แดดดี๊

1715 Words
เวณิกาเดินจูงมือแองจี้ไปตามฟุตปาธ เพื่อไปส่งยังโรงแรมดิ แอชตัน วินเทอร์ตามนัดหมายกับพ่อของเจ้าตัว รัญชิดาเดินตามหลังและปลีกวิเวกถ่ายรูปวิวเล่นเป็นระยะตามประสาคนไม่ค่อยถูกกับเด็ก “ฉันเชื่อแล้วว่าแกเกลียดเด็กจริงๆ แองจี้น่ารักขนาดนี้ยังไม่อยากเข้าใกล้อีก” เวณิกาอดขำเพื่อนไม่ได้ “ไม่ใช่รังเกียจนะ แต่ฉันกลัวจะทำแองจี้ร้องไห้ถ้าเข้าไปเล่นด้วย ฉันไม่รู้วิธีเล่นกับเด็กเหมือนแกนี่นา ปล่อยให้แกดูแลไปแหละดีแล้ว ฉันรอเจอพ่อของแองจี้ก็พอ” รัญชิดาเอ่ยด้วยแววตาเคลิ้มฝัน อยากเห็นคุณพ่อสุดหล่อของแม่หนูเต็มที “ตามใจ” หญิงสาวว่าแล้วหันกลับมาคุยกับเด็กน้อยที่กำลังเอร็ดอร่อยกับไอศกรีมแท่งรสสตรอว์เบอร์รี่ในมือ “อร่อยไหมจ๊ะแองจี้” “อร่อยมากๆเลยค่ะ หนูชอบไอติมสตรอว์เบอร์รี่ที่สุด แล้วก็ชอบพี่เวย์ด้วยค่ะ พี่เวย์สวยแถมยังใจดีที่สุดในโลก” แองจี้เอ่ยเสียงเจื้อยแจ้วและมองเวณิกาด้วยดวงตากลมโตเป็นประกายชื่นชม “แองจี้ก็น่ารักที่สุดเลยจ้ะ” อยู่ด้วยกันไม่ถึงสามสิบนาที แต่เธอรู้สึกถูกชะตากับหนูน้อยอย่างบอกไม่ถูก แม้แองจี้จะงอแงตามประสาเด็กบ้าง แต่ก็ไม่ได้กรีดร้องโวยวายจนน่าหยิกให้พุงเขียวเหมือนเด็กหลายคนที่เคยเจอ “ถ้าแดดดี๊เจอพี่เวย์ แดดดี๊ต้องชอบพี่เวย์เหมือนหนูแน่ค่ะ” คนตัวเล็กบอกเสียงมั่นใจและแลบลิ้นเลียไอศกรีมหวานฉ่ำต่อ หัวใจเวณิกาเต้นผิดจังหวะอีกครั้ง หลังจากเกิดอาการนี้หมาดๆตอนได้ยินเสียงพ่อของแองจี้ กระแสบางอย่างในน้ำเสียงทุ้มห้าวทำให้โลกทั้งใบของเธอหยุดหมุน สติลอยหายไปในทันที จนเขาต้องเรียกเธอเพราะนึกว่าสายหลุด เสียงของชาร์ลส์เหมือนเสียงใครคนหนึ่งที่หายไปจากชีวิตเธอเนิ่นนาน จนเธอคิดว่าคงจะไม่ได้พบกันอีกแล้ว เขากับเธอไม่ได้ล่ำลากัน เพราะอีกฝ่ายผิดสัญญาที่ว่าจะมาพบ และหลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอหน้าอีกเลยถึงปัจจุบัน แต่มันคงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกมั้ง รัญชิดาเห็นเวณิกาเงียบไม่ตอบก็แทรกเข้ามาพร้อมทำหน้าครั่นคร้ามแทนเพื่อน “หืม จะดีเหรอจ๊ะหนูแองจี้ ถ้าแดดดี๊ของหนูชอบเพื่อนพี่ หม่ามี้ของหนูต้องไม่ชอบใจแน่” “หม่ามี้ไม่อยู่กับเราแล้วค่ะ แดดดี๊บอกว่าหม่ามี้ไปอยู่บนสวรรค์ ที่นั่นไกลมากและกลับมาหาเราไม่ได้แล้ว” แองจี้เอ่ยพาซื่อพลางชี้ไปบนฟ้า เวณิกาได้ยินเช่นนั้นก็อดเวทนาหนูน้อยที่ต้องเสียแม่ไปแต่เด็กไม่ได้ และเข้าใจความรู้สึกของคนที่ไม่มีพ่อแม่เป็นอย่างดี เพราะแม่เธอก็เสียไปแต่เด็กเหมือนกัน “ว้าย พ่อหม้ายหนุ่มสุดหล่อ ฟังดูเร้าใจชะมัด” รัญชิดาทำท่ากระดี๊กระด๊า ทว่าหันมาชงเพื่อนแทน “เอาเลยยัยเวย์ คนนี้อาจเป็นเนื้อคู่แก” “เพ้อเจ้อละ” “ไม่แน่นะ ท่าทางหนูแองจี้ก็ชอบแกมาก แบบนี้สะดวกเลย ลูกชอบ พ่อก็ต้องชอบด้วย Love me love my daughter” เพื่อนเธอจินตนาการไปไกลกว่าเดิมพร้อมสร้างสำนวนขึ้นมาใหม่ “พอเลยๆ” เวณิกาเบรก “บอกแล้วไงว่าฉันไม่คิดเรื่องความรัก อาจจะไม่แต่งงานเลยก็ได้” “จ้า ยัยผู้หญิงต่อต้านความรัก อย่าให้เห็นนะว่าควงหนุ่มอเมริกันกลับไทยด้วย” “บ้า ไม่มีแน่ๆ” หญิงสาวส่งค้อนให้เพื่อน “ไม่แน่หรอก บรรยากาศในเวกัสเต็มไปด้วยแสงสีตื่นตาตื่นใจขนาดนี้ แกอยู่เที่ยวคนเดียวอาจใจแตก” รัญชิดาหัวเราะคิกคัก “ไม่มีทางอะ ไม่เชื่อก็คอยดูแล้วกัน” เวณิกาพูดจบก็หันไปหาแองจี้ ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มเมื่อเห็นคนตัวเล็กกินไอศกรีมเพลินจนเลอะแก้มข้างหนึ่ง “หนูน้อย ไอศกรีมเลอะหมดแล้วจ้ะ” เธอเอ่ยเสียงนุ่มนวลและหยุดเดิน มือเรียวหยิบกระดาษทิชชู่ออกมาจากกระเป๋าสะพายของตัวเอง นั่งยองๆลงเช็ดแก้มยุ้ยนุ่มนิ่มอย่างเบามือ “สะอาดแล้วจ้ะ” “ขอบคุณค่าพี่เวย์” ดวงตากลมโตเปล่งประกายสดใสและชื่นชมพี่สาวคนสวยมากขึ้นเรื่อยๆ “ไม่เป็นไรจ้ะ ไปกันต่อดีกว่า เดี๋ยวคุณพ่อจะรอนาน” ว่าแล้วก็จูงมือเจ้าตัวจ้อยเดินต่อ “ถ้าไม่บอกนี่คิดว่าลูกแกชัดๆ ดูแลดีขนาดนี้” รัญชิดาแซว ไม่แปลกหรอกที่นางฟ้าตัวน้อยจะชอบเพื่อนเธอ ตั้งแต่พบกันจนถึงตอนนี้ เวณิกาดูแลแองจี้อย่างดีจนเธอนับถือในความอ่อนโยน อดทน และมีจิตวิทยาในการดูแลเด็กของเพื่อน ถ้าเป็นเธอ คงสติแตกเพราะไม่รู้จะทำยังไงให้แองจี้หยุดร้องไห้ หากมีลูก เธอจะจ้างเวณิกานี่ละมาเป็นพี่เลี้ยง “แกห้ามพูดอะไรทำนองนี้ตอนเจอพ่อแองจี้นะ” เวณิกากลัวเหลือเกินว่าเพื่อนจะพิเรนทร์ พูดชงเธอกับพ่อของหนูน้อย ถ้าเป็นแบบนั้น เธอคงอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน “ไม่รับประกัน” อีกฝ่ายทำตาใสและยิ้มเย้า “ยัยดาด้า อย่าเด็ดขาด ไม่งั้นฉันจะชงแกกับมิสเตอร์ไฟร์เยอร์บ้าง” หญิงสาวขู่กลับ “ไม่นะ!” แค่คิดก็สยองแล้ว เธอไม่มีทางเอาอีตาผู้บริหารจอมเผด็จการนั่นมาเป็นสามีแน่ ทั้งสามคนมาถึงล็อบบี้ของโรงแรมในอีกสิบนาทีต่อมา สายกว่าเวลานัดห้านาที แต่มองไปรอบๆบริเวณ เวณิกายังไม่เห็นว่าใครดูคลับคล้ายคลับคลาจะเป็นชาร์ลส์ พ่อของแองจี้เลย หญิงสาวพาคนตัวเล็กไปนั่งยังมุมหนึ่งของล็อบบี้อันโอ่โถงตกแต่งสวยงามในโทนสีน้ำตาลขาวและเฟอร์นิเจอร์สีดำหนังแท้เกรดเอ กระจกสีเข้มที่กรุรอบบริเวณทำให้ดูหรูหรามีระดับมากขึ้นอีก เธอสอบถามเด็กน้อยและพบว่าเจ้าตัวอยู่ในช่วงปิดเทอมจึงมาอยู่ที่นี่ แต่ถ้าช่วงเปิดเทอมก็จะอยู่บ้านที่แคลิฟอร์เนีย เพราะเข้าโรงเรียนที่นั่น ส่วนผู้เป็นพ่อทำงานที่ลาสเวกัสเป็นหลักและกลับบ้านแค่เสาร์อาทิตย์ หญิงสาวเอาสมุดโน้ตให้แองจี้วาดรูปเล่นฆ่าเวลาไปพลาง หนูน้อยสนุกสนานกับการวาดรูปการ์ตูนจนลืมไปเลยว่ากำลังรอพบพ่อ ส่วนรัญชิดานั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่บนโซฟาอีกตัวใกล้ๆกัน “สวยไหมคะพี่เวย์” แองจี้หันไปถามเวณิกาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “สวยจ้ะ เสียดายจังไม่มีสี จะได้ให้แองจี้ระบายด้วย” “ที่ห้องหนูข้างบนมีสีกล่องใหญ่มากเลยค่ะ เดี๋ยวเราไปวาดรูปเล่นด้วยกันนะคะ” คำชวนแสนไร้เดียงสา แต่ทำให้เธอลำบากใจจะตอบ เพราะยังไม่รู้เลยว่าพ่อของแองจี้เป็นคนยังไง บางทีเขาอาจไม่อยากให้ลูกสาวสนิทกับคนแปลกหน้าก็ได้ “นะคะ” ดวงตาโตแป๋วบริสุทธิ์มองอย่างออดอ้อน “จ้า ไว้ว่างๆพี่จะไปนะ” เวณิกายิ้มหวานตอบ “ว้าย นั่นลูกสาวของคุณชาร์ลส์นี่นา” “คุณชาร์ลส์ คู่ควงสุดหล่อล่ำของเธอน่ะเหรอ” “ใช่สิจ๊ะ” เสียงแหลมสูงของสองสาวผมบลอนด์ดังขึ้น ก่อนที่ทั้งสองจะเข้ามาหาแองจี้ ทำเหมือนเวณิกากับรัญชิดาเป็นอากาศที่มองไม่เห็น “สวัสดีจ้ะหนูแองจี้ จำน้าเฮเลนได้ไหมจ๊ะ” สาวสวยในชุดเกาะอกสีน้ำเงินรัดรูปจีบปากจีบคอ “จำได้ค่ะ คุณเฮเลนเป็นคู่ควงเก่าของแดดดี๊” หนูน้อยตอบเสียงซื่อและตรงจนคนฟังแทบจะหงายหลัง “ว้าย ตายแล้ว” เพื่อนของสาวเจ้าอุทานพลางทำตาโตตกใจ “หนูแองจี้พูดแบบนี้หมายความว่าไงเหรอเฮเลน ไหนเธอบอกว่าเมื่อวานยังสนุกกับคุณชาร์ลส์อยู่บนเพนท์เฮาส์ของเขาอยู่เลย” เฮเลนหน้าแตก เพราะจริงๆเธอกับชาร์ลส์ไม่ได้เจอกันมาสองอาทิตย์แล้ว แต่ก็พยายามปั้นหน้าร่าเริงคุยกับเด็กน้อย “แหม หนูแองจี้เข้าใจผิดแล้วละ เพราะน้ายังคบกับพ่อหนูอยู่เลย” “หนูจำไม่ผิดค่ะ คู่ควงของแดดดี๊คนล่าสุดชื่อคุณโรซี่ต่างหาก ไม่ใช่เฮเลน” แองจี้ยืนยันคำตอบเดิม “ว่าไงจ๊ะเฮเลน ตกลงเธอยังคบกับคุณชาร์ลส์อยู่หรือเปล่า แต่ถ้าเขาจะมีคู่ควงหลายคนก็ไม่แปลกหรอกนะ เพราะทุกคนรู้กิตติศัพท์ดีว่าเขาเป็นเพลย์บอยที่เปลี่ยนสาวๆไม่ซ้ำหน้า” “นี่ จะพูดมากไปถึงไหน” เฮเลนเอ็ดเพื่อน “ฉันพูดความจริง” “อารมณ์เสีย!” พร้อมกับพูด เจ้าหล่อนเดินกระฟัดกระเฟียดออกไป “รอฉันด้วยสิจ๊ะเฮเลน” เวณิกาและรัญชิดาหันมามองหน้ากันแล้วได้แต่กะพริบตาปริบๆ สองสาวนั่นมองไม่เห็นพวกเธอจริงๆใช่ไหม แถมยังมาไวไปไวเหลือเกิน “อะไรวะเนี่ย มาถึงก็มาจ๊ะจ๋าเสียงสูงเสียงต่ำ แล้วก็บ่นๆๆ แล้วก็ไป” รัญชิดาทำหน้าทึ่งๆ “ช่างเขาเถอะน่า ไม่เกี่ยวกับเราสักหน่อย” แม้จะว่าอย่างนั้น แต่อคติเกิดขึ้นในใจเวณิกาแล้ว พ่อของแองจี้เป็นคนเจ้าชู้เหรอเนี่ย ให้ตายเถอะ เธอเกลียดคนเจ้าชู้ที่สุด และไม่อยากให้เด็กน่ารักแบบหนูน้อยเป็นลูกสาวของคนอย่างนั้นเลย! “แต่ท่าทางพ่อของแองจี้เสน่ห์แรงน่าดูนะแก ต้องหล่อมากแบบที่แองจี้บอกแน่ ถึงได้มีสาวๆรุมล้อมมากมายแบบนี้” รัญชิดาอยากเห็นตัวจริงชายหนุ่มเต็มที ระหว่างคุยกันอยู่นั้น เสียงฝีเท้าที่เดินตรงเข้ามาเรียกสายตาทั้งสามคู่ให้หันไปมองอย่างพร้อมเพรียงกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD