ตอนที่1พรหมลิขิตแรกพบ
ตอนที่1.พรหมลิขิตแรกพบ
ศูนย์อาสากู้ภัยนพบุรีเทศบาลนครเชียงใหม่
ภายในกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ดัดแปลงเป็นออฟฟิศของอาสากู้ภัยนพบุรี ร่างแบบบางทะมัดทะแมงในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์นอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียงผ้าใบ ใกล้ๆกันมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์เป็นชายไทยสามคนนอนเบียดกันอยู่บนที่นอนปิคนิค
"ว.40.ตลาดกาดหน้ามอ.เปลี่ยน"
"ว.40.ตลาดกาดหน้ามอ.เปลี่ยน"
เสียงวิทยุสื่อสารดังขึ้นแข่งกับเสียงกรนกระพือที่เปล่งออกจากลำคอของสมาชิกกู้ภัยทั้งสามที่หลับไม่รู้เรื่องรู้ราวไม่รู้พวกมันไปอดหลับอดนอนที่ไหนมา
ยูมีหญิงสาวเพียงคนเดียวรีบปลุกเพื่อน
"ไอ้ปู่แต็งค์ ไอ้ฟิวส์ ไอ้บอยไม่ได้ยินเสียงวิทยุหรือไง"
ปากก็บ่นเพื่อนแต่ใจเธอเต้นตึกตักทุกครั้งที่วิทยุจากศูนย์ดังขึ้น ซึ่งหมายความว่าต้องมีเหตุด่วนเหตุร้ายเกิดขึ้นแน่ๆ เมื่อไม่มีใครคิดจะลุกขึ้นมาตอบ ทำให้เจ้าของแขนเรียวที่อยู่ใกล้วิทยุที่สุดรีบคว้าเอามาแล้วตอบกลับทันที
"ว.2 รับทราบเปลี่ยน"
หญิงสาวตอบกลับศูนย์แล้ววางวิทยุลงปรายตามองเพื่อนร่วมทีมที่เลื้อยตัวอยู่บนที่นอนปิคนิค นี่น่ะหรือว่าที่วิศวกร
"ดูสภาพพวกมันสิ..."
"ไอ้พวกน่าเกลียด"
ส่วนเธอแทบจะอ่านหนังสือสอบไม่รู้เรื่อง เพราะเสียงเรือหางยาวหรือว่าเสียงเหมือนคนสำลัก เสียงหายใจติดขัดเป็นพักๆที่เปล่งออกมาจากลำคอของพวกมัน โดยเฉพาะไอ้ปู่แต็งค์ที่เสียงดังน่าเกลียดกว่าใครเกินกว่าเธอจะรับไหว
เขาเป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่รักมหาวิทยาลัยเป็นพิเศษ เรียนไม่จบจนได้รับเกียรติให้เป็นปู่คณะ เหลืออีกแค่วิชาเดียวเขาก็สอบไม่ผ่านซักที ภารกิจพิชิตข้อสอบจึงตกเป็นของเธอ
เขามันตัวภาระชัดๆ...
วีรกรรมด้านลบมากกว่าด้านบวก เขามันคนหน้าด้านหน้าทนที่กล้าเสนอหน้าขอมาอยู่กับแก็งค์เด็กเกียรตินิยมอย่างเธอกับไอ้ฟิวส์และก็ไอ้บอย ซ้ำยังโน้มน้าวให้เลือกเรียนวิชาเลือกเดียวกับเขาอีก เพื่ออะไรน่ะเหรอ...ก็เพื่อให้เธอช่วยเขาให้จบน่ะสิ
ยูมีที่เป็นผู้หญิงคนเดียวของกลุ่ม เธอเด้งตัวจากเก้าอี้ผ้าใบโดยอัตโนมัติ หยิบชุดหมีกู้ภัยที่แขวนอยู่มาสวมทับเสื้อตัวใน ผมยาวรวบขึ้นลวกๆแล้วปลุกไอ้พวกขี้เซาที่กลางวันเอาแต่นอน ส่วนกลางคืนตาสว่างอย่างกับนกเค้าแมว
"เร็ว...ไอ้ปู่แต็งค์ ไอ้ฟิวส์ ไอ้บอย ตื่นสิโว๊ย ตื่น"น้ำเสียงแหลมเล็กติดจะเข้มงวดตะโกนเสียงดังลั่น ซึ่งมันก็ได้ผล
"ตื่นแล้วจ๊ะแม่..." ไอ้ฟิวส์หน้ายุ่งรีบตอบก่อนที่เธอจะวีน แต่ไม่ต้องกลัวยังไงเธอก็วีนพวกมันอยู่แล้ว
"ตื่นแล้ว" ไอ้กู๊ดบอยลูกครูบารมีรีบตอบ
"ตื่นแล้วก็เร็วๆเข้าใครช้ายูไม่รอนะ"
"จุดเกิดเหตุที่ไหนวะ" ปู่แต็งค์อาวุโสที่สุดของกลุ่มรีบแต่งตัวก่อนจะโดนด่าจนหูชา หญิงสาวคนนี้นับวันยิ่งทวีความโหดขึ้นเรื่อยๆจนเขาไม่กล้าแม้แต่จะต่อกร
ในโลกใบนี้จะมีก็แค่แม่และหญิงสาวคนนี้เท่านั้นที่เขายินยอมให้จิกกัดได้ตามสะดวก
"ตลาดกาดหน้ามอ รถเสียหลักลงข้างทาง"
หญิงสาวเพียงคนเดียวของที่นี่แต่งตัวเสร็จแล้วยืนเท้าสะเอว ปรายตามองสมาชิกที่เอาแต่เงอะงะชักช้าไม่ได้ดั่งใจ
"เร็วๆเข้า มัวแต่ถามอยู่ได้ชักช้าจริงๆ"
หนุ่มตี๋มีนามว่าฟิวส์เบะปาก "บ่นเก่งแบบนี้ระวังหาผัวไม่ได้แล้วจะหาว่าไม่เตือน"
"ไม่ต้องมาห่วงชั้นหรอกย่ะเร็วๆเข้าเหอะ ชีวิตคนสำคัญมากนะ"
ใครว่าหนุ่มวิศวฯปากหวานละมุนบอย เธอเถียงใจขาด เดี๋ยวนี้มันรู้จักกัดเธอด้วย
พูดจบเธอไม่พิรี้พิไรหยิบกุญแจรถตู้กู้ภัย สวมรองเท้าผ้าใบออกไปก่อนเป็นคนแรก โหนตัวขึ้นรถประจำที่คนขับโดยไม่ลืมตะโกนเร่งอีกครั้ง บีบแตรไปด้วย
"ปริ๊น...ปริ๊น"
"เร็วเข้าสิโว๊ยไอ้พวกนี้ แม่งจะช้าอีกนานไหม"
"เออ...เออ"
"มาแล้ว"
ที่จริงพวกมันก็ไม่ช้าหรอกแต่แค่ไม่ทันใจเธอแค่นั้นเอง ไอ้ฟิวส์กับไอ้บอยกระโดดขึ้นที่ด้านหลังรถตู้ ส่วนปู่แต็งค์นั่งหน้าคู่กับหญิงสาวเหมือนเดิม
เมื่อสมาชิกครบแล้วรถตู้ฉุกเฉินก็พุ่งทะยานสู่ท้องถนนอย่างกับเหาะ เธอหันไปดูไอ้ปู่แต็งค์เห็นเขาโหนตัวอยู่กับมือจับจนหนวดกระดิกกรามแข็ง เสียงไซเรนดังสนั่นลั่นถนน เธอบีบแตรขอทางเป็นระยะๆ
ชีวิตคนสำคัญเธอจะช้าไม่ได้...
"เกาะแน่นๆนะครับ ยูจะเหาะแล้ว"
ปู่แต็งค์โหนมือจับจนข้อเกร็ง เหลือบสายตามองเสี้ยวหน้าสวยของคนขับที่ใช้วิชามารในการขับรถชั้นเซียน
"ผมว่ายูต้องเคยเป็นเมียไอ้โทแรตโต้มาก่อนแน่ๆใช่ไหม"
"พูดมาก จับแน่นๆแล้วกันปู่"
ยูมีและผองเพื่อนในกลุ่มเป็นนักศึกษาคณะวิศวฯไฟฟ้าชั้นปีที่4 ทุกคนล้วนผ่านการอบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้นครบตามจำนวนชั่วโมงมาแล้วทั้งสิ้น มีประสบการณ์กู้ภัยมานับครั้งไม่ถ้วน
และที่มาเป็นอาสากู้ภัยครั้งนี้ก็เพราะปู่แต็งค์อีกเหมือนกัน จะบอกว่าเห็นมันชอบทำหน้าบูดๆเหมือนคนไม่ได้ถ่ายมาเป็นเดือนแบบนี้
แต่เอาเข้าจริงไอ้ปู่มันพูดเก่งจนพ่อของเธอทำออฟฟิศให้ จะเอาอะไรพ่อเธอก็ประเคนให้หมดหรือว่าไอ้ปู่มันจะเป็นลูกรักพระเจ้าที่ตกสวรรค์มาจุติในโลกใบนี้ คงขาดแต่วินัยล่ะมั้งถึงเรียนไม่จบซักที
รถกู้ภัยพุ่งทะยานสู่จุดหมายด้วยความเร็ว โดยได้รับความร่วมมือจากคนเชียงใหม่เป็นอย่างดี เมื่อใกล้ถึงที่เกิดเหตุุมองไกลๆแอบเสียวแวบอยู่เหมือนกันที่เห็นรถกระบะสี่ประตูทั้งยี่ห้อและสีแบบเดียวกับรถพ่อเป๊ะๆ ได้แต่ภาวนาในใจว่าขออย่าให้เป็นพ่อเลยนะ
เธอตบไฟขอทางจอดรถริมฟุตบาธส่วนเพื่อนเธอช่วยกันเอากรวยสีส้มมาวางกันพื้นที่จราจร แต่พอลงจากรถได้เห็นป้ายทะเบียนก็รู้ทันทีว่าเป็นรถของพ่อเธอแน่ๆอย่างไม่ต้องสงสัย
"พ่อ...พ่อ"
เสียงตะโกนเรียกด้วยความตกใจ เมื่อเห็นพ่อนั่งอยู่ที่ข้างทางเนื้อตัวดูแล้วไม่เป็นอะไรมาก นอกจากบนศรีษะมีเลือดใหลออกเป็นทาง
"พ่อ...พ่อเป็นอะไรหรือเปล่าคะ พ่ออยู่เฉยๆนะคะ"
"พ่อเจ็บตรงไหนหรือเปล่า ไหนขอหนูดูหน่อย"
ยูมีวางกระเป๋าพยาบาลลงเริ่มสำรวจร่างกายคร่าวๆของพ่อและเริ่มทำแผล มือเธอสั่นอย่างเห็นได้ชัด ปากก็บ่นไปสารพัดขณะที่เปลพยาบาลวางเทียบรอเคลื่อนย้ายคนป่วยไปโรงพยาบาล
"พ่อไม่เป็นอะไรซักหน่อย"
กฤษฎาเจ้าของอู่กฤษฏาออโต้เซอร์วิสโบกมือ เขาแค่หัวแตกนิดหน่อยเท่านั้น ไม่อยากให้ลูกสาวตกใจเกินเหตุ
"ไม่เป็นอะไรลูกพอดีพ่อหลบรถมอเตอร์ไซค์ ขับมาเร็วด้วยอารถไม่อยู่รถเลยตกลงข้างทางนี่แหละ"
"ล้อชี้ฟ้าเลยนะพ่อ"
ยูมีทำแผลเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว ติดสก๊อตเทปเป็นขั้นตอนสุดท้าย
"อ่ะ เสร็จแล้วค่ะ เราไปโรงพยาบาลเอ็กซเรย์สมองหน่อยค่ะ ตอนนี้พ่อปวดหัวหรือเปล่าคะ"
"ไม่เป็นอะไรลูก พ่อไม่เป็นอะไรพอดีคุณคนนี้เขาช่วยไว้"
ยูมีไม่ทันได้สังเกตชายหนุ่มหน้าตาดีที่อยู่ข้างๆพ่อเธอตั้งแต่แรก เพราะมัวแต่ตกใจอีกอย่างก็อยู่ในช่วงชุลมุนวุ่นวาย เขาช่วยคนขับรถยกนำรถไปยังอู่ของพ่อเธอ ช่วยคุยกับบริษัทประกันจนได้ใบเคลมมาหนึ่งใบยื่นให้เจ้าของรถ
"นี่ครับใบเคลม เสร็จเรื่องแล้วนะครับ"
"เฮีย...เอารถไปอู่เลยนะครับ"
เฮียกิดดาโบกมือให้คนขับรถยกขณะนอนบนเปลพยาบาล ชายกลางคนจึงเคลื่อนรถไปอย่างรวดเร็ว
"ขอบคุณมากนะครับ คุณ..."
"ผมปรานต์ครับ"
ยูมีเพิ่งได้เห็นเสี้ยวหน้าของชายหนุ่มใกล้ๆ นอกจากจะเป็นคนดีมีน้ำใจแล้วหน้าตาจัดได้ว่าดี จากการประเมินด้วยสายตา เขาน่าจะสามสิบต้นๆดูสุภาพ สุขุม และที่สำคัญคือหล่อ หล่อแบบไม่ต้องบรรยายออกมาให้มากความ
นี่มันพ่อของลูกชัดๆ เธออยากยื่นมือซ้ายให้เขาแล้วพูดว่า "แต่งค่ะ" เหลือเกิน
"เอ่อ...ยูขอบคุณมากนะคะ คุณปรานต์"
ยังไม่ทันได้ถามไถ่ว่าเขามาจากไหนมาทำอะไรที่เชียงใหม่หรือว่าเป็นนักท่องเที่ยวเผอิญมาประสพเหตุ ไอ้ปู่แต็งค์กับพรรคพวกที่เก็บของขึ้นรถเรียบร้อย มันตะโกนเรียก
"ไปเหอะ รีบไป"
ไอ้ปู่แต็งค์...
ไอ้มารความรัก...
ไม่ใช่ว่าฟ้าจะส่งผู้ชายตรงสเป็คมาให้บ่อยๆที่ไหน นี่มันบุพเพสันนิวาสชัดๆ
ยูมีปรายตาไปที่เขา คนที่ใช้ความหล่อสุรุ่ยสุร่ายมาก ส่วนเธอก็สวยสุรุ่ยสุร่าย สวยจึ้ง เหมาะสมกันยิ่งกว่ายิ่งทองกับใบตำแยเสียอีก
ออนไรท์
♥️จบPart ของยูมีแล้วนะคะ สาวน้อยแก่นเซี้ยว สดใสร่าเริง ไม่รู้ว่าคุณปรานต์เขาจะรู้สึกอย่างไรต้องอ่านตอนต่อไปนะคะ
❤️ เรื่องนี้จะเป็นแนวโรแมนติกดราม่า แต่ไม่นอกกายนอกใจนะคะ
♥️อย่าลืมกดเข้าชั้นให้กำลังใจกันด้วยนะคะ