ตอนที่2.คุณปรานต์
ปรานต์เป็นคนพื้นเพเดิมอยู่ที่จังหวัดเชียงรายเหนือสุดแดนสยาม เป็นลูกชายคนเล็กของอาณาจักรภูเคียงเดือนเจ้าของกิจการไร่ชาและรีสอร์ทชื่่อดัง
เขามีพี่ชายทั้งหมดสองคน
พี่ชายคนโตชื่อปิติ (เจ้าของปิติฟาร์มจากเรื่องรักษาได้ไหมหัวใจของลุง)
ส่วนพี่ชายคนรองชื่อปวิช (เจ้าของรีสอร์ทร้านอาหารภูเคียงเดือนจากเรื่องขโมยได้ไหมหัวใจของลุง)
ส่วนเขาแต่งงานมีเมียก่อนใคร เพราะเขามันหล่อ จบปริญญาเอกจากอเมริกาด้านบริหารธุรกิจเป็นอาจารย์สอนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯหลายแห่ง
อาชีพการงานเหมือนจะรุ่งโรจน์แต่ชีวิตรักกลับสวนทาง เรียนเมเนจเม้นท์แต่ไม่สามารถบริหารรักให้ตลอดรอดฝั่ง
เขาแยกทางกับภรรยามีลูกน้อยหนึ่งคนสถานะรอหย่า เคลียร์ตนเองจากงานทั้งหมดอยากหนีจากสังคมที่มีแต่คำถามมากมายเกี่ยวกับตัวเขาและภรรยามาหลบเลียแผลใจที่นี่ เทศบาลนครเชียงใหม่
วันนี้เป็นวันเปิดร้านวันแรก ฤกษ์ดีตามที่แม่เลี้ยงบอกมาว่าเปิดร้านวันนี้แล้วจะเฮงจะปังกำไรดีกำไรงาม เขาถวายน้ำและดอกไม้บนหิ้งพระ พ่อกับแม่ก็โทรมาให้กำลังใจตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางดีเลยด้วยซ้ำ
"แม่ขอหื้อขายดิบขายดีร่ำรวยๆนะลูก"
"ขอบคุณครับแม่"
ปรานต์วางสายจากแม่เลี้ยงปาลิดาที่โทรมาอวยพรเป็นคนแรกทำให้เขามีพลังที่จะสู้ต่อไปด้วยลำแข้งของตนเอง ไม่ทันไรปวิชพี่ชายคนรองก็โทรเข้ามาอีกสาย
ปวิช:"ฮัลโหลไอ้ดอกเตอร์ วันนี้เปิดร้านใช่ไหม?เห็นแม่เลี้ยงเขาพูดเมื่อวาน"
ปรานต์: "ครับพี่วิช เมื่อไหร่จะมาเที่ยวร้านผมซักที?"
ปวิช:"ช่วงนี้ลูกค้าเยอะ โทษทีนะพี่ไม่ได้ไปให้กำลังใจดอกเตอร์เลย"
ปรานต์: "ไม่เป็นไรพี่"
ปวิช: "คิดว่าสงกรานต์นี้แหละ พี่นัดกับลุงติแล้วว่าจะไปแอ่วสาวเจียงใหม่ซักหน่อย แล้วนี่ดอกเตอร์หาสาวมาดามหัวใจได้แล้วหรือยังล่ะ"
ปรานต์: "ตอนนี้ผมขอโฟกัสที่งานมากกว่าครับ"
ปวิช:"เหรอครับ...เหมือนดาราเลยเนอะโฟกัสที่งาน เออ...ร้านอยู่ใกล้ๆมหาวิทยาลัยไม่ใช่เหรอที่นั่นมีแต่สาวสวยๆทั้งนั้น เป็นปวิชหน่อยไม่ได้ พี่วิชจะจับกินไม่ซ้ำหน้าเลย"
ปรานต์: "พอเถอะพี่ ตอนนี้ผมขอพักใจก่อน ผมยังเสียสูญอยู่เลย"
ปวิช: "โอเค โอเค เกิดมาหล่อซะเปล่าไม่รู้จักเอามาใช้ให้เป็นประโยชน์ สะดวกแก่แบบเหงาๆก็ตามใจ แต่ยังไงพี่ก็ขอให้ร้านเฮงๆละกันนะ"
"ขอบคุณครับ"
ปรานต์ผ่อนลมหายใจพี่ชายคนนี้ของเขาช่างมีแต่เรื่องสนุกคุย มิน่าสาวๆถึงได้พากันตบเท้าขอสมัครเป็นคนคุยต่อแถวยาวเหยียด
เสียงจากปลายสายวางไปแล้ว ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้ามีเสน่ห์จึงได้หยิบเสื้อกันเปื้อนมาสวมรอรับลูกค้าคนแรกที่เข้าร้าน แววตาเต็มไปด้วยความหวังของนักสู้
จากอาจารย์สู่อาชีพพ่อค้าก็สนุกไปอีกแบบ
ยูมีเดินทางไปมหาวิทยาลัยเช่นเคยเธอใช้เส้นทางนี้เป็นประจำทุกวันจึงเห็นว่าซ้ายมือก่อนถึงมหาวิทยาลัยมีร้านกาแฟเปิดใหม่ เห็นว่าก่อสร้างมานานนับเดือนแล้ว เธอใช้ความอดทนรอให้ร้านเปิดจนกระทั่งวันนี้ก็มาถึงเสียที
"เฮ่ย! ร้านกาแฟเปิดแล้วนี่หว่า"
"ต้องลองแย้ว"
เจ้าของรถญี่ปุ่นคันเล็กตบไฟเลี้ยวเข้าไปในร้านกาแฟที่เปิดใหม่วันนี้วันแรกซะด้วย โดยส่วนตัวแล้วเธอเองก็เป็นคนโรคจิตอยู่อย่างหนึ่งคืออะไรที่เป็นสิ่งแรกครั้งแรกเธอต้องได้สิทธิ์นั้นเสมอ
นักศึกษาสาวใบหน้าเกลี้ยงเกลาที่ทาเพียงแป้งเด็กและลิปกลอสเพื่อความชุ่มชื้น สวมเสื้อช็อปคณะวิศวะกับกางเกงยีนส์ขายาวสวมรองเท้าผ้าใบสีขาว เธอเป็นสาวเท่ใครๆก็ว่าอย่างนั้น
ลงจากรถได้ก็กวาดสายตาสำรวจทั่วร้านเห็นว่าตกแต่งได้น่ารักดีเรียบๆแต่มีคลาส เธอจึงผลักประตูเข้าไปพุ่งเป้าไปที่เคาน์เตอร์บริการ มองกระดานเมนูแวบหนึ่งเห็นว่ามีสิ่งที่เธอต้องการก่อนจะสบตากับพนักงานหญิงที่แย้มยิ้มรอรับออเดอร์เธอจึงสั่งโดยไม่ต้องรอให้ถาม
"เอาโกโก้ปั่นหนึ่งแก้วค่ะ"
"รับอย่างอื่นเพิ่มไหมครับครัวซองต์ขนมเค้กอร่อยๆก็มีนะครับ"
ปรานต์ที่่เพิ่งเสร็จจากการเตรียมสต๊อกสินค้ารีบเสนอเมนู เธอกำลังจะปฏิเสธแต่พอเห็นใบหน้าของเจ้าของเสียงนุ่ม ถึงกับต้องอ้าปากค้างกับความหล่อที่มันทะลุหัวใจ หล่อแบบพระเจ้าตั้งใจปั้นมาก
หญิงสาวยิ้มค้างได้แต่มองใบหน้าคมสันภายใต้แว่นสายตาที่เขาสวมใส่ ปลายคิ้วเข้มรับกับนัยน์ตาคม จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักที่ช่างดึงดูดใจเหลือเกิน ถือว่าเป็นเครื่องหน้าฟ้าประทานจริงๆ
หลงไม่มีทางออก
สุขุมนุ่มลึก สเป๊ก...
นี่มันแดดดี้ที่ไม่ได้แปลว่าพ่อนี่นา
สำรวจใบหน้าหล่อจนพอแก่หัวใจแล้ว เธอเห็นเขาเลิกคิ้วถามอยู่นานพอได้สติริมฝีปากบางจึงเอื้อนเอ่ย เธอจำได้แล้วว่าเขาคือคนที่ช่วยพ่อเธอวันนั้น นี่มันเรื่องบังเอิญหรือพรหมลิขิตกันแน่
"คุณนี่เอง..."
จะมีใครเห็นไหมเนี่ยว่าเธอหน้าแดงใจก็เต้นอย่างกลอง รัวจนแทบทะลุออกมานอกอกอยู่แล้ว
"ใช่ครับ ผมปรานต์ที่เจอกับคุณเมื่อวันก่อน ร้านกาแฟร้านนี้ของผม อย่าลืมมาอุดหนุนนะครับ" ปรานต์รับอาสาชงโกโก้ปั่นให้เธอเองเสร็จแล้วยื่นให้ด้วยความสุภาพพร้อมกับรอยยิ้มของเขา
ได้โปรดอย่ายิ้มแบบนี้ได้ไหม...
"เอ่อ...คุณน้า พ่อคุณเป็นยังไงบ้างครับ"
"ไม่เป็นไรค่ะพ่อสบายดี ขอบคุณมากนะคะ"
คนหล่อยังมีแก่ใจถามถึงพ่อเธออีกเนอะ หล่อแล้วยังใจดีอีก ในที่สุดเมืองนี้ก็มีคนดีมีน้ำใจมีจิตสาธารณะเพิ่มมาอีกหนึ่งคน
สาบานเลยไม่รักไม่ได้แล้ว
ขณะที่เขากำลังจะคิดเงินก็นึกขึ้นได้ว่าเด็กสาวน่าชอบกินขนมจุกจิก
"รับครัวซองต์เพิ่มไหมครับ วันนี้เปิดร้านวันแรกผมลดให้สิบเปอร์เซ็นต์"
"เอาค่ะ มีอะไรบ้างคะ"
เธอเดินตามเขาไปที่ตู้เบเกอร์รี่เห็นเงาตัวเองในกระจกบอกตามตรงเลยว่าโคตรอายกับสภาพของตัวเองที่มันดูไม่ได้เอาซะเลย ต่อจากนี้ต้องปฏิวัติตัวเองใหม่ซะแล้ว ได้แต่เคลิ้มไปกับความหล่อจิ้มซื้อขนมมาซะเยอะอ้างว่าเอาไปฝากเพื่อน
เมื่อจ่ายเงินเสร็จถึงรู้ว่าตัวเองหมดตัว โดนไปซะเกือบสองร้อยตัวเบาเลย
ค่าขนมวันนี้ของฉัน...
แต่ก็ถือว่าคุ้มเพราะเมื่อตะกี้เธอแอบเนียนแบมือรับเงินทอนจากเขาจนสัมผัสกับมือนุ่มๆของเขา รู้สึกเหมือนมีกระแสไฟจากตัวเขาวิ่งผ่านนิ้วสู่ร่างกายของเธอแล้วตรงไปที่หัวใจจนร้อนรุ่มไปทั้งร่างกาย
แบบนี้เขาเรียก สปาร์คใช่ไหม
"พรุ่งนี้แวะมาใหม่นะครับ"
"ค่ะ...ยูไปเรียนก่อนนะคะ"
"โอ๊ย! ผู้ชายบ้าอะไรวะ ตัวหอมฉิบผาย มืองี้นุ้มนุ่ม ผิวก็ดี๊ดี"
หญิงสาวขับรถออกจากร้านปรับกระจกมองหลัง เห็นใบหน้าของผู้ชายที่กำลังก้มๆเงยๆอยู่หน้าเคาน์เตอร์บริการ สัญญาเลยว่าเธอจะจีบเขาทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ
เมื่อหัวใจเป็นสีชมพูจึงเปิดเพลงที่ทำให้หัวใจพองโตพร้อมกับฮัมเพลงไปด้วย
"เธอมาทำให้ละลาย โดนสาบให้ตายแล้วตายอีก..."
สายเต๊าะต้องเข้าแล้ว...
คณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยชื่อดังของเมืองเชียงใหม่
ที่โต๊ะม้าหินหน้าคณะกลุ่มเพื่อนเธอนั่งหน้าสลอนปากยื่นปากยาวกำลังแซวรุ่นน้องกันปากมัน ไปถึงโยนถุงขนมไปบนโต๊ะ ส่วนเธอค่อยๆหย่อนก้นลงอย่างกับกุลสตรีดูดโกโก้ไปด้วยซึมซับรสชาติระหว่างความขมกับความหวานที่มาบรรจบกันอย่างลงตัว
"อ่ะ...ขนมซื้อมาฝาก"
แต็งค์รีบหยิบเป็นคนแรกคิ้วเข้มถามด้วยความสงสัย
"ซื้อที่ไหนเนี่ย"
หญิงสาวเพียงคนเดียวในกลุ่มดวงตาเหม่อลอยไปถึงร้านกาแฟที่เพิ่งจากมาไม่นาน
"หล่อ...อบอุ่น ฮีลใจ ละมุน แดดดี๊"
หนุ่มแว่นหน้าตี๋ขยับแว่นสบตากับรุ่นพี่ให้ดูเพื่อนสาวที่เป็นเอามาก ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งก็เพิ่งเห็นว่าหญิงสาวมีอาการแปลกๆก็วันนี้
"นี่ยู...ไอ้ปู่มันถามว่าไปซื้อที่ไหนมา"
รุ่นพี่เพียงคนเดียวของกลุ่มปรายตาไปที่รุ่นน้องขมวดคิ้วมุ่น มันน่าจะมีอะไรที่เขาไม่รู้เกี่ยวกับตัวเธอแน่ๆพิจารณาถึงท่าทีแปลกๆของหญิงสาว
"หล่ออะไร ฮีลใจบ้าบออะไร"
"อ๋อเหรอ...ถามว่าซื้อมาจากไหนใช่ไหม ร้านเปิดใหม่ก่อนถึงมอ.นี่แหละ พวกเอ็งกินข้าวกันยังถ้ากินแล้วรีบขึ้นห้องเรียนเหอะ"
พูดจบหญิงสาวก็วิ่งตัวปลิวไปที่ลิฟต์รวมกลุ่มกับคนอื่นๆที่ออตัวเบียดเสียดกันอยู่ตรงนั้น
"ไป...ไอ้ปู่"
แต็งมองตามร่างบางด้วยความสงสัย ถึงแม้ว่าสองหนุ่มรุ่นน้องที่ผ่านโลกมาน้อยจะไม่สงสัยอะไร แต่เขาผู้เผชิญโลกมาก่อนย่อมเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของหญิงสาวรุ่นน้องดี
ในคลาสเรียน แต็งค์จับสังเกตได้ว่าสาวรุ่นน้องเอาใจใส่เรื่องความสวยความงามเป็นพิเศษ นอกจากจะตั้งใจเรียนแล้วเธอยังหยิบกระจกขึ้นมาส่องบ่อยๆ ช่วงพักเบรคยังแอบไปเขียนคิ้วทาลิปกลอสมาเพิ่มอีก
"ยู...ผีเข้าป่ะเนี่ย"
"ตั้งใจเรียนเหอะปู่จดทันป่าวมองหน้าอยู่ได้ เห็นนะว่าแอบมอง"
หนวดเขากระดิก "เลิกเรียนแล้วเรามีเรื่องต้องคุยกัน"
"เออ..."
"ไอ้ปู่มันบ้าหรือเปล่ามองอยู่ได้ น่ารำคาญ..."
ออนไรท์
❤️คุณปรานต์แนะนำตัวแล้วนะคะ หวังว่าจะชอบกันนะคะ
❤️อย่าลืมกดเข้าชั้นกันนะคะ