หมั้นหมาย
“พอลูกสาวของคุณทศเรียนจบ ผมจะให้พายุมาสู่ขอทันทีนะครับ” เสียงของคุณธีเปล่งออกมาอย่างหนักแน่น ขณะที่เขาหันไปสบตากับเพื่อนเก่าที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“ยินดีมากครับคุณธี ครอบครัวเราก็คิดเช่นกัน” คุณทศตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ความปลื้มใจฉายชัดบนใบหน้า แม้ว่าการพูดคุยเรื่องนี้จะไม่ใช่ครั้งแรก แต่วันนี้เป็นวันที่พวกเขาได้พูดกันอย่างเป็นทางการ
บรรยากาศในห้องรับแขกเงียบลงชั่วขณะ คำพูดของผู้ใหญ่ถูกกล่าวออกมาด้วยท่าทีเรียบง่าย คล้ายกับเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่หัวใจของใครบางคนในห้องนี้กลับเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกจากอก
ครีมที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับพ่อ กำลังกำสองมือแน่นอยู่บนตัก สายตาของเธอไม่ได้จับจ้องไปที่พ่อหรือแขกของบ้านเลย และไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าใครกำลังจ้องมาที่เธอ…
พายุ
สายตาของเขาจับจ้องมาที่เธอไม่ละ ถึงแม้ตั้งแต่เด็กจนโต เขาไม่เคยพูดออกมาตรง ๆ แต่ทุกการกระทำของเขาล้วนบอกความรู้สึกที่เก็บไว้มาโดยตลอด
และวันนี้ เขากับเธอไม่ใช่เพียงแค่ ‘เด็กน้อยที่ถูกหมั้นหมายกัน’ อีกต่อไป แต่เป็นคนสองคนที่กำลังจะต้องแต่งงานเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมายในอนาคต
พายุในวัย 21 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่สามของคณะวิศวกรรมศาสตร์ ขณะที่ครีมเป็นรุ่นน้องปีหนึ่งในคณะเดียวกัน ซึ่งทุกอย่างดูเหมือนจะดำเนินไปตามเส้นทางที่ถูกกำหนดเอาไว้ตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว
แต่ในใจของครีมกลับมีคำถามหนึ่งที่ยังไม่ได้คำตอบ พายุ... จะสามารถอดทนรอให้ถึงวันแต่งงานได้จริง ๆ หรือเปล่า? เขาจะไม่ไปหลงรักผู้หญิงคนอื่นแล้วแต่งงานกันก่อนถึงวันกำหนดแต่งเหรอ เพราะอีกฝ่ายก็เป็นผู้ชายที่หล่อมาก รวยมาก แถมยังเป็นที่ชื่นชอบของสาว ๆ ในมหาวิทยาลัยอีก
“น้องครีมโตเป็นสาวแล้วนะ ระหว่างนี้ก็เปิดใจคุยกันไว้บ้าง” เสียงของคุณทศเรียกครีมให้หลุดจากภวังค์ เธอเงยหน้ามองพ่อที่พูดด้วยรอยยิ้มอบอุ่น แต่คำพูดของพ่อกลับทำให้เธอรู้สึกใจเต้นรัว ราวกับกำลังโดนเร่งให้เตรียมใจรับมือกับอนาคตที่กำลังใกล้เข้ามา
พายุที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ยังคงมองเธอด้วยสายตาเดิม เคร่งขรึม นิ่งสงบ แต่กลับเต็มไปด้วยประกายบางอย่าง ที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวได้ทุกครั้งที่หันไปสบตา
“พายุ ขยันทำคะแนนกับน้องหน่อยนะ” คุณธีพูดติดตลก เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้นในห้องรับแขก แต่มีเพียงคนเดียวที่หัวเราะไม่ออก นั่นก็คือ ครีม
