ตอนที่ 4 หน้าม่อหูดำ

1267 Words
ตอนที่ 4 หน้าม่อหูดำ จัสมินวิ่งหนีผู้ชายคนนั้นอย่างไม่คิดชีวิต จนกระทั่งมาถึงหน้าร้านที่เธอทำงานในที่สุด ไม่รอช้าสองเท้าได้เดินเข้าในร้านไปด้วยความโล่งอก แม้ว่าร่างกายจะยังตื่นเต้นจากความกลัว แต่อย่างน้อยในร้านนี้เธอก็ยังปลอดภัย “แค่ไปชนเขานิดหน่อย.. แถมเขาเองก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลยสักนิด ผู้ชายคนนั้นคงไม่สั่งลูกน้องมาเก็บฉันหรอกนะ” เธอบ่นไปพลางพร้อมกับถอดชุดด้านนอกออกไปพลาง ก่อนจะสลัดความคิดทั้งหมดออกไปให้สิ้น ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่มือของเธอถอดเสื้อคลุมตัวใหญ่กับกางเกงขายาวออกจนหมด จัสมินเดินไปที่หน้ากระจกแต่งตัวในห้องแต่งตัวของพนักงานในบาร์ ก่อนจะหมุนซ้ายหมุนขวาเพื่อดูความเรียบร้อยของชุด พร้อมกับทรงผมและเติมเครื่องสำอางอีกเล็กน้อย จนในที่สุดก็เผยให้เห็นหญิงสาวอกสะบึมในชุดเดรสเกาะอกกระโปรงสั้นแนบเนื้อ โชว์หน้าอกหน้าใจขนาดใหญ่แบบไฟกะพริบปรากฏสะท้อนอยู่ในนั้น “ทำงาน! ทำงาน! ทำงาน!” หลังจากที่เอ่ยเรียกความกล้าของตัวเองออกมาแล้ว เรียวเท้าสวยที่อยู่บนส้นเข็มแปดนิ้วก็เดินตรงออกไปด้านนอกอย่างเช่นทุกครั้ง เธอกวาดตามองบรรยากาศในร้านเต็มไปด้วยแสงนีออนสลัว ผสมผสานไปกับเสียงเพลงเบา ๆ ที่ดังคลอไปกับเสียงคุยสนุกสนานของลูกค้าด้วยความเคยชิน “พี่เนย มีโต๊ะไหนยังไม่ได้บริการบ้างพี่” ทันทีที่สองเท้าเดินตรงมายังโต๊ะแคชเชียร์ น้ำเสียงหวานก็เอ่ยถามผู้เป็นหัวหน้างานทันที “โต๊ะ27เลยจัสมิน โต๊ะนั้นเป็นลูกค้าขาประจำที่ความเรื่องมากเป็นที่หนึ่ง เอาอยู่ไหม” “เอาอยู่พี่! ขอเมนูหน่อยค่ะ” หลังจากที่เธอได้เมนูกับกระดาษจดรับออเดอร์แล้ว จัสมินก็เดินนวยนาดตรงไปยังโต๊ะที่พนักงานในร้านไม่อยากเข้าใกล้มากที่สุด “สวัสดีค่ะคุณลูกค้า ไม่ทราบว่ามีใครรับออเดอร์หรือยังคะ” เธอพูดทักทายลูกค้าที่นั่งกอดนั่งหอมผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ด้วยน้ำเสียงใจดีสู้เสือ ก่อนที่ชายอ้วนพลุ้ยคนนั้นจะเงยหน้าขึ้นมาชี้หน้าเธอเอาไว้ และทันทีที่เขาเห็นใบหน้าของจัสมิน ดวงตาที่แสดงความหงุดหงิดเมื่อคู่ก็แปลเปลี่ยนเป็นฉีกยิ้มกว้าง ก่อนที่เขาจะดันผู้หญิงคนนั้นออกแล้วหันมากวักมือเรียกจัสมินรัว ๆ “คนสวยมานั่งกับพี่มา! มาเร็ว ๆ” ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกสะอิดสะเอียนกับท่าทางของผู้ชายคนนี้ แต่อย่างที่บอกว่าผู้ชายคนนี้เองเป็นลูกค้าประจำของที่นี่ มิหนำซ้ำยังได้ชื่อว่าแจกทิปเป็นว่าเล่น เมื่อนึกถึงข้อนี้จัสมินเองก็ได้แต่ต้องสวมหน้ากากแล้วฉีกยิ้มหวานเข้าไปหาเขา “ก่อนอื่นพี่ชายคนหล่อต้องสั่งเครื่องดื่มก่อนนะคะ” เธอพูดเพียงแค่นั้นก่อนจะเลื่อนเมนูไปให้ตรงหน้า และไม่รู้ว่าจะเรียกว่าโชคดีหรือเปล่า ทันทีที่เธอยื่นเมนูไปให้ชายอ้วนพลุ้ยคนนี้ก็เลือกเครื่องดื่มที่แพงที่สุดในร้านโดยที่ไม่แม้แต่จะมองทันที “เอาที่แพงที่สุด! แล้วขอกับแกล้มที่อร่อยที่สุดมาเลย! เรื่องเงินไม่ต้องห่วงเสี่ยมีจ่าย!” หลังจากที่เขาพูดออกมาแบบนั้นหญิงสาวก็ฉีกยิ้มกว้างก่อนจะใช้ปากกาจดเมนูที่เธออยากขายลงไปในกระดาษรับออเดอร์ “ได้เลยค่ะ.. เดี๋ยวจัสมินมานะคะ เสี่ยนั่งเล่นกับน้องเขารอสักครู่นะคะ” “อย่าไปนานนะคนสวย เงี้ยว!!” จัสมินที่เห็นท่าทางของผู้ชายคนนี้ที่พูดไปกางมือเหมือนแมวที่กางเล็บไป บวกกับเสียงร้องที่เหมือนจะน่ารักนั้นอีก บอกตามตรงว่าทำให้เธอรู้สึกขนลุกขนฉันไม่น้อย แต่ถึงอย่างนั้นสุดท้ายเธอก็ทำได้แค่ฉีกยิ้มหวาน “รอไม่นานค่ะเสี่ย.. เดี๋ยวจัสมินมานะคะ” หลังจากนั้นเธอก็เดินนำกระดาษเมนูไปยื่นให้กับห้องครัว ก่อนจะเดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อเปิดเครื่องดื่ม “สุดยอด! จัสมินทำได้ยังไงเนี่ย! แทบไม่มีลูกค้าคนไหนเปิดเครื่องดื่มที่แพงที่สุดของร้านเลยนะ” พี่เนยที่เห็นกระดาษออร์เดอร์ได้แต่ทำตาโตมองกระดาษใบนั้นสลับกับจัสมิน “ก็.. ความหน้าม่อหูดำแหละพี่” “แต่ยังไงก็ระวังตัวหน่อยนะ ให้พี่ส่งคนไปนั่งเป็นเพื่อนไหม” “ไม่เป็นไรค่ะน่าจะเอาอยู่” หญิงสาวเอื้อมมือไปหยิบถาดเครื่องดื่มที่หัวหน้างานอย่างพี่เนยจัดไว้ให้ ก่อนจะส่งยิ้มหวานแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะนั้น จัสมินอยู่ให้บริการเสี่ยอ้วนพุงพลุ้ยคนนั้นนานเกือบครึ่งชั่วโมง และก็เป็นไปตามประสาของผู้ชายที่มือปลาหมึก เขาพยายามที่จะลวนลามเธออยู่หลายครั้ง แต่ก็ต้องขอบคุณความใจกล้าและประสบการณ์ของเธอเองด้วย แม้จะไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ทุกครั้ง แต่ที่เธอเสียหายมากที่สุดก็เห็นจะเป็นแค่ถูกผู้ชายคนนี้จับมือหรือลูบเส้นผมเอาไปดมแค่นั้น “ชนค่ะเสี่ย!” และทุกครั้งที่เขาพยายามจะลวนลามเธอ จัสมินก็จะเลือกที่จะยกแก้วเหล้าขึ้นไปให้เขาดื่มทุกครั้ง หากพูดในภาษาชาวบ้านเลยก็เหมือนกับการมอมเหล้าแขก แต่เพียงแค่ไม่ได้มอมเพื่อที่จะลักทรัพย์หรือกระทำมิดีมิร้าย เธอแค่มอมเหล้าเพื่อที่จะเบี่ยงเบนความสนใจของผู้ชายคนนี้ก็เท่านั้น “เอ้า! ชน!” เสียงเพลงเซ็งแซ่จากผับบาร์ทั้งสองข้างถนน ก็ไม่สามารถลบใบหน้าของผู้หญิงเมื่อครู่ได้เลยแม้แต่น้อย เขายังคงจดจ้องไปยังทางที่เธอวิ่งหนีไปไม่ขยับไปไหน ลูกค้าหลายต่อหลายคนที่มาเดินในย่านนี้ ต่างก็หันมามองพวกเขาด้วยสีหน้าหวาดกลัว ใครบ้างที่จะคิดว่านี่คือสถานการณ์ปกติได้ ผู้ชายใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตรคนหนึ่งยืนอยู่ตรงกลางถนน รายล้อมไปด้วยชายชุดดำใบหน้าเข้มห้าหกคนที่ยืนจังก้าตั้งท่าพร้อมรบ ไม่เพียงเท่านั้นยังมีชายหนุ่มอีกสองคนที่ความหล่อนั้นก็แทบจะกินกันไม่ลงยืนเกาหัวแกรก ๆ อยู่ข้าง ๆ หากมองว่านี่คือสถานการณ์ปกติได้ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรแล้ว “ฟีนิกซ์ไปหามาให้กูทีว่าผู้หญิงคนเมื่อกี้ไปที่ไหน” เขาสั่งเสียงเรียบโดยที่สายยังไม่รับไปจากถนนเส้นนั้นเลยสักนิด “เฮีย..” “กูให้มึงไปหาก็ไปเถอะน่า! ไม่ต้องพูดอะไรแล้วกูรู้ตัวดีว่ากำลังทำอะไรอยู่” “เออ ๆ” หลังจากที่ฟินิกซ์เดินตรงไปยังทางที่จัสมินเดินไปนั้น ใช้เวลาเพียงแค่ไม่ถึง 5 นาทีเขาก็เดินกลับมาด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่ “เจอแล้ว แต่เฮียมึงแน่ใจนะว่าจะไป ยังไงผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ใช่คุณคาร่าสักหน่อยจะสนใจทำไมวะ” “เรื่องของกู!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD