บทนำ
บ้านหลังใหญ่สามชั้นทรงยุโรปอันกว้างขวางท่ามกลางต้นไม้น้อยใหญ่เขียวขจีบนเนื้อที่เกือบ 3 ไร่มีป้ายบอกติดประตูรั้วว่า “บ้านธรรมัธนาภรณ์” มองจากภายนอกแล้วก็พอมองออกว่าผู้ที่เป็นเจ้าของบ้านมีฐานะมั่งคั่ง สนามหน้าบ้านกำลังมีงานเลี้ยงเล็กๆ มีคนประมาณ 7-8 คนกำลังนั่งทานอาหารอย่างออกรส มีเสียงหัวเราะ ด้วยความสุขออกมาเป็นระยะ ๆ
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะพี่ธันว์”
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านจ๊ะธันว์ลูกรัก”
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะคุณธันว์”
เสียงกล่าวต้นรับกลับบ้านอันอบอุ่นจากน้องสาวสองคนของคุณธนูและหม่อมราชวงค์สุพรรษารวมถึงคนรับใช้ภายในบ้านทำให้ธันว์รู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมาก สี่ปีแล้วสินะที่เขาจากบ้านไปเรียนต่อจนจบปริญญาโทที่อเมริกา
“พ่อนึกว่าจะพาสะใภ้แหม่มมาอวดพ่อซะอีกนะเนี่ย” ธนูแหย่ลูกชายอย่างอารมณ์ดีโดยไม่ทันมองเห็นหน้าของภรรยา
“จะพามาได้ยังไงคะ คุณก็ ตาธันว์น่ะมีคู่หมั้นแล้วนะ เอ๊ะหรือว่าแอบมี ฮึ ตาธันว์บอกมานะว่ามีหรือเปล่า”
“นั่นสิคะพี่ธันว์ สินีว่าพี่ธันว์แอบมีลูกมีเมียที่อเมริกาหรือเปล่าคะ”
“อืม หรือว่า แอบซุกไว้ที่เมืองไทย พามาด้วยใช่หรือเปล่าคะ บอกนินีมาเดี๋ยวนี้นะ”
ทุกคนรวมถึงคนใช้มองมาทางเขาหมดเลยแฮะ จ้องตาไม่กระพริบเลยจนเขาอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
“คุณแม่ คุณพ่อ น้องๆ และทุกคนครับ ธันว์มีเรื่องจะสารภาพครับ” ชายหนุ่มแกล้งทำหน้าเศร้าจนคุณธนูและคุณหญิงรวมทั้งคนอื่นๆ กลั้นหายใจรอ
“คือว่า เอ่อ......เอ่อ.......ผม.......เสียใจครับที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง คือผมยังไม่มีใครครับผม ทั้งเมีย ทั้งลูก ครับ”
“เฮ้อ... แม่หัวใจจะวาย นี่หลอกคนแก่หรือตาธันว์” คุณหญิงตีแขนลูกชายสุดที่รักไปทีหนึ่งทุกคนหัวเราะออกมาพร้อมๆ กัน
“ทีนี้ตาธันว์ก็กลับมารับช่วงซะทีนะลูก ปล่อยให้น้องๆ เค้าเหนื่อยกันมาเยอะแล้วนะ” ที่ผ่านมาทั้ง สองสาวต่างก็เข้ามาช่วยบริหารตามความถนัดของตนเองแต่ยังขาดหัวเรือใหญ่อย่างธันว์
“ครับพ่อผมคงจะเริ่มงานวันจันทร์หน้าเลยแล้วกันครับ”
“ก็ดีเหมือนกันพ่อจะให้อาสุทินกับกรณ์ เป็นคนสอนงานให้กับลูกนอกจากพ่อ”
“แล้วนินีก็จะพาพี่ธันว์ไปเซอร์เวย์ห้องเสื้อของเราแล้วที่โรงงานก็แล้วกันนะคะ "
