เอวากับฟ้าเดินมาถึงห้องน้ำ ฟ้าเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ เอวาจัดการล้างคราบน้ำแดงออกจากเสื้อตรงอ่างล้างมือ เมื่อจัดการคราบออกหมดแล้วเอวาก็บีบน้ำออกจากเสื้อให้ได้มากที่สุดเพื่อที่จะได้ไม่เปียกมาก ในจังหวะนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ นางมาล้างมืออยู่ข้าง ๆ เอวาและก่อนจะเดินออกไปก็แกล้งเดินชนกระแทกไหล่เอวา ซึ่งฟ้าก็เดินออกมาจากห้องน้ำและเห็นเหตุการณ์พอดี
“โอ๊ะ โทษที ไม่ได้มอง” นางขอโทษจอมปลอมเสร็จก็จะเดินออกไป เอวาขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจแต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรออกไป เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“นี่อีเฟรช มึงอีกแล้วเหรอ”
“แล้วจะทำไม” เฟรชหันไปมองหน้าฟ้าจากแววตาที่พร้อมบวกก็เปลี่ยนเป็นตื่นตกใจทันทีที่เห็นวัตถุสีเงินมันวาวจี้อยู่บริเวณสีข้างด้านหลังของนาง
“มึงไปซะ” ฟ้าขู่เสียงต่ำจ้องหน้าเฟรชอย่างเอาเรื่อง เห็นแบบนั้นเฟรชที่หัวเดียวกระเทียมลีบเลยยอมออกไปอย่างรีบร้อนทันที
“มันเรียนคณะเราเหรอวะ ถึงมาเข้าห้องน้ำที่นี่” ฟ้าถามเอวาในขณะเดินออกมา
“ก็ไม่น่าใช่นะ ไม่เคยเห็น”
“มันตามพวกเรามาชัวร์”
“โรคจิตรึไงวะ แค่พี่เวย์คนเดียวกูก็รำคาญจะแย่ นี่ยังมีเด็กเขาอีกคน
“ว่าแต่มึงอะฟ้า พกมีดมาด้วยเหรอ”
“กูบังเอิญหยิบติดมือมาเมื่อเช้า”
“เชื่อตายเลยมึง”
“เออน่า มึงก็หัดพกเอาไว้บ้าง กูว่าช่วงนี้ชีวิตมึงไม่ค่อยสงบเท่าไหร่นะ”
“จะว่าไปก็ ตั้งแต่พี่เวย์กลับมาอยู่ห้องข้าง ๆ กูนี่แหละ”
“มึงว่าไงนะ พี่เวย์อยู่ข้างห้องมึงนี่นะ”
“อืม กูเคยเจอเขาครั้งหนึ่งเมื่อวันหยุด”
“อ๋อ แล้วพี่แกก็เลยตามมาวอแวมึงอีกสินะ”
“ก็คงงั้น”
“เขาต้องการอะไรจากมึงวะวา”
“กูก็อยากรู้เหมือนกัน”
เลิกเรียน
“คืนนี้ไปเที่ยวกันมั้ยมึง แก้เซ็ง” ฟ้าชวนตอนที่เดินออกมาจากห้อง
“กูไป” ไอ้วีร์รีบตอบอย่างไว
“มึงอะวา ว่าไง” ฟ้าหันมาถามฉัน
“เออ ๆ ไปก็ไป มึงไลน์กลุ่มไปชวนไอ้ข้าวด้วย”
“มันท้องเสียไม่ใช่เหรอวะ” ไอ้วีร์ว่า
“มันอาจจะหายแล้วก็ได้ ลองถามดู”
“เออกูถามมันละ รอมันตอบ”
“งั้นเจอกันคืนนี้นะพวกมึง” เอวาบอกลาเพื่อนเมื่อเดินมาถึงลานจอดรถที่อยู่หน้าตึกคณะ ฟ้ากับไอ้วีร์ก็ขับรถมาคนละคันแต่จอดห่างจากเอวากันคนละแถว
เอวากำลังจะเปิดประตูรถฝั่งคนขับก็มีมือใครบางคนจับเข้าที่แขนของเธอ
“กลับด้วยคนสิ” เป็นพี่เวย์ที่เสนอหน้าหล่อ ๆ ของเขามาหาเอวาอีกแล้ว
ชีวิตของเอวาช่วงนี้ทำไมวัน ๆ ต้องมาเจอกับอะไรก็ไม่รู้ นี่เธอกำลังถูกสตอล์กเกอร์อยู่หรือไง
ทันทีที่เอวาเห็นหน้าพี่เวย์เธอก็กลอกตามองบนด้วยความเหนื่อยหน่ายทันทีก่อนจะปัดมือของเขาออกไปจากแขนของเธอและถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา
“พี่ วาถามจริงพี่เล่นอะไรอยู่เนี่ย”เธอมองหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ
“พี่ไม่ได้เล่น” เขาตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง
“แล้วจะมากลับด้วยอะไรเนี่ย”
“รถยางแบน ไม่รู้ไอ้เวรที่ไหนมันมาปล่อยลม” พี่เวย์แสดงสีหน้าหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัดให้รู้ว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น แต่คนที่หงุดหงิดไม่แพ้เขาในตอนนี้ก็คือเอวาที่เขาจะต้องมาวอแวเธออยู่แบบนี้
“ห้ะ ! จริงป้ะเนี่ย”
“อยากเห็นมั้ยล่ะ เดี๋ยวพาไปดู” พี่เวย์คว้าข้อมือเอวาและเตรียมจะลากเธอไปดูรถเขาจริงๆ เอะอะอะไรก็จะต้องถึงเนื้อต้องตัวเอวาตลอด
“ไม่อะ แล้วรถพี่ยางแบนมันเกี่ยวอะไรกับวาหรือไง”
“เกี่ยว” เกี่ยวตรงไหนก่อน
“เดี๋ยววาโทรตามไอ้วีร์ให้ดีกว่า มันน่าจะยังอยู่ในมอ”
“ไม่ต้อง”เขาจับมือเธอข้างที่ถือโทรศัพท์อยู่เป็นเชิงห้ามเอาไว้ก่อนจะเอ่ยว่า “จะบอกมันทำไม”
“เอ้า ก็ไอ้วีร์มันเป็นน้องพี่เวย์ไงคะ” เอวาสะบัดมือออกจากมือเขา
“มันไม่ได้อยู่ที่เดียวกับพี่เหมือนเอวาซะหน่อย” เพราะไอ้วีร์เดินทางไปกลับที่บ้านทุกวัน บ้านมันอยู่ไม่ไกลจากมหา’ลัย ความจริงพี่เวย์เองก็อยู่บ้านแต่เพิ่งจะออกมาอยู่คอนโดเดียวกับเอวา
“งั้นก็กลับรถไฟฟ้าไงพี่”
“ขี้เกียจ” แต่ขยันมายุ่งกับเอวาเหลือเกิน
“เดี๋ยวนะ คือยังไงพี่ก็จะต้องมาวุ่นวายกับวาให้ได้เลยใช่มั้ย”
“วุ่นวายอะไร คนกันเอง” ว่าไปนั่น
“พอ หยุด วาไม่คุบกับพี่แล้ว หลบด้วยค่ะจะกลับแล้ว” เอวาดันตัวพี่เวย์ให้พ้นทางที่เขายืนขวางประตูรถอยู่ แต่พี่เวย์ไม่สะทกสะท้านอะไรทั้งนั้น เขายังยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน ไม่ว่าเอวาจะออกแรงเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่เขาก็ไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว
จนสุดท้ายพี่เวย์ก็คว้ากุญแจรถออกมาจากมือเอวาแล้วเป็นฝ่ายเปิดประตูฝั่งคนขับแล้วเข้าไปนั่งซะเอง เอวาพยายามจับแขนเขาแล้วออกแรงดึงให้เขาออกมาจากรถแต่ก็ไม่เป็นผลเช่นเดิม
“ขึ้นมา” เขาสั่งเอวาราวกับเป็นเจ้าของรถซะเอง เอวาไม่มีทางเลือกเพราะถึงยังไงนี่ก็เป็นรถเธอ ถึงคอนโดจะอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าแต่เรื่องอะไรเธอจะต้องเป็นฝ่ายไปเบียดกับผู้คนแออัดที่มาพร้อมกับกลิ่นเหงื่อใครต่อใครแบบนั้นในช่วงเเวลาเดินทางของคนส่วนมากแบบนี้ทำไม
เอวาจึงต้องจำใจเป็นผู้โดยสารขึ้นรถตัวเองโดยมีสารถีเป็นอดีตคนรักอย่างพี่เวย์ เธอเลือกเปิดประตูด้านหลังแล้วเข้าไปนั่งแทนที่จะเป็นที่นั่งข้างคนขับเพราะเธอไม่อยากนั่งใกล้เขา
“มานั่งหน้า” พี่เวย์ไม่ยอมออกรถ เขามองเอวาผ่านกระจกมองหลังพร้อมกับสั่งเอวาด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้น เขาคงคิดว่านี่เป็นรถตัวเองไปแล้วจริง ๆ
“ ไม่ วาจะนั่งตรงนี้”
“อย่าดื้อ”พี่เวย์ยังคงจ้องหน้าเอวาผ่านกระจกมองหลังไม่ละสายตาไปไหนและเร่งเธออีกครั้ง “เร็ว จะได้รีบกลับ” เอวาจิ๊ปากอย่างขัดใจ เธออยากกลับห้องแล้วก็จริงแต่ต้องไม่ใช่กับคนที่เธอไม่อยากเห็นหน้าที่สุดแบบนี้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลยจำใจต้องเปิดประตูเดินออกไปนั่งที่นั่งข้างคนขับอย่างที่เขาต้องงการ เมื่อเป็นที่พอใจของพี่เวย์แล้วเขาก็ออกรถทันที
เอวานั่งกอดอกและนั่งชิดเบาะไปทางริมประตูให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะริมได้ และหันหน้าออกไปกระจกรถ เธอไม่เห็นเขาแม้แต่ทางหางตาก่อนจะพูดออกมาว่า
“คนอะไรโคตรหน้าด้าน”
“พี่ได้ยิน”
“ก็พูดให้ได้ยินไง”
“เดี๋ยวนี้ปากร้ายนะเรา”
“ก็แค่กับบางคนเท่านั้นแหละ”
“หึ !”
ต่างคนต่างเงียบกันไปสักพักใหญ่ ๆ เอวารู้สึกสูญเสียพลังงานในการต่อปากต่อคำกับพี่เวย์มากกว่าเวลาเรียนซะอีก คนอะไรคุยด้วยแล้วโคตรเหนื่อย
บนท้องถนนวันนี้รถติดมากกว่าปกติและตอนนี้เธอกำลังติดไฟ จนเธอแอบคิดไปว่าพี่เวย์จงใจดึงเวลาไว้หรือเปล่า เพราะตอนที่รถขับมาถึงแยกตรงนี้สัญญาณไฟเพิ่งจะเปลี่ยนจากเขียวเป็นไฟเหลืองซึ่งปกติถ้าเธอขับเองก็จะไม่หยุดรอหรือแม้กระทั่งพี่เวย์ ในช่วงที่ยังเป็นแฟนกันก็ทำแบบเดียวกันเหมือนรถคันอื่น ๆ
เอวารู้สึกร้อนขึ้นมาเพราะในใจของเธอตอนนี้อยากออกไปให้พ้นจากพี่เวย์จะแย่แต่ทำไม่ได้ เธอเอื้อมมือไปกดปุ่มเร่งแอร์ให้แรงขึ้นมา2ระดับ
“เดี๋ยวนี้ขี้ร้อนเหรอ” คนข้าง ๆ ถามขึ้นมาทันที แต่เอวาไม่มองหน้าเขาและไม่สนใจจะตอบคำถามด้วย พี่เวย์เลยขยับตัวแล้วโน้มเข้ามาใกล้เอวาที่กำลังเลื่อนหน้าจอสม์ตโฟนเข้าแอปต่าง ๆ อย่างไม่รู้จะทำอะไร เอวารู้สึกเหมือนมีอะไรเข้ามาใกล้เธอเลยหน้าขึ้นมาแล้วก็พบว่าปลายจมูกของเธอเฉียดแก้มของพี่เวย์ไปนิดเดียว
“เข้ามาใกล้ทำไมเนี่ย” เอวาเบนตัวหลบไปด้านหลังแต่หลบไปไหนไม่ได้แล้วเพราะเธอนั่งชิดติดประตูรถมาตั้งแต่แรกแล้ว เธอเลยออกแรงดันไหล่ของพี่เวย์ให้กลับไปนั่งที่ตัวเองดี ๆ พี่เวย์ไม่พูดอะไรเขายกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจที่ได้แกล้งเธอ แล้วสัญญาณไฟก็เปลี่ยนเป็นสีเขียว