“ปล่อยผมนะพ่อเลี้ยง คุณไม่มีสิทธิ์มาทำกับผมเหมือนวัวเหมือนควายแบบนี้!” ทัศร้องท้วงเสียงสั่นเครือ ร่างบางขัดขืนแรงพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการแข็งแรงของปัฐทวี แต่ก็ไม่สามารถสู้แรงได้
“ฉันรู้นะว่านายเป็นคนพามันเข้ามาในไร่ คิดว่าฉันโง่มากเหรอทัศ” ปัฐทวีลากอีกฝ่ายให้เข้าห้องนอนไปกับตน ก่อนจะจับทัศดันไปติดกับกำแพง มือใหญ่ของเขาลูบไปที่ใบหน้างามของทัศอย่างช้า ๆ “ในเมื่อนายหิวผู้ชายมาก ฉันก็จะสนองให้!”
“พ่อเลี้ยงจะทำอะไร! ปล่อยผมออกไปนะ”
“ฉันจะให้นายทำหน้าที่เมียของฉันยังไงล่ะ”
“แต่ผมไม่ได้รักคุณ คุณเองก็ไม่ได้รักผม คุณไม่รู้สึกขยะแขยงบ้างรึไงห๊ะ!” ทัศตะคอกเสียงดัง ก่อนจะใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักอีกฝ่ายออกไปให้พ้นทาง “ผมจะบอกอะไรให้คุณรู้ไว้นะคุณปัฐ ว่าผมไม่ใช่เครื่องมือสนองความใคร่ของใคร แล้วถ้าคุณคิดจะทำอะไรผมอีกล่ะก็ ผมจะ...ฆ่าตัวตายให้ดู”
“แต่ฉันมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรกับนายก็ได้ เพราะฉันคือเจ้าชีวิตของนาย” มือหนาคว้าแขนเรียวแล้วกระชากเข้ามาหาตัว “หรือต่อให้นายตาย มันก็ไม่ได้มีผลอะไรกับฉัน”
“ไอ้คนใจหมา! ไอ้คนไม่มีหัวใจ! ไอ้คนอื้ออออ!!!”
ปัฐทวีไม่ทนฟังคำก่นด่าของอีกฝ่าย จึงได้ทำการจูบปิดปากสวยนั่นไปเสีย ดวงตาของทัศเบิกกว้างด้วยความตกใจ ร่างของเขาแข็งทื่อแม้แรงจะพยายามขัดขืนก็ยังไม่มี มือเรียวถูกยกขึ้นพยายามทุบอกแกร่งของอีกฝ่ายด้วยแรงที่มีอยู่เพียงน้อยนิด น้ำใสจากในนัยน์ตาสวยเริ่มไหลรินอาบแก้มทั้งสอง ตามด้วยเสียงสะอื้นที่ค่อย ๆ ดังขึ้น
เมื่ออีกฝ่ายเริ่มนิ่งไป ปัฐจึงผละจูบออกแล้วมองทัศที่สะอื้นไห้อยู่ในอ้อมแขนของเขา “ทำแบบนี้คิดว่าฉันจะสงสารเหรอ ลูกไม้ตื้น ๆ แบบนี้เก็บไว้ใช้กับชู้รักของนายเถอะ”
“คุณมันใจหยาบ สมควรแล้วที่ไม่มีใครรักคุณ”
“ใจหยาบอย่างนั้นเหรอ? ได้! ฉันจะทำตามที่เธอบอก” พูดจบปัฐทวีก็ผลักทัศลงบนเตียงก่อนจะตามขึ้นมาคร่อมทับไว้ ร่างของทัศถูกตรึงเอาไว้จนไม่อาจขยับหนีได้
“อยากทำอะไรก็ทำ ทำเสร็จแล้วก็รอเก็บศพผมได้เลย” คนใต้ร่างพูดขู่อีกฝ่ายเสียงดัง
แต่ถึงอย่างนั้นปัฐก็ไม่สนคำพูดของทัศสักนิด อีกทั้งยังก้มลงไปซุกไซร้ที่ซอกคอขาว มือหนาทำการกระชากกระดุมออกจนมันขาดออกไปคนล่ะทิศคนล่ะทาง โดยที่ทัศไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างไร
“ต่อจากนี้เธอจะต้องเป็นของฉันทั้งร่างกายและหัวใจ ดูสิว่าไอ้ตำรวจนั่นมันยังจะอยากกินของเหลือจากฉันอีกไหม” คำที่เอ่ยออกจากปากของปัฐทวีล้วนแต่เต็มไปด้วยความหยาบคาย ก่อนโน้มตัวลงไปพรมจูบแผนอกขาวอย่างหื่นกระหาย
แต่เขากลับต้องรู้สึกแปลกใจที่คนเย่อหยิ่งอย่างทัศเงียบและนิ่งจนผิดปกติ ร้อนให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นมามองและในวินาทีนั้นเองที่เขาเห็นว่าทัศได้ยกปากกาแหลมขึ้นแล้วจ่อมันไปที่คอของตนเองเสียแล้ว
“นายจะทำอะไรของนาย!!!”
“ผมบอกแล้วไง ว่าอยากทำอะไรก็ทำ ส่วนผมก็จะเป็นศพให้พ่อเลี้ยงเก็บก็เท่านั้น”
“นายมันบ้าไปแล้วเหรอทัศ อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ” ปัฐทวีถอยออกจากเรือนร่างของทัศพร้อมกับลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว “เอาปากกาออกจากคอเดี๋ยวนี้ ฉันไม่ทำอะไรนายแล้ว”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงนอนนิ่งอยู่อย่างนั้นโดยที่ไม่ขยับตัวไปไหน มันก็ยิ่งทำให้พ่อเลี้ยงรู้สึกโมโหมากขึ้นไปอีก ที่อีกฝ่ายมีทีท่ารังเกียจในตัวเขา จนขนาดยอมตายได้
“ฉันไม่ได้พิศวาสอะไรในตัวนายเลย ฉันไม่มีวันเอาตัวของฉันไปแปลกเปื้อนกับคนอย่างนายหรอกนะ หยุดทำแบบนั้นได้แล้ว แล้วก็ออกไปจากห้องของฉันซะ!!!”
คนที่นอนอยู่บนเตียงลุกขึ้น โดยที่มือนั้นยังถือปากกาจ่อเอาไว้ที่คอ ที่เขายังคงทำแบบนั้นก็เพราะยังไม่ไว้ใจอีกฝ่ายว่าจะทำตามที่พูดหรือเปล่า ก่อนที่ทัศจะค่อย ๆ ก้าวขาถอยหลังออกจากห้องไป
“ออกไปแล้วก็รีบไปทำงานซะด้วย อย่าให้ฉันเห็นว่านายอู้งานเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะเป็นฉันเองที่ฆ่านายทิ้ง!!!”
ส่วนบนของฟอร์มร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ที่หน้าหลุมศพของนายเกริกไกรวัล คนที่ปัฐทวีเคยรักและทุ่มเทให้ทั้งชีวิต ดวงตาคมจ้องมองไปยังหินหลุมศพที่จารึกชื่อของเกริกไกรวัลอย่างเย็นชา ทั้งที่ความเจ็บปวดยังคงฝังลึกอยู่ภายในใจไม่เสื่อมคลาย แม้เวลามันจะผ่านไปนานมากแค่ไหนก็ตาม...
เกริก คืออดีตคนรักเก่าของปัฐทวี ชายที่เคยเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต ผู้ที่ทำให้ปัฐทวีรู้จักคำว่ารัก และในขณะเดียวกัน เกริกเลือกจะเดินจากเขาไปหาผู้ชายคนอื่นที่มีเงินทองและอำนาจมากกว่า
“ทำไมคนประเภทเดียวกับคุณมันถึงได้มีเยอะจนรกโลกไปหมด เพื่อเงินพวกคุณก็ทำได้ทุกอย่างเลยเหรอ”
คราวในอดีต ตอนที่ไร่โสวราการณ์ยังไม่ยิ่งใหญ่เฉกเช่นทุกวันนี้ ในวันที่เขาเป็นเพียงเจ้าของไร่ชาจน ๆ เกริกคือคนเดียวที่ทำให้เขาอยากพัฒนาตัวเองและไร่แห่งนี้ให้ดีขึ้น เพื่อที่จะได้ดูแลอีกฝ่ายให้สุขกายสบายใจมากที่สุด
“ปัฐจะพาเกริกมาอยู่ที่นี่จริง ๆ เหรอครับ?”
“ใช่ เราจะได้สร้างครอบครัวด้วยกันโดยที่ไม่ต้องแคร์สายตาคนอื่นไง” ปัฐทวีกล่าวด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะยกเอามือเรียวขึ้นมากุมเอาไว้ “ปัฐสัญญานะว่าปัฐจะสร้างที่นี่ให้ยิ่งใหญ่ที่สุด แล้วจะให้เกียรติและยกย่องเกริกเป็นนายใหญ่เคียงคู่กับพ่อเลี้ยงอย่างปัฐ”
“ครับปัฐ เกริกจะรอนะ”
หกเดือนต่อมา... หลังจากที่เกริกเข้ามาอยู่ในไร่ ไร่โสวราการณ์ก็เกิดปัญหาทางการเงินอย่างหนัก เงินที่หามาได้ต้องถูกนำไปจ่ายให้คนงานที่ช่วยทำงานในไร่ จนแทบไม่เหลือเงินสำหรับการเอาไปซื้อความสุขสำหรับเกริก
คนที่เคยชินกับชีวิตหรูหราและสะดวกสบายอย่างเกริก เมื่อเห็นเงินทุกบาทถูกใช้ไปกับการจ่ายค่าจ้างคนงาน และไม่มีเหลือแม้แต่เงินสำหรับการซื้อของแบรนด์เนมหรือเสื้อผ้าหรู ๆ
จนกระทั่ง...เกริกตัดสินใจเก็บกระเป๋าและกำลังจะเดินออกจากไร่ไปพร้อมกับนักการเมือง ซึ่งเป็นคนรักใหม่ที่ดูเหมือนจะมีทุกอย่างที่เกริกต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง ชีวิตที่สะดวกสบาย และอำนาจที่เขาไม่สามารถให้อีกฝ่ายได้
“เกริกอย่าทิ้งผมไป คุณอยากได้อะไรผมให้คุณหมดเลย” ปัฐทวีพูดเสียงสั่นพลางกอดขาเกริกเอาไว้แน่น
เกริกมองไปที่อีกฝ่ายด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยหน่าย ก่อนจะดึงขาตัวเองออกจากพันธนาการของปัฐทวีอย่างแรง “อย่าลำบากเลย ฉันว่าแกเอาเศษเงินพวกนั้นไปจ่ายให้ไอ้พวกคนงานเถอะ!”
พูดจบเกริกก็เดินเข้าไปควงแขนของนักการเมืองหนุ่มที่รออยู่ด้านนอกประตูบ้าน ทั้งคู่หันมองกันด้วยรอยยิ้ม โดยที่ปัฐไม่เข้าใจเลยว่าที่ผ่านมา ระหว่างสองเรามันมีอะไรบ้างที่เป็นความจริง
“ที่ผ่านมามันคืออะไร คุณเคยรักผมจริง ๆ สักครั้งไหม?
“แกคิดเหรอว่าฉันจะรักคนอย่างแก ตอนแรกฉันก็คิดว่าถ้ามาอยู่ที่นี่แล้วมันจะสุขสบาย แต่ที่ไหนได้! มีแต่จนลงกับจนลง!” เกริกตะคอกออกมาเสียงดัง
“ผมว่าเราไปกันดีกว่าเกริก อย่าไปสนใจไอ้สวะตัวนี่เลย” นักการเมืองหนุ่มเอ่ยขึ้น ก่อนทั้งสองจะจูงมือและพากันออกไปจากบ้านไป
ปัง!!!
