ตอนที่ 8 สูญเสีย

1185 Words
จัสมินเงียบไปก่อนจะไม่ได้ตอบอะไรออกมา แต่ความเงียบนั้นก็เป็นเหมือนเป็นคำตอบมากพออยู่แล้ว มาร์คัสที่เห็นท่าทางของเธอนั้นก็ทำได้เพียงแค่หัวเราะในลำคอ ก่อนที่มือหนาจะควักธนบัตรปึกหนาออกมาจากกระเป๋า ซึ่งมันมากกว่าที่เขาบอกจะให้เธออย่างแน่นอน “เงินนี้เป็นค่าจ้างที่ผมชวนคุณออกมาเป็นเพื่อน ส่วนที่เหลือ.. ผมแค่อยากไปส่งคุณให้เห็นกับตาว่าปลอดภัยจริง ๆ” จัสมินมองเงินก้อนนั้นก่อนจะส่ายหน้าส่งให้ “เงินฉันเอาแค่ที่ตกลงกันไว้ค่ะ แค่นี้คุณก็ให้เยอะมากแล้ว แต่ถ้าคุณอยากไปส่ง เอ่อ.. ยังไงรบกวนด้วยนะคะ” หลังจากที่เธอตอบเขาออกไปแบบนั้น รถคันหรูก็ออกตัวแล่นออกไปนอกเมืองนิดหน่อย จนมาถึงปากซอยเล็ก ๆ ที่มืดและเงียบสงัด “ตรงนี้ค่ะ.. คุณจอดตรงนี้ก็พอฉันจะเดินเข้าไปเอง ที่นี่รถเข้าไม่ได้ค่ะทางมันแคบ” จัสมินบอกเสียงสุภาพ ก่อนจะยกมือไหว้เล็กน้อยเป็นการขอบคุณ วี้หว่อวี้หว่อ! อี๊วอออว! อี๊วอออว! แต่ยังไม่ทันที่มาร์คัสจะได้เอ่ยตอบอะไร เสียงหวอของรถฉุกเฉินได้ดังแหลมขึ้น รถพยาบาลพุ่งเข้ามาจอดข้างหน้ารถของมาร์คัส ก่อนที่ไฟสีแดงสลับฟ้าจะกะพริบรัว ๆ จนแยงตา จัสมินมองรถฉุกเฉินนั้นด้วยความรู้สึกที่ใจตกไปที่ตาตุ่ม ก่อนที่ดวงตาจะเบิกกว้างเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบลากเตียงฉุกเฉินออกมา ก่อนจะเร่งเข็นเข้าไปในซอยนั้นด้วยท่าทีรีบร้อน “ไม่สิ! ที่ซอยนี้มีแค่บ้านของพวกเราหลังเดียว!” หญิงสาวที่เหมือนจะได้สติร้องเสียงสั่นแล้วรีบวิ่งลงจากรถ มาร์คัสเองเห็นแบบนั้นก็ตกใจอยู่บ้าง เขามองตามท่าทางร้อนรนของเธออย่างแปลกใจ ก่อนจะรีบลงจากรถแล้ววิ่งตามเธอเข้าไปอีกคน ทันทีที่เธอวิ่งมาถึงบ้านหลังเดียวที่อยู่ในสุด ก็ได้ยินเสียงโกลาหลของเด็ก ๆ ในบ้านดังระงมไปทั่ว ก่อนจะเห็นว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันประคองร่างหญิงสูงวัยที่นอนแน่นิ่งบนเตียงพับฉุกเฉินขึ้นมา จัสมินวิ่งเข้าไปในบ้านด้วยสีหน้าตื่นตระหนก “แม่!” เธอร้องเสียงหลงก่อนจะวิ่งไปจับมือเหี่ยวย่นของหญิงชราที่ปกครองเธอมาตั้งแต่เด็ก ๆ ดวงตาเอ่อคลอไปด้วยน้ำตามือไม้สั่น ก่อนที่หนึ่งในเจ้าหน้าที่จะหันมาพูดสั่น ๆ “คนไข้หมดสติครับ! ขอทางด้วยครับ!” จัสมินแทบจะทรุดทันทีที่ได้ยิน เธอรีบปล่อยมือของคนเป็นแม่แล้วร้องไห้สะอึกสะอื้น “รีบเลยค่ะหมอ! ช่วยแม่หนูด้วยนะคะ” จัสมินพูดด้วยน้ำเสียงสั่นก่อนจะวิ่งตามแม่ไปด้วยท่าทางเร่งรีบ ก่อนที่เธอจะหยุดชะงักเท้าแล้วหันมามองน้อง ๆ ที่ร้องร้องไห้อยู่ด้านหลัง “มินตรา อาริ ภูริ ช่วยพี่ดูน้องก่อนได้ไหม พี่จะตามไปดูแม่ที่โรงพยาบาลก่อน พวกเธออยู่กันเองได้ไหม” จัสมินหันไปถามน้องที่โตที่สุดด้วยท่าทางห่วงหน้าพะวงหลัง “ฮึก! ฮื่อ!~ พี่จัสมิน ฮึก! ไปดูแม่เถอะค่ะ ฮื่อ!~ ไม่ต้องห่วง หนูดูน้อง ๆ ให้ ฮื่อ!~” จัสมินที่ได้ยินมินตราพูดแบบนั้นก็พยายามส่งยิ้มให้กับน้องสาวก่อนจะรีบวิ่งตามแม่ไปที่รถฉุกเฉิน รถพยาบาลวิ่งฝ่าความมืดไปยังโรงพยาบาลด้วยความเร็วสูง ไฟฉุกเฉินกะพริบรัว ๆ สะท้อนกับน้ำตาของเธอที่ไหลไม่หยุด จนในที่สุดรถฉุกเฉินของโรงพยาบาลก็มาถึง หลังจากที่เตียงของแม่ถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉินนั้น ผ่านมาเกือบหนึ่งชั่วโมงก็ไม่มีทีท่าว่าหมอจะออกมาเลยสักครั้ง ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ความรู้สึกกดดันก็ยิ่งบีบหัวใจของเธอมากขึ้น จนในที่สุดประตูหน้าห้องฉุกเฉินก็ถูกเปิดออก พร้อมร่างของแพทย์หนุ่มที่เดินออกมาช้า ๆ หน้ากากอนามัยที่คล้องคอถูกดึงลงเผยสีหน้าหนักใจปนเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด “คุณหมอคะคุณแม่เป็นอย่างไรบ้างคะ ท่านปลอดภัยดีใช่ไหมคะ” จัสมินเอ่ยถามทันทีที่แพทย์หนุ่มประจำห้องฉุกเฉินเดินออกมา “ขอโทษด้วยครับ.. หมอพยายามทำดีที่สุดแล้ว” จัสมินได้ยินคำนั้น ร่างกายของเธอก็รู้สึกหูอื้อ ตัวชา ตาลาย ใจหวิวอย่างบอกไม่ถูก ก่อนที่เธอจะค่อย ๆ ขยับริมฝีปากเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเบาหวิว “คุณหมอ..” เสียงของเธอสั่นมากในตอนที่เอ่ยออกไปเพียงแค่สองคำนั้น ก่อนที่เท้าทั้งสองจะขยับก้าวเข้าไปข้างหน้าเล็กน้อย “พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ” แพทย์หนุ่มหลุบตาลงเหมือนกำลังหาคำที่เบาที่สุด แต่ทุกคำกลับกลายเป็นเหมือนคมมีดที่เชือดเฉือนหัวใจดวงนี้ “เนื่องจากคนไข้มีภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน และตรวจพบเลือดคั่งใต้เยื่อหุ้มสมองแบบคาโค หมอไม่สามารถช่วยชีวิตของคนไข้ไว้ได้จริง ๆ เสียใจด้วยนะครับ” สิ้นเสียงนั้นทุกอย่างก็เหมือนจะดับวูบไปกลางอากาศ ความรู้สึกของจัสมินตอนนี้เป็นเหมือนโลกทั้งใบของเธอหยุดหมุน หญิงสาวยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น หูอื้อจนไม่ได้ยินเสียงอะไรรอบกายอีกนอกจากเสียงหัวใจตัวเองเต้นตึก ๆ พร้อมกับความจริงตรงหน้าทำให้ดวงตาเริ่มพร่ามัว น้ำตามากมายจู่ ๆ ก็พากันไหลเป็นสาย “แม่..” เสียงเรียกแหบพร่าของเธอดังขึ้นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูไม่หยุด เธอทรุดตัวอยู่หน้าห้องฉุกเฉินอย่างคนที่ไม่รู้จะทำอะไรต่อไปดี โดยที่เธอเองก็ไม่รู้เลยว่าทุกคำพูดของหมอ และท่าทางของหญิงสาวนั้นอยู่ภายใต้สายตาของชายหนุ่มมาโดยตลอด มาร์คัสเดินตรงมาหาหญิงสาว ก่อนจะนั่งลงย่อ ๆ แล้วใช้มือหนาลูบหัวเธอเบา ๆ จัสมินที่สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นนั้น เงยหน้าขึ้นมองเขาทั้งน้ำตา และไม่รู้ว่าเพราะอะไรทันทีที่เห็นว่าผู้ชายตรงหน้าคือมาร์คัส ความรู้สึกที่อยากจะกอดผู้ชายคนนี้เอาไว้แน่น ๆ ในตอนนี้ก็เกิดขึ้น หญิงสาวโผลเข้าไปกอดชายหนุ่มเอาไว้พร้อมกับร้องไห้ออกมาเสียงดังลั่น “ฮึก! ฮื่อ!~ ฉันไม่มีแม่แล้ว คุณมาร์คัสตอนนี้ฉันไม่มีแม่แล้ว ฮื่อ!~” เสียงร้องไห้หนักหน่วงของเธอลั่นโรงพยาบาล เขากอดกระชับร่างบอบบางนั้นไว้แน่นก่อนใช้ฝ่ามือลูบหลังเธอเบา ๆ เหมือนปลอบเด็กตัวเล็ก ๆ “ร้องออกมาให้พอนะ.. ร้องออกมาเลยไม่ต้องกังวล จัสมิน.. คุณยังมีผมอยู่ตรงนี้”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD