ไม่เป็นไรกูเข้าใจ
แม่ง…
น่าอายชะมัด
เมื่อสติกลับมาผมก็รู้ตัวว่าไม่อาจมองไอ้โซ่ได้สนิทตาสนิทใจเหมือนก่อน
มันยังคงกอดผมไว้ไม่ยอมลุกขยับไปไหน
ผมรู้สึก…
ว่าอะไรที่อยู่ตรงเป้ามันกำลังดันก้นผมอยู่
เชี่ย!!
มึงแข็งใส่กูเหรอ!!!
ผมตกใจไม่รู่ว่าตัวเองต้องทำอย่างไรต่อกลัวว่ามันจะทำอะไรมากกว่านี้
อยู่ไม่ได้แล้วครับ!
ผมแกะมือมันออกตั้งใจจะวิ่งเข้าห้องน้ำ
แต่!
ไอ้โซ่คว้าตัวผมไว้จนล้มหงายหลังใส่มัน หลังผมชนกับหน้าอกมันอย่างจังนอกจากนั้นขาที่สามของมันก็ยังมาโดนบั้นท้าย
เสียวแว๊บบบ...
กลัวมันจะผลุบหายเข้าไปในก้นผมไอ้ที่เขาพูดๆกันว่าระวังผีผลักน่ะครับ
“เวลาว่างมึงชอบทำแบบนี้เหรอ?” มันกระซิบอีกแล้วเป็นอะไรคุยดีๆก็ได้รู้มั้ยว่าทำแบบนี้แล้วขนมันลุก! ...
“ทำบ่อยรึเปล่า?”
ยัง!...
ยังไม่หยุดเสือกเรื่องชาวบ้านอีกนะใครมันจะไปตอบวะ
“ห๊ะ!” ผมรีบดันตัวออกแล้วกันไปมองหน้ามันคิดในใจว่าถ้าด่าไปแล้วแม่งจะสำนึกมั้ย
“ก็…” มันไม่พูดแต่กำมือไว้แล้วก็เขย่าขึ้นลง
“เรื่องของกู! …” ผมตะคอกใส่มันเสียงดัง
อายครับ…
ผมไม่ได้หน้าด้านเหมือนมันหรอกนะใครจะมาเล่าเรื่องส่วนตัวให้เพื่อนที่ไม่สนิทฟัง
หนีดีกว่าครับ
ลุกขึ้นจากเตียงได้ผมก็วิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำทันทีไม่ลืมที่จะล็อคประตู
“แม่งเอ๊ยยย!!! ...น่าอายชิยหายจะเอาหน้าไปไว้ไหนล่ะเนี่ยไอ้ยุ” โวยวายกับตัวเองในกระจกเพราะไม่รู้จริงๆ ครับว่าต้องทำยังไงรู้นะว่าหนีมันไม่ได้ตลอด
แต่ขอทำใจก่อนแล้วกัน
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากจนผมตั้งรับไม่ทันเสียงไอ้โซ่ที่โคตรหื่นกามยังวิ่งวนอยู่ในหัว ภาพที่มันจับน้องชายผมก็ยังจำได้ติดตา ใจเริ่มเต้นแรงเมื่อนึกถึงเสียงครางและเสียงหอบหายใจที่ผมไม่สามารถกั้นฝืนเอาไว้ได้
มันเกินเลยกว่าคำว่าเพื่อนไปไกลอยู่นะครับ
มันทำให้ผมเป็นคนขี้ขลาดไม่สามารถเผชิญกับความจริง
"ไปรึยังวะ" เอาหูแนบประตูพยายามเงี่ยหูฟัง แต่ก็รู้สึกว่าข้างนอกมันเงียบจนผมแทบไม่ได้ยินอะไรเลย
ทำไงดี? ...
ออก?
ไม่ออก?
‘ไม่ออกไปให้โง่หรอก!’ ผมถ่วงเวลาด้วยการอาบน้ำพยายามขัดพยาพยามถูทุกซอกทุกมุมจนสะอาดเอี่ยมแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน
สระผม
เล็มขนจมูก
หนวดที่โกนแล้วเมื่อเช้าผมก็โกนอีก ถ้าถอนขนรักแร้กับโกนขนหน้าแข้งได้ผมก็ทำไปแล้วล่ะครับ
นานแล้วนะ
ผมเดินวนไปวนมาในห้องน้ำมีเพียงผ้าเช็ดตัวพันเอวไว้ปากเริ่มซีดตัวเริ่มเย็นเพราะหนาว…
ผมว่าป่านนี้มันคงกลับไปแล้วล่ะ
เงี่ยหูฟังอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
แกร๊ก...
ค่อยๆเปิดประตูห้องน้ำค่อยๆชะโงกหน้าออกไปดู
โล่งครับ…
"ไปซะที" ผมยิ้มกว้างเดินออกจากห้องน้ำด้วยความสบายใจ
หยิบผ้าขนหนูอีกผืนที่แขวนไว้มาเช็ดผมมือก็เช็ดสมองก็คิด…
ผมยังไม่สามารถลบภาพที่ติดตาและลบความรู้สึกที่มันยังติดค้างอยู่ในใจออกไปได้หมดโดยเฉพาะ...ความตื่นเต้นแปลกใหม่ที่ไม่เคยได้รับจากใครมาก่อนรีบส่ายหัวไล่ความคิดไร้สาระออกไป
แม่ง…
“เป็นไรวะเนี่ย” จับอกซ้ายตัวเอง
แค่ตื่นเต้นไม่มีอะไรหรอก...
เอามือลูบอกปลุกปลอบใจแล้วสมองน้อยของผมก็ดันคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“เชี่ย!รูป!”
ผมลืมเรื่องสำคัญได้ไงเนี่ยไอ้โซ่มันมีรูปมีคลิปของผมนะครับนี่ผมจะย้อนวัยกลับไปโดนมันแกล้งอีกรึเปล่า
“อ๊ากกก!!!..."
"เป็นไรโวยวายเสียงดัง?"
"มึง!!" อ้าปากค้างจ้องไอ้โซ่ที่เดินกลับเข้ามาในห้องผมใหม่นี่มันยังไม่ไปอีกเหรอวะเนี่ยยย!!!...
“อาบน้ำนานนะ” มันเดินชิลๆมานั่งที่เตียงผม
ลุกสิครับ
จะนั่งรอพ่อมาไล่รึไง? ผมดีดตัวลุกจากเตียงตัวเองอย่างไวทำเป็นเดินไปหยิบไดร์เป่าผม
เสียบปลั๊ก
หวังว่าความวุ่นวายและเสียงลมจากไดร์จะกลบความตื่นเต้นประหม่าในใจผมไปได้ตอนนี้ไม่พร้อมอยู่กับมันตามลำพังเลยจริงๆ
"ทะ...ทำไมยังไม่กลับอ่ะกลับไปได้แล่ว" ได้โอกาสไล่
“ตุบๆ …”
ไอ้โซ่มันนั่งไขว่ห้างมือซ้ายท้าวคางมือขวาตบเตียงชวนให้ผมวางไดร์กลับไปนั่งคุย
"มีอะไรก็พูดมาดิวะกูเป่าผมอยู่เนี่ย"
“แม่กูฝากน้ำพริกหนุ่มแคปหมูมาให้ป้ายา” ไอ้โซ่มันหมายถึงแม่ผมครับ
“ป้าสุมาเหรอ?” ผมหันไปมองมันรู้สึกบรรยากาศจะสบายๆ ไม่มีอะไรน่ากังวลแบบที่ผมคิด
“เปล่าพี่ซิปมา” มันตอบสั้นๆ ไม่เล่าอะไรเพิ่มเติมทั้งนั้นถ้าผมไม่ถาม
แล้วควรถามมั้ย?
