ตอนที่ 1 เพื่อนทรยศ
‘ลู่อิงอิง เธอมันคนใจร้าย เธอมันต่ำช้า!’
‘ฉันเกลียดเธอ ทั้งเกลียดทั้งขยะแขยง... ไม่มีวันที่ฉันจะชอบผู้หญิงอย่างเธอ ยิ่งเรื่องแต่งงาน เลิกฝันไปได้เลย ลู่อิงอิง!’
‘คำตัดสินจากทางการมีดังนี้... ลู่อิงอิงต้องโทษเนรเทศออกจากหมู่บ้าน ให้ไปใช้แรงงานหนักที่เหมืองเหล็กในเมืองอันหยวนสามสิบปี คนอื่น ๆ ในครอบครัวให้ต้องโทษเพิ่มชั่วโมงการทำงานต่อสัปดาห์และตัดคูปองอาหารสามส่วนเป็นระยะเวลาห้าปี’
‘ไม่จริง! ไม่นะ ฉันไม่ยอม!’
หญิงสาวยังคงกรีดร้องโวยวายในขณะที่เจ้าหน้าที่ทางการกำลังลากตัวเธอออกจากลานประชุมของหมู่บ้านไปขึ้นรถ เห็นได้ชัดว่าเธอต้องทำความผิดร้ายแรงมาก ที่ตรงนั้นมีชายและหญิงวัยกลางคนวิ่งตามพยายามยื้อแย่งตัวลู่อิงอิงกลับมา แม้จะมีชาวบ้านรั้งไว้พวกเขาก็ยังเอาแต่สะอื้นไห้ปริ่มจะขาดใจ
แน่นอนว่าชายหนุ่มและหญิงสาวหน้าตาดีคู่หนึ่งร่วมปรากฏตัวเป็นสักขีพยานในการตัดสินโทษของเธอด้วยความสะใจ
“นี่มันอะไรกัน... ลู่อิงอิงคือใคร?”
.....
หญิงสาวรูปร่างผอมบางทว่าสูงโปร่งปราดเปรียววิ่งลัดเลาะไปตามตรอกอับชื้นในย่านท่าเรือชายฝั่งเมืองเทียนจิน ชุดรัดรูปสีดำทะมัดทะแมงช่วยอำพรางการเคลื่อนไหวของเธอให้กลมกลืนไปกับความมืด...
อากาศช่วงต้นเดือนสองยังคงหนาวจัด แต่ว่าแผ่นหลังของหญิงสาวกลับชื้นเหงื่อ ร่างกายซึ่งสมควรจะได้พักผ่อนนอนหลับอย่างอุ่นสบายใต้ผ้านวมไฟฟ้าเช่นคนทั้งเมืองกลับต้องลักลอบกระโดดปีนข้ามสิ่งกีดขวางมากมาย กว่าจะสามารถเข้าไปในเขตโกดังร้างซึ่งอยู่ในการครอบครองของแก๊งอาชญากรฝ่ายตรงข้ามได้
สัญญาณกะพริบสีแดงบนนาฬิกาข้อมือชี้ตำแหน่งเป้าหมาย เธอเร่งฝีเท้าอันเงียบเชียบใช้สัญชาตญาณสายลับนักฆ่ามองหาเส้นทางที่ใกล้ที่สุด แต่ตรงหน้ารั้วตาข่ายเหล็กมีคนยืนเฝ้าขวางอยู่ หากจะอ้อมไปอีกฝั่งก็ยิ่งเสียเวลา แถมยังรับประกันไม่ได้ด้วยว่าจะมีคนเฝ้าแค่คนเดียวเหมือนด้านนี้
‘เฉินอิงฟ่าน’ อาศัยจังหวะที่คนเฝ้ายามเผลอ เธอพุ่งตรงเข้าไปหาเขาด้วยความเร็วสูง ใช้มือเปล่าบิดลำคออีกฝ่ายจากทางด้านหลัง เสียง กร๊อบ! ของกระดูกซึ่งถูกหักให้ผิดรูปสะท้อนอยู่ในโสตประสาท ก่อนที่ร่างทั้งร่างของชายคนนั้นจะอ่อนระทวยร่วงลงไปกองกับพื้นตายคาที่
แวบหนึ่งที่เฉินอิงฟ่านสบมองดวงตาเบิกโพลงของคนที่เพิ่งตายโดยไม่ทันรู้ตัว เขายังเป็นเด็กหนุ่มอยู่เลย อายุไม่น่าเกินสิบแปดสิบเก้าปีแต่ต้องมาทำงานให้แก๊งมาเฟียค้าอาวุธเถื่อน ถ้าไม่ถูกเอาตัวมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าก็คงถูกพ่อแม่ขายใช้หนี้ ข่างน่าเสียดายอนาคตในช่วงวัยรุ่งโรจน์
หากแต่โลกมนุษย์ก็เป็นแบบนี้ เมื่อไม่แข็งแกร่งพอก็ต้องตกเป็นเหยื่อเท่านั้น ที่สำคัญ เธอเองในฐานะนักฆ่ามืออาชีพไม่มีเวลาเสียใจให้ใครก็ตามที่เป็นศัตรูหรืออยู่ฝ่ายตรงข้าม เพราะนั่นหมายถึงชีวิตของเธอเองเช่นกัน
แม้กระทั่งฝ่ายเดียวกันบางครั้งก็ยังต้องเลือกว่าใครไว้ใจได้หรือไม่ได้ซึ่งคนที่เฉินอิงฟ่านเลือกไว้ใจมากที่สุดก็คือ ‘เฉินอิงหราน’ และเธอก็คือหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอต้องลอบเข้ามาที่โกดังร้างท่าเรือแห่งนี้แทนที่จะนอนหลับสบายอยู่บนเตียงนุ่ม ๆ
พวกเธอสองคนอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน เป็นคนสนิทที่ได้รับความไว้วางใจจากหัวหน้าระดับสูงสุดของแก๊งมาเฟียหวาเป่ย
เฉินอิงฟ่านและเฉินอิงหรานมักได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจร่วมกัน แต่ก็มีบางครั้งที่พวกเธอต้องทำภารกิจเดี่ยวอย่างเช่น การลักลอบสืบข่าวหรือจารกรรม จึงเกิดข่าวลือหนาหูในบรรดาลูกน้องระดับล่างว่าใครจะได้เป็นผู้สืบทอดตัวจริงของเจ้านาย
แน่นอนว่าในความเป็นสหายร่วมรบร่วมเป็นร่วมตายจึงมีข่าวลือหนาหูในความเป็นคู่แข่งแทรกอยู่กลาย ๆ แต่เฉินอิงฟ่านมักไม่สนใจเรื่องเหลวไหลพวกนั้น เพราะเธอมีความปรารถนาอย่างอื่นและไม่ต้องการให้เพื่อนเพียงคนเดียวบนโลกอันแสนโหดร้ายใบนี้ตายจากไป
คืนนี้ เฉินอิงหรานได้รับมอบหมายให้ขโมยใยไหมทองคำมาจากคลังสินค้าท่าเรือของศัตรูก่อนที่มันจะถูกขายในตลาดมืดใต้ดิน ทว่าเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน สัญญาณติดตามตัวของเธอกลับค้างอยู่ในบริเวณโกดังร้างเกินกว่ายี่สิบนาที นั่นแปลว่าภารกิจมีปัญหาแล้วแน่ ๆ
หญิงสาวทั้งสองเติบโตในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งเดียวกัน ถูกนำตัวออกมาชุบเลี้ยงโดยหัวหน้าแก๊งมาเฟียหวาเป่ยพร้อมกัน เจ้านายให้พวกเธอใช้แซ่เฉินตามเขา ตั้งชื่อให้ใหม่ ถูกฝึกสอนให้ต่อสู้ใช้อาวุธทุกชนิด การเป็นสายลับ การฆ่าคน รวมถึงเรียนรู้การค้าและเล่ห์เหลี่ยมในโลกธุรกิจใต้ดิน เพื่อรับใช้เจ้านายที่พวกเธอเคารพนับถือเสมือนเป็นพ่อคนที่สอง ส่วนพ่อคนที่หนึ่งก็ไม่ใช่พ่อแท้ ๆ ทว่าเป็นเจ้าของสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าต่างหาก
ด้วยผลงานและความสามารถอันโดดเด่น ภารกิจที่หญิงสาวแซ่เฉินทั้งสองทำไม่เคยล้มเหลว แค่ไม่กี่ปีทั้งอิงฟ่านและอิงหรานก็ได้เลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นมือขวาและมือซ้ายของเจ้านาย พวกเธอทั้งคู่ไร้หัวใจ ไร้เมตตากับทุกคน มีเพียงกันและกันเท่านั้นที่คอยปลอบประโลมร่วมทุกข์ร่วมสุขผ่านอันตรายนับครั้งไม่ถ้วน
สำหรับแก๊งมาเฟีย การทำงานผิดพลาดย่อมมีโทษถึงตาย แม้คนที่พลาดจะเป็นเฉินอิงหรานก็ไม่ได้รับการยกเว้น ดังเช่นครั้งนี้
เจ้านายสั่งให้ฝ่ายสนับสนุนถอนกำลัง เท่ากับปล่อยให้เฉินอิงหรานตกอยู่ในเงื้อมมือศัตรูโดยไม่คิดช่วยเหลือ แต่เฉินอิงฟ่านยอมรับคำสั่งนั้นไม่ได้ อย่างน้อยถ้าเธอตามมาช่วยเพื่อนและขโมยใยไหมทองคำได้สำเร็จก่อนที่เรือจะแล่นออกจากท่า บางทีอิงหรานก็อาจได้รับการละเว้นโทษหากมีผลงานมาชดเชย
เมื่อสังเวยชีวิตคนเฝ้ายามอีกหนึ่งศพก็มาถึงประตูใหญ่สูงตระหง่านขวางอยู่ตรงหน้า จีพีเอสที่นาฬิกาข้อมือระบุว่าเฉินอิงหรานอยู่ห่างไปเพียงไม่กี่เมตร หญิงสาวออกแรงงัดบานเหล็กให้เกิดช่องว่างพอที่ตัวเองจะแทรกตัวผ่านเข้าไปได้
ทันใดนั้นเอง เธอก็เห็นร่างร่างหนึ่งถูกมัดมือไพล่หลังบนเก้าอี้ ล้อมรอบด้วยลังไม้และกระสอบป่านเก่า ๆ กองพะเนิน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าที่แห่งนี้ต้องเป็นโกดังเก็บสินค้าและอาวุธของฝ่ายตรงข้ามแน่นอน
“ฟ่านฟ่าน อย่าเข้ามา มันเป็นกับดัก!”
เฉินอิงหรานร้องตะโกนห้าม แต่เฉินอิงฟ่านเตรียมตั้งรับไว้แล้ว ถ้าศัตรูตั้งใจจับมือซ้ายของหัวหน้าแก๊งหวาเป่ยไว้เป็นตัวประกันก็คงไม่ยอมให้เจ้านายส่งคนมาชิงตัวกลับไปง่าย ๆ หรอก
วัตถุบางอย่างพุ่งแหวกอากาศมาจากด้านข้าง เฉินอิงฟ่านเบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็ว กระสุนปืนสงครามทะลุเข้ากระสอบด้านหลังจนฝุ่นควันฟุ้งตลบก่อนที่นัดที่สอง สาม สี่จะระดมรัวยิงใส่ผู้บุกรุกราวกับห่าฝน หญิงสาวใช้ความคล่องแคล่วปราดเปรียวทั้งหลบหลีกและยิงปืนพกเบเร็ตตา 92 สวนไปยังทิศทางที่คาดว่ามีศัตรูซุ่มอยู่ พร้อมกับเข้าไปใกล้เฉินอิงหรานมากยิ่งขึ้น
แน่นอนว่าเมื่อคนร้ายใช้แผนตัวประกัน ร้อยทั้งร้อยย่อมหวังจะล่อเสือเข้าถ้ำ เรียกคนของหวาเป่ยมาเพื่อปิดประตูสังหารหมู่ยกแก๊ง ตอนนี้มีแค่เธอคนเดียวบุกมาช่วยอิงหราน ดังนั้นจึงไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะระดมยิงจนตัวประกันตายหมดทั้งที่ยังฆ่าได้ไม่คุ้มเสีย
เธอคิดถูก! เมื่อเข้ามาถึงจุดที่ตัวประกันถูกจับมัด พายุกระสุนปืนกลไรเฟิลอัตโนมัติก็หยุดลงทันที
“หรานหราน เป็นอะไรหรือเปล่า”
เฉินอิงฟ่านถามอย่างร้อนรน เกือบหนึ่งชั่วโมงที่ขาดการติดต่ออาจไม่มากพอให้แก๊งตรงข้ามซ้อมทรมานเฉินอิงหราน แต่มันก็ไม่แน่เสมอไป
ทว่าเฉินอิงหรานกลับพยายามโยกเก้าอี้หนีมือของอีกคนที่เอื้อมมา ไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากเพื่อนสนิทที่อุตส่าห์ฝ่าดงกระสุนเข้ามาหา
“เก้าอี้ตัวนี้ผูกติดกับระเบิด เธอช่วยฉันไม่ได้หรอก” ร่างบนเก้าอี้เอ่ยเสียงสั่นเจือสะอื้นเล็กน้อย “ให้ฉันตายคนเดียวก็พอ รีบหนีออกไปเถอะ!”
“ลืมแล้วเหรอว่าฉันกู้ระเบิดเก่งกว่าเธอน่ะ” เฉินอิงฟ่านแค่นเสียง หึ! ในลำคอก่อนจะล้วงเอามีดสวิสออกมาตัดชนวน
ตัวระเบิดท่อเหล็กหรือที่เรียกว่าไปป์บอมบ์ผูกติดกับด้านในของฐานเก้าอี้ ต่อแบบอนุกรมโดยใช้สายไฟสามเส้นทำปฏิกิริยาในการจุดชนวน แม้วิธีการต่อจะง่าย ทว่าก็ซับซ้อนตรงที่คนร้ายผูกชนวนให้ไขว้ซ้อนกันสามชั้น
ริมฝีปากอิ่มสวยคลี่รอยยิ้มเหยียด ลูกไม้ตื้น ๆ แบบนี้ถ้าเป็นสายลับไร้ประสบการณ์ก็คงถอดใจไม่กล้าตัดสายไฟสักเส้น แต่ไม่ใช่กับเธอที่ผ่านชั่วโมงการฝึกกู้ระเบิดมากกว่าหนึ่งร้อยชั่วโมงและลงสนามจริงมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
กรึบ!
ชั้นแรก เรียบร้อย
กรึบ!
ชั้นที่สอง ไม่มีปัญหา
กรึ่บ!
ชั้นที่สาม....
“เอ๊ะ?”
ข้างในสายไฟเส้นที่สามว่างเปล่า ไม่มีลวดทองแดงซึ่งสามารถทำปฏิกิริยาจุดดินระเบิดในท่อเหล็ก เท่ากับว่าเฉินอิงฟ่านตัดชนวนผิดสาย ยังเหลือโอกาสอีกหนึ่งครั้งในชั้นนี้ที่เธอต้องตัดสายไฟของจริงให้ถูกต้อง!
แต่ความคิดที่แล่นเข้ามาในสมอง ตะโกนบอกว่าคนปกติที่ไหนจะเอาสายไฟเปล่าซึ่งไม่มีอะไรอยู่ข้างในมาเป็นตัวหลอก ยกเว้นเสียแต่ว่าจะไม่ตั้งใจจุดระเบิดจริง ๆ ตั้งแต่แรก
ข้างในอกวูบโหวงร้อนวาบขณะที่ลางสังหรณ์เริ่มทำงาน หญิงสาวใช้มีดตัดสายไฟอีกสองเส้นของชนวนระเบิดชั้นสุดท้ายก็พบว่ามันเป็นสายเปล่าทั้งหมด และเมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นรอยยิ้มแฝงเลศนัยชั่วร้ายของเฉินอิงหราน
“ยัยโง่ ก็บอกแล้วไงว่ามันเป็นกับดัก”
ฉึก!
“เธอเก่งกว่าฉันทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องการใช้มีดในระยะประชิด คงไม่ได้ลืมไปแล้วใช่ไหม ฟ่านฟ่าน”
“อึ้ก!”
มีดสนามเพลาะ (trench knife) แทงเข้าระหว่างรอยต่อของเกราะอ่อนกันกระสุน คมมีดเสียบลึกจนแทบทะลุไปถึงข้างหลัง เฉินอิงหรานแสยะยิ้มน่าเกลียดเหมือนปีศาจขณะบิดแผ่นเหล็กบางแหลมหมุนตามเข็มนาฬิกาเพื่อทำลายอวัยวะภายในของเพื่อนรักเพียงคนเดียวที่เธอมี
เฉินอิงฟ่านกระอักเลือดออกทางปากทรุดฮวบลงไปนอนอยู่บนพื้น ใบมีดสนามเพลาะเฉียดใต้ขั้วหัวใจจึงยังไม่คร่าชีวิตของเธอในทันที แน่นอนว่าเฉินอิงหรานไม่ได้พลาด แต่เจตนาไม่ให้เพื่อนรีบตายเร็วจนเกินไปนักต่างหาก
“หรานหราน ทำไม?”