ตอนที่ 2 อัลฟ่าระดับเอสพลัส

2193 Words
เด็กชายที่เติบในสกุลเยี่ยนถูกบิดาของตนสั่งให้เผชิญหน้ากับกลิ่นฟีโรโมนส์ที่เข้มข้นยิ่งกว่าที่เด็กวัยเดียวกันควรทนไหว เขาต้องกัดฟันอดทน กำหมัดแน่นจนเล็บจิกฝ่ามือเลือดซึม แต่ยังคงนั่งนิ่ง ไม่ก้มหัว ไม่ยอมแพ้ต่อแรงกดดันนั้น การฝึกหนักหนาสำหรับเด็กเพียงสิบขวบแบบนั้นดำเนินต่อเนื่องหลายปี และมันหล่อหลอมให้หานลี่เติบโตขึ้นเป็นผู้ชายที่ ไม่เปิดเผยอารมณ์ ไม่ยอมอ่อนข้อให้ใครง่ายๆ และมักมองทุกสิ่งด้วยสายตารอบคอบระแวดระวัง เสียงของรองเท้าหนังราคาแพงระยับกระทบพื้นหินอ่อนเป็นจังหวะหานลี่หยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องหมายเลข VIP-01กลิ่นฟีโรโมนแผ่ว ๆ ของอัลฟ่าเล็ดลอดออกมา... กลิ่นที่เขาจำได้ดีว่ามันไม่ใช่ของบิดาเขายกมือขึ้นเคาะเบา ๆ ประตูก็ถูกเปิดออกจากด้านในและสิ่งที่เห็นก็ทำให้หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะ ชายวัยกลางคนในชุดสูทสีเข้มยืนอยู่ข้างเตียงบิดา สายตาคมกริบกวาดมามองเขาอย่างประเมินค่า “คุณคือ… ทายาทของเยี่ยน จวินหาน?” น้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่มีแรงกดดันบางอย่างที่ทำให้หานลี่เผลอกำมือแน่น “ไม่ทราบว่าคุณคือ?” หานลี่เองก็ประเมินมองชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเช่นกันเพราะเหตุใดเขาถึงไม่รู้จักกับคนผู้นี้เลย “พ่อของเธอคงไม่เคยพูดถึงเรื่องฉันให้เธอฟังเลยล่ะสิ เรียกฉัน อาเสิ่นก็ได้ ฉันกับพ่อของเธอกับหุ้นส่วนอีกสองคนเราร่วมกันสร้างเยี่ยนหัวเซ่อ มาด้วยกันตอนนั้นเธอน่าจะยังไม่เกิด หลังจากนั้นฉันมีเหตุจำเป็นที่ต้องเดินทางไปประเทศทีก็เลยทำให้ขาดการติดต่อกับ จวินหานไป แต่ก็ยังคงติดตามงานของเยี่ยนหัวเซ่อ" “อย่างนั้นหรือครับ แล้วนี่พ่อผม?” ชายหนุ่มมองไปทางร่างที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงพร้อมสายแสดงสัญญาณชีพและสายน้ำเกลือระโยงระยางไปหมด “จวินหานเพิ่งได้รับยาระงับปวดแล้วเพิ่งจะหลับไปเมื่อครู่ก่อนเธอมา เอาล่ะวันนี้ฉันมีโอกาสได้กลับมาเยี่ยมเยียนเพื่อนเก่า เห็นเขายังมีลมหายใจอยู่แบบนี้ก็ดีมากแล้ว ฉันควรจะกลับเสียที เธอจะได้อยู่ดูแลพูดคุยกับเขาหลังจากที่ฟื้น งั้นฉันขอตัวกลับก่อน ไว้มีโอกาสจะไปเยี่ยมเธอที่ บริษัทนะ หานลี่” การปรากฏตัวของชายวัยกลางคนในวันนี้ ทำให้หานลี่รู้สึกประหลาดใจจนต้องชะงักเขาไม่เคยเห็นใบหน้าคนผู้นี้มาก่อนในวงสังคม หรือแม้แต่ในแวดวงธุรกิจของตระกูลเยี่ยน แต่สายตาคมเย็นคู่นั้น… กลับมองเขาเหมือนคนที่รู้จักกันมานาน และกำลังชั่งน้ำหนักระหว่าง “มิตร” หรือ “ศัตรู” หานลี่ชายหนุ่มร่างสูงขยับตัวเล็กน้อย เพื่อหลบมุมสายตาของอีกฝ่ายก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้องไป สายตาของชายผู้นี้นั้นกลับรู้สึกถึงแรงกดดันที่หนักหน่วงเหมือนถูกตรึงไว้กับพื้นกลิ่นฟีโรโมนอัลฟ่าที่ปะปนอยู่ในอากาศ มีความคมและเข้มจนทำให้หัวใจเขาเต้นแรงอย่างไร้เหตุผล “วันนี้ที่ฉันมาก็เพื่อมาถามสารทุกข์สุกดิบตามประสาเพื่อนสนิทกับเรื่องบริษัทกับคุณพ่อเธอ” เสียงทุ้มเรียบเอ่ยขึ้นแม้จะไม่มีแววหยาบคาย แต่เยี่ยนหานลี่สัมผัสได้ถึงเส้นแบ่งบาง ๆ ของอำนาจที่อีกฝ่ายกำลังกางออก เขาเหลือบไปมองบิดาที่นอนนิ่ง ดวงตาปิดสนิท ร่างกายเต็มไปด้วยท่อและเครื่องวัดชีพจร ความเงียบในห้องเหมือนกลืนทุกคำถามลงไปในหลุมลึกของความลับ “อาเสิ่นตกลงแล้วคุณเป็นใครกันแน่” หานลี่เอ่ยเสียงต่ำ ชายผู้นั้นหัวเราะเบา ๆ เหมือนไม่ใส่ใจแต่เสียงนั้นเสียงลมเฉือนผ่านใบมีด “เธอไม่ต้องกังวลเรื่องที่ฉันเป็นใครหรอกหานลี่ อีกหน่อยเราจะได้เจอกันบ่อยขึ้น” ชายวัยกลางคนเอ่ยจบแล้วก็ก้าวออกจากห้องไป ทิ้งปริศนาการปรากฏตัวของเขาให้หานลี่ได้ขบคิด คำพูดของชายวัยกลางคนนั้นไม่ต่างจากประกาศสงครามเงียบ ๆ และหานลี่ชายหนุ่มก็รู้ทันทีว่า วันนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเกมอำนาจ ที่อาจลากเขาเข้าสู่เงามืดของตระกูลโดยไม่มีทางถอย ห้องประชุมชั้นสามสิบแปดของบริษัท เยี่ยน หัวเซ่อ เมดิคัลแอนด์แวคซีนเซนเตอร์ กระจกบานสูงจรดเพดานล้อมรอบห้องประชุม เปิดให้เห็นภาพเมืองซียามสายที่เต็มไปด้วยกลุ่มอาคารตึกสูงระฟ้าในย่านธุรกิจ บนโต๊ะยาวสีน้ำตาลเข้มมีเอกสารปึกหนา และจอโปรเจกเตอแสดงแบบจำลองสามมิติของ แผ่นเจลฟิล์มปิดต่อมฟีโรโมน ฮั่น ฉื่อเฉิน ชายหนุ่มร่างกายสูงโปร่ง ผมยาวดำขลับเกล้าผมเพียงหลวม ๆ ดวงตาคมเรียบแต่มักซ่อนประกายคำนวณอยู่ลึกๆ เขาเป็นผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์และวิจัยเพื่อการผลิต ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแม่นยำและเย็นชาของบริษัทนี้มาหลายปี วันนี้บนโต๊ะประชุมเบื้องหน้าของผู้เข้าร่วมการประชุม เขาวางต้นแบบแผ่นเจลขนาดเล็กเท่ากับปลาสเตอร์ยาปิดแผลแต่เนื้อสัมผัสกลับ โปร่งแสงและเป็นสีออกฟ้าอ่อน “โครงการวิจัยนี้…” ฉื่อเฉินเอ่ยเสียงเรียบ “จะช่วยลดปัญหาการปะทุของฟีโรโมนในพื้นที่สาธารณะทั้งในช่วงฮีตและรัท” ชายหนุ่มหันสายตามองกรรมการแต่ละคน “มันไม่เพียงป้องกันเหตุรุนแรงจากสัญชาตญาณของมนุษย์ได้ แต่มันยังเพิ่มโอกาสควบคุมตลาดกลุ่มโอเมก้าและอัลฟ่าที่ทำงานในสายอาชีพเสี่ยงๆ ได้เป็นอย่างดี” หนึ่งในผู้บริหารอาวุโสเลิกคิ้วสูงก่อนจะเอ่ยขึ้น “คุณกำลังจะบอกพวกเราในที่นี้ว่าสามารถวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์นี้ได้ทั้งกับภาครัฐและเอกชน?”รอยยิ้มมุมปากผุดขึ้นอย่างบางเบา “ถูกต้องครับ และเราจะเป็นผู้ผลิตรายแรกที่ผูกขาดตลาดนี้” ฮั่นลื่อเฉินเขาไม่ได้พูดต่อว่า แผ่นเจลนี้ยังมีความสามารถในการควบคุมระดับฟีโรโมน ที่สามารถตั้งค่าให้แผ่วลงจนแทบตรวจไม่พบ หรือเพิ่มความเข้มข้นเพื่อจงใจกระตุ้น เทคโนโลยีและผลการวิจัยระดับมาสเตอร์พีชนี้… หากตกไปอยู่ในมือคนผิด อาจเปลี่ยนจากการปกป้อง เป็นอาวุธในเกมการเมืองของตระกูลใหญ่ๆ ได้ทันที ขณะที่กำลังประชุม ฮั่นฉื่อเฉินเหลือบมองเอกสารลับบางส่วนที่แนบมากับแฟ้ม ที่มีชื่อ “เยี่ยนหานลี่” ปรากฏบนมุมกระดาษราวกับบ่งบอกว่า ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้… อาจไม่ใช่แค่เพื่อการค้าแต่เพื่อ “การควบคุม” ใครบางคนด้วย ก่อนที่เสียงโปรเจกเตอร์ในห้องจะดับลงและ เหลือไว้แต่เพียงความเงียบที่ปกคลุมห้องประชุมหานลี ชายหนุ่มที่อยู่ในชุดสูทเข้ารูป นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะในตำแหน่ง ประธานเยี่ยน หัวเซ่อ เมดิคัลฯ ดวงตายาวเรียวคมทอดมองเอกสารรายงานผลการทด ลองตรงหน้าอย่างเฉยชา แม้กระนั้นฮั่นฉื่อเฉิน ก็ยังพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงมั่นคงเช่นเดิม “การพัฒนาตัวฟิล์มเจลรุ่นที่สามนี้ เราได้ปรับเป็นสูตรนาโนพอลิเมอร์และในส่วนของตัวกระจายตัวยาระงับฟีโรโมนให้ซึมซาบลงสู่ผิวได้เร็วขึ้น ภายในสิบถึงสิบห้าวินาทีก็สามารถลดระดับฟีโรโมนได้กว่าเก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก” หานลี่เปิดหน้าพลิกเอกสารที่เขาได้รับก่อนการเข้าประชุมจึงเอ่ยขึ้น “ผมได้อ่านผลสรุปจากทางแล๊ปแล้ว” หานลี่ขัดขึ้น ดวงตาคมกริบของเขายังคงไม่ละจากตัวเลขบนกระดาษ “คุณ ฉือเฉิน ผมมีข้อสงสัยสัตว์ทดลองกับอาสาสมัครที่คุณใช้… ผมไม่คิดว่ามันจะพิสูจน์อะไรได้มากพอ” ภายในห้องประชุมเงียบลงในชั่วอึดใจ ฉื่อเฉินชายหนุ่มผู้จัดการแผนกฯเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ท่านประธานหมายความว่าอย่างไรหรือครับ?” “ในส่วนของสัตว์ทดลองมันไม่มีสัญชาตญาณและความรู้สึกที่ซับซ้อนเหมือนกับมนุษย์ และอาสาสมัครที่พวกคุณสุ่มหามาได้ส่วนใหญ่ก็เป็นเพียงคนธรรมดา ไม่มีพันธุกรรมหรือโคโมโซมพิเศษอะไร?” หานลี่เอ่ยพร้อมกับวางปากกาลงช้า ๆ “ถ้าผมจะต้องลงทุนลงแรงกับผลิตภัณฑ์นี้ ผมเองก็อยากเห็นมันทำงานได้กับ คนที่น่ากลัวที่สุดอย่างอัลฟ่าระดับสูงหรือเอสบวกในช่วงรัท หรือโอเมก้าในช่วงฮีทแบบที่มีประสิทธิภาพแบบเฉียบพลัน” สายตาของหานลี่นั้นทั้งเย็นเยียบและแอบแฝงแผนการ “ผมอยากได้ข้อมูลที่ไม่ใช่จากห้องแล็บ… แต่จากสนามจริง” คำพูดนั้นของท่านประธานหานลี่ทำให้หลายคนในห้องประชุมหันมามองกันอย่างไม่สบายใจฉื่อเฉินเองเพียงยิ้มบาง ราวกับรู้ดีว่าท่านประธานกำลังวางหมากให้การทดสอบครั้งต่อไป “โครงการวิจัยในครั้งนี้จะไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจเล็กๆ หากทำสำเร็จมันก็จะสามารถใช้กับทหารของกองทัพได้ และแน่นอนว่าดิลธุรกิจนี้จะไม่ใช่แค่ดิลระหว่างบริษัทหรือตัวแทน แต่จะกลายเป็นการค้าระหว่างประเทศระหว่าง เยี่ยนหัวเซ่อฯ กับกลาโหม” ฮั่นฉื่อเฉินนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนเอ่ยอย่างระมัดระวัง “ท่านประธานหมายถึง… หากเราทำให้ผลิตภัณฑ์รุ่นนี้ผ่านการทดสอบสนามจริงได้ ผลลัพธ์แล้วมันจะถูกนำเสนอให้คณะกรรมการของฝ่ายกลาโหมงั้นหรือครับ?” หานลี่เอนตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างช้า ดวงตาคมปลาบเรียวหรี่ลงเล็กน้อย “ไม่ใช่แค่กระทรวงกลาโหมภายในประเทศ… ฉื่อเฉิน” เสียงของหานลี่ต่ำและหนักแน่นก่อนจะเอ่ยขึ้นต่อไปอีกว่า “เรากำลังพูดถึงสิทธิบัตรทางการค้าในระดับระหว่างประเทศ กับหน่วยงานกลาโหมของรัฐพันธมิตร” ห้องประชุมกลับมาเงียบสนิท มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่ดังคลอคำพูดนั้นเหมือนประกาศชัดว่า แผ่นเจลฟิล์มปิดต่อมฟีโรโมนส์ ไม่ได้ถูกสร้างมาเพียงเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันของประชาชน แต่มันจะกลายเป็น อาวุธเชิงยุทธศาสตร์กลายเป็นเครื่องมือควบคุมพฤติกรรมและสัญชาตญาณของ อัลฟาและโอเมก้าในเขตทหาร การปฏิบัติการลับ หรือแม้แต่การควบคุมเชลยหานลี่เอ่ยต่ออย่างเยือกเย็น “ถ้ามันได้ผลจริง เราจะไม่ได้ขายแค่เพียงสินค้า แต่เยี่ยนหัวเซ่อฯ ของเราจะขาย ความได้เปรียบที่เหนือกว่าทุกๆ ประเทศ” ฉื่อเฉินสบตากับเขาและรู้ทันทีว่าความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำพูดนั้นคือนี่ไม่ใช่แค่โปรเจกต์ของบริษัทอีกต่อไป แต่เป็นหมากการเมืองที่สามารถทำให้ สกุลเยี่ยน กลายเป็นศูนย์กลางอำนาจใหม่ของภูมิภาค ภายในห้องทำงาน ข่งอวิ๋น เลขาส่วนตัวของท่านประธานวางหลังจากกลับมาจากการทำภารกิจข้างนอกแล้วจึงรีบแฟ้มเอกสารลงอย่างเบา ๆ ก่อนเงยหน้าขึ้นเอ่ย “ท่านประธานผมเกือบลืมไป ช่วงเวลา รัทของท่านตอนนี้ เป็นอย่างไรบ้างครับ? ผมหมายถึง…ฟีโรโมนส์กลิ่นดอกโบตั๋นของท่าน” คำถามนั้นทำให้สายตาของชายหนุ่มที่จดจ้องอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ต้องเหลือบมองมาอย่างเงียบ ๆ ช่วงเวลารัทก็คือช่วงภาวะที่อัลฟ่าเข้าสู่สภาวะหลั่งฟีโรโมนส์สูงกว่าปกติซึ่งภาวะนี้มัน เป็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนในเวลาเดียวกัน หานลี่ชายหนุ่มนั่งเอนตัวบนเก้าอี้หนังอย่างสง่างาม รูปร่างสูงโปร่ง ไหล่กว้างในสูทสีเข้มทำให้ภาพลักษณ์เขาคมชัดราวกับภาพวาด ดวงตาลึกนิ่ง จนยากจะอ่านความคิด “ยังอยู่ในเกณฑ์ควบคุมได้” เขาตอบเรียบ ๆ ด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำก่อนจะคลายเน๊กไทท์ที่คอเสื้อออกให้พอหลวมๆ กลิ่นหอมของดอกโบตั๋นจาง ๆ แผ่วลอยในอา กาศอบอวลอยู่ภายในห้องไม่แรงจนรบกวนประสาทรับรู้มากนัก แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธว่ามีอยู่จริง มันเป็นกลิ่นฟีโรโมนส์ที่ทั้งอ่อนโยนและทรงอำนาจ แฝงแรงดึงดูดบางอย่างที่บังคับให้คนรอบข้างต้องเผลอจับตามอง ข่งอวิ๋นจดอะไรบางอย่างลงในแท็บเล็ต ก่อนเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงระมัดระวัง “ถ้าเป็นเช่นนั้น… การทดสอบสนามจริงสำหรับรุ่นใหม่ของแผ่นเจลฟิล์ม อาจใช้ตัวท่านเป็นหนึ่งในผู้สวมใส่เพื่อควบคุมฟีโรโมนส์ได้” ปลายนิ้วเรียยาวข้อนิ้วมือขาวของหานลี่เคาะเบา ๆ ลงบนโต๊ะประชุมเป็นจังหวะเนิบช้า เสียงนั้นดังพอจะทำให้บรรยากาศในห้องนิ่งงัน “เรื่องนี้ไว้ฉัน… จะตัดสินใจเองว่าควรลงสนามนี่เมื่อไร” สายตาของเขากวาดไปทั่วห้องราวกับประกาศกลาย ๆ ว่าแม้เขาจะอยู่ในช่วงรัท หานลี่ชายหนุ่มก็ยังเป็นผู้ควบคุมฟีโรโมนส์ที่ค่อยๆ หลั่งออกมาเอาไว้ได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD