SO FAKE l INTRO
INTRO
[ PHUN PART ]
" หมอปุณญ์คะ ช่วงนี้เหนื่อยหน่อยนะคะ...ถ้าหมอปริ๊นซ์กลับมาคงจะดีขึ้นกว่านี้ "
เสียงพยาบาลสาวคนสวยเอ่ยขึ้นมาแผ่วเบา เธอหันมากระซิบกระซาบกับผมอยู่บ่อยๆ ซึ่งผมก็ทำได้แค่ระบายยิ้มเจือจางส่งคืนเธอเท่านั้น นอกจากเอกสารของคืนนี้จะเยอะมากๆ แล้ว จนถึงเวลานี้ข้าวสักเม็ดยังไม่ตกถึงท้องผมเลยว่ะ...เพราะว่าจรรยาบรรณแพทย์มันเยอะไปหรือไงไม่รู้ทำให้เวลาเกือบตีสี่ครึ่งผมยังตาแข็งทื่ออยู่โรงบาลฯ กลางเมืองนี่!
ส่วนหมอปริ๊นซ์ที่ว่าก็คือคุณหมอแผนกเดียวกันกับผมเอง พวกผมอยู่แผนกศัลยแพทย์ ช่วงนี้เขาได้หยุดพักร้อนสองอาทิตย์ (ซึ่งผมก็อยากมีวันนั้นเหมือนกัน) วันนี้คือวันสุดท้ายที่เขาได้หยุดแต่ก็ยังไม่กลับมาเพราะว่าเกิดตกเครื่องเพราะพายุเข้ากะทันหัน...นั่นไง สาเหตุที่ผมนั่งอยู่โรงบาลฯ มาสามวันสองคืนติดๆ ถ้าไม่ได้กาแฟช่วยไว้ป่านนี้คงไปนั่งอ่านเอกสารคนไข้กับยมบาลแล้วล่ะ...นึกถึงมันแล้วก็...
ไอ้เวรปริ๊นซ์...
ผมชื่อปริญ ชื่อเล่นคือปุณญ์ เป็นหมอแต่ไม่ได้มีจิตใจเหมือนหมอสักนิด มีแค่อาชีพเท่านั้นที่ดูอ่อนโยนสุจริต นอกนั้นชีวิตจริงผมโคตรของโคตรจะเหี้ยอาจจะเป็นเพราะว่าผมมีเพื่อนสมัยเด็กคนหนึ่งที่มันโคตรนรกแตกของจริงอยู่คนหนึ่งก็เป็นได้...มันชื่อ พอส
ตามจริงจะเรียกว่าเพื่อนก็ไม่เชิงเพราะผมอายุมากกว่ามัน แต่เพราะสันดานอย่างมันไม่เคยจะเอาอะไรสักอย่างบนโลกนี้มันก็เลยไม่เคยเรียกผมว่าพี่สักครั้ง ผมเคยบอกมันให้เรียกผมว่าพี่เจอมันตอกกลับมาว่า
กูไม่เคยมีพี่เป็นผู้ชายว่ะ...
แค่ครั้งนั้นครั้งเดียวผมก็ไม่เคยขอให้มันเรียกผมว่าพี่อีก...ผมทำงานเป็นหมอศัลย์ฯ ในโรงพยาบาล K8 ตั้งแต่เรียนจบ แล้วตอนนี้ชีวิตก็ราบเรียบดี ครอบครัวเหรอ? ไม่มีครับ พวกท่านเสียตั้งแต่ผมยังเด็กมากๆ ถ้าจะมีก็มีแค่คุณป้าของผมแต่ท่านอยู่ต่างประเทศนานๆ ผมจะไปเยี่ยมทีเพราะงานเยอะมากๆ ชีวิตผมมีได้ถึงทุกวันนี้เพราะครอบครัวของไอ้พอสเนี่ยแหละครับ พ่อของมันคือผู้อุปการะของผมเพราะงั้นผมถึงได้รักพอสมากๆ เหมือนกับว่ามันเป็นน้องชายของผมคนหนึ่งแต่เพราะมีเรื่องบางเรื่องระหว่างไอ้พอสกับพ่อของมันที่ไม่ลงรอยกันสักทีทำให้พอสมันกลายเป็นเด็กมีปัญหา เอาเป็นว่าแม่งนรกแตกมากๆ มากจนคุณอาจจะคาดไม่ถึงว่าเด็กคนหนึ่งจะเป็นได้ขนาดนี้เชียวเหรอ?
