ดูเหมือนสัญชาตญาณเขาจะแม่นยำเสมอ เวณิกาดื่มเข้าไปไม่ถึงห้านาทีก็ยกมือขึ้นกุมศีรษะ ผู้ชายคนนั้นหันไปส่งซิกกับเพื่อนและประคองเวณิกาออกไปก่อน เขาไม่รอช้าตามติดไปทันที ในจังหวะเดียวกับที่ลูกน้องเดินมาจากอีกด้าน
“นายพาผู้หญิงที่เคาน์เตอร์บาร์ไปส่งห้องพัก เดี๋ยวฉันจะตามไปช่วยผู้หญิงอีกคนเอง”
“ครับบอส!” ปกติแล้วชาร์ลส์จะให้ลูกน้องกระจายอยู่ในผับเพื่อดูแลความเรียบร้อย รวมทั้งสอดส่องดูแลนักท่องราตรี โดยเฉพาะสาวๆที่มาคนเดียวหรือกลุ่มเล็ก เพราะเสี่ยงกับการถูกมอมยา ถ้าเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น ลูกน้องของเขาจะเข้าไปช่วย และทางโรงแรมจะแบนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาก่อเหตุตลอดไป เพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียง
สั่งการเสร็จชาร์ลส์ใช้เวลาไม่นานก็เดินทันชายผู้ไม่ประสงค์ดีซึ่งกำลังจะพาเวณิกาออกจากผับ
“จะพาผู้หญิงไปไหน!” เสียงทุ้มห้าวมีอำนาจทำให้อีกฝ่ายชะงักและหันกลับมามอง
“นี่แฟนฉัน แกไม่เกี่ยว!” ชายชาวยุโรปใช้เสียงดังข่ม
เวณิกาอยู่ในสภาพตาปรือสะลึมสะลือ แก้มเป็นสีแดงจัดซึ่งคงเป็นผลจากฤทธิ์แอลกอฮอลล์ผสมฤทธิ์ยาบางอย่างที่ดื่มเข้าไป
“แต่ฉันเห็นตั้งแต่แรกว่าผู้หญิงคนนี้มากับเพื่อน และนั่งดื่มอยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์มาเกือบชั่วโมง ก่อนที่แกจะเข้าไปหาและมอมยาเธอ” ดวงตาสีควันบุหรี่ดุดันแข็งกร้าวจนทำให้คู่สนทนาหน้าซีดลง แต่ยังทำเก่ง
“อย่ามาเสือกไม่เข้าเรื่อง!”
“ในฐานะที่ฉันเป็นเจ้าของโรงแรมนี้ การดูแลลูกค้าเป็นสิ่งที่ควรทำ และถ้าแกไม่อยากให้เรื่องนี้ถึงตำรวจละก็…” ชาร์ลส์พูดไม่ทันจบ อีกฝ่ายก็เอ่ยสวน
ฝ่ายนั้นอ้าปากหวอ “โอเคๆ ฉันไม่พาผู้หญิงคนนี้ไปแล้วก็ได้” แม้ปรารถนาในตัวสาวสวยคนนี้แค่ไหน แต่ถ้าต้องมีเรื่องกับชาร์ลส์ แอชตัน วินเทอร์ เจ้าชายแห่งลาสเวกัส ย่อมไม่คุ้มกันเลย
ชาร์ลส์ยิ้มเหี้ยมเกรียม “แกตัดสินใจถูกแล้ว ส่งตัวผู้หญิงมา และอย่าให้ฉันเห็นหน้าแกที่นี่อีก!”
ชายชาวยุโรปส่งตัวเวณิกาให้เขาแล้วรีบออกจากผับไป ก่อนที่เจ้าของโรงแรมจะเปลี่ยนใจเอาเรื่อง
แค่แรกสัมผัส ความนุ่มนิ่มและกลิ่นหอมละมุนจากตัวหญิงสาวก็ทำให้เลือดร้อนๆของชาร์ลส์แล่นพล่านไปทั่วร่างกาย ไม่คิดเลยว่ายัยเด็กกะโปโลจะทำให้ร่างกายเขาเกิดปฏิกิริยารุนแรงได้แบบนี้
“เดี๋ยวผมจะพาไปส่งที่ห้อง” เขาบอก แม้รู้ว่าเจ้าตัวอาจฟังไม่รู้เรื่อง
แต่แล้วจู่ๆ เวณิกาก็ยกแขนขึ้นโอบรอบคอเขาและโวยวายทั้งที่ยังหลับตา แขนขวาของเธอยังใส่สร้อยข้อมือไพลินที่เขาเคยมอบให้เมื่อสิบเอ็ดปีก่อน เป็นสิ่งยืนยันว่าหญิงสาวคือยัยเด็กกะโปโลในอดีตคนนั้น และนั่นแสดงว่าเธอเองไม่เคยลืมเขาเลย แต่โชคชะตาก็กลั่นแกล้งให้เขาและหญิงสาวคลาดกันไป ไม่มีโอกาสพบกันอีกกระทั่งวันนี้
“ใครบอกว่าฉันจะกลับห้อง ฉันจะไปกับคุณ”
“คุณจะไปกับผม?” เธอพูดเพราะเมาหรือมาจากส่วนลึกของความต้องการกันแน่ ชาร์ลส์ไม่ทันได้คิดมากกว่านั้นเมื่อริมฝีปากหยักลึกของเขาถูกสาวไทยตัวเล็กเขย่งเท้าขึ้นฉกจูบแบบถี่ๆจนทำให้ความร้อนในกายที่ร้อนจัดอยู่แล้วพุ่งสูงปรี๊ดขึ้นอีก
“เฮ้ เอาแบบนี้เลยเหรอ” ดวงตาสีควันบุหรี่เป็นประกายระยิบระยับ ไม่คิดเลยว่าเธอจะขโมยจูบจากเขาเอาดื้อๆ
“อือ ฉันร้อนจนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว พาฉันออกไปจากที่นี่ที” หญิงสาวครางในลำคอเอ่ยแทบไม่ได้ศัพท์และเบียดกายเข้าหาเขามากกว่าเดิม ตัวเธอร้อนเหมือนไฟกองย่อมๆ ไรผมสีดำขลับชื้นไปด้วยเหงื่อ แก้มแดงเหมือนผลแอ๊ปเปิ้ล
“ไปไหน ห้องคุณเหรอ” เขารู้สึกว่านี่ไม่ใช่ตัวตนของเวณิกาเลย ถึงภาพเด็กกะโปโลจะเป็นอดีตหลายปีมาแล้ว แต่คนเราโตขึ้นนิสัยก็ไม่น่าจะเปลี่ยนเป็นอีกขั้วได้ขนาดนี้ ทว่าอะไรก็ไม่สำคัญไปกว่า เธอกำลังทำให้บางอย่างในร่างกายเขาเริ่มตื่นตัว
เวณิกาทำเสียงขึ้นจมูกอย่างขัดใจ ปรือตาขึ้นมองคนตรงหน้าที่ยืนแนบชิดกันจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อน “ห้องคุณสิ บอกแล้วไงว่าฉันไม่กลับห้อง ยังสนุกไม่พอเลย!”
“แน่ใจ?” คิ้วหนาที่พาดเหนือดวงตาคมกริบเลิกขึ้น เห็นอาการแบบนี้ชักจะแน่ใจแล้วว่ายาที่ผสมในเครื่องดื่มซึ่งหญิงสาวดื่มเข้าไปคือยาอะไร มันไม่ใช่ยานอนหลับธรรมดา แต่เป็นยาปลุกเซ็กส์!
“แน่เสียยิ่งกว่าแน่อีก คุณบอกว่าเราจะไปสนุกกันไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงจะให้ฉันกลับล่ะ” เสียงหญิงสาวแผ่วกระเส่า กระตุ้นให้หัวใจเขายิ่งสูบฉีดเลือดรุนแรง
“รู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกมา” ชาร์ลส์ถอนหายใจ กระต่ายตัวน้อยกำลังเดินเข้ามาหากรงเล็บของหมาป่าโดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีอันตรายรออยู่
“รู้สิ ไปได้หรือยัง” เวณิกาช้อนตาขึ้นมองเขา แววตาหวานหยาดเยิ้มราวกับเชิญชวน
ซีอีโอหนุ่มพยายามต้านทานเสียงหัวใจสุดความสามารถ ไม่ให้โน้มศีรษะลงไปสัมผัสกลีบปากอิ่มเคลือบลิปสติกสีแดงแวววาว เมื่อครู่นี้แม้เธอจะจูบถี่ๆ โดยแต่ละครั้งแตะลงมาไม่กี่วินาที แต่รสของเรียวปากนุ่มนั้นสุดหอมหวานราวกับน้ำผึ้งจนเขาอยากจะไล้ปลายลิ้นละเลียดชิมช้าๆไปมาให้ถ้วนทั่ว รวมทั้งรุกล้ำเข้าไปภายในเพื่อตักตวงความหวานล้ำที่มากกว่าจนเต็มอิ่ม
“แน่ใจนะว่าจะไปห้องผมจริงๆ” เขาถามย้ำอีกที เพราะการพาเธอไปที่ห้องในสภาพนี้สุ่มเสี่ยงไม่น้อย
“ฉันอยากออกจากที่นี่ ไม่รู้ทำไมร้อนไปหมด พาฉันออกไปนะ” หญิงสาวดูเบลอและไม่มีสติเอาเสียเลย
ดวงตาคมกริบล้อมรอบด้วยวงแหวนแพขนตาหนาฉายแววครุ่นคิด ถ้าให้เธอกลับห้องตอนนี้ คงไม่มีใครดูแล เพราะเพื่อนของเวณิกาก็เมาไม่แพ้กัน แต่ดีที่เมาแล้วหลับ ไม่เหมือนเวณิกาที่ท่าทางจะไม่หมดฤทธิ์ง่ายๆ ถ้าหญิงสาวสะลึมสะลือออกจากห้องไปแล้วเจอผู้ชายคนอื่น เธออาจตกเป็นอันตรายได้ เพราะร้อยทั้งร้อยที่โดนยาปลุกเซ็กส์เข้าไปจะเลือดสูบฉีดแรงทำให้ร้อนรุ่มไปทั้งตัว และไวต่อการสัมผัสซึ่งจะกระตุ้นให้ความปรารถนาทวีคูณมากขึ้นๆจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ใครจะจับจูงไปไหนก็ไม่ใช่เรื่องยาก เหมือนกับที่เธอรบเร้าจะไปห้องเขา ทั้งที่ไม่รู้เลยว่าเขาเป็นใคร
“งั้น… ผมตามใจคุณ!” เขาจะไม่ปล่อยให้ใครมากล้ำกรายเวณิกาเด็ดขาด
เหตุผลของเขาฟังขึ้นใช่ไหม… อย่างน้อยเขาก็ทำเพื่อช่วยเธอ
เพนท์เฮาส์สุดหรูบนชั้นสูงสุดของโรงแรมดิ แอชตัน วินเทอร์มักจะเป็นสถานที่สุดท้ายของแต่ละค่ำคืนระหว่างชาร์ลส์และสาวๆเสมอ แต่วันนี้ต่างจากวันอื่นตรงที่เวณิกาไม่ใช่ผู้หญิงในคอลเลคชั่นของเขา และที่พาเธอมาที่นี่ก็เพื่อจะถอนพิษยา เพราะรู้ว่าใครก็ตามที่โดนยาชนิดนั้นเข้าไป ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างจะทรมานมากจนแทบคลั่ง แต่ปัญหาก็คือเขาไม่รู้ว่าเวณิกาโดนยามากน้อยแค่ไหน และต้องใช้เวลาเท่าไรกว่ายาจะหมดฤทธิ์
ห้องกว้างตกแต่งด้วยโทนสีขาวเทาดูเรียบขรึม และมีเฟอร์นิเจอร์จำเป็นเพียงไม่กี่ชิ้น กระจกสีเข้มที่กรุรอบห้องทั้งสามร้อยหกสิบองศาทำให้มองเห็นทิวทัศน์ยามค่ำคืนเบื้องนอกของลาสเวกัสซึ่งเต็มไปด้วยแสงไฟได้สุดลูกหูลูกตา
ชาร์ลส์ประคองเธอมายังมุมโซฟานั่งเล่นหน้าจอทีวีขนาดยักษ์และวางหญิงสาวลง ทว่าเธอกลับดึงเขาลงไปด้วย แม้เขาจะตัวใหญ่กว่าแต่เพราะไม่ทันตั้งตัว ชาร์ลส์จึงเสียหลักล้มลงไปทาบทับร่างเล็กบนโซฟาสีเทาเข้มตัวยาว ริมฝีปากเขาและเธออยู่ห่างกันแค่ปลายนิ้วกั้น ส่วนท่อนล่างแนบสนิทกันโดยไม่ได้ตั้งใจ ยิ่งชายชุดแซกสีดำร่นขึ้นสูงจนเกือบถึงจุดหวาดเสียว ยิ่งทำให้ชาร์ลส์กลัวใจตัวเอง