รีบ ตอนนี้ดื่มกันดีกว่าเพื่อน” เออวินยกแก้ววิสกี้ชนกับเพื่อนทั้งสาม
“เซียสสส..”
“ว่าแต่นายจัดสาวๆไว้หรือยังวะสตีฟ” ลูคัสถามเพื่อนที่บอกว่ามีทั้งของหวานและของคาวมาเสิร์ฟถึงโต้ะ
“ใจเย็นๆสิวะเพื่อน เครื่องยังไม่ร้อนเลย”
“ก็ไม่ได้ฟาดมาหลายวันนี่หว่า คืนนี้กะจัดหนักชักสักหน่อย หึหึๆๆ..” ลูคัสพูดกับเพื่อนแต่สายตามองสาวสวยที่มาดื่มกินกันเป็นกลุ่มและแต่ละนางก็เปรี้ยวจี้ดเข็ดฟันเลยทีเดียว
“ดูท่าว่านายจะเจอคู่ปรับแล้วสิ” หัสดินเห็นสายตาแวววาวระยิบระยับของเพื่อนแล้วยิ้มและมันเล็งคนไหนไม่เคยพลาด ที่จริงก็เหมือนกันทุกคนรวมทั้งเขาด้วยและไม่ได้อวยตัวเองเลยแต่พวกเขาหล่อล่ำมีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้าม
“ว่าแต่ฉัน นายล่ะเล็งใครไว้หรือเปล่า”
“แน่นอนสิเพื่อน นายจะให้ฉันเล็งหนุ่มๆหรือไง” หัสดินตอบเพื่อนแล้วยกแก้ววิสกี้ขึ้นดื่มหมดแก้ว
จากนั้นสี่หนุ่มก็คุยกันสนุกสนานดื่มกินไปและสาวๆก็แวะเวียนมาชนแก้วเพราะสนใจสี่หนุ่มเผื่อจะได้ขึ้นเตียงกับเขาและมันก็เป็นจริงเมื่อสาวสวยติดกับดักนายพรานทั้งสี่แล้วพากันไปดื่มต่อกันที่โรงแรมตามประสาหนุ่มสาวรักสนุก
“ยูเซ็กซี่มากเลยพอล” ซิลเวียลูบไล้แผงอกแกร่งไปมองก่อนจะสอดมือเข้าไปสัมผัสเนื้อแท้ของเขาอย่างพอใจ ก่อนจะผลักร่างใหญ่ไปชิดผนังแล้วถอดเสื้อผ้าของเขาออกจนเปลือยเปล่ามองร่างกายที่สมบูรณ์เพอร์เฟคตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าแล้วกรีดนิ้วลงบนแผงอกแกร่งลากลงไปถึงหน้าท้อง
“หืม ถ้ายังไม่ลงมือผมจะกลับแล้วนะ” เสียงห้าวบอกสาวสวยที่เจอใคคลับหรูและตกลงมาดื่มด้วยกันต่อที่โรงแรม
“ใจเย็นๆสิคะพอลขา ไอจะทำให้ยูลืมไม่ลงเลยค่ะ” ซิลเวียนลูบไล้ต้นขาแกร่งลงไปแล้วทรุดลงนั่งคุกเข่าบนพื้นให้ใบหน้าอยู่ระดับเดียวกับท่อนเอ็นลำใหญ่ที่มันยังสงบนิ่งจึงจับมันบีบเค้นและรูดขึ้นลงตามความยาวช้าๆ
“ซิลเวีย..” เขาไม่ชอบเยิ่นเย้อกับผู้หญิงที่ลีลาท่าเยอะเพราะแค่วันไนท์สแตนด์เท่านั้นและเขาก็ระวังตัวเป็นอย่างดีเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในชีวิตขณะที่เขาไม่พร้อม
“ค่ะๆ แต่ไส้กรอกของยูใหญ่ถูใจไอจริงๆพอล” ปกติเธอเจอหนุ่มเอเชียบางคนก็จะไม่ใหญ่ขนาดนี้และบางครั้งเธอยังไม่ทันขึ้นสวรรค์ก็จอดไปแล้วก้มลงตวัดปลายลิ้นไล้เลี้ยท่อนเอ็นลำยาวในมือขึ้นลงจนสุดโคนแล้วปาดเลียไปรอบๆขึ้นไปหาหัวหยักมนทู่จนฉ่ำวาวแล้วอ้าปากอมดูดอย่างแรงติดกันจบแก้มตอบ
“แพร่บๆๆ แพร่บบๆๆ..”
“หืมม..” เสียงห้าวครางในลำคอเมื่อเจ้าตัวร้ายของเขาถูกปลุกเร้าจนมันแข็งขึงในปากของสาวสวยที่กำลังกลืนกินมันอย่างมัวเมา
“แพร่บๆๆ จ๊วบบๆๆ..”
สาวสวยตวัดปลายลิ้นปาดเลียไปมาสลับกับอมดูดท่อนเอ็นลำใหญ่ในมือที่มันพองขยายจนเต็มปากเธอแล้วกระตุกมือรูดขึ้นลงรัวเร็วๆจนลาวาร้อนไหลออกมาเธอก็กลืนกินอย่างไม่รังเกยจเพราะผู้ชายระดับนี้เขาต้องดูแลตัวเองเป็นอย่างดีและเธอเองก็ดูแลตัวเองเหมือนกัน
“หืมม..” เสียงห้าวคำรามออกมาด้วยความเสียวกระสันเมื่อถูกสาวสวยรีดน้ำรักของเขาออกจนแก้มตอบจึงเกร็งสะโพกสอบแล้วจับศีรษะของเธอไว้โยกสะโพกสอบผักดันท่อนเอ็นลำใหญ่เข้าออกช้าๆแล้วเธอก็โยกปากตามกลืนกินเข้าไปให้ได้มากที่สุด
“แจ้ะๆๆ แพร่บบๆๆ..”