bc

พ่ายรักพิศวาท

book_age18+
438
FOLLOW
1K
READ
HE
drama
bxg
bold
campus
city
musclebear
friends with benefits
surrender
like
intro-logo
Blurb

ตื้อครองโลกมันใช้กับผู้ชายคนนี้ไม่ได้จริงๆ

อ่อยแล้วอ่อยเล่าทุกสถานการณ์ก็เฉยๆ บอกเลยว่าแทบถอดใจ…

“นั่งประดิดประดอยอยู่บ้านเถอะยัยคุณหนู”

ไม่ๆ คนอย่างนาซีไม่มีทางถอดใจให้ถอดชั้นในยังง่ายกว่า

คำดูถูกบ้าๆ นั้นฉันต้องชนะมัน!

“งั้นหน้าแบบหนู...ใช้ร่างกายสู้ก็ได้คะ”

chap-preview
Free preview
CHAPTER 1
CHAPTER 1 แรงสั่นไหวของดอกทิวลิปสีขาวบริสุทธิ์ช่อใหญ่ที่อยู่ในอ้อมกอดอวยเอนไปมาเกิดขึ้นเป็นระลอกๆ ในขณะที่เท้าใหญ่ก้าวย่างเดินไปด้านหน้าอย่างมั่นคง                ผู้ชายตัวสูงโปร่งมีเรือนผมสีน้ำตาลเหลือบดำส่วนผิวกายขาวสะท้อนออกมาจากสูทราคาแพงนั้นสามารถสะกดสายตาของครอบครัวอื่นๆ ที่เข้ามาไหว้คนในครอบครัวของตัวเองที่ต่างล่วงลับไปแล้วในสุสานแห่งนี้ซึ่งผู้ชายคนนี้ก็หาสนใจไม่ เขาได้เพียงแค่กระชับช่อดอกทิวลิปเข้าไปในอ้อมกอดให้มากขึ้นแล้วก็เดินไปต่อยังจุดหมาย                ~ฟิ้ว~                สายลมเย็นๆ พัดตีวนเข้ามากระทบใบหน้าผมเหมือนกับเป็นการส่งสัญญาณแห่งความดีใจทันทีที่ก้าวเข้ามาในบริเวณเนินเขาลูกใหญ่ สายลมต่างพัดวนอยู่รอบตัวเสมือนอ้อมกอดอันอบอุ่นต่างถักทอขึ้นเพื่อเป็นสายสัมพันธ์ระหว่างผมกับแม่                ใช่แล้วครับผมมาหาแม่...                ถึงในขณะนี้ผมกับท่านจะอาศัยอยู่คนละโลกกันแล้วก็ตามแต่ท่านก็ไม่ได้หายไปจากความทรงจำเลย                ผู้หญิงที่เหมือนนางฟ้ามีรอยยิ้มหวานอบอุ่นอันงดงามประดับไว้บนใบหน้าสวยรูปไข่ บอกเลยว่าเวลาที่เปลี่ยนไปมันไม่สามารถพรากความทรงจำอันดีระหว่างผมกับท่านไปแน่ ความทรงจำพวกนั้นมันฝังลึกลงไปที่หน้าอกข้างซ้ายของผมไปหมดแล้วจะลืมก็ต่อเมื่อผมหมดลมหายใจ                นานแล้วสินะ...            นานแล้วที่ผมไม่ได้มาหาท่านเลย...                ร่างสูงคุกเข่าต่อหน้าหลุมศพของผู้เป็นแม่พร้อมทั้งใช้มือปัดเศษใบไม้แห้งสองสามใบที่ร่วงหล่นออกก่อนจะวางช่อดอกทิวลิปแสนสวยลงไป                ดอกไม้ที่ท่านชอบ ทิวลิปสีขาว                นัยน์ตาสีเทามองไปยังรูปของแม่ด้วยความรู้สึกที่หลากหลายมันมีทั้งความสุขความดีใจที่ต่างอบอวนไปด้วยความรักจากนั้นไม่นานมันก็เปลี่ยนไปเป็นความโหยหาความหว่าเว้                “ผมกลับมาแล้วครับแม่ ขอโทษที่ไม่ได้มาหานานเลย...”                เสียงทุ้มขาดลงไปดื้อๆ เหมือนกับว่าเขาพยายามอดกลั้นความรู้สึกอยู่ทว่าไม่นานนักน้ำเสียงอันสั่นเครือก็มาดังขึ้นอีกครั้งซึ่งมาพร้อมกับหยดน้ำตาของลูกผู้ชาย                “เธอ... อึก เธอทิ้งผมไปแล้วครับ”            ร่างสูงทิ้งตัวนั่งลงพิงกับหลุมศพของผู้เป็นแม่เหมือนหมดอาลัยตายอยากกับทุกสิ่งที่มันเกิดขึ้นเพียงไม่นานนัก การระบายด้วยคำพูดผ่านสายลมให้เป็นสื่อกลางไปถึงแม่เป็นทางเลือกที่ดีเพราะมันแน่นเปี่ยมเต็มอกไปหมดการระบายจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดถึงเนินหลุมศพของแม่จะตั้งอยู่ในที่สูงสามารถเห็นสภาพวิวทิวทัดธรรมชาติแบบสามร้อยหกสิบองศามันก็ไม่ช่วยเยียวยาสภาพจิตใจได้เลย                “เธอปฏิเสธผม...”                มนุษย์ทุกคนล้วนเกิดมาเพราะใช้กรรมที่ตนเองกระทำมันคงเป็นประโยคตายตัวสินะบนโลกใบนี้            คิน เป็นชื่อของผมเองครับ เกิดมาในครอบครัวที่มั่งมีด้วยเงินทองหรือเรียกกันว่าคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดมันเป็นแบบนั้นแหละ คนอื่นๆ วัยรุ่นต่างรู้จักในนาม 7 VILLAIN ที่มีทั้งเงินตราอำนาจดูเท่ในสายตาส่วนผมนั้นคิดว่าร่ำรวยแล้วไง? ร่ำรวยก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยผิดหวังไม่เคยอกหักไม่เคยเสียใจ ผมพึ่งกลับไทยมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเพราะไปเรียนเฉพาะทางเกี่ยวกับสมอง อาชีพก็หมอนั่นแหละครับ                กลับมาก็ถูกปฏิเสธการแต่งงาน                “ลูกสะใภ้ที่ตั้งใจจะพามาหาแม่ไม่มีแล้วครับ...”            ~ฟิ้ว~                สายลมพัดมาอีกครั้งปะทะเข้ากับตัวของผมเสมือนว่าแม่กำลังปลอบใจ ท่านคงรับรู้ว่าผมเจ็บปวดมากสินะก็แน่แหละในเมื่อเธอเป็นผู้หญิงที่ผมรักมากรักแบบอยากแต่งงานใช้ชีวิตด้วยกันทันทีที่กลับจากเรียนจบการตั้งครอบครัวมันก็เป็นสิ่งที่ผมประสงค์จะทำกับเธอเพียงคนเดียวแต่ไม่นึกว่ามันจะพังไม่เป็นท่า                “แต่แม่ไม่ต้องห่วงครับ แม่ก็รู้ว่าผมเข้มแข็งขนาดไหนแค่นี้ไม่ทำให้ลูกคนเก่งแม่เป็นอะไรแน่นอน ไม่เป็นอะไรแน่ครับ”                ยังไงทุกอย่างมันก็ต้องเดินหน้าต่อ ถึงมันจะเจ็บเจียนตายมากเพียงไหนก็ตามผมก็ต้องไม่เป็นอะไร โตแล้วผมต้องรับผิดชอบอีกหลายร้อยพันชีวิตแค่แผลหัวใจยังไงมันต้องรักษาให้หาย                “สักวันผมต้องรักษาใจตัวเองได้ครับแม่...”                อีกฟากหนึ่งสายฝนเม็ดเล็กกำลังโปรยปรายร่วงหล่นจากท้องฟ้ากว้างอย่างไม่ขาดสายราวกับรับรู้ความในใจของร่างเล็กที่กำลังเงยหน้ายืนโดดเดี่ยวมองพวกมันอยู่                นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงมันมีทั้งความเศร้าความทุกข์ใจด้วยความระทมสักพักเดียวสายน้ำที่เอ่อล้นเต็มขอบตามันก็ไหลออกมาจากดวงตาคู่นั้น                น้ำตาแห่งการจากลา                หลังจากที่นกเหล็กลำนั้นเหินทะยานขึ้นสู่ฟ้าฟากเพียงไม่ถึงสองนาทีร่างเล็กสูงประมาณร้อยหกสิบที่มองด้วยสายตาอาลัยนั้นก็ตัดใจหันหลังเดินออกมาพร้อมกับสายน้ำตาและเสียงสะอึกสะอื้นไป ไม่รู้สิว่าทำไมฉันต้องร้องไห้ออกมาด้วยทั้งที่ควรจะยินดีกับน้องสาวฝาแฝดของตัวเองด้วยซ้ำกับเส้นทางการไปเรียนต่อต่างประเทศของนาชา                การเคารพการตัดสินใจเป็นสิ่งที่ควรทำถึงแม้ภายในใจมันจะเรียกร้องในทางตรงกันข้ามเพราะฉันรู้ดีไงว่าการตัดสินใจไปเรียนต่อครั้งนี้ของนาชาเธอเหมือนต้องการจะหนีใคร...                ความรวดเร็วในการเตรียมตัวแทบไม่มีอีกทั้งครอบครัวของเราก็ยังต่างมีเสียงคัดค้านจากคุณปู่คุณยาคุณพ่อและก็คุณแม่แต่เสียงของพวกเขาก็ต้องสงบลงเมื่อนาชาใช้ไม้แข็งที่ต่างทำให้ทุกคนยินยอมนั่นก็คือการไม่ยอมออกจากห้องไม่ยอมแตะอาหารสองวัน                การขับรถฝ่าสายฝนของฉันในวันนี้มันรู้หนาวเย็นจนจับขั้วหัวใจเพราะไม่มีเสียงชวนคุย ไม่มีร่างเล็กนั่งประจำที่นั่งคนขับเหมือนทุกๆ ครั้งบอกเลยว่าโคตรเหงายิ่งยามติดไฟแดงสายตามองออกไปนอกรถก็พบแต่ความมืดครึ้มของท้องฟ้าเสมือนว่ากำลังร้องไห้อยู่เช่นเดียวกันกับฉัน ความจริงแล้วการไปเรียนต่างประเทศก็เป็นความฝันของฉันเหมือนกันทว่าความฝันมันก็ยังเป็นความฝันอยู่วันยังค่ำในเมื่อการดูแลกิจการร้านเพชรของทางบ้านต่างหากที่เป็นความจริงยังไงเสียสถานการเป็นพี่สาวก็ยังค้ำคอให้ฉันต้องสืบทอดธุรกิจไม่เหมือนกับนาชาที่ต้องการเปิดร้านเสื้อผ้าเป็นของตัวเอง                สิ่งที่ฉันหลีกหนีไม่ได้นั่นก็คือดูแลธุรกิจของครอบครัว                Rr….                “คะแม่ ซีกำลังจะกลับบ้านคะแต่รถติดหน่อย”                ฉันกรอกเสียงไปตามสายอย่างเคยชินเมื่อสายตาเหลือบมองไปยังหน้าจอเป็นแม่ของตัวเอง ความสงสัยมีอยู่เต็มเปี่ยมเพราะแม่โทรมาหาทีไรมักมีเรื่องเกินความคาดหวังเสมอ                [ซีลูกแวะเอาเอกสารให้แม่หน่อยสิ]            นั่นไงล่ะ... เดาไว้ไม่มีผิด                “เอกสารเหรอคะ ได้ค่ะว่าแต่ที่ไหนคะแม่เดี๋ยวซีไปเอาให้?”                ยังไงก็อยู่ข้างนอกแล้วเข้าบ้านช้าหน่อยไม่เป็นอะไรมากยังไงวันนี้ฉันคงได้นอนที่บ้านใหญ่อยู่ดีอีกอย่างดีว่าไปนั่งเหงาอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมกว้างๆ                [ที่คุณอาไชยยัน]                “อาหมอ...”                [จ๊ะ... ไปที่โรงพยาบาลธัญญาเรศเลยนะลูกรัก]                โรงพยาบาลธัญญาเรศ!                “…”                [ขอบใจมากจ๊ะนาซีลูกรักของแม่...]            สายของแม่ตัดไปทิ้งให้ฉันอึ้งอยู่นานสองนานทำไมทุกอย่างมันถึงไม่ได้เป็นดั่งที่ใจคิดเอาไว้เลยนะ มันผิดพลาดไปหมดแล้วไม่น่าสัญญาว่าจะกลับไปนอนบ้านใหญ่เลยด้วยซ้ำไป                ฉันเดินทางผิดมาตั้งแต่ต้นจึงซวยมาตลอดทั้งวัน นาทีนี้ฉันจำเป็นต้องเลี้ยวรถตรงแยกด้านหน้าแล้วมุ่งไปโรงพยาบาลทันที โรงพยาบาลขนาดใหญ่รองรับผู้ป่วยทุกชนชั้นไม่แบ่งแยกถึงเป็นโรงพยาบาลเอกชนก็ตามแต่ยังมีนโยบายช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์จึงสามารถติดโรงพยาบาลขวัญใจของคนทั้งประเทศอีกทั้งยังขึ้นมาเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกที่ได้รับการประเมินจากชาวต่างชาติให้เรื่องของเครื่องมือที่ทันสมัย                ฉันกลับมาอีกครั้งในรอบสามปีกว่า...            อาไชยยันเป็นพี่ชายของแม่ท่านทำงานเป็นหมอทางด้านสมองอยู่นี่ตั้งแต่เรียนจบจากต่างประเทศมาแน่นอนว่าโรงพยาบาลใหญ่แบบนี้ก็ต้องมีบุคลากรที่มีคุณสมบัติเริดไม่ต่างจากโรงพยาบาลเหมือนกัน                 แหล่งรวมคนเก่งแสนเก่งไงล่ะ                ทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาด้านในกลิ่นเฉพาะตัวของโรงพยาบาลก็เข้ามาปะทะจมูกฉันบอกเลยว่าไม่ชอบเอามากๆ สำหรับกลิ่นนี้แล้วนี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมฉันถึงไม่เรียนหมอทั้งๆ ที่สอบติดฉันปฏิเสธการเรียนหมออย่างเอาเป็นเอาตาย                “กลิ่นแบบนี้ตายแน่นาซีเอ้ย”                ร่างเล็กรีบค้นกระเป๋าเอายาดมหลอดโบราณสีเงินของคุณย่าขึ้นมาสูดดมเข้าเต็มปอดแบบไม่ปล่อยออกจากจมูกก่อนเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์แผนกที่อาไชยยันประจำอยู่                “ขอโทษคะ อยากพบคุณหมอไชยยันคะ”

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

เล่ห์รักนายหัว

read
4.6K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
2.6K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
7.5K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
33.6K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
11.4K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook