วันต่อมาเป็นวันหยุดกิตติภูมิถูกจักรพรรดิเรียกเข้ามาคุยเรื่องงานในเวลาสิบโมง นิชาลีก็ทำงานอยู่ในมุมส่วนตัวของเธอที่อีกห้องหนึ่งจนกระทั่งจักรพรรดิเดินมาเรียก
“นิม”
“คะ?” เจ้าตัวหันใบหน้าออกจากจอโน้ตบุ๊กไปมองก็เห็นสีหน้าค่อนไปทางบึ้งของชายหนุ่ม ก่อนที่เขาจะเอ่ยถามเสียงขรึม
“รหัสตู้เซฟคืออะไร”
“ก็ วันเดือน ปี เกิด ของนิมไงคะ”
ชายหนุ่มถึงกับถอนหายใจ นิชาลีจึงพูดต่อ
“อย่าบอกนะว่าคุณจิ๋นจำไม่ได้น่ะ”
“เออ ไม่ได้ รีบบอกมาเร็ว”
ตู้เซฟมีเงินสดไว้ใช้จ่ายนอกระบบมีเพียงสองคนเท่านั้นที่รู้รหัสเปิดคือเขาและเธอ แต่ตอนนี้คงมีเธอคนเดียวที่จำได้เขาคงไม่มาจดมาจำให้มันเปลืองพื้นที่ในสมองหรอกในเมื่อในมือเขามีช่องทางการดึงเงินออกมาใช้หลายบัญชีสมฐานะนักธุรกิจแสนล้าน น้อยครั้งที่จะได้เปิดเซฟแล้วใช้เงินสด
ชายหนุ่มเดินกลับไปที่ตู้นิรภัยซึ่งมีเงินปึกละหนึ่งแสนวางเรียงกันอยู่ในนั้นเป็นจำนวนมากจนนับแทบไม่ถ้วนแต่รู้ว่ามีมูลค่ามากมายเกินกว่าทั้งชีวิตของคนหลายคนจะหาได้ มือหนาหยิบออกมาโดยไม่นับจำนวนแล้วนำมายื่นให้กิตติภูมินำไปใช้ประโยชน์ต่อ
“ใช่ให้คุ้มล่ะ ถ้ามันยังโลภมากต้องการมากกว่านี้ ก็ไปใช้คนอื่นซะ”
“ครับนาย”
จักรพรรดิพยักหน้าเป็นการบอกให้กิตติภูมิกลับออกไปได้ ก่อนที่นิชาลีจะเดินออกมาจากอีกห้องหนึ่ง
“ฉันจะออกไปตีกอล์ฟ”
“ค่ะ ให้นิมไปด้วยมั้ยคะ” เธอถามตามหน้าที่เลขาที่ดีไม่ใช่อยากจะตามติดชีวิตเขาเหมือนผู้หญิงไร้สมอง
“ไม่จำเป็น จะไปทำไม”
“อ้าว นิมก็จะได้ตามถ่ายรูปหล่อ ๆ ของเจ้านายเวลาโชว์วงสวิงเอาไว้อัปไอจีให้คุณไงคะ ตอนนี้มีสาว ๆ ฟอลโลว์คุณจิ๋นล้านกว่าแล้วน้า หนุ่มนักธุรกิจสุดฮอต”
เขาส่ายหน้าไม่ได้สนใจกับการโพสต์อวดรูปบนช่องทางโซเชียลของตัวเองที่มีสาวตามหวีดกันอย่างที่เขาก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ทุกช่องทางโซเชียลของชายหนุ่มล้วนมีแอดมินสาวสวยที่ทำหน้าที่เป็นทุกอย่างให้เธอแล้วคือนิชาลี
“งั้น ก็ส่งรูปถ่ายเท่ ๆ คูล ๆ มาให้นิมสักรูปสองรูปแล้วกัน เอาแบบไม่ต้องเห็นหน้าหล่อ ๆ ของคุณจิ๋นก็ได้ค่ะ เห็นแค่ข้อมือกับสนามกอล์ฟก็พอ”
“ไม่”
“เฮ้อ งั้นก็ตามใจเจ้านายค่ะ นิมออกไปชอปปิงข้างนอกนะ”
“ไม่ได้ ฉันจะกลับมากินข้าวเย็นที่นี่ เตรียมไว้ให้ด้วย”
นิชาลีทำหน้าไม่ดื้อรั้น ก่อนบอกว่า “อุตส่าห์ออกไปข้างนอกแล้ว ก็หากินข้างนอกให้มันจบไปเลยสิคะ จะกลับมากินที่ห้องทำไม ของข้างนอกน่าจะน่ากินกว่านะ”
“อย่าล้ำเส้นฉันนะนิม บอกยังไงก็ให้ทำตามแบบนั้น”
“ล้ำเส้นอะไรคะ นิมก็แค่เสนอทางเลือกที่สะดวกสำหรับคุณจิ๋นต่างหาก กลับมากินที่ห้องก็ไม่รู้จะกินอะไร ของในตู้เย็นก็หมดเกือบทุกอย่างแล้ว นิมยังไม่ได้ออกไปซื้อมาเตรียมไว้ ตอนนี้น่าจะเหลือแค่เมนูเคลียร์ตู้เย็นใส่ไข่แล้วล่ะค่ะ ไม่เบื่อเหรอคะ”
“หรือเธอเบื่อล่ะ” เขาย้อน คำพูดแฝงนัย นิชาลีจ้องตาเขานิ่งแล้วบอก
“สามปีแล้วนะที่นิมไม่เปลี่ยนใจจากคุณ ทั้งที่มีทั้งผู้ชายหล่อรวย แล้วก็เสี่ยสายเปย์มาเสนอเงินให้นิมเยอะแยะ”
“แล้วเธอมีสิทธิ์เปลี่ยนด้วยเหรอ” จักรพรรดิพูดอย่างลำพองใจ
“ถ้านิมไม่ได้มีใจให้คุณ นิมเปลี่ยนไปนานแล้ว”
“หึ เธอนี่บอกรักคนง่ายดีนะ”
“นิมไม่ใช่พวกแอบรัก ไม่เก็บรักไว้คนเดียวค่ะ รู้สึกยังไงก็บอกก่อนจะไม่มีโอกาส ตอนเรียนมหาลัยนิมชอบรุ่นพี่วิศวะคนนึง นิมยังเดินไปบอกเขาเลยว่านิมชอบเขา”
“แล้วไง ไอ้หมอนั่นมันก็ชอบเธอด้วยสิ” เขาต่อบทสนทนาของเธอแบบไม่ได้จริงจังนัก
“แน่นอน เขาชอบนิม แต่เราไม่ได้คบกันหรอก”
“ทำไม” เขาทำหน้าอยากรู้ นิชาลีจึงไหวไหล่
“ก็เขามีแฟนอยู่แล้วนิมเลยไม่ยุ่งด้วย จริง ๆ เขาก็อยากมาคบกับนิมนะแต่นิมไม่คบ ไม่ชอบยุ่งกับแฟนใคร ไม่อยากเป็นมือที่สาม”
จักรพรรดิส่ายหน้าเขาไม่อยากเสียเวลายืนฟังเรื่องราวของเธอจึงเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า กลับออกมาก็เดินออกจากห้องไป นิชาลีทำปากยื่นปากยาวใส่คนที่ทำเป็นเก๊กหน้าขรึมอยู่ตลอดเวลา อดที่จะนินทาลับหลังไม่ได้
“คุณนี่น่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น ยโส นามสกุลโอหัง ทำหน้าเหมือนคนแบกของหนักเอาไว้ตลอดเวลา ชิ”
นิชาลีนั่งทำงานของเธอไปเรื่อยจนกระทั่งประมาณบ่ายสองโมงเศษจักรพรรดิก็ส่งข้อความมาบอกให้ไปเจอกันที่ร้านอาหาร xx ตอนห้าโมงครึ่ง นั่นก็เป็นการบอกล่วงหน้าแล้วว่าเขานัดเธอไปกินมื้อเย็นข้างนอกด้วยกัน...สองคน
คนอ่านข้อความนั่งยิ้มหวาน เดินไปเลือกชุดที่จะใส่ไปกินมื้อเย็นดูวิวพระอาทิตย์ตกวันนี้
^
^
^
***โปรดติดตามตอนต่อไป อยากอ่านต่อวันละสองตอน เป็นกำลังใจให้กันด้วยค่า