ระหว่างผมกับมันผ่านมาเยอะมากๆ เรียกได้ว่าผมรับมือกับมันได้ทุกรูปแบบไม่ว่ามันจะบ้าเลือดใส่ขนาดไหนเพราะงั้นเราถึงสนิทและเชื่อใจกัน แต่ก็มีบางมุมว่ะที่ผมมองไม่ออกว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ยิ่งพักนี้มันทำตัวซับซ้อนมากกว่าเดิมเพราะพี่ว่านแพร พี่สาวของมันน่ะโดนไอ้เด็กมอ.ปลายหักอกจนสติแตกต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลไปสักพัก ผมกับมันเลยไม่ค่อยได้ติดต่อกัน...
ครืด...
' พี่หมอปุณญ์ทานข้าวหรือยังครับ เวซื้ออยู่ร้านกาแฟ พี่หมอจะเอาอะไรมั้ยฮะ? '
ผมอมยิ้มทันทีที่อ่านข้อความจากน้องหมอจิตแพทย์ที่อยู่ชั้น 9 ในโรงบาลฯ ทีเดียวกัน น้องเขาชื่อ
เวทิศ
ครับ...หน้าตาก็ออกแนวบ๊องๆ แต่ว่าน่ารักฉิบหาย เสียดายตรงที่น้องแม่งมีผัวแล้วนี่แหละ...ผมไม่นิยมแดกของต่อจากใครด้วยดิ คิดแล้วแอบเซ็งว่ะ
' งั้น...ขอเป็นอเมริกาโน่ร้อนๆ สักแก้วแล้วกันนะครับ น้องเว... '
ผมพิมพ์ตอบแล้ววางโทรศัพท์ไว้ที่เดิม...
สักพักน้องหมอเวก็เดินยิ้มร่ามาหาผมที่วอร์ดพยาบาลของชั้น 12 พวกพยาบาลสะกิดผมให้รู้ตัวว่าน้องมาถึงแล้วผมก็เลยวางปากกาแล้วเงยขึ้นมายิ้มรับ แต่ว่า...
" ขอโทษนะฮะพี่หมอ...เด็กบ้าคนนี้มันคะยั้นคะยอจะขึ้นมาหาพี่หมอให้ได้เลยอ่า " น้องหมอเวพูดหน้าแหยงๆ แล้วยื่นแก้วกาแฟร้อนให้ผม ผมส่ายหัวให้น้องเวเล็กน้อยเพื่อบอกน้องว่าไม่เป็นอะไรก่อนจะรับแก้วกาแฟร้อนมาถือจากนั้นก็เลื่อนสายตาไปมองเหยียดน้องชายของเวทิศแทน ไอ้เด็กที่ยืนอยู่ข้างๆ ยักคิ้วกวนส้นตีนใส่ผมยิกๆ ถ้าไม่ติดว่าเป็นโรงพยาบาลนะ...เดี๋ยวมึงเจอกู
" ยังไม่ยกมือสวัสดีพี่หมอปุณญ์อีกเหรอ เจ้าเพทย์! "
" ไม่อ่ะ แต่อยากสวัสดีพี่หมอแบบฝรั่งเขาทำกันอ่ะ ได้ป่ะล่ะ? "
ได้...ได้ส้นตีนกูเนี่ย!
" แหม น้องเพทย์นี่ ขยันเต๊าะหมอปุณญ์ทุกครั้งที่เจอคุณหมอเลยนะคะ พวกเราเขินแทนไม่ไหวแล้วเนี่ย " พวกพยาบาลดูเหมือนจะชอบไอ้เด็กกร๊วกนี่อยู่ไม่มากก็น้อยล่ะครับ ผมล่ะโคตรเหม็นหน้ามันเลย...เด็กเชี่ยไร ปีนเกลียวฉิบหาย!
" เอาจริงๆ ป่ะ ผมน่ะ อยากให้หมอปุณญ์ของพวกพี่เขินผมเองมากกว่า " มันพูดกับพวกพยาบาลแต่จ้องหน้าผม ผมมองหน้ามันนิ่งๆ สายตาบ่งบอกชัดว่า กูไม่เล่น!
" เพทาย! หยุดพูดแบบนี้กับพี่หมอนะไอ้เด็กบ้า...กลับบ้านไปได้แล้วช่วงนี้สอบไม่ใช่เหรอ? " สักพักน้องเวทิศก็ลากไอ้เด็กเหี้ยนั่นออกไป มันหันหน้ามาหาผมแล้วขยิบตาให้ข้างหนึ่ง ผมยิ้มแล้วพูดแบบไม่มีเสียงกลับไปว่า
พ่อมึงตาย!
[END PHUN PART]
สองอาทิตย์ถัดมา...
ผู้ชายสูง ผิวขาวจัด เรือนผมสีเทาเหลือบบลอนด์นิดๆ ทำให้เขาดูเป็นหนุ่มแบดบอยแต่ก็น่าค้นหาสุดๆ ดวงตาเรียวสีดำสนิทคู่นั้นกำลังมองหญิงสาวบนตักตัวเองเหมือนกับว่าเขากำลังหลงใหลในตัวเจ้าหล่อนสุดๆ อยู่ แต่เปล่าเลย...นี่แค่วิถีหลอกล่อเหยื่อให้ติดกับดักของเขาเท่านั้นเอง...
ศรัณญ์ยกยิ้มมุมปากตามสเต็ปกลลวงของตัวเอง ลักยิ้มตรงแก้มปรากฏขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ทำเอาทุกคนหลงเสน่ห์เขาแบบถอนตัวไม่ขึ้น เจ้าหล่อนโน้มลงไปซบซอกคอของหนุ่มเจ้าของคลับ เสื้อเชิ้ตสีดำถูกเธอปลดกระดุมออกสามสี่เม็ดเผยให้เห็นแผงอกกว้างๆ ของเขา จังหวะรักของเขากำลังจะเร่าร้อนขึ้นอยู่แล้วเชียวถ้าหากไม่มีเสียงริงโทนโทรศัพท์มือถือของศรัณญ์แผดเสียงขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งหลายครั้งติดต่อกันแบบนี้!
" Shit! ลงไปก่อนเลยไป " เขาถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย สาวเจ้าคนนั้นถึงกับตกตะลึงที่ศรัณญ์เลือกที่จะรับสายโทรศัพท์แทนที่จะเลือกหล่อน!
" รันคะ...ไม่เอาสิ มินอุตส่าห์มาหาคุณถึงที่นี่นะ "
" มินตรา "
" อึก...กะ ก็ได้ งั้นมินขอรอรันข้างนอกได้ไหม...นะคะ มินคิดถึงคุณนี่นา "
" อืม "
เขาตอบรับแล้วดันตัวเธอให้ลุกออกไปได้แล้ว มินตราหน้าง้ำหน้างอแต่เธอก็ต้องยอมเพราะเขาเป็นผู้ชายที่เข้าถึงได้ยากมาก เดาใจก็ไม่ออกสักครั้ง จนถึงตอนนี้ เธอยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเป็นอะไรสำหรับเขากันแน่ แต่ที่แน่ๆ คือเธอหลงอยู่ในวงจรของศรัณญ์อย่างถอนตัวไม่ได้...ถึงแม้ว่าเธอเองก็รู้ดีว่าวงจรนี้ไม่ได้มีแค่เธอเพียงคนเดียว...
Rrrrrr!
" อะไรของมึงวะ... " เขาพึมพำในลำคอเบาๆ แล้วกดรับสาย ปลายสายเงียบไปสักพักก่อนจะถอนหายใจออกมายาวพรืด นั่นยิ่งทำให้มุมปากเขากระตุกยิ้มขึ้นมาง่ายๆ
" มีอะไรก็พูด...โทรมาแล้วถอนหายใจใส่กูเพื่อ? "
' พี่รัน '
" เออ รีบพูดดิ๊! ไอ้เด็กเหี้ย มึงโทรมาขัดจังหวะกูไม่พอ ยังมายื้อเวลากูอีก! "
' ไอ้เหี้ยหมอ '
" ... " ศรัณญ์เลือกจะเงียบบ้างแล้วถอนหายใจกลับไป อะไร? หมอคนนั้นทำอะไรอีกแล้วล่ะ? พอสก็ยังถอนหายใจกลับมาอีกหลังจากที่พูดถึงเรื่องเพื่อนสนิทตัวเองแล้วก็มาเงียบแบบนี้ เขาไม่ใช่เทพเจ้านะถึงจะตรัสรู้ได้ว่าพอสเป็นอะไร?
พอสนั่งอยู่บนโซฟาหนังสีดำด้วยใบหน้าเรียบนิ่งตามเคยมานานพอสมควรแล้ว ข้างในร่างกายของเขามันเดือดแทบจะปะทุออกมา ดวงตาตี๋กำลังจ้องมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ภายในจอมีภาพเด็กผู้ชายหน้าตาซีดเซียวเพราะพิษไข้รุมแต่ก็ยังสวยจนใจหาย ข้างๆ มีเพื่อนสนิทวัยเด็กนั่งอยู่ด้วย พอสได้ยินทุกคำพูดของปริญ...เพียงแต่เพื่อนของเขาไม่รู้สักนิดว่าพอสได้ยินเรื่องที่ปริญกำลังวางแผนจะพาเด็กคนนั้นหนีไปจากหาดเล็กของพอส พอสนั่งมอง นั่งฟัง มืออีกข้างหนึ่งก็ถือหูโทรศัพท์ตัวเองไว้แบบนั้นมาสักพัก...พอสจำได้ว่าเคยเตือนปริญไปแล้วว่าอย่ามายุ่งเกี่ยวกับเด็กของเขาแต่มันเลือกเองนะ...มันเลือกที่จะไม่เชื่อเขาเอง เพราะฉะนั้นจะมาโทษพอสทีหลังไม่ได้...
' ไอ้ปุณญ์มันหักหลังกู วันพรุ่งนี้มันจะกลับกรุงเทพฯ ได้ข่าวว่ามึงอยากแดกมันนักไม่ใช่เหรอ...คราวนี้กูจะไม่ห้ามมึงแล้ว อยากทำอะไรกับมัน...ก็ทำได้เลย '
" หึ "
ติ๊ด!
พอสวางสายไปแล้วแต่ศรัณญ์ยังหัวเราะกับตัวเองอยู่เลย...แค่นึกถึงหน้าเด็กคนนั้น ศรัณญ์ก็ยิ้มแก้มปริแล้วเถอะ...
" ไม่มีไอ้พอสคอยหนุนหลังแล้วสินะเด็กดี...อยากรู้เหมือนกันว่าคนดีของพี่จะทำยังไง หึหึ "
สำหรับศรัณญ์แล้วปริญคือคนที่เขาอยากลองเล่นด้วยอยู่หลายครั้งหลายหนแต่เพราะเด็กหมอคนนั้นดันเป็นเพื่อนสนิทของน้องชายอีกคน พอสไม่ให้ยุ่งเขาก็ไม่ยุ่งถือว่าจบๆ กันไป...แต่เอายังไงดีล่ะ พอสมันเปิดทาง โทรมาบอกว่าไฟเขียวขนาดนี้แล้วด้วย?
แค่คิดก็เสียววูบวาบเลยเนี่ย!