สนามบินสุวรรณภูมิ
เครื่องบินส่วนตัวของตระกูลโดโนแวนลงจอดอย่างปลอดภัย ฟรานซิส มาประเทศไทยครั้งสุดท้ายเมื่อ 15 ปีที่แล้ว พร้อมแม่ของเขา เพราะส่วนใหญ่ธุรกิจที่ประเทศไทยน้องสาวของเขาจะเป็นผู้ดูแลทั้งหมด แต่การมาครั้งนี้เป็นการมาลับๆ ของ โดโนแวน ฟรานซิส เขามาเพื่อจับผู้กระทำผิดกฎอันร้ายแรงของโดโนแวน นั่นคือ ความซื่อสัตย์ เรื่องยักยอกจำนวนเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขา แต่เมื่อมีผู้ไม่ซื่อสัตย์ในบริษัทเขา เขาก็ต้องจัดการขั้นเด็ดขาด คนกระทำผิดครั้งนี้ถึงคราวซวยของมันจริงๆ เพราะเจสิก้าติดประชุมสำคัญที่ญี่ปุ่น ฟรานซิสจึงต้องลงมาจบปัญหาด้วยตัวเขาเอง และจะไม่มีคำว่าให้อภัยหรือโอกาสแต่อย่างใด
แต่หากซึ่งความเป็นจริง การมาครั้งนี้ของเขาเป็นอะไรไม่ได้นอกจาก...มาตามคนของเขาคืน
“เจฟ...เรียกประชุมคณะผู้บริหารทั้งหมด...ภายใน 1 ชั่วโมง นายกำลังจะไปถึง”
อีวานต่อสายไปยังเจฟฟี่เลขาของเจสิก้าที่ขณะนี้เป็นผู้รักษาการแทนเจสิก้าที่ติดประชุมอยู่ที่ญี่ปุ่นและสั่งให้ลูกน้องออกรถตรงไปยังบริษัทสาขาประเทศไทยทันที
“เอม คุณชะเอมคะ เราแค่ไปยื่นเอกสารให้พี่ไอ แกไม่ต้องแต่งขนาดนั้นหรอก”
ชญาภาเร่งเพื่อนสาว หลังจากที่ชนิดาออกห้องมาด้วยสภาพนั้น ที่สำคัญชายในฝันเธอมาเห็นเข้า เธอจึงต้องละเอียดในเรื่องการแต่งกายหน่อย ถึงแม้จะเป็นชุดนักศึกษาแต่ชนิดาก็ขอจัดเต็มไว้ก่อน
“พี่อ้นหลับไปแล้ว แกไม่เจอหรอก”
ชญาภาบอกชนิดาในที่สุด หากพวกเธอไปช้ากว่านี้จะเลยนัดรุ่นพี่ที่ฝากพวกเธอฝึกงาน จะเป็นการเสียมารยาท
“อ้าวแก! ไม่บอกให้เร็วกว่านี้ละ ปะ! งั้นไปกัน ถือว่าแต่งตัวเช็กเรตติ้งละกัน”
ชนิดาบ่นด้วยความเสียดายรีบคว้ากุญแจรถของตัวเองเดินนำชญาภาไปอย่างเร็ว
Donovan Corporation Thailand branch....
ชญาภาและชนิดา เดินเข้ามาบริษัทอย่างทึ่งในความใหญ่โตของตัวอาคาร เธอโชคดีจริงๆ ที่ได้รุ่นพี่ที่ดีแต่ก็ด้วยความสามารถที่ชญาภาเป็นว่าที่นักศึกษาเกียรตินิยม จึงทำให้รุ่นพี่อย่างไอริณชักชวนให้รุ่นน้องมาฝึกงานที่บริษัทที่ตนทำอยู่ ชญาภาเลยขออนุญาตให้ชนิดามาฝึกงานด้วย ไอริณเลยไม่ขัด เพราะงานที่แผนกเยอะมาก เธอจึงอยากได้นักศึกษาฝึกงานเพิ่ม
ไอริณแจ้งให้รุ่นน้องทั้งสองมาก่อนเวลา 15 นาทีและให้มาติดต่อประชาสัมพันธ์เพื่อขอเข้าพบเธอตามระเบียบบริษัท
“สวัสดีค่ะ..ติดต่อเรื่องอะไรคะ”
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ยกมือไหว้และสอบถามนักศึกษาสองคนที่ยิ้มรีบไหว้เธอกลับ
“ติดต่อคุณไอริณ หัวหน้าแผนกบัญชีค่ะ นัดไว้ 10.00 น.ค่ะ”
ฝ่ายประชาสัมพันธ์บอกให้ทั้งสองนั่งรอก่อนและต่อสายไปแผนกบัญชีให้ แต่นั่งรอได้ไม่นานฝ่ายประชาสัมพันธ์ก็แจ้งเธอกลับอย่างรวดเร็ว
“คุณไอริณติดงานด่วนค่ะ เธอฝากขอโทษและให้ถามคุณว่าสะดวกเลื่อนเป็น 11.00 น.ไหมคะ”
“สะดวกค่ะ”
ชญาภาตอบกลับทันที เพราะเธอต้องกลับเชียงใหม่กับพี่ชาย ดังนั้นต้องรีบทำธุระของเธอให้เสร็จ
“คุณไอริณให้น้องไปนั่งรอที่ร้านกาแฟก่อนได้เลยนะคะ เดี๋ยว 11 โมงแกจะลงมาหาค่ะ”
เธอชี้ไปร้านกาแฟตรงล็อบบี้ใกล้ทางเข้าประตูบริษัทแล้วยิ้มให้อย่างสวยงาม
“ขอบคุณค่ะ”
ชญาภาและชนิดาไหว้ขอบคุณแล้วเดินไปนั่งร้านกาแฟรอ
“บริษัทใหญ่ดีเนอะแก”
พอสั่งกาแฟแล้วได้โต๊ะที่นั่งรอ ชนิดาชวนคุยทันที
ครืน ครืน
เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าถือใบราคาเหยียดหมื่นของชนิดาสั่นขึ้นมาขัดจังหวะ ก่อนเธอจะรับไม่ลืมเธอมองกระเป๋าที่เพิ่งถอยออกมาล่าสุดและยิ้มออกมาอย่างภูมิใจ เพราะกระเป๋าใบนี้ได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเธอที่หามาเอง ชนิดารีบกดรับสายทันทีที่รู้ว่าเป็นใครโทรมา ก่อนที่ปลายสายจะรอเธอนาน
“ได้ค่ะ เดี๋ยวเอมทำธุระเสร็จจะรีบไปนะคะพี่วีวี่”
เธอคุยได้ไม่กี่ประโยคก็วางไป
“แกฉันรอไม่ได้แล้ว พอดีพี่วีวี่โทรมาตามไปถ่ายงานครั้งสุดท้าย ฉันลืมอะแก อีก 3 วันเราต้องกลับเชียงใหม่ด้วย”
หลังจากวางสาย ชนิดาหันไปบอกชญาภาทันทีซึ่งเธอก็ลำบากใจไม่น้อยเพราะต้องทิ้งเพื่อนอยู่คนเดียวกลับคนเดียว
“งั้นไม่เป็นไร..เดี๋ยวฉันแจ้งพี่ไอให้ ขากลับฉันนั่งแท็กซี่กลับเองได้”
“เอาอย่างนั้นเหรอ พี่อ้นก็พักผ่อนด้วยซิ แกให้พีทมารับไหม”
“แกไปเถอะเอม...ไม่ต้องห่วงฉัน เดี๋ยวฉันให้พีทมารับก็ได้ถ้าแกไม่สบายใจ”
“ขอโทษนะแก”
“ได้ ไม่เป็นไรสบายมาก แกอย่าทำเหมือนฉันเป็นเด็กเหมือนพี่อ้นเลย”
“งั้นฉันไปนะ ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง อีก 3 วันเจอกันที่สนามบินเลยก็แล้วกัน”
ชนิดารีบเดินออกจากตัวตึก พอดีที่กับมีรถลีมูซีนสีดำคันใหญ่พร้อมด้วยรถเก๋งสีดำปิดหน้าปิดหลังอีก 2 คันมาจอดหน้าบริษัทพอดี
การ์ดชุดดำเดินมาเปิดประตูให้กับนายของพวกเขา ฟรานซิสเดินลงจากรถและเดินเข้าประตูทันที เขาเป็นคนตรงเวลา ทุกอย่างตรงหน้าต้องเรียบร้อยทุกอย่าง เพราะเมื่อ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมาแผนกทุกแผนกต่างวิ่งกันวุ่นวายเพราะมีคำสั่งประชุมผู้บริหารด่วน บางคนไม่คิดว่าท่านประธานใหญ่จะมาเยือนบริษัทด้วยตัวเองทั้งๆที่ไม่เคยมาเลย จะเป็นท่านรองประธานมากกว่าที่เข้ามาเดือนละครั้ง เป็นเหตุผลที่ทำให้ทุกอย่างในอาคารแห่งนี้เหมือนรีบไปหมด
ทันใดที่ฟรานซิสก้าวเข้ามาในตัวอาคาร พนักงานทุกคนหยุดการกระทำทุกอย่างอย่างพร้อมเพรียงกัน ทุกคนหันไปมองเขาอย่างตกใจ บางคนก็มีท่าทีที่สงสัย บางคนก็มองเขาอย่างคลั่งไคล้ แม้แต่ชญาภาเองก็สังเกตเห็นประชาสัมพันธ์สาวที่เธอคุยด้วยเมื่อสักครู่หรือแม้พนักงานหญิงคนอื่นๆ ต่างยืนมองไปทางประตูตาค้าง ดวงตาเป็นประกายเหมือนดาราดังปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า ทำให้ชญาภาอดเหลียวมองไปยังประตูด้วยไม่ได้
“หล่ออะ”
ชญาภาพูดพึมพำกับตัวเอง เผลอมองเขาอยู่นาน และเธอก็ตกใจเมื่อผู้ชายที่เธอแอบมอง ลูกน้องหน้าดุที่เดินตามหลังเขาหันมาสบตากับเธอพอดี ชญาภาจึงรีบหันกลับกลัวเขาจะจับได้ว่าแอบมอง
“ยังกะมาเฟีย พี่ไอบอกว่าท่านประธานมาด่วน หรือว่าจะเป็นกลุ่มคนกลุ่มนี้นะ หน้าตาดุระดับ 10 น่ากลัวขนลุก”
ชญาภายกแขนตัวเองขึ้นมาดูขนไรที่ลุกตั้ง เธอลูบมันแรงๆสองที ก้มหน้ามองแก้วกาแฟของตัวเอง แล้วเลิกสนใจบุคคลชุดดำกลุ่มนั้นเพราะกลัวเขาจะรู้ว่าแอบมองพวกเขาอยู่
ทางด้านกลุ่มคนชุดดำที่ชญาภากำลังนินทานั้น...อีวานเหลือบเป็นเห็นนักศึกษาที่นั่งอยู่ร้านกาแฟทางด้านซ้าย เขาจำไม่ผิดแน่ๆ นั้นแม่นกน้อยสมบัติของเจ้านายเขา จะจำผิดได้อย่างไร ในเมื่อเจ้านายสั่งให้เขารายงานชีวิตสาวน้อยมาตลอด 10 กว่าปีมานี้..จนบางครั้งเขาก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าหากติดตามยาวนานกว่านี้ เขาคงกลายเป็นสต๊อกเกอร์โรคจิตเป็นแน่
“นายมองเธอนานไปแล้วนะ...อีวาน”
ฟรานซิสพูดน้ำเสียงเบาๆ ในลำคอ แต่อีวานกลับได้ยินมันชัดมาก
นายมาแอบมองนานกว่าผมอีกนะครับอีกอย่างใครจะกล้ามองว่าที่นายหญิงนานครับเจ้านาย...อีวานได้แต่คิดในใจ
“สวัสดีครับนาย....ห้องประชุมพร้อมแล้วครับ”
เจฟฟี่เดินเข้ามาต้อนรับแล้วพาท่านประธานใหญ่ขึ้นชั้นบนเพื่อประชุมผู้บริหารทันที
“น้องเอวา...รอนานไหมคะ”
ไอริณรีบเดินลงมาจากแผนกบัญชี เธอหัวหมุนมากในช่วงสายนี้ เพราะผู้อำนวยการแผนกบัญชี สั่งให้เตรียมเอกสารการเงินเพื่อเตรียมประชุมผู้บริหารอย่างกะทันหัน จนลืมว่าตนนัดรุ่นน้องเอาไว้
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ไอ เอวาไม่มีธุระที่ไหนอยู่แล้วค่ะ สบายมาก...ส่วนยัยชะเอมเค้ามีงานถ่ายต่อค่ะ เลยต้องกลับก่อน ขอโทษแทนเอมด้วยนะคะพี่ไอ”
ชญาภายิ้มแห้ง เธอเกรงใจรุ่นพี่อยู่ไม่น้อย
“ไม่เป็นไรจ้ะ ที่จริงวันนี้พี่ก็ไม่สะดวกบอกรายละเอียดสักเท่าไหร่นัก งั้นพี่ขอเอกสารส่งตัวไว้ก่อนนะ ส่วนเรื่องวันเริ่มฝึกงาน ระยะเวลา รายละเอียดอื่นพี่จะโทรแจ้งไปทีหลังนะเอวา พี่ต้องขอโทษเราด้วย ตอนแรกกะจะชวนไปทานมื้อเที่ยงด้วยกันซะหน่อยแต่ท่านประธานใหญ่ดันมากะทันหัน”
ไอริณร่ายยาวไม่ลืมแอบบ่นให้รุ่นน้องฟังตอนช่วงท้าย
“สู้ๆค่ะพี่ไอ เดี๋ยวเริ่มฝึกงาน เอวาช่วยพี่ไอเองค่ะ...งั้นเอวาคงไม่รบกวนพี่ดีกว่าสวัสดีค่ะพี่ไอ ขอบคุณพี่ไออีกครั้งนะคะที่ชวนเอวามา”
ชญาภาไหว้ลาและส่งยิ้มสดใสเป็นกำลังใจให้รุ่นพี่
“สวัสดีจ้ะ”
ไอริณรับไหว้ เธอชอบรุ่นน้องคนนี้เป็นพิเศษจึงชักชวนให้มาฝึกงานด้วยกัน รุ่นน้องคนนี้มีมารยาทดี จริงใจ พูดตรง และเคารพเธอเสมอๆ อีกทั้งตอนสมัยเรียน เอวาก็ช่วยงานคณะได้เยอะ
ไอริณนั่งมองรุ่นน้องกลับไปได้สักพัก...ก็กำลังจะกลับขึ้นไปแผนก แต่ว่าแจกพอตดังแตกที่เธอก่อน
“คุณไอริณหัวหน้าแผนกบัญชีการเงิน ใช่ไหมครับบอสเรียกคุณเข้าพบครับ เชิญคุณนั่งรอที่ห้องทำงานของท่านเลยหลังจากท่านประชุมผู้บริหารเสร็จ ท่านจะกลับมาคุยกับคุณครับ”
ตอนที่เอวากับไอริณนั่งคุยกันที่ร้านกาแฟเมื่อครู่ ทุกเหตุการณ์อยู่ในสายตาอีวานทั้งหมด เขายืนมองอยู่นาน จนเด็กสาวกลับ จึงปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งนายทันที
เจ้านายหนอเจ้านาย ไล่เขาออกห้องประชุมเพื่อมาสืบเรื่องคุณชญาภา...ผมว่านายไม่ได้มาประเทศไทยเพราะเรื่องบริษัทอันดับแรกแน่ๆ สงสัยพวกเขาคงจะได้นายหญิงเร็วๆ นี้ละมัง
*****