บทนำ
ในปี ค.ศ. 19XX โลกมนุษย์เริ่มปกคลุมด้วยความหนาวเย็นพร้อมกับผู้มีอำนาจที่เรียกขานตนเองว่า ‘แวมไพร์’ ได้เข้ามายึดครองโลก พวกเขาอาศัยร่วมกับมนุษย์โดยใช้เงินแลกกับเลือดหนึ่งขวด ใครให้ก็รอด..ใครไม่ก็ตาย
‘Ω’ (โอเมก้า) คือชนชั้นที่ต่ำที่สุด งานก็ไม่มี เข้าสังคมก็ไม่ได้ ถูกกดขี่ข่มเหงสุดๆ มีประโยชน์แค่ตอนผลิตทารกเท่านั้น
‘α’ (อัลฟ่า) ชนชั้นสูงสุดซึ่งส่วนมากล้วนเป็นแวมไพร์สายเลือดบริสุทธิ์และผู้ยึดครองโลกมนุษย์ มีมนุษย์บางส่วนเป็นอัลฟ่าเช่นกันและมีธุรกิจกับแวมไพร์
‘β’ (เบต้า) ชนชั้นระดับกลางหรือคนปกติทั่วไปส่วนมากเป็นมนุษย์และลูกครึ่งแวมไพร์ เบต้าจะมีงานทำซึ่งต่างจากโอเมก้าที่ต้องกลายเป็นเครื่องผลิตทายาทให้กับเหล่าแวมไพร์
เมื่อโอเมก้าเข้าสู่ช่วงฮีทจะถูกสวมปลอกคอเหล็กสีดำป้องกันไม่ให้แวมไพร์กัด(หรือก็คือการจับคู่นั่นเอง)และส่งเข้าคฤหาสน์เพื่อทำการผสมพันธ์กำเนิดทายาท
เว้นแต่ว่า ‘คู่แห่งโชคชะตา’ จะได้รับการยกเว้น
ถ้าจะถามว่าทำไมไม่ใช้ยา? บอกได้เลยว่าขายตัวสิบปียังซื้อไม่ได้เลย พวกแวมไพร์ชั้นสูงได้เพิ่มราคายา เพื่อที่โอเมก้าจะซื้อไม่ได้และจะได้กลายเป็นเครื่องระบายความใคร่กับเครื่องผลิตทารกให้พวกเขาได้ยังไงล่ะ
“แกเป็นโอเมก้าหรอ? ไปๆๆ ฉันไม่รับทำงาน ไม่อยากมีภาระตอนแกฮีทหรอกนะ”
“…ไม่เป็นไรครับ” ผมยิ้มให้แล้วเดินออกจากร้านมา เฮ้อ นี่มันร้านที่สิบได้แล้วมั้งตั้งแต่เช้าที่ผมเดินหางาน โอเมก้าอย่างพวกผมใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมากๆทั้งเรื่องงาน เรื่องสังคม ทุกคนมองโอเมก้าเป็นคนชั้นต่ำที่เกิดมาเพื่อให้อัลฟ่าใช้งานผลิตลูกก็เท่านั้น..
แม่ผมซึ่งเป็นผู้ชายและเป็นโอเมก้าถูกแวมไพร์ฆ่าตายเมื่อหลายปีก่อนเพียงแค่แม่ไม่ยอมนอนด้วย ผมถูกปล่อยให้รอดเพื่อรอใช้งานในฐานะเครื่องผลิตลูก น่าน้อยใจนะบางครั้งและถ้าหากโอเมก้าไม่สามารถให้กำเนิดทารกที่เป็นอัลฟ่าได้ ทั้งแม่และลูกก็ไม่ถูกยอมรับ…กลับต้องทนเป็นเครื่องผลิตลูกต่อไปส่วนพ่อผมตอนนี้เขากำลังสบายเลยล่ะ
ท่านเป็นอัลฟ่าชั้นสูงทำงานร่วมกับแวมไพร์ชั้นสูงเหมือนกัน เขาไม่แยแสผมเลย…เขาสนแค่ลูกชายอัลฟ่าที่เกิดใหม่ ไม่ยุติธรรมเลยนะ
“นั่นโอเมก้านี่หว่า กลิ่นหอมชะมัด”
“ผมมีชื่อนะเว้ย! ไอ้เวรนี่” ผมไม่ชอบใจเลย ผมมีชื่อให้เรียก ผมชื่อ ‘เทียร์’ แต่..พวกคนและแวมไพร์ชอบเรียกผมว่า ‘โอเมก้า’ ใช่ เรียกกันแต่แบบนี้มันก็น่าเบื่อนะครับ โอเมก้าทุกคนถูกเรียกแบบนี้หมด ชื่อพวกผมที่ได้มามันไม่มีความหมายเลยล่ะ
“อึก…” แต่แล้วอยู่ๆร่างกายผมก็รู้สึกแปลกไป…มันร้อน...หรือว่าผม เข้าช่วง ‘ฮีท’ แล้ว?
ตุบ!
“บ้า..ที่สุดเลย!” ผมล้มลงบนพื้นแล้วหอบหายใจรุนแรง ปวดหนึบที่กลางกาย..ที่ด้านหลังก็เหมือนจะเริ่มแฉะจากน้ำหล่อลื่นที่คัดหลั่งออกมายามฮีท ไม่..ผมไม่อยากฮีท ผมอยากได้ยา..
“เวรเอ้ย! แม่งฮีทไรตอนนี้วะ!”
“กลิ่นหอมชิบหาย!” ผมเงยหน้าขึ้นมองผู้คนรอบๆ อัลฟ่าจากทั่วสารทิศเริ่มมาทางผมแต่ส่วนมากเป็นแวมไพร์ เขี้ยวของพวกเขาที่งอกออกมาเหมือนกับรอขย้ำผมนั้น..มันไม่น่าดูเลย ผมลุกขึ้นแล้ววิ่งออกมาจากตรงนั้น แต่แวมไพร์ส่วนมากพวกมันเร็ว!
อีกนิดเดียวพวกมันก็จะถึงผมแล้ว ต้องวิ่งแบบไม่สนอะไรทั้งนั้น
“…แม่..ผมไม่อยากอยู่เมืองนี้แล้ว” ผมวิ่งไปนึกถึงแม่ไป..ตอนแม่ฮีท แม่พยายามออกจากเมืองนี้แต่ก็ถูกลากกลับมาโดนข่มขืนที่บ้านหรือที่ต่างๆตามแต่พวกมันจะเอาแม่ไป แม่ยอมออกห่างผมเพื่อให้ผมรอด..แต่ตอนนี้ผมอยู่คนเดียว ผมจะหนีรอดยังไง
"แฮ่ก..แฮ่ก..ได้โปรด…แม่ครับ…”
ระหว่างที่ร่างเพรียววิ่งหนีเหล่าอัลฟ่าที่ตามมา กลิ่นหอมยังคงออกมาจากตัวเขาเรื่อยๆ แวมไพร์ทุกสารทิศพร้อมใจกันกรูเข้ามาหาเทียร์
กลิ่นฟีโรโมนมันแรงมาก มากจนอัลฟ่าที่ทนเก่งๆยังคุ้มคลั่งแต่ในขณะเดียวกันกลับมีแวมไพร์ความสามารถสูงวิ่งผ่านพวกเขาไปยังร่างเพรียวพร้อมฉกเทียร์เข้าสู่อ้อมแขนแกร่ง
หมับ!
“ได้โปรด..ฮึก..ช่วยผมด้วย” วินาทีที่ร่างเพรียวเงยหน้าขึ้นสบกับนัยน์ตาสีแดงโลหิต อะไรบางอย่างก็สปาร์คเข้าหากันและมีบางอย่างบอกกับพวกเขาทั้งสองว่าพวกเขานี่แหละคือ ‘คู่แห่งโชคชะตา’ แวมไพร์หนุ่มอ้าปากกว้างจนเขี้ยวสีขาวงอกยาวออกมา เขาจับให้ร่างเพรียวหันหลังแล้วกัดลงบนท้ายทอยทันที
กึก…
“โอ้ย! มันเจ็บ อื้ออ!”
“นายน่ะ..คือคู่ของฉัน” แวมไพร์อัลฟ่าทุกตนหยุดชะงักก่อนคุกเข่าลงพร้อมก้มหัวคำนับ
“ท ท่านอาร์ค!”
“โอเมก้าคนนี้คือคู่ของข้า พวกเจ้าจงอยู่ห่างและอย่าแตะต้องแม้แต่ปลายนิ้ว”
“ครับท่าน!” อาร์คอุ้มเทียร์กลับมาที่คฤหาสน์เพื่อจัดการ ‘ฮีท’ ของเทียร์รวมถึงตัวเขาเองที่กระหายจนแทบคุมสติไม่อยู่เพียงแค่ได้กลิ่นหอมจากเทียร์
“อ่า ให้ตายสิ…หอมเป็นบ้าเลย”