เธอรีบหลุบตาลง หัวใจเต้นแรงขึ้นจนแทบควบคุมไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้... ว่าพายุทำคะแนนมาตลอด แต่เธอไม่อยากยอมรับ
เมื่อบทสนทนาระหว่างผู้ใหญ่สิ้นสุดลง คุณทศหันไปมองเด็กหนุ่มและเด็กสาวที่นั่งเงียบอยู่ข้าง ๆ ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
“เอาล่ะ เด็ก ๆ ออกไปเดินเล่นกันหน่อยไหม? พ่อกับแม่ขอคุยธุระกันต่ออีกหน่อย” เป็นประโยคที่ฟังดูเหมือนชวนให้ไปสูดอากาศข้างนอก แต่ครีมกลับรู้สึกเหมือนเป็นคำสั่งกลาย ๆ ให้เธอออกไปใช้เวลากับพายุ
เธอชำเลืองมองไปทางเขาเล็กน้อย พายุเองไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรเป็นพิเศษ แค่พยักหน้ารับคำพ่อของเธอแล้วลุกขึ้นยืน ก่อนจะหันมามองเธอเหมือนรอให้เดินตามออกไป ครีมลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่ก็ต้องลุกขึ้นตามไปโดยปริยาย
บรรยากาศด้านนอกเงียบสงบ ลมเย็นพัดโชยมาทำให้รู้สึกสบายขึ้นเล็กน้อย แต่สำหรับครีมกลับรู้สึกตรงกันข้ามความเงียบระหว่างเธอกับพายุกลับสร้างบรรยากาศที่น่าอึดอัดมากกว่าเดิม เธอเดินนำหน้าเขาไปเล็กน้อยโดยไม่พูดอะไร ขาทั้งสองข้างเร่งจังหวะเร็วขึ้นเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว แต่ถึงเธอจะเดินเร็วแค่ไหน ก็ยังรู้สึกได้ว่าพายุยังคงเดินตามหลังมาอยู่ดี…
ครีมก้มหน้าก้มตาเดินไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมือของเธอเอื้อมไปจับลูกบิดประตูสวนหลังบ้าน ตั้งใจจะออกไปหาที่นั่งสงบ ๆ คนเดียว แต่ก่อนที่เธอจะทันได้หมุนมันออกไป เสียงมือถือของเธอก็ดังขึ้นเสียก่อน เธอสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะรีบหยิบมันขึ้นมาดู เป็นข้อความจากเพื่อนในกลุ่มที่ส่งมาชวนไปนั่งเล่นที่คาเฟ่ใกล้มหาวิทยาลัย เป็นจังหวะที่ดี…
ครีมถอนหายใจเฮือกใหญ่ คิดว่าอย่างน้อยวันนี้เธอคงมีเหตุผลดี ๆ ที่จะหลบเลี่ยงสถานการณ์อึดอัดนี้ได้สักที เธอรีบก้าวออกจากบ้านไปทันที โดยไม่หันกลับไปมองว่าพายุยังคงยืนอยู่ตรงนั้นหรือไม่ แต่ถึงเธอจะหนีออกมาได้จริง ๆ ก็ตาม…ทำไมถึงยังรู้สึกเหมือนสายตาของเขายังตามเธอมาไม่หยุดเลยนะ...?
สวนหลังบ้านเงียบสงบ มีเพียงเสียงลมพัดเบา ๆ ที่ไหวผ่านกิ่งไม้
ครีมเลือกจะนั่งลงที่โต๊ะไม้ใต้ต้นไม้ใหญ่ ตรงนี้เป็นมุมที่เธอมักจะใช้เวลาว่างไปกับการวาดรูป เพราะมันเป็นที่ที่ทำให้เธอรู้สึกสงบที่สุด เธอหยิบสมุดสเก็ตช์ขึ้นมา วางมันลงบนโต๊ะ ก่อนจะค่อย ๆ เปิดไปที่หน้าว่าง ๆ ดินสอในมือเริ่มขยับ เส้นเบา ๆ ถูกลากไปบนกระดาษโดยอัตโนมัติ เธอกำลังวาดอะไรบางอย่าง…
ตอนแรกคิดจะวาดสวนดอกไม้ตรงหน้า แต่เมื่อมองไปที่เส้นร่างจาง ๆ กลับพบว่ามันกำลังกลายเป็นใบหน้าของใครบางคน…
ริมฝีปากได้รูป ดวงตาคมที่มักจะจ้องเธออยู่เสมอ และรอยยิ้มบาง ๆ ที่เขามักใช้เวลามองเธอ… ครีมชะงักไป มือที่กำลังลากเส้นหยุดค้างกลางอากาศ นี่เธอกำลังวาด... พี่พายุ?
มือบางรีบพลิกหน้ากระดาษกลับไปหน้าแรก ราวกับพยายามซ่อนอะไรบางอย่างจากตัวเอง แต่ในจังหวะที่เธอกำลังทำแบบนั้น เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากข้างหลัง
"ครีม รีบเดินหนีพี่เหรอครับ?" เสียงทุ้มคุ้นเคยดังขึ้น ทำให้ครีมสะดุ้งเฮือก หัวใจเต้นแรงขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว ทำให้เด็กสาวรีบเงยหน้าขึ้น ก่อนจะพบว่าพายุยืนอยู่ข้างหลัง ห่างออกไปไม่กี่ก้าว
แววตาของเขาเหมือนกำลังจับผิดเธอเล็ก ๆ ราวกับรู้ว่าเธอกำลังซ่อนอะไรบางอย่างอยู่
“ปะ... เปล่าค่ะ!” คนตัวเล็กรีบตอบ แต่เสียงของเธอกลับฟังดูไม่มั่นใจเลยสักนิด ทว่าพายุกลับเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเข้ามาใกล้อีกก้าว
“หื้ม? เปล่าจริงเหรอ?” น้ำเสียงของเขาฟังดูเหมือนจะแกล้งเธอ ทำให้คนร่างบางรีบเบี่ยงสายตาหนี กำมือแน่นอยู่บนตัก ไม่รู้จะตอบกลับยังไงดี
แต่ก่อนที่เธอจะทันได้พูดอะไรต่อ พายุเหลือบไปเห็นสมุดสเก็ตช์ของเธอที่เปิดค้างอยู่บนโต๊ะ และทันใดนั้น ลมก็พัดผ่าน ทำให้หน้ากระดาษปลิวกลับไปหน้าที่เธอเพิ่งวาดค้างไว้
ครีมรีบเอื้อมมือไปปิดมัน แต่ไม่ทัน…พายุเห็นเข้าเสียแล้ว ดวงตาคมจับจ้องไปที่ภาพวาดบนกระดาษ นิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะค่อย ๆ คลี่ยิ้มออกมา
“ครีมวาดรูปพี่เหรอครับ?” น้ำเสียงของเขาไม่ได้ดังนัก แต่กลับทำให้ครีมรู้สึกเหมือนจะลุกขึ้นหนีไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด
“เอ่อ... ก็... ไม่ใช่... ไม่ใช่รูปพี่หรอกค่ะ!” เธอรีบแก้ตัว น้ำเสียงติดขัดอย่างเห็นได้ชัด แต่พายุยังคงยืนอยู่ที่เดิม ไม่ได้ละสายตาไปจากเธอเลย
“หืม... ไม่ใช่พี่?” เขาทำเสียงเหมือนครุ่นคิด ก่อนจะก้าวเข้ามาใกล้อีกนิด
“ถ้าไม่ใช่พี่ แล้วใครล่ะครับ?” ครีมกำดินสอแน่นจนรู้สึกถึงเหงื่อที่เริ่มซึมออกมาที่ฝ่ามือ จากนั้นหันไปมองหน้าเขา ก่อนจะรีบเบือนสายตาหนี พยายามควบคุมเสียงของตัวเองให้เป็นปกติ
“ก็... ก็แค่สวนดอกไม้ตรงนี้ไงคะ ส่วนผู้ชายในรูป คือผู้ชายคนอื่น” พายุมองเธอเงียบ ๆ ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ
“อืม... แล้วพี่ล่ะครับ” เขาโน้มตัวลงมาเล็กน้อย ก้มลงมองเธอที่นั่งอยู่ข้างล่าง สายตาเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์
“ในรูปของครีม... พี่อยู่ในนั้นบ้างหรือเปล่า?” คำถามของเขาทำให้ครีมเผลอกลั้นหายใจไปชั่วขณะ เล่นเอาหญิงสาวไม่รู้จะตอบยังไงดี ได้แต่ก้มหน้างุด หัวใจเต้นโครมครามราวกับจะทะลุออกมา สุดท้ายเธอก็หลุดพูดออกไปเบา ๆ ด้วยเสียงที่แทบไม่เป็นคำ
“...ก็อาจจะมีบ้างค่ะ” ครีมนิ่งไปกับคำพูดของพายุ ใจของเธอเต้นโครมครามจนแทบจะหลุดออกจากอก ราวกับมีเสียงกลองรัวอยู่ข้างในอก
“งั้นตั้งแต่วันนี้ไป... พี่จะทำทุกทางให้ครีมมองพี่แค่คนเดียว” คำพูดของพายุวนเวียนอยู่ในหัวเธอไม่หยุด เขาพูดจริงเหรอ?
“พี่พูดจริงจังเหรอคะ?” ครีมเผลอถามออกไป น้ำเสียงของเธอสั่นเล็กน้อย พายุไม่ตอบในทันที เขาแค่ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะขยับตัวถอยออกห่างเล็กน้อย แล้วล้วงมือใส่กระเป๋ากางเกง ราวกับให้เธอได้มีเวลาทำใจ
“พี่เคยพูดเล่นกับครีมเรื่องแบบนี้เหรอครับ?” น้ำเสียงของเขานุ่มลึก ฟังดูจริงจังเสียจนครีมต้องเม้มริมฝีปากแน่น
ใช่…
พายุไม่ใช่คนที่ชอบพูดอะไรเล่น ๆ อยู่แล้ว และยิ่งเป็นเรื่องของเธอ เขายิ่งไม่เคยพูดอะไรแบบไม่คิด เธอควรจะตอบอะไรเขาดี? หรือเธอควรจะเงียบไป... เผื่อว่าเขาจะลืมเรื่องนี้ไปเอง?
หญิงสาวเหมือนกำลังหาทางหนีทีไล่ แต่พายุไม่ได้ให้โอกาสเธอเลย
"พี่ไม่เร่งครีมหรอกนะ" เขาพูดขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับก้าวถอยหลังออกไปสองก้าว
“แต่พี่จะค่อย ๆ ทำให้ครีมรู้เอง ว่าครีมไม่ต้องหนีพี่ไปไหนหรอก” พูดจบ เขาก็ยิ้มให้เธออีกครั้งก่อนจะเดินกลับไปทางบ้าน ปล่อยให้ครีมยืนนิ่งอยู่ที่เดิม หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบเป็นลมไปตรงนั้น
นี่มันอะไรกัน...!? พายุเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมเขาถึงพูดแบบนี้ออกมาได้ง่าย ๆ กัน!?
ครีมรีบยกมือขึ้นมาทาบอก สูดหายใจเข้าลึก ๆ พยายามทำให้ตัวเองสงบลง แต่ไม่ว่าจะทำยังไง ความรู้สึกวูบวาบที่อยู่ในอกก็ไม่ยอมหายไปง่าย ๆ
และไม่รู้ทำไม… เธอถึงรู้สึกว่า
ตั้งแต่วันนี้ไป ชีวิตของเธอคงไม่สงบสุขอีกแล้วแน่ ๆ