ธรรมเนียมชนเผ่า

1611 Words
หลังจากแยกย้ายกับเจ้าหน้าที่ประเทศต้นทางที่ชายป่าแล้ว ดูเหมือนว่าปาลิดาและคุณหมอหลี่เองก็จะถูกกีดกันออกจากกันอย่างมีนัยสำคัญ ชายหนุ่มชาวจีนถูกประกบให้เดินนำไปข้างหน้าร่วมกับหัวหน้าชนเผ่าและลูกน้องสองคน ส่วนปาลิดาถูกขนาบข้างด้วยกษัตริย์ของชนเผ่าและลูกน้องหนึ่งคนตามลำดับ " เมื่อถึงที่หมู่บ้านของเรา พวกเจ้าจะต้องทำพิธีสาบานตนเป็นชนเผ่าซานโต จะไม่ทรยศหักหลังทำร้ายพวกพ้องโดยเด็ดขาด " " .... " " โทษของคนที่ทำร้ายพวกพ้องพี่น้องคือตายเท่านั้น จดมันลงไปซะ " จู่ ๆ คนที่มีอำนาจสูงสุดในกลุ่มก็กล่าวขึ้น ปาลิดาละล้าละลัง อยากยกสมุดขึ้นจดแต่ก็อยากปิดบังส่วนสงวนของร่างกาย สายตามองซ้ายมองขวาเลิ่กลั่กไปหมด " ร่างกายเป็นสิ่งที่ธรรมชาติมอบให้ ใคร ๆ ก็มีร่างกายเหมือน ๆ กัน ไม่ได้มีใครอยากมองร่างกายของเจ้าเป็นพิเศษ ก็แค่คนเมืองคนหนึ่ง " ฝีปากเราะร้ายนัก ! ปาลิดาแอบมองค้อนบุคคลตำแหน่งสูงกว่า ก่อนจะจำใจยกสมุดขึ้นมาจดประโยคก่อนหน้า ด้วยตัวบรรจงเป็นภาษาซานโตอย่างคล่องแคล่ว โชคดีว่าเธอพึ่งไปเข้าคอร์สเลเซอร์บิกินี่ไลน์มา อย่างน้อยมันก็เป็นเพียงไรขนอ่อนไม่หยุบหยับน่าเกลียดสายตาเท่าไหร่นัก โธ่เอ๊ย...พรหมจรรย์ที่รักษามากว่า 24 ปี.... " แล้ว...ทำไมถึงมีแค่บุคคลระดับสูงของชนเผ่า ที่ได้รับอนุญาตให้ปิดบังร่างกายล่ะคะ... " นักวิจัยสาวรีบใช้โอกาสนี้ถามเขาเพื่อไขข้อสงสัย ถึงแม้เครื่องนุ่งห่มพวกนี้จะปกปิดร่างกายได้ไม่เท่าไหร่ แต่ก็ได้รับสิทธิพิเศษกว่าคนอื่น ๆ " ชนชั้นกษัตริย์และราชนิกุลมีค่ามากกว่าไพร่ทาส เมื่อมีอันตรายกับชนเผ่า เราจะเป็นคนกลุ่มแรกที่ยอมตายเพื่อปกป้องพวกพ้อง ร่างกายของเราจึงไม่ควรให้ใครได้แตะต้องแม้แต่สายตา " แล้วไหนว่าธรรมชาติให้มาเหมือน ๆ กันไง ก็แค่เป็นคนที่มียศมีตำแหน่ง ใครเขาจะอยากมองกันล่ะ ปาลิดาแอบค้านในใจ แต่ก็ยอมจดข้อมูลไปตามที่เขาบอกโดยไม่มีปากเสียง เมื่อมัวแต่จดจ่อกับการจดบันทึก หญิงสาวจึงลืมตัวไปเสียสนิทว่าเธอได้เปิดเผยร่างกายเดินล่อนจ้อนกลางป่าเสียแล้ว หันซ้ายหันขวาอีกทีก็พบว่าทุกคนต่างก็มุ่งหน้ามุ่งตาเดินทาง ไม่ได้มีใครสนใจเรือนร่างของเธอตามที่คาร์โลกล่าวจริง ๆ ด้วย " กูมูสตาาา โอลาาาา " เมื่อเดินลึกเข้ามาในเขตป่าได้ราว 2 ชั่วโมง ก็มาถึงเขตหมู่บ้านชาวชนเผ่าซานโต ที่ตัวบ้านก่อสร้างขึ้นจากดินเหนียว มุงหลังคาด้วยใบไม้ที่มีลักษณะใบค่อนข้างใหญ่เรียงกันเป็นชั้น ๆ และมีการจุดกองไฟกองใหญ่ที่ลานกว้าง เพื่อรอต้อนรับการกลับมาของเจ้าชนเผ่าและบริวาร รวมถึงผู้มาเยือนทั้งสองด้วย ปาลิดาเบิกตาโต เข้าใจแล้วว่าทำไมคาร์โลถึงได้บอกว่าไม่มีใครสนใจจะมองเรือนร่างของเธอ ในเมื่อบรรดาหญิงสาวของชนเผ่าซานโตล้วนมีใบหน้าสวยคมคาย ผมดำยาว ดวงตาสองชั้นหวานหยดย้อย ที่สำคัญคือแต่ละคนรูปร่างอวบอัดสะโพกผาย ทรวงอกอิ่มใหญ่ นักสำรวจสาวก้มมองตัวเองที่มีผิวขาวสว่าง แขนขาเรียวเล็ก ความอวบอิ่มมีแค่พอกินพอใช้แล้วก็สลดใจ หุ่นอนุบาลอย่างเธอมันจะไปสู้หุ่นแม่พันธุ์ได้อย่างไร... " ยินดีต้อนรับกลับบ้าน นายท่านคาร์โล กาบิล พระเจ้าแห่งผืนป่าคุ้มครอง " หญิงสาวใบหน้าสะสวยมีผืนผ้าทอมือปิดบังทรวงอกและส่วนล่าง สวมใส่เครื่องประดับโลหะ เดินตรงเข้ามาคล้องพวงดอกไม้ให้คาร์โลและกาบิล นักวิจัยสาวสังเกตว่ารอยยิ้มของเธอเขินอาย ยามที่ได้สบตากับชายหนุ่มที่ทรงอำนาจที่สุด คงเป็นภรรยาของเขาละมั้ง ปาลิดาคิด เจ้าหล่อนสวยไม่เบาทีเดียว ไม่อวบอัดเท่าคนอื่น ๆ ออกไปทางหุ่นนางแบบสูงยาวเข่าดี แต่ก็ยังคงความเป็นสตรีชาวซานโตด้วยหน้าอกหน้าใจและสะโพกเหลือกินเหลือใช้ " นี่คือนายหญิงอามิฮัน เป็นสตรีชนชั้นสูงที่คาดว่าจะได้รับตำแหน่งพระชายาของนายท่านคาร์โลเร็ว ๆ นี้ ถ้าเจ้าโชคดีคงได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานแต่งตั้ง ไม่ใช่จะจัดขึ้นง่าย ๆ " จามาล ชายหนุ่มที่ประกบข้างปาลิดามาพร้อมเจ้าชนเผ่ากระซิบบอก ปาลิดาเองก็เคยเจอบันทึกมาบ้าง ว่ากษัตริย์ของชนเผ่านี้ไม่ได้จะแต่งตั้งสตรีขึ้นมารับตำแหน่งชายาหรือราชินีง่าย ๆ ส่วนมากเป็นเมียบำเรอเพื่อมีทายาทให้ และอยู่อย่างชนชั้นทั่วไปตามปกติ ทายาทที่เกิดมาจะตกเป็นสมบัติของฝ่ายชายที่ชาติกำเนิดสูงกว่าเท่านั้น หลังเด็กหย่านมแล้ว คนเป็นแม่จะไม่ได้รับสิทธิ์ให้เลี้ยงดูต่อ และก็ไม่มีสิทธิ์มีสามีคนใหม่เช่นกัน ส่วนหญิงที่เคยได้รับการแต่งตั้ง ตามประวัติศาสตร์ลือว่าเป็นหญิงที่มักมีความรู้ความสามารถในการปกครองเทียบเท่าสามี จึงจะได้รับการยอมรับ " นี่คือพวกพ้องคนใหม่ของเรา ปาลิดาและหลี่ ทั้งสองคนมาอย่างสันติเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ถึงเราจะอยู่ในขอบเขตของเรา แต่ก็ไม่ควรประมาทพวกคนเมืองข้างนอก " " กูมูสตาาาา โอลาาาา " คนทั้งชนเผ่าพร้อมใจกันโห่ร้องต้อนรับปาลิดาและคุณหมอหลี่ด้วยรอยยิ้ม หลังจากคาร์โลกล่าวจบ ทำให้ทั้งสองคนพอจะมองตากันด้วยความอุ่นใจได้บ้าง อย่างน้อยที่นี่ก็คงไม่ได้ป่าเถื่อนอย่างที่คิด " คุกเข่าลงไปกล่าวสาบานตนตามกาบิล " คุณหมอหนุ่มและนักวิจัยสาวพยักหน้าให้กัน ก่อนเดินเข้าไปที่หน้ากองไฟ นั่งลงคุกเข่ากับพื้นดินเย็นเยียบ ยกสองมือในท่าทางเหมือนถือถ้วยอะไรสักอย่างในอากาศตามคำสั่งของหัวหน้าชนเผ่า พร้อมเอ่ยสาบานตนทีละประโยคด้วยความตั้งใจ น่าแปลกที่หญิงสาวสัมผัสได้ถึงความหนักแน่น จริงจัง และลึกซึ้งของการสาบานครั้งนี้ยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ ในชีวิต อาจจะเพราะบรรยากาศที่แปลกตา และเสียงโห่ร้องที่อึกทึกขานรับคำสาบานนั้นของชาวชนเผ่าซานโตอย่างฮึกเหิมก็เป็นได้ " เมื่อสาบานตนแล้ว พวกเจ้าทั้งสองคือพวกพ้องของเรา ใช้ชีวิตได้เฉกเช่นพวกเราทุกคน ทั้งกินดื่ม หลับนอน ป้องกันภัย รวมถึงแต่งงานมีบุตร " คาร์โลย่อกายลงนั่งชันเข่าขึ้นข้างหนึ่งด้วยท่วงท่าทรงอำนาจ ใช้ฝ่ามือวางลงบนศีรษะของปาลิดาและหมอหลี่แผ่วเบา อุ่นภูมิอุ่นนั้นราวกับจะบอกกล่าว ว่าทั้งสองอยู่ภายใต้ความคุ้มครองของเขาแต่เพียงผู้เดียว " แยกย้ายไปพักผ่อน " ร่างสูงของคาร์โลผละตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนสั่งให้ทุกคนแยกย้ายไปพักผ่อน คุณหมอหลี่ยังคงถูกกาบิลตามประกบไปที่บ้านดินเหนียวฝั่งหนึ่ง ส่วนปาลิดาก็ต้องเดินตามจามาลมาต้อย ๆ ที่อีกฝั่ง ซึ่งที่พักของเธอหลังจากนี้เป็นบ้านที่ใหญ่โตโออ่ากว่าบ้านอื่น ๆ มีคบไฟติดผนังประดับอยู่ทั่วบริเวณ และที่สำคัญยังมีคนยืนเฝ้าเวรยามหน้าประตูอีกด้วย " เจ้าต้องพักที่นี่รวมกับหญิงรับใช้ของนายท่านคาร์โล " " อะ...อ๋อ...ได้สิ... " ปาลิดาแยกย้ายกับจามาลที่หน้าทางเข้า ก่อนเดินตามหญิงสูงวัยคนหนึ่งเข้าไปภายใน บ้านดินหลังนี้เพดานสูงโปร่ง พื้นที่กว้างขวาง ด้านหน้ามีสาวใช้ราว 5-6 คน ปูผืนผ้าทอมือขนาดราวผ้าเช็ดตัวบนพื้น และมีหมอนที่ทำจากขอนไม้ไว้หนุนนอนเฝ้าอยู่ที่ข้างประตู ซึ่งห้อยด้วยม่านลูกปัดปิดปังความเป็นส่วนตัวภายใน นักวิจัยสาวเอามือทาบอกด้วยความโล่งใจ ถึงแม้จะดูนอนกลางดินกินกลางทรายไปหน่อย แต่ก็ยังได้นอนรวมกับผู้หญิงด้วยกัน " ให้ฉัน..เอ้อ...ข้านอนตรงไหนคะ " " ด้านใน " หญิงชราเอ่ยเพียงเท่านั้น ก็แหวกม่านลูกปัดนำทางปาลิดาที่ยังมีสีหน้างุนงงสงสัยให้เข้าไปภายใน ข้างในนั้นเป็นห้องกว้างที่มีเตียงไม้วางอยู่ตรงกลาง ปูรองด้วยผ้าขนสัตว์เนื้อนุ่มฟู บ่งบอกฐานะของผู้เป็นเจ้าของ ด้านล่างเตียงมีผ้าเก่า ๆ หนึ่งผืนและขอนไม้หนึ่งท่อน หญิงชราไล่ต้อนให้เธอนอนลงก่อนจะควานหาบางสิ่งใต้เตียงออกมา มันคือโซ่ล่ามขนาดใหญ่.... " นอนเฝ้านายท่านคาร์โลที่นี่ ตอนเช้าค่อยถอดมันออก " แกร๊ก ! ปาลิดาตาโตเท่าไข่ห่าน จะร้องก็ร้องไม่ออก เกิดมาทั้งชีวิตเธอพึ่งจะเคยถูก ' ล่าม ' ข้อเท้าราวกับนักโทษแบบนี้เป็นครั้งแรก ร่างบางผุดลุกขึ้นนั่ง มองหญิงชราที่ท่าทางใจดีมีรอยยิ้ม แต่กลับลงมือล่ามเธอด้วยความเลือดเย็นแล้วตบหลังเบา ๆ พร้อมเสียงหัวเราะขบขัน ไอ้คนป่าเถื่อน ! ไหนว่าเราเป็นพวกพ้องเดียวกันไง ! พวกพ้องแบบใดถึงมาล่ามเธอไว้แบบนี้ !
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD