เมื่อเขากลับมา1
เมื่อเขากลับมา
หญิงสาวในชุดนักศึกษาก้าวเข้ามาในรั้วบ้านหลังใหญ่
ดวงตาโศกทอดมองเข้ามาที่ตัวบ้านซึ่งเธอเรียกขานว่าตึกใหญ่ หญิงสาวอาศัยอยู่ที่นี่มาเกือบ 6ปีแล้วตั้งแต่เรียนจบมัธยมต้นครอบครัวของเธอเริ่มต้นที่นี่ตั้งแต่สมัยรุ่นปู่พอคุณท่านผู้เปรียบเสมือนร่มโพธิ์ร่มไทรของทุกคนในบ้านจากไป
ปู่ของเธอที่เป็นเพียงคนขับรถกลับได้รับมรดกจากพินัยกรรมของคุณท่านทำให้มีเงินมากพอที่จะออกไปตั้งตัว คุณท่านมีลูกสาวคนเดียวคือคุณกมลาอายุมากกว่าพ่อของเธอสักห้าถึงหกปีได้บุญคุณข้าวแดงแกงร้อนที่เคยราดหัวกันมาของตระกูลอมรศักดา ทั้งปู่และพ่อเล่าให้เธอฟังจนจำทุกอย่างได้ขึ้นใจ ยามที่บ้านเธอมีปัญหาคุณกมลาก็ยื่นมือเข้ามาช่วยทุกครั้งเช่นเมื่อคราวน้ำท่วมใหญ่สวนกล้วยไม้ที่ลงทุนไปเสียหายหนักพ่อต้องไปกู้เงินมาลงสวนใหม่จนสู้ดอกไม่ไหวสุดท้ายคุณกมลาก็ให้เงินมา2ล้านไปใช้หนี้นอกระบบและให้เงินมาทำทุนอีก5ล้าน และรับเธอมาอุปการะส่งเสียให้เรียนหนังสือตั้งแต่จบม.3
คุณกมลาเธอเป็นคนจิตใจดีมีเมตตาและยุติธรรมสูง ท่านให้ความรักความเอ็นดูอบรมสั่งสอนประหนึ่งเธอเป็นลูกหลานทั้งหมดนี้หญิงสาวจึงรัก เคารพคุณกมลาประหนึ่งญาติผู้ใหญ่
แม้เธอจะต้องมีหน้าที่รับผิดชอบและแบ่งเบางานของคนรับใช้ในบ้านแต่ก็เต็มใจทำไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองถูกกดขี่แต่อย่างใด
บ้านหลังใหญ่มีเจ้านายให้เธอรับใช้เพิ่มอีกสองคนคือคุณภาริตา ลูกสาวคนโตและคุณภูวริศลูกชายคนเล็ก ทั้งสองคนถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจไม่ต่างจากลูกคนรวยคนอื่นๆ อาจเพราะเสียคุณพ่อไปตั้งแต่ทั้งสองยังเด็กคุณกมลาจึงให้ลูกได้ทุกอย่างที่ต้องการชดเชยกับส่วนที่ขาดไป ทั้งสองจึงกลายเป็นคนใจร้อนและเอาแต่ใจ
"หนูเอมกลับมาแล้วเหรอคะ พอดีเลยค่ะคุณท่านเรียกหาอยู่เชียว" ป้าวาดแม่บ้านเก่าแก่ยิ้มให้เธออย่างเอ็นดู
"งั้นเอมขอตัวไปพบคุณท่านก่อนนะคะ" หญิงสาวเดินตรงไปยังห้องนั่งเล่น ก็พบคุณท่านนั่งอ่านหนังสือเล่มประจำ
"ให้เอมอ่านให้ฟังมั้ยคะคุณท่าน" เอมอรยกมือไหว้เมื่อคุณท่านละสายตาจากตัวอักษรตรงหน้า "กลับมาแล้วค่ะ" เธอนั่งลงที่พื้นข้างคุณท่าน
"ไม่เป็นไร" กมลาตอบเรียบๆในใจครุ่นคิดถึงเรื่องที่ตัวเองแอบได้ยินลูกสาวคุยโทรศัพย์เมื่อเช้า หลายปีมานี้เธอเอาแต่เป็นทุกข์มาตลอดแต่ก็ไม่รู้จะไปคุยปรึกษาหารือกับใคร สามีคู่ทุกข์คู่ยากก็ด่วนลาโลกทิ้งให้เป็นม่ายตั้งแต่ยังสาวผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอจึงต้องแข็งแกร่งเพื่ออนาคตของลูกๆ "เธอมาก็ดีแล้วเอมฉันมีเรื่องจะพูดด้วยอยู่พอดี" คุณท่านวางหนังสือลงและหันมาพูดธุระด้วยสีหน้าจริงจัง
"เมื่อเช้าฉันได้ยินริตาคุยกับตาภู"
"คะ!!!
"เอมอรเสียงตื่นเพียงแค่ได้ยินชื่อของเจ้านายคนเล็กของบ้าน
"เอม...ตาภูติดต่อเธอบ้างมั้ย"
"คะ!!!!" เอมอรตกใจยิ่งกว่าคนอย่างเธอคุณภูคงไม่ให้เกียรติลดตัวลงมาสนิทสนมด้วยเป็นแน่ "คุณภูคงไม่ติดต่อคนอย่างเอมหรอกค่ะ"เอมอรตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่เจือความน้อยใจอย่างเจียมตน
"แล้วเคยได้ยินริตาบ่นๆอะไรบ้างรึเปล่าล่ะ"
"ไม่นี่ค่ะ"
"งั้นเหรอ"คุณท่านพึมพำเบาๆ สายตาเต็มไปด้วยความผิดหวัง
"คุณริตาล่ะคะ ไม่เล่าอะไรให้ฟังบ้างเหรอ"
"รายนั้นเค้าจะเล่าอะไรให้ฉันฟังมีแต่จะยิ่งช่วยกันปิด"
"นินทาอะไรหนูคะแม่" ภาริตาเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นพอดี หญิงสาวพึ่งกลับจากการทำงานที่แสนจะวุ่นวายเธอทิ้งตัวลงโซฟาอย่างเหนื่อยอ่อน
"บอกแม่มาริตาว่าตาภูอยู่ที่ไหน" กมลาคาดคั้น
"แม่อย่าห่วงเลยค่ะ รายนั้นสงบสติอารมณ์ได้เมื่อไหร่ก็กลับมาเอง" ภาริตาตอบอย่างไม่ยินดียินร้าย
"หรือว่าคุณแม่จะไล่ยัยเอมออกจากบ้านก็จะดีนะคะรับรองลูกชายคนโปรดกลับมาแน่ๆ"
"ภาริตา!" คนเป็นแม่ขึ้นเสียงใส่ลูกอย่างตำหนิ
"ริตาไม่พูดก็ได้ค่ะ" สิ้นคำหญิงสาวก็เดินออกไปจากห้องนั่งเล่นทันที
คุณกมลาหันมามองเอมอรที่ตอนนี้เอาแต่นั่งก้มหน้าไม่เอ่ยอะไร นางรู้ดีว่าเด็กสาวตรงหน้ารู้สึกเช่นไร
1ปีก่อน
"ใครให้เข้ามาออกไป!!!" ชายหนุ่มคนเดียวในบ้านตะโกนลั่นอย่างหัวเสียเมื่อตื่นมาตอนเช้าแล้วพบ คนที่ไม่ชอบหน้าอยู่ในห้อง
"ดิฉัน...เอา..เอาเสื้อมาเก็บค่ะ" เอมอรอธิบายเสียงตื่น
"นั่นไม่ใช่หน้าที่เธอ เสนอตัวมาทำทำไมรึว่าใฝ่สูงอยากจะจับฉัน นี่ลงทุนเข้ามาเสนอถึงที่เลยงั้นเหรอ"
"ไม่!...ไม่ใช่นะคะ" เอมอรตอบไปแบบตะกุกตะกัก
"คิดว่าฉันเชื่องั้นเหรอ ออกไปให้พ้นๆหน้าฉันเลยไป ไป!!!" ภูวริศออกปากไล่อีกครั้งพร้อมกับเดินมาฉุดข้อมือบางให้เดินตามเขาออกมาจากในห้องนอน
"ปล่อยนะคะคุณภู" เอมอรพยายามบิดข้อมือหนี
"ทำไมที่ห้ามนี่เพราะเจ็บหรือเพราะไม่อยากออกจากห้องฉัน"
"ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ"
"จะจับฉันทำผัวให้ได้ว่างั้น...แต่เสียใจนะเอมอรฉันเอาเธอมาทำเมียไม่ลง"
เพี๊ยะ!
เอมอรฟาดมือลงไปบนหน้าภูวริศอย่างเหลืออด เธอไม่เคยพบใครที่จิตใจคับแคบเท่าเขามาก่อน แต่ละคำที่พูดออกมาล้วนเหยียบย่ำตัวเธอไม่ให้เหลือความเป็นในสายตาเขา
"กล้าดียังไงถึงกล้าตบฉันฮะเอมอรอยากตายใช่มั้ยฮะ!" ภูวริศปรี่เข้าใส่เอมอรอีกครั้ง
"หยุดนะตาภูจะทำอะไรเอมอร" เสียงหญิงชราประมุขของบ้านดังขึ้นข้างหลัง
"ยัยตัวดีของคุณแม่กล้าตบผม"