[Part of Maxwell]
ผมโดนยิงที่ต้นแขนแต่ดีที่กระสุนเข้าไม่ลึกมาก ตอนแรกที่ฟื้นขึ้นมาเจอเด็กน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่ง สงสัยเธอจะเป็นคนที่ช่วยชีวิตผมไว้ เมื่อผมรู้สึกถึงความปลอดภัยแล้ว ผมจึงพอวางใจได้แล้วหลับตาลงด้วยความอ่อนเพลีย เพราะอีกสักพักคนของผมต้องตามหาผมเจอแน่นอน
พอฟื้นขึ้นมาผมก็ได้รับความช่วยเหลือจากเด็กนั่นจริงๆ บ้านหลังเล็กริมน้ำที่เธอพบผมสองแม่ลูกที่แสนใจดีแถมยังให้ที่พักพิงทั้งๆ ที่เขาก็ยังไม่แน่ใจว่าผมเป็นคนดีหรือเปล่า
“แม่ให้เอากับข้าวมาให้ค่ะ”
ผมพยักหน้ารับใบหน้าหวานนั้น ผมทรงนักเรียนสั้นเสมอหูกับหน้าเปื้อนถ่านนั้นบ่งบอกได้ว่าเธอช่วยแม่ทำกับข้าวมา แต่พอวางถาดข้าวลงปุ๊บก็วิ่งหนีไปทันที
สงสัยเธอคงเห็นลีโอกรีดแขนของผมเพื่อเอากระสุนออก คงจะกลัว มีเด็กที่ไหนบ้างที่เห็นภาพแบบนี้แล้วจะไม่กลัว
“นายจะกลับเลยไหมครับ ผมจะได้แจ้งคนให้มารับ”
“อยู่ที่นี่สักสองสามวันค่อยกลับ”
ผมตอบแล้วเอนตัวลงนอนบนแคร่ไม้ใต้ถุนบ้าน
“ผมขอตัวไปดูรอบๆก่อนนะครับ”
ลีโอก้มทำความเคารพผมแล้วเดินออกไปทันที
นอนได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา ผมลืมตาแล้วหันไปดู ไม่ใช่ยัยเด็กที่ช่วยชีวิตผมไว้แต่เป็นแม่ของเธอ
“น้าเอาน้ำมาให้จ๊ะ”
ผมพยักหน้าเป็นคำขอบคุณแล้วยกมือไหว้แบบที่แม่ผมเคยสอนไว้ตามวัฒนธรรมของคนที่นี่
“ตามสบายนะ หายแล้วค่อยกลับกันก็ได้ แถวนี้ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สวน...น้าชื่อแก้วนะ”
เธอยิ้มให้ผมแล้วเดินจากไป ผมก็รู้สึกแปลกใจในท่าทีของน้าแก้วนะ ที่เธอไม่แสดงความกลัวพวกผมออกมาให้เห็นเลย เหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของเธอ
“นาเนียร์ เนีย!!!”
ช่วงสายของวัน เสียงของน้าแก้วเอ็ดลูกสาวครั้งที่สามหรือสี่แล้วก็ไม่รู้ มันเกิดขึ้นหลายครั้งจนผมไม่คิดจะนับมันอีก
ตั้งแต่ผมมาอยู่ที่นี่ ก็เป็นเวลาสองวันแล้ว ตลอดทั้งวันผมก็ได้ยินเสียงนี้เป็นประจำ ผมถึงได้รู้ว่าเด็กนั้นชื่อ นาเนียร์ เพราะเสียงที่เอ็ดและดุเธอของน้าแก้วดังวันละหลายๆ รอบ จนชื่อของเด็กน้อยแทบจะฝั่งอยู่ในหัวของผม
ยัยเด็กคนนี้ทั้งซนและแก่นเกินจะเป็นผู้หญิงได้ แรกๆผมก็รำคาญแต่ตอนนี้เริ่มชินแล้วผมก็เริ่มดูสองแม่ลูกทะเลาะกันเป็นเรื่องแก้เหงาของผมไปซะแล้ว
“นายครับ คนของเรารายงานมาว่า ตอนนี้ไอ่มาร์คพลิกแผ่นดินตามหานายไปทั่วเลยครับ ผมเกรงว่าสองแม่ลูกจะเป็นอันตรายได้”
“อืม”
ผมพยักหน้ารับรายงานจากลีโอคนสนิทแล้วหันไปมองนาเนียร์ที่วิ่งหนีไม้เรียวของน้าแก้วขึ้นต้นมะม่วงไป
“ลงมาเดี๋ยวนี้นะ!! วันนี้ถ้าฉันไม่ได้ฟาดแกให้หลาบจำอย่าเรียกฉันว่าแม่แกเลย!!”
“แม่ตีหนูทุกวันแม่ไม่เบื่อหรือจ๊ะ”
เสียงนาเนียร์ต่อล้อต่อเถียงแม่ของเธอแว่วมาแต่ไกล
“ผมให้คนของเรามารับเย็นนี้เลยนะครับนาย”
เสียงลีโอแว่วเข้ามาขัดตอนผมกำลังมองนาเนียร์เพลิน
“อืม”
ผมตอบลีโอแล้วมองไปยังนาเนียร์ที่ยังอยู่บนต้นมะม่วง ตั้งแต่เธอเห็นลีโอเอากระสุนออกจากต้นแขนของผม นาเนียร์ก็ไม่ใกล้พวกเราอีกเลย มีแค่ตอนที่น้าแก้วใช้ให้เธอเอากับข้าวมาให้พวกผมทุกมื้อเท่านั้น
พอน้าแก้วเดินหนีออกห่างจากต้นมะม่วงนาเนียร์ก็รีบปีนลงทันที สายตาของเด็กนั้นแอบมองที่ผมเป็นระยะแล้วรีบวิ่งไปทางสวนมะพร้าวทันทีที่เท้าถึงพื้น
“ขอโทษนะพ่อคุณ...น่าจะรำคาญบ้าง”
“ไม่เป็นไรครับ...ผมจะกลับวันนี้แล้วขอบคุณในความช่วยเหลือและไม่แจ้งตำรวจครับ”
ผมขอบคุณน้าแก้วจากใจจริง ผมรู้ว่าในใจลึกๆ ของน้าแก้วก็ยังกลัวผมกับลีโออยู่เช่นกัน แต่ก็ยังทำใจสู้ช่วยเหลือพวกผมไว้
“ไม่เป็นไรจ้ะ...น้าขอตัวนะ”
“ครับ”
“โฮ่งๆ โฮ่งๆ”
เสียงหมาดังมาแต่ไกลเหมือนมันวิ่งหนีอะไรบ้างอย่างมา ซึ่งผมก็เห็นเจ้านายของมันวิ่งนำหน้ามาอย่างไวเช่นกัน
“โธ่โว้ย!! ไอ่พวกหมาหมู่”
ยัยเด็กน้อยนั้นตัวเปียกไปด้วยโคลนสีดำ เนื้อตัวมอมแมม เศษไม้ใบหญ้าติดเต็มหัวไปหมด พอวิ่งมาถึงบ้าน นาเนียร์ก็นั่งหอบหายใจแรงด้วยความเหนื่อย ปากบ่นอะไรอยู่คนเดียวตรงบันได
ตั้งแต่เธอช่วยชีวิตผม ผมยังไม่ได้คุยอะไรกับเธอเลย วันนี้ผมก็จะกลับแล้ว ผมจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหาเพื่อที่คุยกับเธอสักหน่อย อย่างน้อยเธอก็เป็นผู้มีพระคุณของผม
“ขอบคุณนะ”
ผมบอกเธอจากทางข้างหลัง แต่พอได้ยินเสียงผม นาเนียร์ก็ตกใจรีบวิ่งหนีขึ้นขึ้นบันไดไปข้างบนทันที
“เนีย!! แม่บอกว่าอย่าวิ่งข้างบนหัดเป็นผู้หญิงซะบ้างซิ!!”
น้าแก้วตะโกนด่าลูกสาวจากทางหลังบ้านมารอบที่ล้านแปดแล้วของวัน
"หึ" ผมเผลอยิ้มออกไป โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่ายิ้มทำไม
¤¤¤¤
[Part of Narnia]
“ขอบคุณนะ”
พี่ชายเคราดกนั้นเดินมาจากข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่เห็นรู้สึกตัวเลย น่ากลัวอิ๊บหายเลย!
ฉันเลยตกใจวิ่งหนีขึ้นชั้นบนทันที
ฉันอยู่ข้างบนไม่ได้ลงไปทั้งช่วงบ่ายนี้ สองสามวันมานี้ไม่ได้อ่านหนังสือเลย ฉันอยากจะสอบติดที่กรุงเทพหรือไม่ก็โซนภาคเหนือในช่วงมอปลาย ถึงแม้ตอนนี้ฉันกำลังอยู่มอหนึ่งก็เถอะ
บรื้น บรื้น
เสียงรถขับเข้ามาจากทางหน้าบ้านทำให้ฉันรีบลุกออกไปดูจากทางหน้าต่าง เห็นรถหรูสีดำเงาขับเข้ามา 3 คัน พร้อมกับชายชุดดำทั้งหมด 8 คน
“โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง”
เสียงตูบเห่าดังลั่นบ้าน แต่พอแม่บอกให้หยุดมันก็หยุดทันทีแล้วนั่งลงข้างแม่อย่างเรียบร้อย
ฉันเห็นพี่เคราดกคุยกับแม่สองสามประโยคแล้วมองขึ้นมาทางหน้าต่างที่ฉันยืนมอง ฉันจึงรีบหลบอยู่ที่ขอบหน้าต่าง พี่เขาก็ขึ้นรถไป แล้วพี่ชุดดำคันหลังยื่นซองสีน้ำตาลให้แม่ จากนั้นรถทั้งสามคันก็ขับออกจากบ้านไป
¤¤¤¤
[Part of Maxwell]
ผมขอบคุณน้าแก้ว พอกำลังจะขึ้นรถสายตาอันแสนไวของผมเหลือบไปเห็นว่ามีคนแอบดูผมอยู่จากทางหน้าต่างชั้นสองของบ้าน พอเด็กน้อยนั้นเห็นผมมองกลับก็รีบหลบเข้าไปในบ้านทันที
ผมมันน่ากลัวตรงไหน แค่ผมไม่รู้จะคุยกับเด็กนั้นยังไง ก็ผมเป็นคนคุยไม่เก่ง
“สั่งคนของเราคุ้มกันบ้านหลังนี้จนกว่าพวกมันจะไม่มาป้วนเปี้ยนแถวนี้อีก”
ผมสั่งลีโอที่นั่งอยู่ข้างหน้าทันทีที่รถเคลื่อนตัวออกจากบ้านไป
“ครับนาย”
ผมเห็นหมาตัวนั้นของเธอวิ่งตามรถอยู่ไม่นานก็หยุด และเห็นร่างเล็กนั้นยืนอยู่หน้าบ้านไกลๆ ผมจึงอดยิ้มออกมาไม่ได้ แต่พอเห็นสายตาลีโอมองมาจึงรีบปรับหน้าให้เป็นปกติ
"นายสนใจเธอเหรอครับ พรากผู้เยาว์เลยนะนาย"
“ตอนนี้ที่บริษัทเป็นยังไงบ้าง”
ผมไม่ตอบคำถามมันที่เอาแต่กวน เปลี่ยนคำถามที่มันสำคัญและต้องการคำตอบทันที
“สถานการณ์ตอนนี้ยังเรียบร้อยดีครับ”
ลีโอหัวเราะเบาๆแล้วตอบผมด้วยหน้าจริงจัง
“อาการของแด๊ดละเป็นยังไง”
“ยังทรงตัวดีอยู่ครับแต่นายหญิงใหญ่แจ้งมาว่า นายใหญ่เหลือเวลาไม่นานแล้วครับ ให้นายรีบกลับด่วน”
“อืม...กลับวันนี้เลย”