ผมไม่ได้คุยกับมันมานานแล้วเจอกันผ่านๆ อย่างมากก็ยิ้มให้เพราะมันเป็นคนไม่ค่อยพูดผมก็ไม่รู้จะคุยอะไรกับมัน
แม้จะสนิทกันก็เถอะ
ที่บอกว่าสนิทน่ะหมายถึงแม่ผมกับแม่มันนะ ตอนนี้ป้าสุแม่ไอ้โซ่ย้ายกลับไปอยู่เชียงใหม่ส่วนมันก็อยู่บ้านที่นี่คนเดียวโดยที่ป้าสุหรือไม่ก็พี่ซิป พี่เซฟจะวนกันมาเยี่ยมมันทุกเดือนที่รู้เพราะแต่ละครั้งบ้านนั้นจะมีของมาฝากบ้านผมถ้าป้าสุลงมาบรรดาพ่อแม่ก็จะไปสังสรรค์กัน
“ทุกคนสบายดีเหรอ?”
“อือ…” มันพยักหน้า
“แม่กับพ่อกูไปแสวงบุญที่อินเดียน่าจะกลับอาทิตย์หน้า พี่ยับก็ไปค้างบ้านแฟน” เป็นฝ่ายผมทีาชวนมันคุยซะเอง
"แล้วไงจะบอกว่าคืนนี้ทางสะดวก?"
"คิดเชี่ยไรของมึงกูหมายถึงของฝากมึงไม่มีคนกินต่างหาก!"
“น้ำพริกแช่ตู้เย็นได้”
“แคปหมูด้วยเหรอ?”
“มีสมองมั้ย? …แคปหมูวางไว้ข้างนอกก็ได้ป่ะแต่ถ้ามึงอยากแช่ก็เชิญ”
“มึงว่ากูทำไมเนี่ย” ผมชักสีหน้าใส่มันเล็กๆ บรรยากาศวัยเด็กย้อยกลับมาอีกครั้ง
“ก็มึงฉลาดน้อย…” มันหันมามองผมยิ้มๆ “ชักว่าวมากจะทำให้สมองมึงโตช้าแล้วก็ตัวเตี้ยรู้เปล่า”
“ห๊ะ! ...จริงดิ!” ผมตกใจไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้มาก่อน
“…” ไอ้โซ่พยักหน้า "แต่ก็มีประโยชน์เหมือนกัน"
"อะไรวะ?"
มองไอ้โซ่ที่หยิบมือถือขึ้นมากดๆจิ้มๆสามสี่ทีแล้วก็ยื่นหน้าจอมาตรงหน้าผม
“เซ็กซี่…” มันยิ้มตาหยีดูภูมิใจที่เก็บภาพลามกของผมได้ครับ
“…ไอ้โซ่!” ผมรีบคว้ามือถือไว้แต่ก็ดันคว้าได้แค่อากาศ
ไล่จับไล่แย่งมือถือมันอยู่อย่างงั้น ยิ่งเห็นรูปผมก็ยิ่งปล่อยไปไม่ได้
ชัดทั้งหน้าชัดทั้งดุ้นขนาดนั้น
แม่ง!
เจ็บใจตัวเองอยู่เหมือนกันที่ไม่เคยเอาชนะมันได้เลยสักครั้ง รู้สึกตัวอีกทีตัวผมก็ขึ้นมาทับอยู่บนตักมันแล้วล่ะตอนนี้
มาได้ไงวะเนี่ย?
ผมรีบดันตัวขึ้นแต่มันก็กดหลังผมไว้ไม่ยอมให้ลุก
“ไอ้โซ่!กูไม่เล่น” ผมดิ้นพยายามปัดมือมันที่กดหลังผมอยู่แต่เอื้อมไม่ถึงครับ “ปล่อย! ...ดิวะ!” ผมร้องขอนี่เรียกว่าร้องจอนะครับฟังกันดีๆ
“….” มันไม่พูดและไม่ปล่อยผมด้วย
“สนุกรึไงแกล้งกูเนี่ย!”
“หันหน้ามาแล้วจะปล่อย”
ผมไม่เข้าใจว่ามันจะให้ผมหันหน้าไปทำไมจะแกล้งอะไรอีกล่ะยังไม่ทันได้ทำอะไรมันก็จับตัวผมพลิกเป็นนอนหงายซะก่อน
แรงเยอะชิบหาย…
ผมได้แต่บ่นในใจนอนมองหน้ามันตาปริบๆ มันก็จ้องผมกลับไม่พูดอะไรอีกเช่นเคย
การที่มันพูดน้อยก็ทำผมอึดอัดนะ เดาไม่ออกว่ามันกำลังคิดหรือกำลังจะทำอะไร
“มึง…ลบรูปกูได้มั้ยวะ” ผมเป็นฝ่ายพูดก่อนคราวนี้ตั้งใจเลยว่าจะคุยกับมันดีๆ
“แลกกับอะไร?”
“ทำไมต้องแลกวะ! ...มึงโรคจิตป่ะเนี่ยถ่ายรูปแบล็คเมล์กูงั้นเหรอ?"
“มั้ง?” มันยังตีหน้าตาย
“ไอ้โซ่! ...กูขอร้องล่ะนะลบเถอะ” ผมพยายามวอนขอแต่มันก็เฉยทำเหมือนไม่ได้ยินที่ผมพูด “มึงอย่าแกล้งกูแบบนี้เลยนะกูขอร้องล่ะให้กูกราบก็ได้อ่ะ”
“ไม่มีของฟรีบนโลก…”
“มึงนี่นะกูอุตส่าห์จะกราบ”
"กูไม่ใช่พระ"
"ทำไมต้องมีข้อแลกเปลี่ยนวะของแบบนี้มันก็เห็นๆกันอยู่ป่ะว่าไม่ควรเอามาเล่นอ่ะ" ผมรู้สึกโมโหมันนิดๆ ละพูดดีด้วยก็ยังทำเฉย
“ส่งให้ใครดี?”
“อย่านะมึง! …”
“เหรอ?”
ผมล่ะเกลียดมันจริงๆ …
“เออ…..ก็ได้ๆ กูยอมละมึงจะให้กูทำอะไรพูดมาเลย” สุดท้ายผมก็แพ้มันรู้ตัวว่าเป็นรองในทุกด้าน
เจ็บใจชะมัด!
“มือถือ” มันหันมามองผม
“มือถือ?” อย่าบอกนะว่ามันจะส่งรูปมาให้ดูอ่ะกูดูรูปตัวเองแล้วไม่มีอารมณ์หรอกนะ
ไอ้โรคจิต!
“มือถืออยู่ไหนของมึงน่ะ” มันย้ำพร้อมแบมือ
ผมลุกไปหยิบมือถือส่งให้มันตามคำสั่ง ไอ้โซ่จิ้มๆ กดๆ อยู่สักพักก็ส่งคืนกลับมา
“ไว้จะโทรหา” พูดจบมันก็ลุกขึ้น
“โทรหา? ...โทรทำไม?”
“ฉลาดน้อยจริงๆ นะ…” มันยื่นมือมาผลักหัวผม "รับสายด้วยล่ะ"
“นี่…มึงจะแกล้งกูจริงเหรอวะ”
“ก็…สนุกดี”
“แต่กูไม่สนุก…ไม่เลย! ...มึงเข้าใจกูมั้ยเนี่ย!!!”
“ไม่เป็นไร…กูเข้าใจ” มันทำหน้าเข้าอกเข้าใจแถมยังตบบ่าให้กำลังใจผมสองที
เข้าใจเชี่ยไร?
ถ้ามึงเข้าใจแล้วมึงจะแกล้งกูทำไมวะ
"ไปนะ"
"..." ไม่ตอบเพราะกำลังพูดกับมันในใจว่า
กูเกลียดมึงงงง!!!!!!