[Part of Narnia]
มหาวิทยาลัย L
“เป็นไงบ้างเนียร์ เมื่อวานต้นบอกแกโดนพวกเจ้าหนี้ลุงของแกรุมกระทืบ”
ธารน้ำกระซิบถามเมื่อเห็นฉันเดินเข้ามาในห้องเรียน ไม่กล้าพูดดังเดี๋ยวเป็นจุดสนใจ
“ต้นกล้ามาช่วยฉันทัน เอ่อลืมถามมันไปเลยว่าไปหาฉันเมื่อวานทำไม? แล้วนี่วันนี้มันโดดเหรอ”
ฉันเห็นแต่แฝดน้อง ส่วนคนพี่ที่ช่วยฉันเมื่อวานหายไปจากห้องเรียนคาบแรกของวัน
“แฮงค์! เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่น ช่วงนี้คุณพ่อกับคุณแม่ไปต่างประเทศด้วยก็เลยตามสภาพ”
ธารน้ำบอกกับฉัน คุณหนูแฝดพวกนี้บ้านทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กับโรงแรมที่แพร่สาขาไปหลายจังหวัด ต้นกล้ามักจะมีอิสระทุกครั้งที่พ่อแม่ไม่อยู่บ้าน
“สมองดีแบบมันอ่านเลกเชอร์ก็เข้าใจแล้ว”
ฉันอิจฉาในความฉลาดของมันจริงนะ คุยได้ไม่นานอาจารย์ก็เดินเข้ามาฉันกับธารน้ำจึงก้มหน้าก้มตาจดเลกเชอร์กันต่อไปเพราะต้องจดให้ละเอียดพอที่จะให้คุณต้นกล้าอ่านรู้เรื่องและเข้าใจ
พอหมดคาบเรียนธารน้ำชวนฉันไปนั่งรอในร้านกาแฟใต้ตึกคณะ เพราะช่วงเวลาของอีกคาบเรียนห่างกันแค่ครึ่งชั่วโมง พวกเราจึงไม่ได้ไปไหนไกล พอถึงร้านกาแฟฉันบอกธารน้ำเดินเข้าไปก่อนและขอตัวเข้าห้องน้ำ
ระหว่างที่เดินไปเข้าห้องน้ำ ฉันรู้สึกว่าเหมือนมีคนเดินตามอยู่ตลอดเวลา จึงรีบก้าวเท้าเดินเข้าห้องน้ำที่มีนักศึกษาคนอื่นๆ อยู่เต็มห้องน้ำไปหมด พอเข้าห้องน้ำเสร็จเห็นกลุ่มที่เข้าก่อนหน้าแต่งหน้าเสร็จพอดีเลยเดินเนียนออกมากับกลุ่มนั้น ฉันแอบกวาดตาไปรอบๆ แต่ไม่เจอใครที่น่าสงสัยเลยสักคน สงสัยฉันคงคิดไปเอง แต่ก็ไม่ควรไว้ใจเมื่อวานอยู่ๆลุงยังโดนกระทืบเลย ฉันจึงรีบเดินไปหาธารน้ำที่ร้านกาแฟ
“อะ..ฉันสั่งมาให้แกด้วย”
ธารน้ำยื่นแก้วกาแฟมาให้แล้วก้มเล่นโทรศัพท์ต่อ
ระหว่างที่ดูดกาแฟฉันเหลือบไปเห็นผู้ชายชุดดำใส่หมวกแก๊ปยืนมองเข้ามาทางร้านกาแฟ เขายืนอยู่มุมเสาฝั่งตรงข้ามที่มีทะเลสาบขนาดเล็กของมหาลัย
“ธารน้ำแกดูผู้ชายคนนั้นซิ..ตรงข้ามร้านกาแฟพิงเสาอยู่”
“ไหนไม่เห็นมีสักคน”
ธารน้ำวางโทรศัพท์แล้วมองไปทางที่ฉันบอก
“อ้าว..หายไปไหนแล้ว”
“มีอะไรเหรอ”
“แต่งตัวแปลกๆ เหมือนไม่ใช่นักศึกษา”
“เขาคงมาติดต่ออะไรอย่างอื่นมั่ง ได้เวลาเข้าเรียนแล้ว”
ฉันกับธารน้ำเก็บของแล้วเดินขึ้นอาคารไป แต่ฉันก็ยังรู้สึกนะว่ามีคนคอยตามอยู่ ตั้งแต่เกิดเรื่องทำไมฉันรู้สึกระแวงไปหมดก็ไม่รู้
หอพัก S
“วันนี้ขอมีออเดอร์เยอะๆ หน่อยเถอะ”
ฉันลูบรถจักรยานยนต์ของตัวเองที่ซื้อมันมาด้วยน้ำพักน้ำแรง เป็นเงินเก็บที่ทำงานพิเศษตั้งแต่มอปลายจนถึงซื้อมันได้ตอนปีสอง
“เอาละนาเนียร์! ขอให้เป็นวันที่ดี...สุดยอดเลยออเดอร์เข้าตั้งแต่ยังไม่ออกหอเลยฉัน”
ยังร่ายคาถาไม่จบก็มีออเดอร์เด้งขึ้นมา ฉันรีบสวมหมวกกันน็อกสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจขี่ออกหอทันที
ตอนขี่รถออกหอมาเจอกับผู้ชายชุดดำใส่หมวกแก๊ป ยืนอยู่มุมเสาไฟฟ้าหน้าหออีกแล้ว มันคงบังเอิญละมั่ง
ออเดอร์ที่ 2 ฉันเจออีกแล้วหลังจากรับอาหารร้านที่สอง
ออเดอร์ที่ 3 ฉันก็เจออีกหลังจากส่งอาหารให้ลูกค้า
ไม่ใช่แล้วมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแล้ว ฉันต้องโดนตามอยู่แน่ๆ ฉันรีบกดออกงานแล้วโทรหาต้นกล้าทันที ถือสายได้ไม่นานมันก็รับสาย
“ต้นกล้า เสียงโคตรดังเลยอยู่ไหน”
(อยู่ผับ มีอะไรป่าว)
“ไปแต่หัววันเลย ผับเดิมหรือเปล่า”
(เออดิ)
“เหมือนมีคนสะกดรอยตามฉันเลยอะแก”
ขนาดที่ฉันคุยกับต้นกล้าก็รู้สึกว่ามีรถมอเตอร์ไซค์ขี่ตามหลังอยู่
(รีบมาหากูเลยเนียร์ อย่าวางสายนะมึง)
ฉันรีบบิดเร่งความเร็วพยายามไปเส้นทางที่รถเยอะที่สุดเพื่อไปหาต้นกล้าที่ผับประจำที่ชอบไปสิงสถิตอยู่ที่นั่น
พอฉันเลี้ยวรถเข้าผับก็รีบจอด แล้วส่องดูรถที่ตามมาจากกระจกข้าง ฉันเห็นรถที่ตามหลังอยู่จอดตรงทางเข้าผับ เขามองมาที่ฉันแล้วก็ขี่รถออกไปจากหน้าผับทันที
“เป็นไงบ้างวะมึง”
ต้นกล้าเดินออกมาหาพอดีที่เขาขี่รถออกไป ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อรู้สึกว่าตัวเองปลอดภัยดีแล้ว
“เฮ้อ! น่ากลัวฉิบหาย”
“วันนี้เอารถจอดไว้นี่ กูไปส่งมึงเอง แต่วันนี้กูมีธุระมึงรอได้เปล่า”
ฉันไม่อยากกลับคนเดียวจึงพยักหน้าตอบรับมันไป ต้นกล้ายื่นกุญแจรถให้ฉันเอาของไปเก็บ ฉันถอดฟอร์มส่งอาหารออกทิ้งไว้ในรถรวมกันกล่องอาหารแล้วตามเข้าไปในผับ
ตอนนี้ผับกำลังเพิ่งเปิดคนไม่ค่อยเข้ามาร้านมาก ฉันเดินตามต้นกล้าขึ้นไปโซนชั้นลอยเห็นเพื่อนๆ ของต้นกล้านั่งอยู่สองสามคน สองคนที่อยู่ในกลุ่มนั้นฉันเคยเจอเมื่อวานนี้ตอนโดนรุมกระทืบ
“นี่เพื่อนสนิทกูที่มหาลัยชื่อนาเนียร์ วันนี้กูจะพามันไปด้วย”
ต้นกล้าบอกเพื่อนที่นั่งอยู่ ฉันพยักหน้าทักทาย พวกเขาแค่มองแล้วพยักหน้ากลับเช่นกัน
“ที่นั่งอยู่กับเหล้านั่นชื่อ กระทิง..คนที่ถือปืนขู่ให้มึงเมื่อวานชื่อ วินเซล ส่วนคนสุดท้ายที่ขับรถตามเราไปโรงบาล ชื่อ ไทเกอร์”
ต้นกล้าแนะนำกลุ่มเพื่อนเสร็จ แล้วให้ฉันนั่งรอ ทั้งกลุ่มกำลังคุยกันเรื่องรถซึ่งฉันไม่รู้เรื่องเลยหยิบโทรศัพท์มานั่งเล่นฆ่าเวลา
“ปะเนียร์ ไปกะกู...เสร็จแล้วจะไปส่ง”
พวกต้นกล้านั่งคุยกันต่ออีกไม่นาน ต้นกล้าก็มาดึงแขนฉันลุกขึ้นบอกฉันให้เดินตามออกไปที่รถ
สนามแข่งรถ SPEED
บรื้น บรื้น บรื้น
ตอนนี้ฉันนาเนียร์ สาวน้อยที่อ่อนต่อโลกอบายมุขยืนเกาะขอบสนามแข่งรถกับต้นกล้า ที่ไม่เคยบอกอะไรก่อนหน้านั้นเลยว่าธุระของคุณชายต้นกล้าคือ มาแข่งรถ!!!
เสียงท่อรถดังสนั่นทั่วสนามแข่งจนฉันต้องตะโกนคุยกับต้นกล้าที่ยืนอยู่ข้างๆ ฉัน จนคอแทบพัง
“ต้นกล้า!!! ทำไมแกไม่บอกฉัน!!”
“ก็กูบอกแล้วว่ามีธุระ!!”
“งั้น..ฉันกลับก่อนนะ”
“เฮ้ย!! มึงไม่กลัวแล้วเหรอเนียร์??”
“เดี๋ยวขอธารน้ำมารับ!!”
“น้ำไม่อยู่ ไปทำธุระให้คุณแม่!!”
สักพักเสียงเร่งเครื่องเบาลงฉันจึงปรับระดับเสียงคุยกับมันได้...คอแทบแตก..กลับไปต้องอมยาให้ชุ่มคอแล้วละ
“ไปนั่งรอตรงนั้น แข่งรอบเดียวเดี๋ยวเรียก”
ต้นกล้าชี้ให้ฉันไปนั่งบนอัศจรรย์ที่เอาไว้นั่งเชียร์ ฉันไม่มีทางเลือกก็เลยเดินขึ้นไปตามคำสั่งอย่างว่าง่าย
ฉันมองลงไปข้างล่างเจอแต่ผู้หญิงสวยระดับพริตตี้ทั้งนั้น ขาว สวย อวบ อึ๋ม ยืนโชว์ป้ายบ้างละ เสิร์ฟน้ำบ้างละ บางคนเป็นคู่ขาของลูกคนรวยบ้าง
บรื้น บรื้น บรื้น
เสียงเร่งเครื่องยนต์ดังจากกลางสนามแข่ง รถสองคันกำลังรอปล่อยตัว ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเพื่อนฉันเอง ฉันไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย ชีวิตคนเรามีอะไรให้ทำอีกตั้งเยอะแยะ ทำไมต้องมาเล่นอะไรเสี่ยงๆ
ครืดคราด...จู่ๆ ท้องก็ร้อง หิวข้าวจัง ตั้งแต่เลิกเรียนมายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย ในผับก็มีแต่เหล้าไม่สั่งกับอะไรมาแกล้มบ้างเลย พอบ่นๆ ในใจก็นึกได้ว่าหน้าสนามเหมือนมีลูกชิ้นทอดมาขาย
“เอาอะไรดีจ๊ะหนู...เลือกเลยจ้ะ”
ฉันตัดสินใจเดินออกมาซื้อลูกชิ้นทอดหน้าสนาม ฉันเลือกหยิบไส้กรอกและลูกชิ้นปลามาสองไม้กินให้พอหายหิว รีบเดินกลับเข้าไปที่สนามแข่งรถเพราะกลัวต้นกล้าจะหาไม่เจอแล้วมันจะบ่นฉันอีก
ตุบ!!
“โอ๊ย!”
ฉันเดินชนใครไม่รู้จนตัวเองเซล้มก้นกระแทกพื้น โคตรเจ็บเลย ไส้กรอกที่ซื้อมาเพิ่งกินได้แค่ครึ่งเดียวเอง เสียดายอะโมโหหิวโว้ย!!
“เดินยังไงไม่หัดดูทางวะ”