ทางด้านสุรเกียรติเดินทางมาพร้อมกับลูกสาวคนสวย ที่สวยจนหลายคนเห็นแล้วไม่อาจละสายตาได้ เธอสวมชุดเดรสสั้นคอลเลกชันใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ดังระดับโลกแบบเรียบแต่หรู ทั้งสวยงามและดูสูงส่ง หญิงสาวควงแขนมากับบิดาของเธอ
“สวัสดีครับเสี่ยซุน” จักรพรรดิเอ่ยทักทาย
เสี่ยใหญ่ยิ้มกว้าง “สวัสดีคุณจิ๋น”
“สวัสดีค่ะพี่จิ๋น” เสียงทักหวานหูจากหญิงสาว
“สวัสดีครับน้องพาย” ชายหนุ่มทักตอบเสียงนุ่มพร้อมกับยื่นของขวัญที่ให้นิชาลีไปจัดหามาส่งให้ว่าที่คนข้างกายในอนาคต “ของขวัญสำหรับน้องพายครับ”
“อุ๊ย ขอบคุณมากค่ะพี่จิ๋น” พรนับพันทำตาโตอย่างน่ารักก่อนจะยกมือไหว้ขอบคุณด้วยท่าทางนุ่มนวลน่ามอง “พายขอเปิดดูเลยได้มั้ยคะ อยากเห็นว่าพี่จิ๋นให้อะไรพาย” ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงบ่งบอกว่าตื่นเต้นใคร่รู้จนคนมองอดนึกเอ็นดูไม่ได้
“เปิดได้เลยครับ ไม่รู้ว่าน้องพายจะถูกใจมั้ย” เขาก็อยากรู้ว่านิชาลีซื้ออะไรให้ผู้หญิงคนสำคัญของเขาเหมือนกัน
“ว้าว สวยน่ารักมากเลยค่ะ พายกำลังมองหาสร้อยใส่เล่นอยู่พอดี แต่ยังไม่เจอที่ถูกใจ” คุณหนูคนสวยอุทานอย่างตื่นเต้นยินดีเมื่อเห็นของในกล่องที่มีตราสัญลักษณ์แบรนด์ดังประทับอยู่ด้านบน มือเรียวขาวเนียนหยิบสร้อยคอพร้อมจี้สีพิงก์โกลด์ราคาหกหลักออกมาจากกล่อง
“เส้นนี้สวยน่ารักตรงใจพายเลยค่ะ” หญิงสาวยิ้มหวานหยดให้ผู้ชายที่ผู้เป็นพ่อเล็งเป้าให้มาเป็นลูกเขยตั้งแต่เขาสามารถนำบริษัทเคพีเค เทอร์มินัลผงาดขึ้นมาโดดเด่นนำหน้าคนอื่น ๆ ในแวดวงธุรกิจท่าเรือ
“งั้นพายสวมเลยนะคะ”
“พี่สวมให้ครับ” จักรพรรดิเสนอตัวช่วยสวมสร้อยให้เธอโดยไม่ต้องร้องขอ และสร้อยเส้นนี้ก็เข้ากับชุดที่เธอสวมมาอย่างเหมาะเจาะ นิชาลีทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมตามเคย
เลขาหญิงชายสองคนยืนอยู่หลังจักรพรรดิในระยะพอเหมาะ ปล่อยให้เจ้านายคุยกับแขกพิเศษแบบส่วนตัว เพียงนิชาลีได้เห็นผู้หญิงที่เจ้านายให้หาซื้อของขวัญให้เธอก็บอกได้ทันทีว่าเป็นคุณหนูที่สวยและงดงามตรงตามสเป็กผู้หญิงของเจ้านายทุกประการ... มิน่าล่ะ
โชคดีที่เธอทำการบ้านหาข้อมูลความชอบและสไตล์การแต่งตัวของคุณหนูว่าที่นายหญิงมาดี ทำให้หาของขวัญได้โดนใจผู้รับ มิฉะนั้นตัวเธอนั่นล่ะจะโดนมิใช่น้อย
“เห็นเพื่อนฝูงที่ทำเรื่องส่งออกพูดถึงอยู่ว่าบริการของเคพีเค เทอร์มินัลของคุณจิ๋นตอบโจทย์มากที่สุด คนหนุ่มไฟแรงมากฝีมือ ผมชื่นชมจริง ๆ” ระหว่างสนทนาเรื่องธุรกิจที่จะลงทุนร่วมกัน เสี่ยใหญ่ก็ชมว่าที่ลูกเขยซึ่งผ่านการพิจารณาแล้วว่าโดดเด่นเหมาะสมกับลูกสาวคนเดียวอย่างไร้คู่แข่ง
“ขอบคุณเสี่ยมากครับ ผมมีเป้าหมายให้เคพีเค เทอร์มินัลให้บริการที่เป็นมากกว่าท่าเรือทั่วไป”
“มันต้องอย่างนี้สิ ผมเชื่อว่าธุรกิจที่เราจะร่วมลงทุนกันต้องไปได้สวยแน่” สุรเกียรติหัวเราะอย่างถูกใจ
“น้องพายเงียบเลย พ่อคุยกับคุณจิ๋นอยู่คนเดียว” เสี่ยใหญ่เปิดช่องให้ลูกสาวอย่างรู้จังหวะ
พรนับพันยิ้มให้บิดา “ก็คุณพ่อคุยเรื่องธุรกิจนี่คะ” ก่อนจะหันมายิ้มหวานละลายใจให้ว่าที่คู่หมั้นหนุ่ม
“พายเพิ่งจะกลับมาอยู่ไทย ไม่ค่อยมีเพื่อนซักเท่าไหร่ เวลาอยากไปไหนก็มีแต่ไปกับคุณพ่อ บางครั้งพายก็อยากไปกับเพื่อนผู้หญิงบ้าง จะได้ช่วยกันดูของ วันนี้พายก็อยากดูเครื่องประดับ”
“ถ้าไม่รังเกียจ ให้เลขาพี่ไปเป็นเพื่อนช่วยน้องพายดูของก็ได้ครับ”
“จะดีเหรอคะ”
“ไม่มีปัญหาครับ นิชาลีคล่องแล้วก็รู้งานดี”
แวบหนึ่งที่เห็นสายตาของเสี่ยใหญ่ตวัดมองเลขาสาวของจักรพรรดิด้วยความพึงพอใจบางอย่าง
นิชาลีออกมาทำหน้าที่เป็นเพื่อนเดินชอปปิงกับคุณหนูสาวตามที่เธอบอกกับจักรพรรดิ แต่พอมาเดินเข้าจริงจะเรียกว่ามาเดินเป็นเพื่อนดูของก็คงไม่น่าจะใช่เพราะหญิงสาวต้องคอยเดินตามหลังและถือถุงชอปปิงขนาดเล็กใหญ่เกือบสิบใบไว้จนพะรุงพะรังเต็มสองมือ ถ้าจะบอกว่ามาเดินเป็นแจ๋วน่าจะใช่มากกว่า
“ไม่ทราบว่าคุณทำงานเป็นเลขาคุณจิ๋นมานานหรือยังคะ” พรนับพันเอ่ยปากถาม ‘แจ๋ว’ ที่เดินตามมา
นิชาลียิ้ม เปลี่ยนถุงชอปปิงในมือไปถืออีกข้างเฉลี่ยน้ำหนักกัน ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ“สองปีค่ะ สองปีกับอีกสามเดือน”
^
^
^
***ฮึบไว้ค่ะนิม โปรดติดตามตอนต่อไป กดติดตาม คอมเม้นไว้ด้วยนะคะ