ตอนที่ 4.1ไม่ต้องมอง
คลับหรูในใจย่านกลางเมืองที่มีแต่เหล่าบรรดาไฮโซกระเป๋าหนักทั้งชาวไทย และต่างชาติ รวมไปถึง เซเลบริตี้ ดารา นักแสดง คนดัง รวมไปถึงเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ ต่างตบเท้าเข้ามาหาความสุขและความผ่อนคลายหลังจากเกิดเรื่องวุ่นวายมาตลอดทั้งวัน รวมไปถึงกลุ่มแก๊ง ไฮโซ ลูกหลานนักการเมืองชื่อดัง ที่ใช้โซนด้านบนกว่าครึ่ง ยึดครองเป็นพื้นที่ส่วนตัวในการปาร์ตี้สังสรรค์
ระพีทัศน์นั่งหลบมุมอยู่กับกลุ่มเพื่อนสนิทอีกด้าน ที่ห่างไกลจากเสียงเพลงพอควร ต่างพากันนั่งดื่มกิน พูดคุยกันในเรื่องธุรกิจ และเรื่องทั่วไป โดยตลอดเวลามัก มีสาว ๆ สวย ๆ มากหน้าหลายตาต่างพากันรุมล้อม แวะเวียน อยากเข้าหาเพื่อหวังเอาใจ แต่มีเพียงหนึ่งเดียว ที่ยึดครองไม่ยอมให้ใครได้เข้ามาข้องเกี่ยวหรือวุ่นวาย นั่งขนาบข้าง มองตาขวาง ตีกันหญิงสาวทุกคนที่เข้ามาเฉียดใกล้ จนเขาเริ่มรำคาญ ตวาดใส่เสียงดัง
“ไปนั่งห่าง ๆ ได้ไหมไอมิ เดี๋ยวก็เป็นข่าวหรอก”
“ทำไมต้องเหวี่ยงไอมิด้วย ก็ไหนว่าที่นี่เป็นที่ปิดไงคะ จะทำอะไรก็ได้ไม่ใช่เหรอ” หล่อนหันมาอ้อนตอบเขาเสียงกระเง้ากระงอดใส่ พลางเอียงซบกับไหล่กว้าง ขณะที่ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าเครียดขรึม ถอนหายใจหนัก ด้วยความหงุดหงิดใจ
“เป็นอะไรไปคะพี่ภีม” ไอมิหันมาถาม เมื่อสังเกตเห็นท่าทีของชายหนุ่มที่เอาแต่นั่งเงียบขรึม ไม่สนใจใคร แม้กระทั่งเธอ
ทว่า ในชั่ววินาทีนั้น เสียงข้อความจากมือถือของเขากลับดังขึ้น เรียกความสนใจให้เขาหันไปมองดู
“ไอมิ นี่เธอส่งบ้าอะไรไปวะ!” ตวาดใส่ดังลั่น ปาโทรศัพท์ในมือทิ้งทันทีอย่างหัวเสีย เมื่อได้เห็นทั้งคลิปและข้อความทั้งหมดที่ผู้หญิงคนตรงหน้า ส่งไปให้คนรักของเขาได้ดู
ขณะที่นางแบบสาวคนดังกล่าวถึงกับหน้าซีดปากสั่นด้วยความตกใจ
“อะ...อะไรกันคะพี่ภีม”
“มึงนี่แม่ง! เลี้ยงไม่เชื่อง” ระพีทัศน์ว่าอย่างเดือดดาล ท่ามกลางกลุ่มคนที่อยู่โดยรอบต่างหันมองด้วยความตกใจ
ลูกนักการเมืองใหญ่เงื้อมือขึ้นสูง หน้าตาบิดเบี้ยวอย่างโกรธจัด อยากจะฟาดหน้าหญิงสาวตรงหน้าให้หนำใจ ให้สมกับความโกรธ แต่ก็ถูกหนึ่งในกลุ่มเพื่อนที่อยู่ตรงนั้นเข้ามาห้ามไว้เสียก่อน
“เห้ย มึงใจเย็นก่อนดิวะ”
“พี่ภีมฟังไอมิก่อนสิคะ”
“ไอมิไม่ได้ตั้งใจ เมื่อกี้ไอมิพลาดเลยส่งผิดไป ไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ นะคะ ใครจะบ้า โง่ส่งไปแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่ไอมิก็รู้ว่าพี่จะต้องโกรธเกลียดไอมิมากแน่ ๆ ฟังไอมิก่อนนะ นะคะ อย่าเพิ่งโกรธไอมิเลย อีกอย่างเซลีนเขาอาจจะแค่โกรธพี่ งอนพี่เหมือนทุกที แต่ก็คงจะไม่เลิกกับพี่จริง ๆ หรอกนะคะ พี่ก็รู้ว่าเซลีนรักพี่มากขนาดไหน พี่ภีมใจเย็นก่อนนะคะ”
เมื่อได้ยินถ้อยคำดังกล่าว แม้จะยังเดือดดาล จนอยากจะบีบคอหญิงตรงหน้าให้แหลกคามือ แต่เพราะถูกเพื่อนสนิทจับรั้ง ดึงเอาไว้ ใจเขาถึงได้เริ่มสงบลง พร้อมกับชี้หน้าคาดโทษเอาไว้ ก่อนจะหันไปยกแก้วเหล้ากระดกดื่มรวดเดียวจนหมด
กระทั่งเวลาผ่านไป ใกล้เที่ยงคืน ผู้คนเริ่มหนาแน่น เสียงเพลงจังหวะอีดีเอ็ม ยิ่งเร้าใจ นักท่องเที่ยวต่างพากันโยกตัวไปมาอย่างสนุกสนาน
นางแบบสาวที่เริ่มตัวอ่อน โอนเอน โยกตัวไปมาตามจังหวะเสียงเพลงที่ได้ยินแว่วมา แต่ก็ยังทำให้หล่อนสนุก จนกระทั่งเวลาผ่านไปครู่ใหญ่ หล่อนกลับนึกครึ้ม ขยับตัวขึ้นมานั่งบนตักเขา โดยไม่ทันให้ตั้งตัว
“ทำอะไรน่ะไอมิ ลงไปนั่งดี ๆ” คิ้วหนาขมวดมุ่น ว่าด้วยเสียงรำคาญ พยายามผลักดันตัวออก แต่หล่อนก็ยังขืนไว้ไม่ยอมปล่อย มิหนำซ้ำยังใช้สองแขนโอบรัดรอบคอ เหนี่ยวยึดไว้แน่น
“งื้อ...อย่าโกรธไอมิเลยนะคะ ไอมิผิดไปแล้ว...นะคะ ให้กอดไว้แบบนี้ได้ไหม...นะ...ไอมิคิดถึงพี่” หล่อนว่าอย่างออดอ้อน พลางบดเบียดสะโพกเข้าหา ทว่าอารมณ์ของเขาในตอนนี้ยังคงคุกกรุ่น พาลหงุดหงิดรำคาญ จนผลักตัวหญิงสาวออกไปทันที
“พอเถอะ เธอนี่ชักจะมากไปแล้วนะ ลงไป!”
“ไม่ลง!”
“ไอมิ!” ตวาดเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงดังลั่น ขณะที่นางแบบสาวที่กำลังกำลังเมาจนแทบไม่ได้สติ สวนกลับทันที
“ทำไมล่ะ เมื่อก่อนไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลย อะไร ๆ ไอมิก็ทำได้หมด แต่ทำไมพอเดี๋ยวนี้พี่ถึงได้ชอบปฏิเสธไอมินักนะ”
“อย่าสร้างปัญหาเพิ่มนะ ฉันกำลังจะแต่งงานเธออย่าลืม”
“แต่งงานแล้วยังไง พี่บอกไอมิเอง ว่ากะแค่จะเอาสนุก ๆ แต่พี่ก็ไปขอมันแต่งงาน”
“พูดอะไรน่ะไอมิ!” คิ้วหนาขมวดมุ่น สีหน้าเคร่งเครียด เมื่ออีกฝ่ายลั่นวาจาออกมาในสิ่งที่เขาไม่เคยพูดออกไป
“พี่บอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าแค่อยากจะลองขำๆ แต่นี่ไอมิไม่ขำด้วยแล้วนะ”
“นี่เธอ พูดบ้าอะไรไอมิ!” คิ้วหนาขมวดมุ่น ตวาดถามกลับเสียงดังลั่น ขณะที่อีกฝ่ายนั้น ยิ่งพล่ามสิ่งที่เก็บกดไว้อยู่ในใจ
“พี่เคยบอกถึงจะคบกับเซลีน แต่พี่ก็จะไม่ทิ้งไอมิ ไอมิมาก่อนมันอีกนะ พี่อย่าลืม”
“เธอก็อย่าลืม ว่าเธอมันก็แค่เด็กที่ฉันเคยเลี้ยง แต่เซลีน คือคนที่ฉันจะแต่งงานด้วย”
“พี่ภีม!!!” เรียกชื่อเขาเสียงดัง มองค้อนตาเขียวปั้ด
“พอ ๆ แยก ๆ เลิกทะเลาะกันได้ละ อะไรกันวะสองคนนี้ มา ๆ ดื่มๆ มัวแต่เถียงอยู่นั่น เสียบรรยากาศหมด” ทิวากร ลอบฟังคนทั้งคู่เถียงกันไปมาได้ครู่ใหญ่ถึงกับทนไม่ไหว รีบห้ามทัพ พร้อมกับยกแก้วขึ้น ให้อีกฝ่ายชน หวังให้ใจเย็นลง
ลิญาณาที่นั่งหลบมุมอยู่ไม่ไกล แอบซุ่มดูคนทั้งกลุ่มมาได้ครู่ใหญ่ถึงกับกำหมัดแน่นด้วยความโกรธจัด หล่อนแทบกระอักออกมาเป็นสายเลือด กลับความจริงทุกอย่างที่เธอเพิ่งได้รับรู้ออกมา จากสองปากของคนที่เธอรัก และเคยเชื่อใจ
แม้จะรู้ดีว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นแผนที่อีกฝ่ายพยายามต้องการจะบอกเธอ ทั้งส่งคลิปมาให้เธอดูแล้วอ้างว่าส่งผิด จงใจให้รู้สถานที่ แล้วยังพูดเกริ่นนำในสิ่งที่คิดว่าจะทำให้เธอต้องเจ็บเจียนตาย เพราะรู้ว่าอย่างไรเธอก็ต้องมา...หรืออาจจะเห็นเธอแล้ว ถึงได้จงใจพูดสิ่งนั้น ถึงอย่างไร ผลก็มีค่าเท่ากัน คือคนรักเธอกำลังนอกใจ และยังนอกกายซึ่งเป็นสิ่งที่เธอรับไม่ได้มากที่สุด!
ร่างบอบบางสั่นกระเพื่อมด้วยแรงสะอื้น ก่อนจะพยายามรวบรวมสติ ขยับตัวจะก้าวลง จากเก้าอี้สูง หวังจะเข้าไปลากคนหน้าด้าน ไร้ยางอายนั่นมาตบ ซ้ำ ๆให้หายแค้น ทว่า ยังไม่ทันได้ขยับตัวไปไหน หล่อนก็ถูกคว้าไว้เสียก่อน
หมับ!
“ใจเย็นก่อนสิ” เสียงทุ้มนุ่ม กระซิบบอกหญิงสาว ใช้สายตามอง พยายามให้สติ จนหล่อนเริ่มผ่อนคลายใจเย็นลง สายตาเหม่อมองจ้องไปยังคนคู่นั้นด้วยความแค้นเคือง น้ำตาไหลพราก
ขณะที่พร้อมพัชร์ หยิบแว่นกันแดดสีดำแบรนด์หรูของหญิงสาวที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์บาร์ สวมใส่ให้กับหล่อน พร้อมกับกำชับบอกกับเธอว่า
“รออีกนิด”
เขาพยายามให้เธอใจเย็น และมีสติมากกว่านี้ ก่อนที่จะทำอะไรบุ่มบ่ามแล้วอาจมีความเสียหายตามมา
รออยู่นานจนกระทั่ง
ใกล้ถึงเวลาที่คลับหรูจะปิดให้บริการ กลุ่มลูกค้าเริ่มพาทยอยกลับ เว้นเพียงแต่กลุ่มของระพีทัศน์ที่เริ่มมึนเมา ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ที่ดื่มไปค่อนข้างมาก ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น
“นายครับ รถพร้อมแล้วครับ”
“อืม”
“เดี๋ยวสิคะพี่ภีม”
“อะไรอีกไอมิ”
“อย่าเพิ่งกลับได้ไหมคะ...คืนนี้อยู่กับไอมินะ”
“ไม่ได้! ฉันเคยบอกเธอแล้วนะ อย่าทำนอกเงื่อนไข”
“พี่ภีมรักเซลีนไหมคะ”
“จะถามเอาอะไรตอนนี้ไอมิ”
“ไอมิอยากรู้...ว่าพี่ภีมรักเซลีนไหม”
“รักหรือไม่รัก มันสำคัญยังไง” ย้อนถามด้วยเสียงติดรำคาญ
“สำคัญสิ...บอกให้ไอมิรู้หน่อยได้ไหมว่า พี่รักเซลีนมันบ้างหรือเปล่า” ระพีทัศน์ถอนหายใจดัง มองหน้าอีกฝ่ายด้วยความหงุดหงิด ขณะที่เธอยังคงไม่เลิกรบเร้า
“แล้วพี่รักไอมิบ้างไหม”
“เธอก็รู้นี่ ว่าไม่!”
“พี่ภีม! งั้นแปลว่าพี่ก็รักเซลีนหรือไง!” นางแบบสาวแหวเสียงดังใส่ด้วยความขัดใจ ใบหน้าสวยบิดเบ้ สองมือกำแน่น ด้วยความขัดใจ แต่ยังไม่ทันต่อว่าอะไรเขาต่อ ก็ถูกปิดปากด้วยริมฝีปากของเขาที่กดจูบทาบทับไม่ให้เธอได้ทันตั้งตัว
ลิญาณานั่งมองด้วยอาการตกตะลึง ตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ แม้จะเตรียมใจมาอยู่ก่อนแล้ว แต่เธอก็ยังช็อกกับสิ่งที่เห็น
ขณะที่มีอะไรบางอย่างค่อย ๆเคลื่อนเข้ามาปิดบังสายตาเธอไว้ ไม่ให้มองเห็นภาพบาดตาเหล่านั้นได้อีก
“ไม่ต้องมอง”