แต่ทว่ายังไม่ทันได้ก้าวเท้า เสียงปืนก็ดังก้องไปทั่วบ้าน ทำให้ทั้งสองหยุดชะงักในทันที ก่อนจะหันกลับมามองปัฐทวีด้วยความตกใจ แล้วก็พบว่าในมือของปัฐทวีมีปืนอยู่ที่ตอนนี้มันกำลังจ่อมาที่คนรักของเขา
“แกจะทำอะไร? อย่าทำอะไรโง่ ๆ เชียวนะ!”
“ใช่ผมมันโง่! โง่ที่ไปรักคนอย่างคุณ! และตอนนี้ผมก็จะลองโง่อีกครั้ง! ให้สมกับที่คุณหลอกผม!!! และผมก็จะไม่มีวันให้เงินของผมไปอยู่กับพวกสัตว์นรกอย่างพวกคุณ” พ่อเลี้ยงประกาศกร้าวต่อหน้าทุกคน ก่อนจะลั่นไกลไปยังกระเป๋าที่บรรจุเงินของไร่ที่เกริกพยายามจะเอาไป
ปัง!!!
“ใจเย็น ๆ เรามาคุยกันดี ๆ ก่อนจะดีกว่านะพ่อเลี้ยง” ชายคนรักใหม่ของเกริกเอ่ยขึ้น เพื่อให้อีกฝ่ายสงบลง
“กูไม่คุยกับมึง! แล้วกูก็จะไม่มีวันให้มึงเอาอะไรออกไปจากไร่ของกู แม้แต่กระทั่งเกริก!”
ปัง!!!
“ป้อเลี้ยง! ป้อเลี้ยงครับ!”
เสียงตะโกนของหัวหน้าคนงานที่ดังขึ้น ทำให้ปัฐทวีสะดุ้งเฮือกและหลุดออกจากภวังค์ความคิด ก่อนจะหันกลับไปมองที่ต้นเสียงด้วยความหงุดหงิด
“มีอะไรวะไอ้ชิ?”
“ทะ...ทัศเปิ้น...ที่ไร่”
“ทัศ!!!”
ยังไม่ทันที่คนงานจะได้พูดจบ ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกใบนี้ของปัฐก็หยุดนิ่งไปชั่วขณะเมื่อได้ยินชื่อของทัศ และเขาไม่รอช้าที่จะรีบวิ่งไปหาคู่สมรสของตนในทันทีด้วยความเป็นห่วง
ไม่นานนักร่างสูงก็วิ่งมายังจุดที่ทัศทำงาน เขามองเห็นกลุ่มคนงานยืนมุงอะไรบางอย่างอยู่ในระยะไกล ร้อนให้ปัฐต้องรีบเดินเข้าไปดู
“ทัศ!!!”
ปัฐทวีตะโกนออกมาด้วยความตกใจ เมื่อเห็นสภาพของทัศที่นอนหมดสติอยู่บนพื้นหญ้า ใบหน้าสวยนั้นซีดเซียวจนแทบไม่มีสีเลือด พร้อมกับแผ่นอกที่ขยับขึ้นลงเพียงเล็กน้อยอย่างยากลำบาก “ถอยออกไปให้หมด!!!”
“ทัศ! นายเป็นอะไร!” มือหนายกขึ้นไปเช็ดเหงื่อที่ไหลท่วมทั้งใบหน้าสวย ก่อนจะยกแขนเรียวขึ้นมาพาดบ่าอย่างเบามือ แล้วค่อย ๆ ช้อนขาอุ้มขึ้นมา
“ฉันไม่อนุญาตให้นายเป็นอะไรเด็ดขาด ได้ยินไหมทัศ!”
“นายต้องฟื้นขึ้นมาได้ยินไหม นายยังใช้หนี้ฉันไม่หมดเลยนะ สัญญาก็ยังไม่ครบสามปี นายจะไร้ความรับผิดชอบแบบนี้ไม่ได้นะทัศ!” พ่อเลี้ยงปัฐทวีเอ่ยพูดไปตลอดทั้งทางกลับบ้าน ราวกับคนเสียสติ