รุ่งเช้า เมธาวีแทบไม่ได้นอนเลย เธอนั่งกอดเข่ามองหน้าต่างจนฟ้าสาง
เสียงหัวเราะของเด็กหญิงเมื่อคืนยังดังก้องอยู่ในหัว ไม่ว่าจะพยายามลืมเท่าไรก็ไม่หายไป
เมื่อเธอลงมาข้างล่าง แม่ก็ถามขึ้นด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“ลูก…เมื่อคืนได้ยินเสียงอะไรหรือเปล่า แม่เห็นไฟในห้องลูกเปิดถึงตีสาม”
“ไม่มีอะไรค่ะ แค่ฝนตก หนูนอนไม่หลับ…” เมธาวีตอบเสียงเบา พยายามไม่สบตาแม่
ระหว่างช่วยพ่อจัดของในห้องเก็บของเก่าใต้บันได เธอเหลือบเห็นกล่องไม้ใบหนึ่งเต็มไปด้วยฝุ่น
บนฝากล่องมีรอยขีดเขียนด้วยลายมือเด็ก ๆ ว่า
“ของเล่นของอายา”
“พ่อคะ ใครคืออายาเหรอ”
พ่อหันมามองอย่างงง ๆ “ไม่รู้สิลูก ของพวกนี้น่าจะของเจ้าของเก่ามั้ง อย่ารื้อเยอะ เดี๋ยวฝุ่นเข้าจมูก”
แต่เมธาวีกลับค่อย ๆ เปิดฝากล่องออกอย่างระมัดระวัง
ข้างในมีตุ๊กตาหลายตัว เสื้อผ้าเด็ก และภาพถ่ายเก่าที่มุมขาดไปบางส่วน
ในภาพนั้นคือเด็กหญิงคนเดียวกับในรูปที่แขวนอยู่บนผนัง — ใบหน้า ยิ้ม และ “ตุ๊กตาหมีตัวเดิม”
เธอพลิกภาพดูด้านหลัง พบตัวอักษรจาง ๆ เขียนว่า
“อายา – อายุ 8 ขวบ ก่อนวันเกิด”
หัวใจเมธาวีเต้นแรงทันที
เธอยังจำเสียงเมื่อคืนได้ดี “พี่…อยู่เหรอ…”
เสียงนั้น…ใช่เสียงของอายาหรือเปล่า?
ตอนบ่าย เมธาวีลองเดินสำรวจรอบบ้าน
เธอเดินผ่านระเบียงไม้ที่พื้นเริ่มผุ แล้วสังเกตเห็น “รอยขีดบนผนัง”
เมื่อเพ่งดูใกล้ ๆ เธอเห็นว่าเป็นรอยที่เขียนด้วยชอล์กสีขาว — รูปตุ๊กตา และคำว่า “เล่นด้วยกันนะ”
จู่ ๆ ลมแรงพัดจนหน้าต่างกระแทกเสียงดัง ปัง! ทำเอาเธอสะดุ้ง
เธอรีบวิ่งกลับเข้าห้อง ทันใดนั้น กลิ่นไหม้จาง ๆ ลอยมาแตะจมูก
เหมือนกลิ่นไม้เก่าที่ถูกไฟเผา…กลิ่นนั้นอบอวลจนหายใจไม่ออก
เธอหันไปมองกระจกที่หัวเตียง เห็น “เงาเด็กหญิง” ยืนอยู่ข้างหลังตนเอง
ผมเปียเปียกน้ำ ใบหน้าเศร้า และริมฝีปากที่ขยับช้า ๆ
“ช่วยอายาด้วย…”
เสียงนั้นดังขึ้นตรงหู ก่อนภาพในกระจกจะวูบดับ กลายเป็นเพียงเงามืดสะท้อนจากไฟห้อง
เมธาวียืนตัวแข็ง ขนลุกไปทั้งตัว
เธอเริ่มมั่นใจแล้วว่า — เด็กในบ้านหลังนี้ “ยังอยู่” และกำลังพยายามจะบอกอะไรบางอย่างกับเธอ…