[Ta‘s part]
ผมมาอยู่ที่นี่ได้เกือบห้าวัน ผมหลับไปสองวันก่อนจะฟื้นขึ้นมา ด้วยที่สภาพและร่างกายตัวเองไม่ปกติ ผมไม่กล้าออกไปไหน เพราะยังไม่สามารถที่จะควบคุมอาการของตัวเองได้ ผมทำได้แค่เก็บตัวอยู่ที่นี่สักพัก แล้วค่อยออกไปข้างนอก เค้กยังคงนอนรอผมอยู่ เธอยังไม่ตาย ผมต้องหาทางช่วยเธอ และคำพูดของน้องสาวของเค้กที่ยังคงดังก้องในหัวผม ‘ฉันช่วยคุณได้นะ’ ผมอยากกลับไปใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม อยากกลับไปสนุกสนานกับพี่น้องตัวเอง ผมกำโทรศัพท์ในมือแน่น ที่มันมีสายที่ไม่ได้รับกว่า 300 กว่ามิสคอล และข้อความอีกไม่รู้จักกี่ร้อยข้อความ ผมยังต้องอยู่ในสถานะแวมไพร์ ผมพยายามปรับตัวเองให้ชิน ให้สามารถออกไปเผชิญกับโลกภายนอกได้อย่างปกติ และผม...ยังคงกินเลือดมนุษย์เป็นอาหาร ผมไม่ได้ล่าเองแต่โรสเป็นคนล่ามาให้ผม ผมยังไม่แกร่งพอที่จะออกไปฆ่าผู้คนพวกนั้นด้วยมือของตัวเอง และกฎบ้าบอที่ผมรู้มาจากโรส มันช่างเป็นเรื่องที่ผมเกินจะรับได้
“มายืนเศร้าอะไรตรงนี่คะ” โรสเธอเดินเข้ามากอดผมจากด้านหลัง เธอพยายามที่จะล่วงเกินผมตลอด ผมเลยแกะมือเธอออก
“อย่าทำแบบนี่กับผม”
“ทำไมคะ ยังห่วงอีมนุษย์สาวนั้นอยู่หรือไง อีกไม่นานหล่อนก็ตายแล้วละค่ะ อยู่ได้ไม่นานหรอก”
“อย่าพูดแบบนั้น เธอยังไม่ตาย!!”
“เสียงเข้มขึ้นมาทันทีเลยนะคะ ตกจากผาสูงขนาดนั้นรอดได้ก็คงจะแปลก”
“คุณยังรอดมาได้เลย”
“หรือว่า...คุณจะเอาเซรุ่มจากฉันไปฉีดให้เธอดีละคะ เธอจะได้เป็นแวมไพร์”
“ไม่! ผมไม่อยากให้เธอมาทรมานแบบผม และไม่อยากให้มือบริสุทธิ์ของเธอจะต้องมาเปื้อนเลือด” เธอยิ้มเยาะมุมปากขึ้นทันที ก่อนจะพูดขึ้น
“ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้อยู่แล้วละคะ แวมไพร์ในเมืองเนี่ยก็มีแค่ฉันกับคุณ นอกจากคุณจะให้เธอดื่มเลือดคุณ เธอก็จะเป็นแวมไพร์เหมือนกัน” ผมยังคงจ้องสายตาอันเจ้าเล่ห์ของโรสเขม็ง ผมไม่เคยอยากให้เค้กจะต้องมาทรมานแบบนี่ ผมไม่อยากให้เธอตกอยู่ในสถานะแบบเดียวกับผม ผมไม่อยากให้เธอต้องมาเปื้อนเลือด ผมเชื่อว่าสักวันเธอจะต้องฟื้นขึ้นมาอย่างปลอดภัย
“แต่ถ้าคุณทำแบบนั้นจริงๆ ฉันฆ่าเธอแน่” เธอพูดด้วยสีหน้านิ่งๆ ก่อนจะเดินออกไป ผมถอดหายใจออกมาทันที เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอะไรต่อไป จะอยู่ที่นี่ต่อหรอ ผมคงทำไม่ได้แน่ๆ ‘ฉันช่วยคุณได้นะ’ ตลอดเวลาผมนึกถึงคำพูดของน้องสาวเค้กมาตลอด บางทีเธออาจจะช่วยผมได้จริงๆ ก็ได้ หรือผมจะไปหาเธอดี...
กริ๊ง~ ♫~* กริ๊งง~ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมยกขึ้นมาดูก็พบว่า...พี่ชายผมเป็นคนโทรเข้ามา เสือต้น!
(“โฮ้!! ไอ้ต้า!!! ไอ้น้องเวร!! มึงหายไปไหนมา”)
“ใจเย็นๆ สิพี่ ทำไมต้องด่าผมขนาดนั้นด้วย”
(“มึงจะให้กูใจเย็นได้ยังไง มึงหายไปห้าวัน สามสิบนาที ยี่สิบสองวินาทีเลยนะโว้ย”)
“ผมขอโทษ”
(“แล้วมึงอยู่ไหน! ตำรวจตามหาผมอยู่”)
“ผม...อยู่บ้านเพื่อนนะครับ”
(“บ้านเพื่อน! เพื่อนคนไหนของมึง ไอ้เต้โทรหาเพื่อนมึงทุกคน ไม่มีใครเห็นมึงเลย”)
“เรื่องมันยาวนะพี่ต้น เดี๋ยววันหลังผมจะเล่าให้ฟัง”
(“ไม่ต้องเลยมึง อย่ามาดื้อกับกู กลับมาบ้านเดี๋ยวนี่! ไอ้ต่อ ไอ้ตอง ไอ้เต้ เป็นห่วงมึง คิดว่ามึงตาย!”)
“ขอเวลาอีกสองวันนะพี่ต้น ผมจะกลับ”
(“ไอ้ต้า! มึงเป็นน้องกูนะโว้ย มีปัญหาอะไร บอกกันดิว่ะ มึงจะเก็บไว้คนเดียวเพื่ออะไร ดูจากอารมณ์มึงกูก็ดูออก ว่ามึงไม่โอเค”) ผมจะบอกพี่ยังไงละพี่ต้น เป็นใครก็รับไม่ได้ทั้งนั้นแหละ ผมไม่ใช่มนุษย์นะพี่ ผมไม่เหมือนเดิม พี่จะยืนคุยกับผมได้เหมือนเดิมหรือยังไง มันเป็นไปไม่ได้เลย ตอนนี่ผมก็เหมือนตายแล้วเหมือนกัน...โอกาสที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม ผมยังไม่รู้เลยว่าจะมีโอกาสนั้นไหม
“ครับ! ผมเคยโกหกพี่ได้ด้วยเหรอ อีกสองวันเจอกันนะครับ” ผมพูดออกมาน้ำตาแทบล่วง แต่ก็ยังต้องพูดให้ดูปกติที่สุด เดี๋ยวพี่ต้นจะจับได้ แล้วจะพลอยไม่สบายใจไปด้วย ผมขอเวลาสองวันเท่านั้นแหละ ขอเวลาในการควบคุมตัวเองอีกหน่อย แล้วผมจะกลับไป
(“เออ!! รีบมาแล้วกัน กูจะได้ให้ไอ้ต่อจัดบุบเฟ่จานใหญ่ให้”) โคตรคิดถึงอาหารฝีมือพี่ต่อ แต่ลิ้นผมมันคงไม่รับรสอะไรอีกแล้ว มันคงไม่ได้ลิ้มรสชาติความอร่อยของฝีมือพี่ชายตัวเอง นอกจากกลิ่นของเลือดเท่านั้นที่แตะจมูกและลิ้นผมได้
[End of Ta’s part]