2:ไม่เป็นไรกูเข้าใจ

1761 Words
ไม่เป็นไรกูเข้าใจ แม่ง… น่าอายชะมัด เมื่อสติกลับมาผมก็รู้ตัวว่าไม่อาจมองไอ้โซ่ได้สนิทตาสนิทใจเหมือนก่อน มันยังคงกอดผมไว้ไม่ยอมลุกขยับไปไหน ผมรู้สึก… ว่าอะไรที่อยู่ตรงเป้ามันกำลังดันก้นผมอยู่ เชี่ย!! มึงแข็งใส่กูเหรอ!!! ผมตกใจไม่รู่ว่าตัวเองต้องทำอย่างไรต่อกลัวว่ามันจะทำอะไรมากกว่านี้ อยู่ไม่ได้แล้วครับ! ผมแกะมือมันออกตั้งใจจะวิ่งเข้าห้องน้ำ แต่! ไอ้โซ่คว้าตัวผมไว้จนล้มหงายหลังใส่มัน หลังผมชนกับหน้าอกมันอย่างจังนอกจากนั้นขาที่สามของมันก็ยังมาโดนบั้นท้าย เสียวแว๊บบบ... กลัวมันจะผลุบหายเข้าไปในก้นผมไอ้ที่เขาพูดๆกันว่าระวังผีผลักน่ะครับ “เวลาว่างมึงชอบทำแบบนี้เหรอ?” มันกระซิบอีกแล้วเป็นอะไรคุยดีๆก็ได้รู้มั้ยว่าทำแบบนี้แล้วขนมันลุก! ... “ทำบ่อยรึเปล่า?” ยัง!... ยังไม่หยุดเสือกเรื่องชาวบ้านอีกนะใครมันจะไปตอบวะ “ห๊ะ!” ผมรีบดันตัวออกแล้วกันไปมองหน้ามันคิดในใจว่าถ้าด่าไปแล้วแม่งจะสำนึกมั้ย “ก็…” มันไม่พูดแต่กำมือไว้แล้วก็เขย่าขึ้นลง “เรื่องของกู! …” ผมตะคอกใส่มันเสียงดัง อายครับ… ผมไม่ได้หน้าด้านเหมือนมันหรอกนะใครจะมาเล่าเรื่องส่วนตัวให้เพื่อนที่ไม่สนิทฟัง หนีดีกว่าครับ ลุกขึ้นจากเตียงได้ผมก็วิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำทันทีไม่ลืมที่จะล็อคประตู “แม่งเอ๊ยยย!!! ...น่าอายชิยหายจะเอาหน้าไปไว้ไหนล่ะเนี่ยไอ้ยุ” โวยวายกับตัวเองในกระจกเพราะไม่รู้จริงๆ ครับว่าต้องทำยังไงรู้นะว่าหนีมันไม่ได้ตลอด แต่ขอทำใจก่อนแล้วกัน ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากจนผมตั้งรับไม่ทันเสียงไอ้โซ่ที่โคตรหื่นกามยังวิ่งวนอยู่ในหัว ภาพที่มันจับน้องชายผมก็ยังจำได้ติดตา ใจเริ่มเต้นแรงเมื่อนึกถึงเสียงครางและเสียงหอบหายใจที่ผมไม่สามารถกั้นฝืนเอาไว้ได้ มันเกินเลยกว่าคำว่าเพื่อนไปไกลอยู่นะครับ มันทำให้ผมเป็นคนขี้ขลาดไม่สามารถเผชิญกับความจริง "ไปรึยังวะ" เอาหูแนบประตูพยายามเงี่ยหูฟัง แต่ก็รู้สึกว่าข้างนอกมันเงียบจนผมแทบไม่ได้ยินอะไรเลย ทำไงดี? ... ออก? ไม่ออก? ‘ไม่ออกไปให้โง่หรอก!’ ผมถ่วงเวลาด้วยการอาบน้ำพยายามขัดพยาพยามถูทุกซอกทุกมุมจนสะอาดเอี่ยมแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน สระผม เล็มขนจมูก หนวดที่โกนแล้วเมื่อเช้าผมก็โกนอีก ถ้าถอนขนรักแร้กับโกนขนหน้าแข้งได้ผมก็ทำไปแล้วล่ะครับ นานแล้วนะ ผมเดินวนไปวนมาในห้องน้ำมีเพียงผ้าเช็ดตัวพันเอวไว้ปากเริ่มซีดตัวเริ่มเย็นเพราะหนาว… ผมว่าป่านนี้มันคงกลับไปแล้วล่ะ เงี่ยหูฟังอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ แกร๊ก... ค่อยๆเปิดประตูห้องน้ำค่อยๆชะโงกหน้าออกไปดู โล่งครับ… "ไปซะที" ผมยิ้มกว้างเดินออกจากห้องน้ำด้วยความสบายใจ หยิบผ้าขนหนูอีกผืนที่แขวนไว้มาเช็ดผมมือก็เช็ดสมองก็คิด… ผมยังไม่สามารถลบภาพที่ติดตาและลบความรู้สึกที่มันยังติดค้างอยู่ในใจออกไปได้หมดโดยเฉพาะ...ความตื่นเต้นแปลกใหม่ที่ไม่เคยได้รับจากใครมาก่อนรีบส่ายหัวไล่ความคิดไร้สาระออกไป แม่ง… “เป็นไรวะเนี่ย” จับอกซ้ายตัวเอง แค่ตื่นเต้นไม่มีอะไรหรอก... เอามือลูบอกปลุกปลอบใจแล้วสมองน้อยของผมก็ดันคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “เชี่ย!รูป!” ผมลืมเรื่องสำคัญได้ไงเนี่ยไอ้โซ่มันมีรูปมีคลิปของผมนะครับนี่ผมจะย้อนวัยกลับไปโดนมันแกล้งอีกรึเปล่า “อ๊ากกก!!!..." "เป็นไรโวยวายเสียงดัง?" "มึง!!" อ้าปากค้างจ้องไอ้โซ่ที่เดินกลับเข้ามาในห้องผมใหม่นี่มันยังไม่ไปอีกเหรอวะเนี่ยยย!!!... “อาบน้ำนานนะ” มันเดินชิลๆมานั่งที่เตียงผม ลุกสิครับ จะนั่งรอพ่อมาไล่รึไง? ผมดีดตัวลุกจากเตียงตัวเองอย่างไวทำเป็นเดินไปหยิบไดร์เป่าผม เสียบปลั๊ก หวังว่าความวุ่นวายและเสียงลมจากไดร์จะกลบความตื่นเต้นประหม่าในใจผมไปได้ตอนนี้ไม่พร้อมอยู่กับมันตามลำพังเลยจริงๆ "ทะ...ทำไมยังไม่กลับอ่ะกลับไปได้แล่ว" ได้โอกาสไล่ “ตุบๆ …” ไอ้โซ่มันนั่งไขว่ห้างมือซ้ายท้าวคางมือขวาตบเตียงชวนให้ผมวางไดร์กลับไปนั่งคุย "มีอะไรก็พูดมาดิวะกูเป่าผมอยู่เนี่ย" “แม่กูฝากน้ำพริกหนุ่มแคปหมูมาให้ป้ายา” ไอ้โซ่มันหมายถึงแม่ผมครับ “ป้าสุมาเหรอ?” ผมหันไปมองมันรู้สึกบรรยากาศจะสบายๆ ไม่มีอะไรน่ากังวลแบบที่ผมคิด “เปล่าพี่ซิปมา” มันตอบสั้นๆ ไม่เล่าอะไรเพิ่มเติมทั้งนั้นถ้าผมไม่ถาม แล้วควรถามมั้ย? ผมไม่ได้คุยกับมันมานานแล้วเจอกันผ่านๆ อย่างมากก็ยิ้มให้เพราะมันเป็นคนไม่ค่อยพูดผมก็ไม่รู้จะคุยอะไรกับมัน แม้จะสนิทกันก็เถอะ ที่บอกว่าสนิทน่ะหมายถึงแม่ผมกับแม่มันนะ ตอนนี้ป้าสุแม่ไอ้โซ่ย้ายกลับไปอยู่เชียงใหม่ส่วนมันก็อยู่บ้านที่นี่คนเดียวโดยที่ป้าสุหรือไม่ก็พี่ซิป พี่เซฟจะวนกันมาเยี่ยมมันทุกเดือนที่รู้เพราะแต่ละครั้งบ้านนั้นจะมีของมาฝากบ้านผมถ้าป้าสุลงมาบรรดาพ่อแม่ก็จะไปสังสรรค์กัน “ทุกคนสบายดีเหรอ?” “อือ…” มันพยักหน้า “แม่กับพ่อกูไปแสวงบุญที่อินเดียน่าจะกลับอาทิตย์หน้า พี่ยับก็ไปค้างบ้านแฟน” เป็นฝ่ายผมทีาชวนมันคุยซะเอง "แล้วไงจะบอกว่าคืนนี้ทางสะดวก?" "คิดเชี่ยไรของมึงกูหมายถึงของฝากมึงไม่มีคนกินต่างหาก!" “น้ำพริกแช่ตู้เย็นได้” “แคปหมูด้วยเหรอ?” “มีสมองมั้ย? …แคปหมูวางไว้ข้างนอกก็ได้ป่ะแต่ถ้ามึงอยากแช่ก็เชิญ” “มึงว่ากูทำไมเนี่ย” ผมชักสีหน้าใส่มันเล็กๆ บรรยากาศวัยเด็กย้อยกลับมาอีกครั้ง “ก็มึงฉลาดน้อย…” มันหันมามองผมยิ้มๆ “ชักว่าวมากจะทำให้สมองมึงโตช้าแล้วก็ตัวเตี้ยรู้เปล่า” “ห๊ะ! ...จริงดิ!” ผมตกใจไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้มาก่อน “…” ไอ้โซ่พยักหน้า "แต่ก็มีประโยชน์เหมือนกัน" "อะไรวะ?" มองไอ้โซ่ที่หยิบมือถือขึ้นมากดๆจิ้มๆสามสี่ทีแล้วก็ยื่นหน้าจอมาตรงหน้าผม “เซ็กซี่…” มันยิ้มตาหยีดูภูมิใจที่เก็บภาพลามกของผมได้ครับ “…ไอ้โซ่!” ผมรีบคว้ามือถือไว้แต่ก็ดันคว้าได้แค่อากาศ ไล่จับไล่แย่งมือถือมันอยู่อย่างงั้น ยิ่งเห็นรูปผมก็ยิ่งปล่อยไปไม่ได้ ชัดทั้งหน้าชัดทั้งดุ้นขนาดนั้น แม่ง! เจ็บใจตัวเองอยู่เหมือนกันที่ไม่เคยเอาชนะมันได้เลยสักครั้ง รู้สึกตัวอีกทีตัวผมก็ขึ้นมาทับอยู่บนตักมันแล้วล่ะตอนนี้ มาได้ไงวะเนี่ย? ผมรีบดันตัวขึ้นแต่มันก็กดหลังผมไว้ไม่ยอมให้ลุก “ไอ้โซ่!กูไม่เล่น” ผมดิ้นพยายามปัดมือมันที่กดหลังผมอยู่แต่เอื้อมไม่ถึงครับ “ปล่อย! ...ดิวะ!” ผมร้องขอนี่เรียกว่าร้องจอนะครับฟังกันดีๆ “….” มันไม่พูดและไม่ปล่อยผมด้วย “สนุกรึไงแกล้งกูเนี่ย!” “หันหน้ามาแล้วจะปล่อย” ผมไม่เข้าใจว่ามันจะให้ผมหันหน้าไปทำไมจะแกล้งอะไรอีกล่ะยังไม่ทันได้ทำอะไรมันก็จับตัวผมพลิกเป็นนอนหงายซะก่อน แรงเยอะชิบหาย… ผมได้แต่บ่นในใจนอนมองหน้ามันตาปริบๆ มันก็จ้องผมกลับไม่พูดอะไรอีกเช่นเคย การที่มันพูดน้อยก็ทำผมอึดอัดนะ เดาไม่ออกว่ามันกำลังคิดหรือกำลังจะทำอะไร “มึง…ลบรูปกูได้มั้ยวะ” ผมเป็นฝ่ายพูดก่อนคราวนี้ตั้งใจเลยว่าจะคุยกับมันดีๆ “แลกกับอะไร?” “ทำไมต้องแลกวะ! ...มึงโรคจิตป่ะเนี่ยถ่ายรูปแบล็คเมล์กูงั้นเหรอ?" “มั้ง?” มันยังตีหน้าตาย “ไอ้โซ่! ...กูขอร้องล่ะนะลบเถอะ” ผมพยายามวอนขอแต่มันก็เฉยทำเหมือนไม่ได้ยินที่ผมพูด “มึงอย่าแกล้งกูแบบนี้เลยนะกูขอร้องล่ะให้กูกราบก็ได้อ่ะ” “ไม่มีของฟรีบนโลก…” “มึงนี่นะกูอุตส่าห์จะกราบ” "กูไม่ใช่พระ" "ทำไมต้องมีข้อแลกเปลี่ยนวะของแบบนี้มันก็เห็นๆกันอยู่ป่ะว่าไม่ควรเอามาเล่นอ่ะ" ผมรู้สึกโมโหมันนิดๆ ละพูดดีด้วยก็ยังทำเฉย “ส่งให้ใครดี?” “อย่านะมึง! …” “เหรอ?” ผมล่ะเกลียดมันจริงๆ … “เออ…..ก็ได้ๆ กูยอมละมึงจะให้กูทำอะไรพูดมาเลย” สุดท้ายผมก็แพ้มันรู้ตัวว่าเป็นรองในทุกด้าน เจ็บใจชะมัด! “มือถือ” มันหันมามองผม “มือถือ?” อย่าบอกนะว่ามันจะส่งรูปมาให้ดูอ่ะกูดูรูปตัวเองแล้วไม่มีอารมณ์หรอกนะ ไอ้โรคจิต! “มือถืออยู่ไหนของมึงน่ะ” มันย้ำพร้อมแบมือ ผมลุกไปหยิบมือถือส่งให้มันตามคำสั่ง ไอ้โซ่จิ้มๆ กดๆ อยู่สักพักก็ส่งคืนกลับมา “ไว้จะโทรหา” พูดจบมันก็ลุกขึ้น “โทรหา? ...โทรทำไม?” “ฉลาดน้อยจริงๆ นะ…” มันยื่นมือมาผลักหัวผม "รับสายด้วยล่ะ" “นี่…มึงจะแกล้งกูจริงเหรอวะ” “ก็…สนุกดี” “แต่กูไม่สนุก…ไม่เลย! ...มึงเข้าใจกูมั้ยเนี่ย!!!” “ไม่เป็นไร…กูเข้าใจ” มันทำหน้าเข้าอกเข้าใจแถมยังตบบ่าให้กำลังใจผมสองที เข้าใจเชี่ยไร? ถ้ามึงเข้าใจแล้วมึงจะแกล้งกูทำไมวะ "ไปนะ" "..." ไม่ตอบเพราะกำลังพูดกับมันในใจว่า กูเกลียดมึงงงง!!!!!!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD