“หืมม รู้สึกดีจังเลยปุ้ม อ่า...” ร่างใหญ่เอนกายไปเอามือวางบนที่นอนยันตัวเองไว้มองแฟนสาวจัดการอาวุธลับประจำกายของตัวเองที่อัดอั้นมานานและเขาก็ไม่คิดจะมีคนอื่นตราบใดที่ยังคบกับพัชรียาเขาไม่มั่วผู้หญิงและคบทีละคนก่อนหน้าจะคบกับพัชรียาเขาก็คบผู้หญิงมาหลายคนทั้งดารา นางแบบ ไฮโซและมีพัชรียาที่คบนานกว่าใครก็เกือบสองปีแล้ว
พัชรียาได้ยินเสียงของชายหนุ่มครางก็ได้ใจจึงอ้าปากอมปลายยอดไว้เต็มปากดูดดื่มดึงขึ้นลงตามมือรูดลึกจนถึงในคอจนสะอึกแต่เธอก็ทั้งดูดทั้งรูดปรนเปรอเขาอย่างไม่ออมมือให้สมกับที่เขาใจป้ำให้พ็อกเก็ตมันนี่เธอไปเที่ยวกับเพื่อน
“จ๊วบบๆๆ..”
“อ่าส์ เร็วอีกปุ้ม หื้มม..” ชายหนุ่มบอกเธอเสียงหอบกระเส่าเมื่อเธอกระดกลิ้นใส่ยอดลำรักแล้วดูดดื่มแก่นกายอวบใหญ่ของเขาอย่างเมามันส์จนเขาใกล้จะระเบิด
"จ๊วบๆๆ แพร่บบๆๆ.."
เธอลากลิ้นเลียแก่นกายอวบลงไปถึงโคนปลุกปล้ำไข่แฝดของเขาลากลิ้นวนรอบโคนขึ้นไปอมดูดไข่แฝดทั้งสองอย่างหยอกเย้าแล้วเลียรอบแก่นกายขึ้นมาถึงปลายยอดแก่นกายอวบดูดดื่มสลับกับมือก็รูดขึ้นลงตามจังหวะรัวเร็วถี่ๆ
“อ่าส์ ผมจะเสร็จแล้วนะปุ้ม อ่าา หื้มม..” จุลภัทรบอกเธอขณะที่กระทุ้งแก่นกายอวบใหญ่ใส่ปากเธอตามจังหวะริมฝีปากของเธอดูดดื่มรัวเร็วๆจนเขาทนไม่ไหวระเบิดลาวาร้อนใส่เต็มปากเธอ
“โอ้วววส์ อ่า...” เสียงห้าวร้องครางออกมาดังลั่นอย่างสุขสมเมื่อได้ปลดปล่อยความตึงเครียดในกายออกมามากมาย
“แพร่บๆๆ..” ไฮโซสาวไล้เลียลาวาร้อนอย่ากระหายจนหมดเกลี้ยงและไม่รอช้าลุกขึ้นผลักเขานอนหงายหลังลงบนเตียงทั้งที่ขาเขายังห้อยอยู่ขอบเตียงเธอขึ้นไปนั่งคร่อมขาเขาไว้
“คืนนี้ปุ้มจะทำให้จุลมีความสุขที่สุดค่ะ” เธอบอกเขาเสียงกระเส่าด้วยความเสียวกระสันจนกลีบสวาทฉ่ำเยิ้มด้วยน้ำเสียวแล้วรับซองสี่เหลี่ยมจากแฟนหนุ่มมาฉีกออกดึงเครื่องป้องกันออกมาสวมใส่ลงแนบกายอวบใหญ่ของเขา
“ยินดีครับ หื้มม..” จุลภัทรบอกอย่างไม่สนใจว่าเธอจะทำท่าไหนมันก็ทำให้เขาสุขสมทุกท่านั่นแหละ
“อ้าา ปุ้มรักจุลค่ะที่รักขา อู้วว..” เธอคุกเข่าลงบนเตียงยกสะโพกลอยขึ้นสูงจับแก่นกายอวบใหญ่ของเขาตั้งขึ้นจ่อกลีบสวาทของเธอแล้วกดสะโพกลงใส่แก่นกายอวบใหญ่เขาช้าๆด้วยสีหน้าแหยเก๋อย่างเสียวเมื่อกลีบสวาทเธอรับแก่นกายอวบใหญ่ของเขาได้ทั้งหมด
“หืมม เสียวเป็นบ้าเลยปุ้มจัดการมันเร็วเข้า อ่าาส์..” ชายหนุ่มครางออกมาและบอกเธอให้จัดการกับแก่นกายอวบใหญ่ของเขาให้มันได้ปลดปล่อยอีกครั้ง
“อ้ะะ อู้ยย..” เธอส่ายเอวคอดหมุนวนซ้ายขวาช้าๆเอนตัวไปด้านหลังวางมือบนต้นขาเขายกสะโพกขึ้นลงใส่แก่นกายอวบใหญ่เร็วขึ้นเต้าใหญ่เด้งไปมาเขาเอื้อมมือไปขยำเต้าใหญ่ของเธอขยี้ยอดถันเธอแรงขึ้นตามแรงรสสวาทที่เธอปรนปรออย่างถึงพริกถึงขิงและรู้อกรู้ใจกันเป็นอย่าดีจึงรุกรับกันได้ทุกท่วงท่าของกามสูตรส่งเสียงร้องครวญครางกระเส่าดังขึ้นเรื่อยๆ
"ตั้บบๆๆ ตั้บบๆๆ.."
“หืมม เอาแรงอีกปุ้ม อ่าาส์..” เขาบอกเธออย่างเสียวกระสันขณะที่เธอกดสะโพกใส่แก่นกายอวบถี่ขึ้นอย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อยเขาก็เด้งสะโพกสวนขึ้นอย่างแรงติดตามกันอย่างเข้าจังหวะกันไม่ลดละ
“ตั้บบๆๆ ตั้บบๆๆ”
เขายกเข่าตั้งขึ้นวางเท้าลงขอบเตียงจับเอวเล็กไว้แล้วเกร็งสะโพกกระทุ้งแก่นกายอวบใหญ่ขึ้นใส่กลีบสวาทอย่างรุนแรงเป็นจังหวะเดียวกับสะโพกงอนกระแทกกระทั้นกลีบสาวขึ้นลงรัวเร็วๆใส่เขาอย่างไม่ออมแรงจนแตกพร้อมกัน
“โอ้วววส์...”
“อ๊าายยส์....”
ทั้งสองส่งเสียงร้องดังออกมาพร้อมกันเมื่อเสร็จสมพร้อมกันปลดปล่อยลาวาร้อนพุ่งใส่เครื่องป้องกันแทบล้นออกมาแล้วชายหนุ่มก็ยกร่างผอมบางออกจากตัวลงนอนข้างๆ
"อู้ยยย..อ้า...." เธอครางเสียงกระเส่าเมื่อแก่นกายอวบใหญ่หลุดจากกลีบสวาทของเธอแล้วพลิกตัวกอดแฟนหนุ่ม
“ปล่อยก่อนปุ้ม” เสียงห้าวบอกแฟนสาวที่กอดเขาแน่น
“จุลจะไปไหนคะ”
“ผมจะไปหาอะไรดื่มสักหน่อย คุณจะเอาด้วยมั้ย” จุลภัทรรู้สึกคอแห้งและไม่มีอารมณ์จะเอาต่อกับแฟนสาวจึงลุกขึ้นรูดคอนดอมออกทิ้งถังขยะเล็กใต้โต้ะข้างเตียงหยิบกางเกงบ็อกเซอร์มาใส่แล้วเดินออกไปจากห้องนอนตรงไปที่ตู้เย็นแล้วหยิบขวดน้ำมาเปิดดื่มแก้กระหายใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่าพ่อแม่ของพัชรียาเร่งรัดให้เขาแต่งงานเพราะอะไรแต่เขายังไม่พร้อมจะมีห่วงผูกคอในตอนนี้เอาไว้สักสามสิบห้าแล้วค่อยคิดเรื่องแต่งงานก็ยังไม่สายและเขาได้บอกเธอไปแล้วก่อนจะทิ้งตัวลงบนโซฟานุ่ม
