ตอนที่ 1 เหตุการณ์ที่ไม่เคยลืม(1)

1531 Words
๑ -เหตุการณ์ที่ไม่เคยลืม- “พี่เพลิง..”เสียงที่แทบสิ้นใจเรียกคนที่รักพร้อมกับน้ำตาไหลรินลงมาจากดวงตาสวย รัตติกาลมองคนที่นอนอยู่ด้วยหัวใจที่แตกสลาย เขากล้าทำเเบบนี้กับเธอได้ยังไง.. ดวงตาสวยพร่ามัวเพราะน้ำตาที่พากันพรุพลั่งออกมา เธออยากจะให้สิ่งที่เธอเห็นเป็นเพียงแค่ความฝัน ร่างบางแทบจะทรุดลงพื้นด้วยความอ่อนแรง เเต่มีทรายขวัญเพื่อนสาวช่วยพยุงไว้อยู่ ทรายขวัญเม้มปากโกรธแทนเพื่อนที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ เรื่องเจ้าชู้เล็กเจ้าชู้น้อยรัตติกาลก็ยังให้อภัยผู้ชายเฮงซวยแบบนี้อยู่เพราะความรักที่มีให้เขา แต่ครั้งนี้ทรายขวัญคิดว่ามันมากเกินไปจริง ๆ “ไนท์!!!”คนที่เพิ่งฟื้นจากรสรักของหญิงอื่นก็เด้งตัวขึ้นอย่างตกใจว่าคนรักมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร พอเห็นว่าคนทางนั้นตื่นก็รีบวิ่งออกจากคอนโดหรูไปอัคนีรีบใส่เสื้อผ้าและวิ่งตามออกมา แต่กว่าจะออกมาได้ก็ต้องฝ่าด่านของทรายขวัญที่ห้ามไม่ให้ตามไป พอกลับมาถึงคอนโดหรูใจกลางเมืองก็พบว่าไม่มีใครอยู่ เเม้กระทั่งเสื้อผ้า ของใช้ต่าง ๆ ของสาวคนรัก ไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว อัคนีคุกเข่าลงพร้อมกับเอามือปิดหน้าตัวเอง เขาเม้มปากด้วยความสมเพชตัวเอง หยดน้ำใส ๆ ไหลรินออกมา “อย่าทิ้งพี่ไป..” “อย่าไป!!!”เสียงทุ้มตะโกนออกมาท่ามกลางความมืด ดวงตาคมเปิดออก หายใจแรงจนได้ยินเสียง เหงื่อตกพลั่ก ๆ ทั้ง ๆ ที่ในห้องยังเปิดเครื่องปรับอากาศ เเต่เมื่อตั้งสติได้ก็ลุกขึ้นนั่งเอามือลูบหน้า ผ่อนลมหายใจออกอย่างเช่นทุกครั้ง “ฝันอีกแล้ว”อัคนีบ่นกับตัวเองเเละหันไปมองนาฬิกาตั้งโต๊ะที่วางอยู่บนหัวเตียง ตั้งแต่เธอทิ้งเขาไป เขาก็ฝันเเบบนี้วน ๆ ซ้ำ ๆ เหมือนเป็นภาพติดตา ภาพที่เขาทำผิดต่อคนรัก.. ภาพที่เธอทิ้งเขาไป.. แต่เมื่อหลายปีก่อนเขาหยุดฝันไปและฝันถึงเด็กผู้ชายหน้าตาละหม้ายคล้ายกับเขาอย่างกับถ่ายเอกสารออกมา เขารู้สึกผูกพันธ์กับเด็กชายคนนั้นเสียเหลือเกิน ในฝันนั้นเจ้าอ้วนกลมมานอนบนอกเขาหลับปุ๋ย ฝันว่าได้เล่นด้วยกันทุกวัน เป็นฝันที่บรรเทาความเศร้าของเขาไปได้เป็นอย่างมาก แต่พอเวลาผ่านไปย่างเข้าเดือนที่เก้าที่ฝันถึง เด็กคนนั้นก็ไม่มาอีกเลย และเขาก็กลับไปฝันถึงความทรงจำที่เจ็บปวดเช่นเดิมรวม ๆ เเล้วเป็นเวลาถึงสองปี “เจ้าอ้วนอยู่ไหนนะ ไม่มาเลย” พอนอนคิดได้สักพักก็หลับไปอีกครั้งจนถึงรุ่งสร่าง “สวัสดีครับคุณแม่”กรนวัติไหว้คุณนายของ ไร่แสงตะวัน ที่มีชื่อเสียงที่สุดของภาคเหนือ “สวัสดีจ้ะพ่อกร มาได้ยังไงแล้วมากับใครน่ะ สวยจังเลยนะ” มองผ่านเพื่อนรักของลูกชายไปที่หญิงสาวคนสวยราวกับนางเอกในละครที่เคยดู "สวัสดีค่ะ"ทางฝ่ายนั้นสวัสดีผู้หญิงด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม คุณนายจันทรายิ้มให้และรับไหว้ "ว่าที่ภรรยาครับแม่"กรนวัติตอบ “จริงเหรอจ๊ะ แม่ดีใจด้วยนะ จะได้เมียเป็นตัวเป็นตนเเล้ว แตกต่างกับพ่อเพลิงไม่เอาใครเลย”บ่นถึงลูกชายทำให้กรนวัติอดขำไม่ได้ “เดี๋ยวก็มีครับ เผลอ ๆ ได้หลานด้วย” “ว่ายังไงนะพ่อกร” “เปล่าครับไม่มีอะไร นี่ทรายขวัญ เจ้าสาวของผมครับ"เปลี่ยนเรื่องทันทีที่โดนถามทำเอาทรายขวัญถึงกับหน้าเสียไปด้วยแต่พอกรนวัติแก้สถานการณ์ได้ก็แอบโล่งใจอยู่ลับ ๆ “แม่ดีใจด้วยนะ พ่อกรเขาเป็นคนดี”หันมาพูดกับว่าที่เจ้าสาว “ขอบคุณนะคะคุณแม่”ทรายขวัญยิ้มรับและไหว้ด้วยความนอบน้อม เธอไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นแม่ของคนที่ทำร้ายจิตใจเพื่อนรักของตัวเองได้ครั้งเเล้วครั้งเล่า เท่าที่ฟังมาจากกรนวัติ เธอแทบจะไม่เชื่อเลยด้วยซ้ำเพราะท่านดูใจดีผิดกับลูกชายอย่างยิ่ง คุณนายของบ้านพาทั้งสองเข้ามานั่งข้างในและเรียกให้สาวใช้เอาน้ำและขนมมาเสิร์ฟ “คำมิ่ง พ่อเลี้ยงทำอะไรอยู่”ถามถึงลูกชาย “พ่อเลี้ยงยังไม่กลับจากบ้านหลังนู่นเลยครับ”คำมิ่งลูกน้องของอัคนีตอบ “นายตัวเองเเท้ ๆ ไปตามมาด้วยนะ บอกเขาให้มาเร็ว ๆ ”พอบ่นเสร็จก็สั่ง คำมิ่งจึงพยักหน้ารับเละรีบขับรถอีแก่ไปบ้านไม้หลังงามอีกหลังหนึ่งที่อยู่ในไร่ ไม่ห่างจากบ้านคุณนายจันทรามากนัก “ถ้าอย่างนั้นแม่ขอตัวนะ”พอบอกถึงธุระที่ตนต้องไปทำเเล้วก็รีบไปทันที “เกือบไปแล้วนะพี่กร”พอเห็นคุณนายจันทราเดินออกไปก็หันกลับมาตีบ่าของคนรักเบา ๆ กรนวัติลูบแขนปอย ๆ "พี่ไม่ได้ตั้งใจนี่น่า แต่เราก็ตั้งใจจะบอกเขาอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ" "แล้วขวัญบอกเหรอว่าเราจะบอกพี่เพลิง ขวัญแค่บอกว่าจะทำให้พวกเขาเจอกันต่างหากล่ะ"เพราะเห็นว่าอัคนีไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วจึงเริ่มใจอ่อนและสงสารเขาที่ถูกเพื่อนรักตนทิ้งไปและอีกอย่างเธอรู้ดีว่ารัตติกาลยังรักอัคนีอยู่ จึงหาทางจะช่วยให้สองคนนี้ได้พบกันและได้ปรับความเข้าใจกันในที่สุด "อ๋อ ที่แท้ก็เป็นเเบบนี้นี่เอง" “พ่อเลี้ยงง!”เสียงของคำมิ่งทำให้อัคนีเอาหมอนมาปิดหูตัวเองไว้ แต่มันดันปิดไม่มิด ยังมีเสียงเล็ดลอดเข้ามาอีก “อะไรคำมิ่ง”เปล่งเสียงออกมาด้วยความหงุดหงิด “เพื่อนพ่อเลี้ยง เขามาจากกรุงเทพฯครับ คุณนายจัน ท่านบอกให้มาตามไปบ้านนู่น” “ใครมา” “คุณกรนวัติครับ” “อืม เดี๋ยวไป ไม่ต้องรอ” บอกกับลูกน้องเสร็จก็ยีหัวตัวเองรอบหนึ่งและลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวขับรถอีแต๋นที่ใช้เอาไปไร่บ่อย ๆ ไปบ้านใหญ่ที่อยู่ใกล้ ๆ กับทางเข้าไร่ “มาทำไม”เสียงต้อนรับของพ่อเลี้ยงอัคนีดังขึ้นด้านหลังของกรนวัติและทรายขวัญ “แหมไอ้นี่ นี่เพื่อนนะโว้ย ต้อนรับขับสู้ดี ๆ หน่อย”พอกรนวัติหันไปก็โวยใส่ยกใหญ่ ทำเอาทรายขวัญหัวเราะตาม “สวัสดีค่ะพี่เพลิง”ยกมือไหว้เพื่อนของว่าที่สามี อัคนีรับไหว้เเล้วยิ้มให้ ร่างสูงเดินมานั่งฝั่งตรงข้ามของคู่รัก “เเล้วสรุปมาทำไมวะตั้งไกล มาเที่ยวเหรอ” “เปล่า ไม่ได้มาเที่ยว มาแจกการ์ดมึงเนี่ยแหละ” “การ์ด? การ์ดไรวะ”ทรายขวัญหยิบการ์ดในซองสีชมพูพาสเทลให้อัคนี มือใหญ่คว้ารับมาเปิดดูและเลิกคิ้วขึ้น “เเน่ใจหรือขวัญว่าจะแต่งงานกับมัน” “เอ้า ไอ้นี่ มึงควรดีใจกับกูสิ ไปพูดให้เมียกูเขวได้ไง” “ขวัญยังไม่ได้คิดเลยพี่เพลิง รู้อีกทีเขาก็จับขวัญไปลองชุดแล้ว” “หนีได้นะ เดี๋ยวเตรียมรถให้” “พอ ๆ ชงซะข้นเลยมึง”กรนวัติยกมือห้ามว่าที่ภรรยาและเพื่อนสนิทที่พูดหยอกล้อตน “ว่าแต่ไม่เจอกันตั้งนานเปลี่ยนไปขนาดนี้เลยเชียว หนวดเนี่ยโกนบ้างเถอะ กูไหว้ล่ะ โคตรเหมือนโจร”พอมองดูสภาพของเพื่อนก็อดบ่นไม่ได้ อัคนีไม่ได้ดูแลตนเองมานานมากแล้ว หนวดก็ไม่โกน ผมก็ไม่ตัด เขาบอกหลายรอบเเล้ว แต่คนอย่างอัคนีหรือจะฟัง “ไม่ตัด ไม่โกน”นั่นไง! ผิดจากที่คิดซะที่ไหน “แต่นี่งานแต่งกูนะโว้ย มึงต้องเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว” “เอาน่า กูมีวิธีของกูเเล้วกัน” “วิธีพิเรนท์น่ะสิมึง” “เออ ขวัญพี่ถามอะไรหน่อยสิ”พอพูดกับเพื่อนรักไม่รู้เรื่องก็เบี่ยงประเด็นมาที่คนรักของเพื่อนแทนที่ “ว่าไงคะ” “คือว่า..เพื่อนเจ้าสาวมีใครบ้างเหรอ..”ถามด้วยน้ำเสียงแผ่วจนทำให้คนฟังใจตกวูบทั้งคู่ “จะว่ายังไงดีล่ะ คนที่พี่อยากเจอเขาไม่มาหรอกค่ะ เขาบอกว่าเขางานยุ่งน่ะ แต่ขวัญเข้าใจนะ”คำตอบของทรายขวัญทำให้ทั้งบ้านตกอยู่ในความเงียบ แววตาผิดหวังฉายออกมาอย่างชัดเจน “กำหนดการอีกสองวันข้างหน้า มึงไปกับกูวันนี้เลยก็ได้ จะได้ไปเตรียมงานช่วยกู”เมื่อเห็นว่าเงียบ กรนวัติก็เปลี่ยนเรื่องพูดทันที อัคนีพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วยและบอกให้คำมิ่งไปเก็บของให้ตนเพื่อที่จะได้เข้ากรุงเทพไปกับเพื่อนรัก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD