บทที่ 2 แค่ขอจูบ(2)

1237 Words
ด้วยความรู้สึกอะไรต่าง ๆ มากมายส่งผลให้ฉันพลิกตัวหันไปหาคุณปรานต์พร้อมใช้สองมือจับหน้าเขาไว้ ไวกว่าความคิดคือปากกดแนบเข้าปากหยักได้รูปที่บ่นเพ้อเจ้อไม่รู้ความ เพียงเท่านั้นทั้งห้องก็ตกเข้าสู่ความเงียบ มีเพียงหัวใจของฉันที่กำลังเต้นรัวเร็วในขณะนี้ แม้จะเป็นฝ่ายรุกเข้าก่อนแต่ใช่ว่าฉันจะชำนาญ แค่ต้องการพิสูจน์ให้อีกฝ่ายรู้ว่าฉันไม่ได้รังเกียจเขา ไม่ได้หมายความว่าจะทำแบบเร่าร้อนอะไร แต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะไม่คิดเช่นนั้น “อื้อ!” ร้องอู้อี้ออกมาเสียงดังเมื่อคุณปรานต์ไม่ยอมปล่อยปากออก มือของเขากดแนบเข้าตรงท้ายทอยเพื่อไม่ให้ฉันขยับหนี ริมฝีปากของเขากดทับแน่นเข้ามามากกว่าเดิมพร้อมหน้าที่จัดองศาเอียงเล็กน้อย ยังไม่ทันได้คิดอะไรให้มากความเรียวลิ้นชื้นก็สอดแทรกเข้ามาในโพรงปากของฉันแล้ว สองมือกำผ้าห่มแน่นเมื่อความรู้สึกบางอย่างวิ่งพล่านภายในร่าง สองตารีบหลับลงไม่อาจสู้ต่อสายตาคมได้ เขาไม่สื่อความไร้เดียงสาออกมาให้เห็นเหมือนเคย มองเห็นแค่ความหิวกระหายและความดิบเถื่อนอยู่ในดวงตาของเขาราวกับว่าเมื่อครู่นี้เป็นคนละคน สุดท้ายคนที่ไม่ช่ำชองอย่างฉันต้องแพ้ให้กับความช่ำชองของอีกฝ่าย ปากหยักยังคงดูดดึงปากของฉันครั้งแล้วครั้งเล่าไม่มีเบื่อหน่าย เรียวลิ้นชื้นตวัดเกี่ยวดูดดึงอย่างเอาแต่ใจ ไล่ต้อนลิ้นเล็กไว้พลางเกี่ยววนคล้ายกับกำลังหยอกล้ออยู่ในที นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันได้จูบลึกซึ้งกับเขา มันเป็นครั้งที่สองแต่แตกต่างตรงที่ผู้ชายคนนี้จำอะไรไม่ได้ แต่แปลกตรงที่สัมผัสนี้มันเหมือนกับสัมผัสในวันวานแทบแยกไม่ออก ในวันนั้นหลังจากที่รู้ว่าเขาชื่อ ‘ปรานต์’ ฉันก็ได้ทำตัวหน้าอายบวกกับความเมานิด ๆ ส่งผลให้ใจกล้า เอ่ยพูดและคิดในสิ่งที่ไม่ควรทำ ฉันอ่อยเขาเพียงเพราะว่าไหน ๆ ก็จะได้แต่งงานเสียตัวแล้ว การมีสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าในช่วงเวลาที่เปลี่ยวใจมันก็คงไม่ได้แย่อะไร แถมเขายังตรงสเปกมากอีกต่างหาก เมื่อคิดตรงนี้ความเพลิดเพลินตรงปลายลิ้นก็ดึงสมองให้คิดถึงเรื่องในวันนั้น… หลังจากที่ทั้งคู่คุยกันและดูเหมือนจะถูกคอ แต่เป็นวีรยาเองที่ดูเหมือนจะถูกใจปรานต์พอสมควร เธอจึงทำใจกล้าหน้าด้านชวนเขาเข้าห้องอยากลองทำเรื่องอย่างว่าดูสักครั้ง อีกทั้งบรรยากาศเป็นใจและเขาก็ยังเป็นเพื่อนกับน่านฟ้า จึงทำให้เธอสนใจที่จะอยู่กับปรานต์ในคืนนี้เป็นอย่างมาก ‘ถ้าตื่นมาคุณจะกรี๊ดเหมือนพวกผู้หญิงในหนังหรือเปล่า’ ‘ไม่ค่ะ’ ‘ตอนนี้คุณมีสติดีใช่ไหม’ ‘ตอนนี้ฉันมีสติดี’ ไม่ได้พูดเพราะเมาแต่เธอมีสติรับรู้ทุกอย่างจริง ๆ ว่าต่อจากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้น ต่อให้เธอไม่ดื่มแอลกอฮอล์ก็ยังคงต้องการแบบนี้อยู่ดี ไหน ๆ ชีวิตมันก็เลือกไม่ได้แล้ว ลองทำตามใจตัวเองสักครั้งคงไม่เป็นไร ‘งั้นก็ดี’ นัยน์ตาของปรานต์สื่อออกมาว่าพอใจกับคำตอบที่ได้รับ มือสากจับเชยใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นดันตัวเธอติดชิดกับประตูห้องนอน ใช้ร่างกายสูงใหญ่บดเบียดร่างอรชรเอาไว้ไม่ให้เธอดิ้นหนี ‘อือ…’ วีรยาส่งเสียงร้องออกมาผ่านลำคอ ริมฝีปากกระจับถูกรุกรานโดยคนตัวสูง รสชาติของแอลกอฮอล์ถูกปรานต์กวาดต้อนเข้าปากซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดูดดึงลิ้นเล็กที่ตอบโต้ด้วยความไม่ประสีประสาด้วยความพึงพอใจ แขนเล็กยกขึ้นกอดคอปรานต์พร้อมกับดึงเขาลงมาให้แนบชิดกันมากกว่าเดิม ดวงตาสวยหลับพริ้มเมื่อทนมองตาคมที่สื่อว่า ‘อยาก’ ออกมาไม่ไหว มือสากลากไล้ไปทั่วผิวกายในขณะที่ริมฝีปากกำลังทำงาน กอบกุมเต้าใหญ่ทั้งสองข้างโดยที่ไม่ลืมออกแรงบีบคลึง คนที่อยู่ในห้วงสวาทถูกผลักเข้ามาในห้องนอนโดยที่มีร่างสูงใหญ่ตามมาทาบทับ ปรานต์กวาดข้าวของที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงนอนลงแล้วยกหญิงสาวขึ้นไปนั่ง มองพิจารณาร่างปวกเปียกด้วยแววตากระหาย สองมือจัดการถอดเสื้อผ้าของเธอออกโดยที่เจ้าตัวไม่คิดขัดขืน เพียงแค่หน้าแดงก็เท่านั้น… ‘ผมให้คุณตัดสินใจอีกที’ เพราะหากเข้าใกล้กันมากกว่านี้ เขาอาจหยุดไม่ได้แล้ว ‘คิดให้ดี’ ‘คิดดีแล้วค่ะ’ ดวงตากลมโตแต่สื่อความแน่วแน่ออกมาให้เห็น ‘พูดตามตรงว่าฉันถูกใจคุณมาก’ ‘อยากให้ผมทำอะไร’ สีหน้าของปรานต์สื่อถึงความพึงพอใจ เขาไม่ได้ตอบรับกับคำพูดเมื่อครู่นี้ของวีรยา เลือกที่จะถามกลับแทน ‘ช่วย…หน่อยได้ไหมคะ’ ปรานต์ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแค่จับเรียวขาเล็กแยกออกจากกันท่ามกลางความตื่นเต้นของคนที่ยังไม่เคย ตาคมเพ่งมองความสวยสีชมพูที่อยู่กลางร่างของวีรยาตาไม่กะพริบ ทิ้งตัวนั่งลงตรงหน้าใจกลางสาว แตะลิ้นเข้าไปชิมความหวานที่กำลังเอ่อร้นร้องเรียกเขาให้เข้าไปใกล้ชิดมัน ‘อื้อ…’ วีรยาหลับตาแน่นปากก็ปล่อยเสียงร้องครวญครางออกมา มันเป็นครั้งแรกที่ตรงนั้นถูกคนอื่นรุกรานด้วยลิ้นที่เปียกชื้น ปุ่มกระสันถูกแตะลงย้ำ ๆ จนขาเธอกระตุกสั่นลอย มือบีบเข้ากับขอบโต๊ะพร้อมร่างเอนแอ่นทิ้งตัวไปข้างหลัง ความต้องการทำให้เธอหมดสิ้นแก่ความอาย ยิ่งโดนเขาปรนเปรอยิ่งอยากได้อะไรที่มันมากกว่าเดิม ความรู้สึกมันพร่ำร้องบอกว่าทั้งทรมานแต่ก็รัญจวนไปพร้อมกัน แอ่นสะโพกแน่งน้อยขึ้นเพื่อที่จะรับสัมผัสให้แนบแน่นกว่าเคย ตาปรือมองก็ต้องได้เห็นกลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนขยับอยู่ตรงกลางร่าง ริมฝีปากของเขาเสียดสีลงตรงติ่งเนื้อน้อยครั้งแล้วครั้งเล่า ปลายลิ้นตวัดไล้เลียกดหนักเข้าหากับจุดอ่อนไหวไล้ละเลงดุดัน สร้างความเพลิดเพลินและความเสียวกระสันจนสุดท้ายร่างของเธอก็ปลดปล่อยความสุขสมออกมาอย่างไม่อาย ‘อ๊ะ…อ๊า’ เสียงหวานครางกระเส่าพร้อมสะโพกเกร็งกระตุก สมองพร่าเบลอไปชั่วขณะ ความรู้สึกล่องลอยเคลิบเคลิ้มเหมือนกำลังลอยเคว้งอยู่บนปุยเมฆ กึ่งกลางกลายร่ำร้องว่ามีความสุขเหลือเกิน เนื้อตรงส่วนนั้นเต้นระริกบ่งบอกว่ารู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ครืด! ครืด! ครืด! ครืด! เสียงโทรศัพท์ของปรานต์ดึงบรรยากาศของห้องที่เต็มไปด้วยความกระหายกลับเข้าสู่โหมดปกติ เขาหยิบมันขึ้นมาดูก็ต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ หยิบเสื้อผ้าที่ตกลงพื้นขึ้นมาใส่ให้เธอบ่งบอกว่าจะไม่ทำอีกต่อไปแล้ว ‘ผมติดธุระ คงไม่ได้ต่อ’ ‘…’ ‘แต่เดี๋ยวกลับมาต่อ ถ้าคุณยังไม่หลับ’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD