ตอนที่3.ยูมีสายเต๊าะ
ทันทีที่เสียงกริ่งดังขึ้นซึ่งแสดงว่าหมดเวลาเรียนของคาบนี้แล้ว แต็งค์ก็ไม่ลืมความตั้งใจเดิมคืออะไรที่เขาจะรู้เขาต้องได้รู้ ความลับย่อมไม่มีในโลกของแต็งค์
"ละอ่อน แลงนี้กิ๋นหมูกระทะบ๋อ"
"ใครละอ่อน"ยูมีเลิกคิ้วถามแต่ไม่ว่าอะไรตั้งใจเก็บของต่อไป
"ปี้เลี้ยงเอง"
"เลี้ยงเบียร์ด้วยสนป่าว"
ถ้าเป็นสมัยก่อนเธอคงกระโจนเข้าใส่ แต่วันนี้เธอตั้งใจกลับไปขัดผิวซักหน่อยเพราะพรุ่งนี้เธอตั้งใจใส่ชุดนักศึกษาไปซื้อโกโก้ปั่นร้านคุณปรานต์สามีในอนาคตของเธอ
"ไม่อ่ะ วันนี้ยูรีบ ปู่ไปกับไอ้ฟิวส์ไอ้บอยเหอะ ไปละ"
พูดจบเธอรวบปากกาเสียบไว้ที่กระเป๋าเสื้อช็อปรวบสมุดมาไว้ในอ้อมแขน รีบผลุนผลันลุกจากเก้าอี้ตรงดิ่งไปที่ลิฟท์โดยไม่รอเพื่อนชายที่มัวแต่โอ้เอ้คุยกับสาว
เธอมองเพื่อนด้วยความสังเวชใจ เห็นว่าพวกมันจีบสองสาวตั้งแต่ปีหนึ่งจนทุกวันนี้เรียนจะจบอยู่แล้วยังไม่เห็นมันได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากเบอร์รองเท้าพวกวิศวะคอม อย่าได้คิดว่าพวกมันแค่วิศวะห้องแอร์นะเวลามันโหดก็โหดได้ใจ เดือดร้อนถึงเธอที่ต้องใช้ความสวยไปช่วยมา
"ไอ้พวกนี้ไม่เข็ด"ยูมีโคลงศีรษะกับภาพที่เห็นแล้วเดินจากไปทันที
แต็งค์เก็บสมุดปากกาแทบไม่ทัน เดินเบียดกับนักศึกษาคนอื่นประชิดตัวหญิงสาว
ชายหนุ่มไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องสอดรู้สอดเห็นเรื่องของเธอขนาดนี้ด้วย
"แล้วจะรีบไปไหนเนี่ย"
"กลับบ้านสิปู่"
แต็งค์หนุ่มรุ่นพี่ที่ลงลิฟท์มาพร้อมกับหญิงสาว สายตาคมมองออกว่าเธอมีบางสิ่งเปลี่ยนไป แต่ก่อนถ้าชวนไปดื่มมีหรือว่าเธอจะปฏิเสธ เขากระซิบที่ริมใบหูหวังว่าจะได้ยินกันแค่สองคน
"ไม่กินหมูกระทะจริงอ่ะ"
"บ่กิ๋น ปู่นี่อู้บ่ฮู้เฮื่อง"
"อ่ะ โอเค โอเค"
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวทำหน้ายักษ์ใส่เขาก็จะไม่เซ้าซี้ไม่อย่างนั้นมีหวังโดนด่าแน่ๆ ตอนนี้หน้าเขาหดเหลือครึ่งเดียวเองล่ะมั้ง ส่วนไอ้เรื่องที่อยากจะรู้คงต้องเอาไว้วันหลัง
เมื่อลงจากลิฟท์ก็เป็นอันว่าต้องแยกย้ายกัน หญิงสาวเดินตัวปลิวตรงดิ่งไปที่ลานจอดรถ เขาก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ไปทำไมจึงควบบิ๊กไบค์กลับบ้านเช่นเดียวกัน หมูกระทะอะไรคงไม่กินมันแล้ว
บ้านของยูมี
วันนี้ยูมีลูกสาวเพียงคนเดียวของเฮียกิดดากลับถึงบ้านแต่ยังไม่มืด มาถึงหญิงสาวทิ้งตัวบนโซฟาตัวใหญ่สร้างความแปลกใจให้กับผู้เป็นแม่อยู่พอสมควร
"วันนี้ไม่ไปไหนเหรอลูก?"
"ไม่ค่ะแม่ ยูว่าจะอ่านหนังสือสอบอีกสองอาทิตย์ก็จะสอบแล้ว"
"ดีแล้วลูกกลับแต่วันบ้างก็ดี ตะลอนๆทุกวันพ่อแม่ก็เป็นห่วง เรียนจบแล้วจะทำอะไรต่อล่ะ"
อุษาในวัยสี่สิบปลายๆแต่ยังดูสวยพริ้งช่วยงานสามีที่อู่ดำรงตำแหน่งผู้จัดการแผนกการเงินและผู้จัดการแผนกธุรการทั่วไปจัดการทุกอย่างของอู่ซึ่งเป็นงานถนัดของเธอ
"แม่ว่ายูไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวแม่ไปดูในครัวก่อนว่าฟองจันทร์เขาทำอะไรกิน
"ค่ะแม่ ยูไปอาบน้ำก่อนนะคะ"
บ้านหลังใหญ่ของครอบครัวยูมี อยู่หลังร้านอู่ซ่อมรถภายในตกแต่งทันสมัยใหญ่โตสมฐานะอู่ที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดของเมืองเชียงใหม่
เมื่อถึงเวลาของมื้อค่ำครอบครัวเล็กๆพร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหาร วันนี้อุษาเพิ่งสังเกตเห็นว่ายูมีลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอใบหน้าดูจะสดใสเป็นพิเศษ
ส่วนเฮียกิดดาเขาตรากตรำทำงานหนักโดยไม่ค่อยได้ใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆของทุกคนในบ้านมากนัก แต่ก็ถามในสิ่งใกล้ตัว
"จบแล้วจะช่วยงานพ่อหรือว่าเรียนต่อล่ะลูกหรือจะเปิดร้านขายอะไรดีลองคิดดูนะ แต่พ่อไม่ให้ไปเป็นลูกจ้างใครเด็ดขาด ทำไมต้องไปทำให้คนอื่นเขารวยด้วย อู่พ่อก็มี"
หญิงสาวกลิ้งตาไปมาแต่ไม่กล้าพูดอะไรมาก เธอก็อยากออกไปเผชิญโลกดูบ้าง ถ้าหากท่านเทพแห่งความสมหวังเห็นใจคงจะมีวันนั้นที่เธอได้ออกไปโบยบินสู้รบปรบมือกับอุปสรรคบ้าง
"หนู หนูยังไม่คิดเลยค่ะพ่อ"
"แต่แม่ว่าเรียนต่อปริญญาโทอีกซักใบดีไหมลูก เรียนไหวไหม"
ยูมีคิดในใจเธอคงมีแค่สองทางเลือกสินะ ระหว่างดูร้านช่วยพ่อกับเรียนต่อ เรื่องที่จะไปทำงานที่อื่นนั้นคงตัดไปได้เลย
"กินแกงฮังเลดีกว่า เรื่องนั้นเอาไว้ทีหลังดีกว่าค่ะ" การเอาตัวรอดมันเป็นสิ่งที่เธอถนัดอยู่แล้ว ตักหมูสามชั้นทอดน้ำปลามันเยิ้มๆแบบนี้ที่เธอใฝ่หา
"ฝีมือพี่ฟองนี่ลำแต๊ แต๊"
สองสามีภรรยาสบตากันก็พอจะรู้ว่า ลูกสาวคงอยู่ที่ไหนไม่ได้หรอกนอกจากบ้านหลังนี้ ยิ่งเป็นลูกสาวคนเดียวเขายิ่งห่วง
รุ่งเช้าของอีกวันที่ร้านกาแฟของปรานต์ ยูมีหมุนพวงมาลัยเข้าไปในร้าน เหมือนเป็นสิ่งที่เธอควรทำทุกเช้า
วันนี้เธอตั้งใจสลัดจากลุคสาวเท่เป็นสาวหวานในชุดนักศึกษา สวมกระโปรงสั้นเข้ารูปเอวที่คอดเล็กทำให้ดูว่าเธอเป็นสาวเต็มตัวไม่ใช่สาวห้าวอีกต่อไป
"เธอมาทำให้ละลาย โดนสาปใหัตายแล้วตายอีก" ไม่รู้เป็นอะไรช่วงนี้เธอต้องเปิดเพลงนี้ฟังทุกวันสิน่า
ก่อนลงรถเธอสำรวจความสวยอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าถ้าเขาเห็นเธอน่ารักแบบนี้จนต้องอ้าปากค้างเพราะความคาวาอี้แน่ๆ
"ตัวเล็กหน้าใสหุ่นลูกรักพระเจ้าเป็นของคุณปรานต์แล้วค่ะ"
กรุ๊งกริ๊ง...กรุ๊งกริ๊ง เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้นเมื่อหญิงสาวผลักประตูเข้าไป แล้วคนแรกที่เธอเห็นก็คือเขา
"สวัสดีครับวันนี้รับอะไรดีครับ"
ปรานต์รู้สึกแปลกตานิดหน่อยเมื่อเห็นว่านักศึกษาสาวหน้าตาจัดอยู่ในข่ายน่ารัก หากแต่ไม่ได้บริสุทธิ์ไร้เดียงสาสักนิด
วันนี้เธอสวมชุดนักศึกษามาด้วยแลดูน่ารักสมวัย
โลกของหญิงสาวช่างสดใสจนเขาสัมผัสได้
ไปถึงยูมีก็ตรงเข้าไปเกาะที่เคาน์เตอร์ ถึงแม้จะออกอาการขัดเขินอยู่บ้างกับสายตาของเขาที่มองมา
"ยูขอโกโก้ปั่นเหมือนเดิมค่ะคุณปรานต์"
"ได้ครับนั่งรอที่เก้าอี้ก่อนก็ได้นะครับ"
"ยูยืนรอตรงนี้ก็ได้ค่ะจะได้คุยกับคุณปรานต์ด้วย"
เอาละวะสายเต๊าะ สายอ่อย เธอก็พอจะถูๆไถๆไปได้หรอกน่า
ดวงตากลมโตจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อละมุนไม่วางตาจนเขารู้สึกได้ พอเขามองกลับมาเธอก็แกล้งเบนสายตาไปที่ตู้ขนมซะอย่างนั้น
หัวใจนุ่มๆเต้นตึกตักแข่งกับเสียงเครื่องปั่นที่ดังจนหูเกือบอื้อ
เขินวุ้ย จีบผู้ชายก่อนใครบอกว่ามันง่ายเธอเถียงใจขาด
ริมฝีปากบางยิ้มที่มุมปากน่ารัก เขินอยู่ไม่รู้จะทำอะไรจึงปรายตาไปที่ตู้ขนม ส่วนเจ้าของร้านเมื่อเขาเห็นเธอดูสนใจตู้ขนมเป็นพิเศษ
คงนึกว่าหญิงสาวคงติดใจขนมเค้กของเขาแน่ๆ
เขาจึงรีบเทโกโก้ปั่นใส่แก้ว เตรียมจะยัดเยียดความหวานเข้าสู่กระแสเลือดให้เธออีกครั้ง
"วันนี้รับอะไรดีครับ"
ขณะที่หญิงสาวเดินตามขายาวๆไปที่ตู้ขนมก็ได้มีเสียงเรียกคุ้นหูดังอยู่ใกล้ๆ พร้อมกับมีอะไรสักอย่างสะกิดที่ไหล่บาง
"ยู...อยู่นี่เอง"
"ฮะ เสียงเจ้ากรรมนายเวรที่ไหนกันวะ"
เมื่อเธอหันไปตามเสียงเรียกและมองตามมือหนาๆที่แตะบนไหล่บางสีหน้าแสดงความไม่พอใจ เขาก็รีบชักมือกลับเพราะกลัวโดนด่า
แต่แล้วเธอก็ต้องแปลกใจกับลุคส์ใหม่ของแต็งค์
เธอกระพริบตาปริบๆ ริมฝีปากอ้าค้างกับรูปลักษณ์ใหม่ของไอ้ปู่ที่มันถอดรูปเงาะออกเหลือเพียงเจ้าชายหล่อเท่จนเธอจำเกือบไม่ได้
อันที่จริงปู่แต็งค์มันก็ไม่ขี้เหร่นะ แต่มันแค่หล่อน้อยกว่าคุณปรานต์ว่าที่สามีของเธออยู่หลายขุมแค่นั้นเอง
"อะ...ไอ้ปู่แต็งค์ นี่ผีเข้าหรือผีออกวะเนี่ย"
จากที่เธอเคยเป็นสาวเท่สายลุยกลายร่างเป็นสาวน่ารักตะมุตะมิ เห็นแบบนี้เขาขนลุกขนชันแทบไม่อยากจะเชื่อสายตา
"ก็ตามมา เห็นร้านกาแฟเปิดใหม่ลองกินบ้างไม่ได้หรือไง"
ถึงมันจะหล่อขึ้นแต่ก็กวนประสาทเธออยู่ดี
ชายหนุ่มยืนทิ้งสะโพกสวยใกล้ๆเธอ ทำหน้าให้ดูว่าเขาหล่อ
"ไง พี่แต็งค์ละมุนพอมั้ยแบบนี้"
"กินอะไรวันนี้ป๋าเลี้ยงเอง"
"ป๋าเหรอ..."
แต้มบุญของเธอคงร่อแร่เพราะไอ้ปู่แต็งค์ที่มาคอยขัดขวางความสุขของเธอแน่ๆ
แต่พอเธอช้อนสายตามองไปที่เจ้าของร้านพบว่าเขามองเธออยู่ก่อนแล้ว มือเขาชะงักค้างรอฟังว่าเธอจะสั่งอะไร
เธอไม่อยากให้เขาเข้าใจผิดรีบอธิบาย
"เพื่อนค่ะมันตามมา"
"เอ่อ ยูเอาเค๊กสตอเบอรี่อันนึงค่ะ"
"อันเดียวพอเหรอวันนี้ป๋าจ่ายให้หนูนะ"
ดูมันกวนสิ
เธอเห็นนะว่าเจ้าของร้านอยากขำเมื่อเห็นว่าเธอแยกเขี้ยวใส่ปู่แต็งค์ ดวงตาดำขลับของมันก็กลิ้งไปกลิ้งมาเห็นแล้วน่าหมั่นไส้มาก
"ไอ้บ้าปู่ กวนประสาท"
ได้อยากเป็นป๋ามากเธอจะจัดให้
"คุณปรานต์คะ งั้นยูขอเพิ่มเป็นห้าชิ้นแล้วกันค่ะซื้อไปฝากเพื่อนๆด้วย แบบว่าเป็นคนดีมีน้ำใจค่ะ เดี๋ยวยูจะช่วยรีวิวร้านในเพจให้นะคะ"
"ครับ...ขอบคุณครับ ผมขอคิดเงินเลยนะครับ"
จากนั้นพนักงานช่วยกันบรรจุขนมเค้กใส่กล่องแล้วใส่ถุงพลาสติกยื่นให้หญิงสาว คุณปรานต์เขาก็คิดเงิน
"ห้าร้อยยี่สิบบาทครับ"
"ได้ครับ"
แต็งค์ควักธนบัตรใบเทาออกมาจากกระเป๋ามือหนาสั่นน้อยๆยื่นให้เจ้าของร้าน
ป๋าโอเค ป๋าไม่เป็นอะไร...
ออนไรท์
❤️ยูมีเธอจะจีบผู้ก็มีเพื่อนมาขัดคอซะงั้น
ปู่แต็งค์นี่ก็ช่างสอดรู้สอดเห็นดีจัง