“ส่วนสินีถ้าพี่ธันว์ต้องการทราบรายละเอียดบัญชีสินีก็จะอธิบายให้พี่ธันว์ฟังให้ทะลุปรุโปร่งเลยค่ะ” สองสาวช่วยเอาใจพี่ชายจนพี่ชายอดยิ้มกับความน่ารักของน้องสาวไม่ได้
“ได้เลยจ้ะน้องรัก” ธันว์โอบไหล่น้องสาวคนไว้คนละข้าง
“เอ๊ แล้วน้องสาวพี่โตเป็นสาวสวยอย่างนี้มีแฟนหรือยังเอ่ย” ชายหนุ่มถามน้องสาวสองคนด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ธันสินี อายหน้าแดงส่วนธันนินียังยิ้ม
"พี่สินีน่ะมีแล้วค่ะ พี่ธันว์ คนไม่ใกล้ไม่ไกลด้วยนะคะ
“อืม “ชายหนุ่มขมวดคิ้วถาม
“ใครกันสินี” ชายหนุ่มถามพลางล้อน้องสาวจนธันสินีอายม้วนไปเลย
“เอ่อก็พี่ยะไงคะพี่ธันว์ ตื๊อจนพี่สินีใจอ่อนยอมเป็นแฟนฮ่าๆ ”
“นี่ยัยนิ หยุดพูดเลย พี่ยังไม่ได้ตอบตกลงเป็นแฟนเค้าเลยนะยะ”
“เหรอ..”
“เพียะ / โอ๊ย” สองสาวล้อกันไปมาจนพี่ชายหัวเราะออกมา รวมทั้งคุณธนูและภรรยา
“เอ้อนั่นสินายยะน่ะเมื่อไหร่จะกลับกรุงเทพล่ะนี่พี่บอกว่าจะกลับมามันก็ไปที่เกาะซะแล้ว”
“พี่ยะจะมาพรุ่งนี้ค่ะ”
“โหย...นี่ขนาดยังไม่เป็นแฟนกันนะคะ ยังรู้ซะ” ธันสินีได้อายอีกม้วนใหญ่ ทุกคนเลยหัวเราะกันอีกครั้ง
“ย่ะเธอไม่มีบ้างก็แล้วไปนะ ถึงเวลานั้นละก็เตรียมตัวไว้เลยนะแม่ตัวดี”
“โหย..คุณแม่ขาดูพี่สินีสิคะรังแกน้อง ฮื้อๆ ” ธันนินีแกล้งไปอ้อนคุณสุพรรษาเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนอีกครั้ง
“กริ๊งๆ ๆ” โทรศัพท์มือถือของธันว์ดังขึ้น
“ฮัลโหล”
(คุณธันว์ครับ อีกสามวันคุณเรรินทร์จะเข้ากรุงเทพฯ ครับ)
“อื่ม แล้วพักที่ไหน”
(พักที่โรงแรมวาเลย์ครับ)
“แล้วมีกิจกรรมทำที่ไหนบ้าง”
(คร่าวๆ นะครับ ................................................)
“อืม มา 3 วันสินะ”
(ครับ)
“ขอบใจมากวิทัต ดูแลเธอให้ดีล่ะ”
(ครับ)
ชายหนุ่มยิ้มให้กับโทรศัพท์ เราจะเจอกันแล้วนะสาวน้อย คราวนี้จะได้เห็นตัวจริงแล้วสินะหลังจากได้ดูแต่รูปถ่าย ไม่นับเมื่อ 2 ปีก่อนที่เขากลับมาเยี่ยมครอบครัว แล้วแอบขึ้นไปตามติดชีวิตสาวน้อยของเขาที่เชียงใหม่ ควมน่ารักสดใสของเธอทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงแทบทะลุออกมานอกอก ยิ่งไปกว่านั้นแหวนประจำตระกูลธรรมัธนาภรณ์ยังถูกสวมไว้ตรงนิ้วนางข้างซ้ายไม่เคยหายไปไหน เมื่อมีหนุ่มๆ มาขายขนมจีบ สาวเจ้าก็เอ่ยออกไปพร้อมยิ้มหวานหยดย้อยใครก็โกรธเธอไม่ลง “ขอโทษค่ะเรมีคู่หมั้นแล้วค่ะ”