“จุลคะ” พัชรียาเดินออกมาจากห้องมีผ้าขนหนูพันอกเดินออกมาหาเขา
“ว่าไงปุ้ม”
“พรุ่งนี้จุลว่างมั้ยคะ พอดีคุณพ่อคุณแม่ให้ปุ้มชวนจุลไปทานข้าวที่บ้านค่ะ” พัชรียาถามแฟนหนุ่มอีกครั้งเพื่อเธอจะได้ตัดสินใจว่าจะไปต่อกับจุลภัทรหรือมูฟออนดีก่อนจะนั่งบนตักของเขายกมือขึ้นกอดคอแล้วมองสบตากัน
“พรุ่งนี้ผมต้องกลับไปไซต์งานที่บางแสนคงไปไม่ได้เอาไว้คราวหน้านะปุ้ม” จุลภัทรปฏิเสธไปทานข้าวบ้านแฟนสาวแล้วเอางานมาอ้างเขาไม่ชอบถูกมัดมือชก
“คุณทำงานหนักไปแล้วนะคะจุล ที่บริษัทมีลูกน้องมากมาคอยดูแลอยู่แล้วคุณก็พักผ่อนบ้างสิคะ เราหาเวลาไปเที่ยวมัลดีฟกันสักอาทิตย์ดีมั้ยคะ” พัชรียาพยายามชวนแฟนหนุ่มให้ไปเที่ยวพักผ่อนบ้างเพราะจุลภัทรเป็นผู้ชายบ้างานของแท้ตอนคบกันใหม่ๆยังพอไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยแต่ปีถัดมาก็เริ่มห่างหายจนบางครั้งเธอไม่รู้ว่าเธอกับจุลภัทรยังคบหาเป็นแฟนกันอยู่มั้ยแม้เขาจะบอกว่าไม่พร้อมจะแต่งงานหากเขารับปากจะแต่งงานกับเธอ เธอก็พร้อมจะรอเขา
“ผมบอกคุณแล้วไงล่ะปุ้ม ว่าช่วงนี้งานเยอะถ้าคุณมีเวลาว่างมากก็ไปช่วยงานพ่อแม่ของคุณบ้างนะ” ชายหนุ่มบอกแฟนสาวที่เดินแบบอย่างเดียวส่วนเวลาที่เหลือก็กินเที่ยวช้อปปิ้งขนาดบริษัทของพ่อมีปัญหาแทนที่จะไปช่วยกลับไม่ทำเขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าตัวเองชอบผู้หญิงแบบนี้ได้ยังไงเพราะเหตุนี้เขาจึงไม่อยากแต่งงานกับพัชรียาในตอนนี้ ผู้หญิงที่เขาต้องการคือเป็นเพื่อนคู่คิดเป็นที่พักพิงยามเหนื่อยล้าจากงานพอกลับบ้านก็มีข้าวปลาอาหารกินอิ่มหนำเป็นแม่ที่ดีของลูก
“คุณก็เป็นแบบนี้ทุกทีตกลงเรายังคบกันอยู่หรือเปล่าคะ ปุ้มรู้สึกว่าเราสองคนเหมือนกำลังเดินถอยหลังไปเรื่อยๆจนไม่แน่ใจอนาคตของตัวเองแล้วล่ะค่ะ” พัชรียาพูดด้วยความไม่พอใจแล้วลุกจากตักของแฟนหนุ่มเดินไปหยิบวิสกี้มาเทใส่แก้วแล้วยกขึ้นดื่มรับรู้ถึงรสชาติเข้มข้นของแอลกอฮอล์ไหลลงคอจนร้อนวูบวาบ
“ทำไมคุณถึงคิดแบบนั้นล่ะปุ้ม ผมไม่ได้ร่ำรวยล้นฟ้ามีเหลือกินเหลือใช้อยู่ได้โดยไม่ต้องทำงานก็มีกินไปทั้งชาติและถ้าผมไม่ทำงานผมจะเอาเงินจากไหนมากินมาใช้จ่ายล่ะ” จุลภัทรถามสาวสาวและดูท่าทีของเธอที่กำลังเบื่อหน่ายและเขาเองก็เช่นกันซึ่งพักหลังจะคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่องทำให้เขาเบื่อ
“คุณอย่ามาอ้างเลยจุล ถึงคุณไม่ทำงานก็มีกินมีใช้ไปทั้งชาติอยู่แล้วหรือคุณไม่คิดจริงจังกับปุ้มคะ อะไรก็งานๆๆ งานมันสำคัญกับคุณมากใช่มั้ยคะ” พัชรียาถามแฟนหนุ่มด้วยความไม่พอใจที่เขาปฏิเสธไม่ไปกินข้าวกับครอบครัวของเธอและเอางานมาอ้าง
“นั่นมันของคุณย่าของคุณป้าใช่ของผม ทุกวันนี้ผมทำงานแลกเงินเดือนผมไม่ได้มีเงินอย่าทีคุณคิดหรือทุกคนคิดว่าทายาทของวัฒนสิริสรณ์ร่ำรวยนั้นผิดแล้วล่ะปุ้ม” ชายหนุ่มตอบแฟนสาวเพราะเขายังทำงานและกินเงินกงสีอยู่ส่วนสมบัติที่มีก็มาจากปู่ย่าที่มอบให้เขารวมถึงพ่อแม่ถึงพวกท่านจะเลิกกันแต่ก็รับผิดชอบค่าใช้จ่ายของเขาร่วมกันจะโอนเข้าบัญชีของเขาทุกเดือนจนถึงตอนนี้เขายังไม่เคยเบิกมาใช้เลยเพราะอยู่กับย่าและป้าพวกท่านเป็นคนจัดการให้เขาทุกอย่าง
“คุณรู้มั้ยคะจุล ว่ามีผู้ชายที่หล่อและเก่งมานะร่ำรวยชาติตระกูลดีมาชอบปุ้มมากมายแต่ปุ้มเลือกคุณแล้วคุณทำให้ปุ้มผิดหวังทั้งที่ปุ้มทุ่มเทใจให้คุณจนหมดหัวใจ ทำไมคะจุลปุ้มไม่ดีตรงไหนคุณถึงไม่อยากแต่งงานกับปุ้มหรือให้คำมั่นสัญญากับปุ้มคะ” พัชรียามองสบตาของแฟนหนุ่มอย่างตัดพ้อแล้วยกเอาผู้ชายคนอื่นมาเปรียบเทียบกับจุลภัทร โดยไม่รู้ว่าทำให้ชายหนุ่มไม่พอใจที่ถูกเอาไปเปรียบเทียบกับคนอื่นเพราะแต่ละคนนิสัยใจคอไม่เหมือนกันเขาเป็นคนตรงรักก็คือรัก ชอบก็คือชอบในเมื่อมันยังไม่ถึงเวลาและเขาไม่ได้เร่งร้อนจะแต่งงาน
“ผมมันไม่ดีเองแหละปุ้ม หากคุณคิดว่ามีคนอื่นที่ดีกว่าคุณจะเลือกเขาก็ได้นะผมไม่ว่า งั้นช่วงนี้เราห่างกันสักพักนะคุณจะมีเวลาคิดว่าจะหยุดความสัมพันธ์กันแค่นี้หรือว่าจะเดินหน้าไปกับผมแต่ผมขอบอกไว้ก่อนว่ายังไม่พร้อมจะแต่งงานในตอนนี้” จุลภัทร์พูดจบก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปในหองนอนแล้วหยิบเสื้อผ้ามาใส่โดยไม่เสียเวลาอาบน้ำในเมื่อเธอบอกว่ามีผู้ชายอีกมากมายมาชอบก็ให้เลือกเอาละกันเพราะเขาไม่ใช่ตัวเลือกของใคร
พัชรียานั่งอึ้งเมื่อแฟนหนุ่มพูดเหมือนบอกเลิกเธอและบอกว่ายังไม่พร้อมจะแต่งงานอีกแล้วเธอจะทำยังไงดีล่ะใจหนึ่งก็คิดว่ารักจุลภัทรอีกใจก็คิดว่าไฮโซหนุ่มหล่อที่พ่อแม่แนะนำก็น่าสนใจและเธอไม่อยากจับปลาสองมือจึงทำให้ตัดสินใจลำบากเพราะที่ผ่านมาจุลภัทร์ก็ให้เธอมาเยอะพอสมควรและยังไม่มีใครเปย์ให้เธอได้เท่าเขา
“จุลคะ คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ” ไฮโซสาวลุกขึ้นเดินตามแฟนหนุ่มเข้าไปในห้องนอน
“ยังต้องให้ผมแปลความหมายอีกเหรอปุ้ม”
“คุณทำแบบนี้กับปุ้มไม่ได้นะจุล”
“ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะปุ้ม ผมแค่บอกว่าให้เราห่างกันสักพักเท่านั้นเอง”
“ก็ห่างกันสักพักของคุณก็เหมือนกับบอกเลิกคบกับปุ้ม หรือว่าคุณหญิงย่าของคุณไม่ให้คุณคบกับปุ้มคะ” พัชรียาต่อว่าแฟนหนุ่มเสียงดังด้วยความโกรธที่จุลภัทรกำลังบอกเลิกเธอถึงแม้เธอจะมีที่หมายใหม่ในใจแต่ก็ยังเสียดายเขาเพราะลีลาเซ็กส์ของเขาทั้งเร้าใจถึงใจแม้ช่วงหลังจะห่างกันแต่พอเจอกันก็จัดหนักจัดเต็มทุกครั้งและที่สำคัญเขาเขาใจป้ำไม่จุกจิกจู้จี้ถาม
“นี่เป็นเรื่องของเราสองคนไม่เกี่ยวกับคุณย่าอย่าดึงท่านเข้ามาเกี่ยวด้วย” จุลภัทรพูดเสียงเข้มเมื่อแฟนสาวดึงย่ามาเกี่ยวหากท่านบงการเขาได้เขาคงไม่คบกับพัชรียามาจนถึงป่านนี้หรอก
“แต่คุณหญิงย่าไม่ชอบปุ้ม”
“ผมบอกแล้วไงว่าไม่เกี่ยวกับคุณย่า มันอยู่ที่เราสองคนต่างหากล่ะที่ต้องคุยกันปรับตัวเข้าหากันไม่ใช่หรือไงแต่ที่เป็นอยู่มันไม่ใช่ไง ผมต้องทำงานแต่คุณต้องการไปเที่ยวความคิดเราสวนทางกันเราควรถอยกลับไปคนละก้าวเพื่อทบทวนตัวเองก่อนว่าต้องการอะไรกันแน่” ชายหนุ่มพยายามอธิบายให้เธอฟังแต่ดูเหมือนว่าพัชรียาจะไม่ฟังเลย
“ที่คุณพูดมาทั้งหมดก็เพื่อจะเลิกกับปุ้มจริงๆใช่มั้ยจุล”
“ก็แล้วแต่คุณจะคิดแล้วกันปุ้ม ผมไปนะ” พูดไปก็ไม่รู้เรื่องชายหนุ่มจึงเลือกจะไปเพราะอยู่ไปก็จะทะเลาะกัน
“จุลคะ จุล กลับมาก่อนนะกลับมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนนะ” พัชรียาเรียกตามหลังแฟนหนุ่มที่เดินลิ่วออกไปจากห้องนอน “ถ้าคุณออกไปจากห้องนี้เราขาดกัน” เสียงตะโกนดังตามหลังทำให้ร่างสูงชะงักก่อนจะเปิดประตูห้องแล้วเดินออกไปอย่างไม่เหลียวหลัง
“จุลคะ จุลกลับมานะ กรี้ดดด...” พัชรียากรีดร้องออกมาเสียงดังเมื่อแฟนหนุ่มเดินออกไปจากห้องโดยไม่หันกลับมามองเธอด้วยซ้ำก่อนจะกวาดของบนโต้ะข้างเตียงตกกระจายเต็มพื้นและดึงทึ้งที่นอนผ้าห่มระบายอารมณ์จนกระทั่งหมดแรงแล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียงและไม่มีน้ำตาสักหยดอาจเป็นเพราะเธอไม่ได้รักเขาจริงแต่เธอเสพติดเซ็กส์ของเขาและชื่อเสียงและเงินทองที่เขาปรนเปรอมากกว่า
จุลภัทรออกจากคอนโดของพัชรียาแล้วตรงกลับเพนท์เฮ้าส์ของเขาแล้วอาบน้ำนอนพักผ่อนชายหนุ่มไม่ได้คิดเรื่องของพัชรียาอีกในเมื่อไปกันไม่ได้เขาก็ไม่ฝืนและให้พัชรียาเลือกเองเขาไม่อยากเป็นฝ่ายบอกเลิกเธอก่อนเพราะตอนนี้เขาไม่มีแผนจะแต่งงานในหัวเลย
“แกอยู่ไหนวิต”
“อยู่เพนท์เฮ้าส์ครับ”
“มาดื่มที่ห้องฉันเร็ว” จุลภัทรบอกสาวิตเลขาของเขาที่พักอยู่เพนท์เฮ้าส์ถัดลงไปหนึ่งชั้น
“ได้ครับ” สาวิตพูดจบก็วางสายแล้วขึ้นไปหาเจ้านายพอไปถึงหน้าห้องก็กดรหัสแล้วเปิดประตูเข้าไปในห้องเข้าไปมองหาเจ้านายหนุ่มก่อนจะเจอนั่งอยู่ริมสระน้ำ “เกิดอะไรขึ้นครับถึงอยากดื่ม”
“ไม่มีอะไรก็แค่อยากดื่มเฉยๆไม่ได้หรือไงวะ” เจ้าของห้องพูดแล้วยกแก้ววิสกี้รชาติเยี่ยมขึ้นดื่มตอนแรกว่าจะอาบน้ำแล้วพักผ่อนแต่ออาบน้ำแล้วตามันยังสว่างก็เลยหาเพื่อนดื่ม
“แต่พรุ่งนี้ต้องทำงานและมีประชุมเช้าด้วยนะครับ” เลขาคนสนิทบอกเจ้านายหนุ่มที่เป็นเหมือนพี่ชายของเขาเพราะโตมาด้วยกัน
“แล้วไงล่ะ” คนอยากดื่มย้อนถามแล้วเทวิสกี้ใส่แก้วให้คนอายุน้อยกว่าสองปี
“โอเคครับ ดื่มครับ อา..” สาวิตยกแก้วิสกี้ขึ้นดื่มทีเดียวหมดแก้วทำเอากระเพาะร้อนวูบวาบเลยทีเดียว
“พรุ่งนี้ประชุมเสร็จแล้วไปบางแสนเลยนะ”
“ไปทำไมครับ เราเพิ่งกลับกรุงเทพมาเมื่อวานนี้นะครับ” เลขาคนสนิทถามเจ้านายอย่างสงสัยเขากับจุลภัทรเพิ่งกลับมาเมื่อวานนี้เองและเขายังไม่ได้กลับบ้านเลยด้วยซ้ำ
“ไปดูงานไงแล้วจะไปดูที่ดินที่ระยองด้วย” เขาลืมไปว่าจะยังไม่ได้ไปดูที่ดินที่เพื่อนของพ่อแนะนำเลยว่ามีเจ้าของอยากขายที่ดินริมทะเลที่บอกขายกันในกลุ่มเพื่อนฝูงยังไม่ได้ประกาศขายเดิมทีก็เป็นรีสอร์ทแต่ลูกชายบริหารไม่เป็นและยังเล่นการพนันจึงทำให้เป็นหนี้และจำเป้นต้องขายเพื่อใช้หนี้
“แค่ที่ทำอยู่นี่ก็แทบไม่มีเวลาพักและอยู่กับแฟนแล้วนะครับ” สาวิตว่าประชดเจ้านายที่ทำแต่งานช่วงนี้จึงห่างเหินแฟนสาวและเขารู้มาว่าทางพ่อแม่ฝ่ายหญิงอยากให้ลูกสาวแต่งงานแต่จุลภัทรไม่พร้อม
“แกมีแฟนแล้วเหรอทำไมฉันไม่รู้วะ” จุลภัทรหรี่ตามองน้องชายคนสนิทอย่างจับผิดก็เขากับสาวิตตัวติดกันยังกับตังเมยกเว้นเวลานอนเท่านั้น
“ผมจะเอาเวลาที่ไหนไปมีกันล่ะครับ ขนาดพ่อแม่ยังแทบไม่ได้เจอหน้าเลยที่ผมพูดคือคุณจุลต่างหากเล่า” สาวิตแก้ตัวก็เขายังไม่มีแฟนเลยแล้วผู้หญิงที่ไหนจะมาสนใจเขากันล่ะวันๆมีแต่งานแต่ก็มีคนหนึ่งสมัยเรียนที่คบกันตอนปีหนึ่งแล้วเลิกกันตอนเรียนปีสองและตอนนี้เธอกลายเป็นดารานางแบบซื่อดังไปแล้ว
“ฉันมีแฟนแล้วไง จะต้องตัวติดกันตลอดเวลาหรือไงวะ แกคิดว่าผู้หญิงที่จะมาเป็นเมียเป็นแม่ของลูกฉันจะเป็นผู้หญิงที่ทำอะไรไม่เป็นแม้แต่เทน้ำดื่มเองแล้ววันๆเอาแต่ช้อปปิ้งแต่งตัวเฉิดฉายอยู่ในสังคมอวดรวยกันอย่างนั้นเหรอวะ” ชายหน่มพูดถึงผู้หญิงที่เขาคบอยู่ยิ่งนานวันก็ทำให้เขาเห็นตัวตนของพัชรียาที่ห่วงแต่หน้าตาและชื่อเสียงจะทำอะไรก็กลัวทำให้เสียชื่อจึงทำอะไรเป็นนอกจากรับเดินแบบเล็กๆน้อยๆกินเที่ยวช้อปปิ้งสมกับเป็นลูกหลานเศรษฐีผู้ดีเก่าแล้วไงล่ะ ในเมื่อผู้หญิงสามารถเลือกผู้ชายที่จะมาเป็นแฟนเป็นคนรักเป็นสามีได้เขาก็เลือกได้เหมือน
“งั้นคุณปุ้มล่ะครับ” ก็ที่คุณจุลพูดมาคือพัชรียาแฟนสาวของตัวเองทั้งหมด
“ก็เอาตรงๆนะ เธอไม่มีความเป็นเมียเป็นแม่เลยถ้าแต่งงานกันไปก็เลิกกันอยู่ดี” พัชรียาไม่เคยสนใจถามเขาด้วยซ้ำว่างานเป็นยังไงบ้างเหนื่อยมั้ยพอเจอหน้าก็พูดแต่เรื่องเที่ยวกินช้อปปิ้งและจบลงด้วยเซ็กส์บางทีเจอกันแค่เรื่องเซ็กส์ซึ่งเขาก็ไม่ได้ใส่ใจในเมื่อต่างก็พอใจทีจะคบกันไปแบบนี้แต่ระยะหลังมานี้พัชรียาเร่งรัดอยากแต่งงานและเขาได้บอกไปแล้วว่ายังไม่ได้คิดเรื่องนี้ทำให้เธอไม่พอใจ
“ก็จริงครับ” สาวิตเห็นด้วยเขาเองก็ไม่ชอบพัชรียาที่ชอบจิกหัวพนักงานเวลาไปหาเจ้านายแต่ตอหน้าพูดอีกอย่างลับหลังพูดอีกอย่างหากเขาไม่เห็นด้วยตาก็คงไม่เชื่อและไม่ได้เห็นคนเดียวจุลภัทรก็เห็นด้วย
“เอ้าดื่มสิวะ” จุลภัทรยกแก้วชูขึ้น
“กริ้กก..”
สองหนุ่มหล่อนั่งดื่มไปคุยกันไปทั้งเรื่องงานและเรื่องทั่วไปจนกระทั่งเที่ยงคืนก็แยกย้ายกันไปนอนพักผ่อนเพราะพรุ่งนี้ต้องทำงานและมีประชุมด้วย ปกติจุลภัทรจะดื่มตอนวันหยุดเท่านั้น
เวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์
หลังจากที่พักต์พริ้งคุยกับฝนสุดาและวันถัดมาก็พาคูรแววตาไปดูที่ดินที่เธอยกให้สร้างบ้านพักให้เด็กๆและวันนี้จัดการเรื่องที่ดินเป็นของบ้านมาลัยรัก ถึงจะเปลี่ยนที่อยู่แต่ชื่อบ้านพักของเด็กๆก็ยังใช้ชื่อเดิมและไม่อยากเรียกว่าสถานสงเคราะห์หรือบ้านเด็กกำพร้าเพราะเหมือนตอกย้ำเด็กๆจึงยังให้เกียรติคุณสมัย และวันนี้พักต์พริ้งจึงพาครูแววตากับฝนสุดามาคุยกับลูกชายและอดีตสามีตามที่นัดกันไว้ส่วนชาครียาไม่ได้มาด้วยเพราะเข้าเวรแทนเพื่อนที่มาขอสลับวันหยุดเพราะพ่อไม่สบาย สามสาวใหญ่สามสไตล์เดินเข้าไปในร้านอาหารหรูกลางเมืองและมีพนักงานมาต้อนรับพาไปห้องส่วนตัวที่เกริกวิทย์จองไว้คุยธุระของอดีตภรรยาที่โทรมาขอให้เขาช่วยสร้างบ้านพักให้เด็กกำพร้าเขาจึงได้โอกาสนัดมาทานอาหารเพื่อจะได้คุยกันเพราะอดีตภรรยาไม่เคยโทรหาเขาก่อนถ้าไม่จำเป็นจริงๆตั้งแต่เลิกกันจะทานข้าวด้วยกันก็ต่อเมื่อเป็นวันสำคัญของลูกชายคือวันเกิดแค่ปีละครั้งเท่านั้น
“สวัสดีครับพักต์ เชิญทุกคนนั่งก่อนครับ” เกริกวิทย์ลุกขึ้นยิ้มให้อดีตภรรยาที่เขายังรักเธอไม่เสื่อมคลายแม้จะมีแต่งงานอีกครั้งเขาก็เก็บพักต์พริ้งไว้ในใจตลอดมาแล้วภรรยาคนปัจจุบันก็รู้ดีและยอมรับความจริงจึงอยู่ด้วยกันได้และมีลูกสองคนชายหนึ่งหญิงหนึ่งและลูกๆของเขาก็เข้ากันได้ดี
“สวัสดีค่ะคุณเกริก นี่ฝนสุดากับครูแวตาเพื่อนของฉัน ส่วนนี่คุณเกริกผู้อุปถัมภ์บ้านมาลัยรักจ้ะ” พักพริ้งแนะนำเพื่อนรุ่นน้องทั้งสองให้อดีตสามีรู้จัก
“สวัสดีค่ะ/ค่ะคุณเกริก” ฝนสุดากับแววตายกมือไหว้นักธุรกิจชื่อดังที่ยังดูหล่อสมาร์ททั้งที่อายุเกือบหกสิบแล้วพวกเธอเคยเห็นแต่ในสื่อต่างๆเวลามีงานเปิดตัวโปรเจคใหม่ของบริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่อย่าง KSP พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
“สวัสดีครับคุณฝนสุดาคุณแววตา ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนของพักต์ครับ” เกริกวิทย์รับไหว้แล้วยิ้มให้เพื่อนของอดีตภรรยา
“ลูกยังไม่มาอีกเหรอคะ” พักต์พริ้งถามหาลูกชายที่นัดเจอกันในวันนี้พร้อมอดีตสามี
“กำลังจอดรถน่ะ เดี๋ยวคงมาพักต์กับคุณฝนสุดาคุณแววตาสั่งอาหารรอตาจุลเลยครับ” เกริกวิทย์บอกอดีตภรรยากับเพื่อนให้สั่งอาหารรอลูกชายเพราะวันนี้เขาไม่รีบมีเวลาให้อดีตภรรยาคุยธุระจนกว่าเธอจะพอใจ