มีอะไรกับมันรึยัง?

1298 Words
ตอนที่ 2 มีอะไรกับมันรึยัง? ทอปัด รู้สึกราวกับว่าคำพูดหยาบโลนของเขานั้น เป็นเหมือนดั่งไฟลูกใหญ่ที่นาบเข้ากับผิวอ่อนบริเวณนั้น จนใบหน้าเธอแดงก่ำไปจนถึงใบหู และไม่ทันจะได้เอ่ยต่อว่าใดใด เจ้าของถ้อยคำนั้นก็เดินห่างออกไปเพื่อคุยกับแขกในงานที่กำลังทยอยกลับแล้ว เขาทำคล้ายดั่งไม่มีอะไรเกิดขึ้น! "สามคะ ...วิคงต้องกลับแล้วค่ะ ความจริงวิอยากอยู่ต่ออีกสักหน่อย แต่พอดีมีธุระต่อ ไว้ค่อยนัดเจอกันวันหลังนะคะ" ร่างระหงในชุดเดรสสีทองแสนสง่า ปรี่เข้ามาเกาะแขนของจักรกริช หล่อนคือ วิกานดา อัศวเทพ ลูกสาวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คนปัจจุบัน ซึ่งทอปัดเคยเห็นข่าวตามสื่ออยู่บ่อยๆ ว่านี่คือหนึ่งในคู่ควงของทายาทตระกูลโชติพิทักษ์ เธอมองภาพนั้นอยู่เพียงครู่ แต่ก็ไม่ได้คิดจะใส่ใจต่อ ด้วยไม่ใช่เรื่องอะไรที่เกี่ยวกับเธอ จึงหันหน้ามาเพื่อเก็บอุปกรณ์ให้เรียบร้อยดีกว่า จะได้กลับบ้านไปพักผ่อนเสียที "ไม่เป็นไรครับวิ แค่คุณมาแสดงความยินดีผมก็ดีใจแล้ว" ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ ทว่าดวงตาสีนิลเข้มก็ยังคงพราวระยับ เมื่อทอดสายตามองไปยังร่างบางของใครคนหนึ่ง ที่ไม่ได้หันมาสนใจเขาเลยแม้แต่น้อย "งั้นเดี๋ยววิจะไลน์หานะคะ" วิกานดา แตะต้นแขนเขาเบาๆ ด้วยท่าทางยั่วยวน วันนี้จักรกริชดูดีและหล่อเหลาเจิดจ้าจนหล่อนสายตาพร่ามัว เหมือนโดนมนต์สะกดตั้งแต่เขาขึ้นไปยืนพูดอยู่บนเวทีแล้ว จักรกริช โชติพิทักษ์ ถือเป็นนักธุรกิจหนุ่มหล่อไฟแรงอายุเพียงสามสิบสองปี ที่สามารถนำพาแบรนด์ร้านอาหารที่เริ่มต้นจากศูนย์ ให้เติบโตติดอันดับต้นๆ อย่างรวดเร็ว และสามารถนำพาบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้โดยใช้เวลาไม่นานนัก เขาไม่ใช่ผู้ชายแบดบอยอย่างที่เธอเคยพบ ที่จะหาได้ง่ายๆ ทั่วไป ด้วยเครือข่ายของตระกูลโชติพิทักษ์นั้น แม้ไม่ถึงกับมั่งคั่งเหลือเฟือเท่าตระกูลเจ้าสัวคนอื่นๆ แต่ connection ที่มีอยู่มากมายของ ประเสริฐ โชติพิทักษ์ ผู้เป็นพ่อที่ได้สร้างสะสมไว้มาเนิ่นนาน ทำให้ตระกูลนี้ทำธุรกิจด้วยความโปร่งใสและเติบโตบนรากฐานแห่งความยั่งยืน นั่นทำให้ทุกองค์กรล้วนอยากจะคบหาเป็นพันธมิตรทังนั้น รวมทั้งตระกูลของเธอด้วย วิกานดาพอจะทราบว่าลุงประเสริฐนั้น เคยคิดทาบทามลูกสาวในตระกูลของเจ้าสัวฮ้ง ให้กับทายาทคนโตเหมือนกัน แต่เหมือนจะมีอะไรผิดพลาดบางอย่างทำให้คลาดกัน และสายสัมพันธ์ของช่อลดาลูกสาวคนโตของเจ้าสัวฮ้งกับพี่น้องทั้งสามคน ก็เป็นเหมือนเพื่อนพี่น้องกันมากกว่า นี่จึงเป็นโอกาสของหล่อนในการที่จะใกล้ชิดกับทายาทคนเล็กของโชติพิทักษ์ ด้วยทราบดีว่าตั้งแต่เขาจบมาจากเมืองนอก จักรกริชยังไม่เคยคบหาดูใจกับใครจริงจังเลยสักคน ตอนนี้เขาจึงเป็นหนุ่มโสดเนื้อหอม ที่สาวๆ ทั่วไปต่างหมายปองที่สุด และหล่อนจะไม่ยอมพลาดโอกาสนี้ไปอย่างเด็ดขาด! . . "อันนี้ไม่ต้องก็ได้ปัด น่าจะเป็นของโชติพิทักษ์นะ ฝากปัดเอาไปเก็บไว้ที่ห้องออฟฟิศชั้นล่างหน่อยสิเดี๋ยวอันนี้เราเก็บเอง" กิ่งกาน เพื่อนในแผนกที่ถือว่าสนิทกับทอปัดมากที่สุดในตอนนี้ ด้วยอายุใกล้เคียงกันและพูดคุยกันได้อย่างสนิทใจในหลายๆ อย่าง "ได้ๆ เดี๋ยวเราเอาไปเก็บเอง กิ่งจัดการตรงนี้ต่อเถอะ" ทอปัด หยิบขาตั้งสแตนด์เล็กๆ ใส่กล่องขนาดกลาง เมื่อเห็นว่าเพื่อนและทีมงานคนอื่นๆ กำลังง่วนอยู่กับการเก็บอุปกรณ์ส่วนอื่น จึงยกกล่องด้วยตัวเอง เพื่อที่จะเอาเข้าไปวางในห้องเก็บอุปกรณ์ของออฟฟิศโชติพิทักษ์ที่อยู่ด้านล่างของห้องโถงจัดงาน ซึ่งปกติเวลาที่เธอมาทำงาน event ที่นี่ ก็จะเอาของต่างๆ ไปฝากไว้ในห้องนี้เป็นประจำเป็นปกติอยู่แล้ว งานอีเว้นท์ใหญ่คงจบแค่นี้ ต่อไปอาจจะเป็นแค่การ PR เรื่องการลงสื่อต่างๆ ซึ่งเธออาจจะไม่ต้องได้เข้ามาที่นี่บ่อยอีกแล้ว คิดแล้วทอปัดก็รู้สึกโล่งใจ เมื่อวางกล่องของในห้องแล้วจึงอมยิ้มออกมา เพื่อจะเตรียมเดินออกจากห้อง แกร๊ก!! แต่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อร่างสูงที่คุ้นเคย เดินเข้ามาในห้องพร้อมกดปิดล็อคประตูอย่างรวดเร็ว นั่นทำให้เธอตาเบิกโพลงด้วยความตระหนก "จะทำอะไรคะ? เฮีย..พี่ เอ่อ คุณสาม" คิ้วหนาของจักรกริชกระตุกขึ้นสูง เมื่อเห็นกิริยาลนลานของคนตรงหน้า มุมปากหยักสวยยกโค้งขึ้น "เอาให้แน่! จะเรียกพี่หรือคุณหรือเฮียก็เอาสักอย่าง ...อย่าโลเลไปซะทุกเรื่องสิครับ!" คำพูดร้ายกาจของเขา ทำให้ทอปัดเม้มริมฝีปากอิ่มเข้าหากันแน่น หญิงสาวก้าวถอยหลัง เมื่อเขาก้าวเท้ามาใกล้จนชิด "คะ ..คุณสาม ช่วยออกไปหน่อยค่ะ ปัดต้องไปเก็บของต่อ" น้ำเสียงของเธอสั่นระริก เมื่อรู้สึกได้ว่าแผ่นหลังตัวเองถอยจนชิดติดกับผนังห้องแล้ว แต่ดูเหมือนว่าคนตัวสูงจะไม่ใส่ใจเลย เขามองเธอด้วยดวงตาวาวระยับ ขณะยกฝ่ามือทาบกับผนังห้อง เพื่อกันตัวเธอไว้ไม่ให้หลบไปไหนได้ ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงใกล้ แล้วกดจมูกโด่งแต่ยังซอกคอขาวก่อนจะกระซิบเสียงนุ่มทุ้มต่ำ "ยังหอมเร้าใจเหมือนเดิมเลยนะ เฮียชอบกลิ่นนี้จัง" "คุณสามถอยไปเถอะค่ะ อย่าทำอะไรแบบนี้เลยค่ะ ตอนนี้ปัดหมั้นแล้วนะคะ" ทอปัดปรามเขาเพื่อเตือนสติ เมื่อรู้สึกขนอ่อนในกายตัวเองเริ่มลุกชูชัน แม้สัมผัสของเขาจะคุ้นเคยและหวาบหวามเพียงใด แต่ทุกอย่างนั้นควรจะเป็นแค่เรื่องในอดีต ไม่สมควรที่จะต้องสานต่ออีกต่อไป! "มีอะไรกันรึยัง?" ดวงตาของจักรกริชดำมืดขึ้น "คะ?" "มีอะไรกับมันรึยัง?" ริมฝีปากเย็นเม้มกดลงยังผิวขาวละเอียดข้างลำคอ ลิ้นสากแลบดูดเลียขบเม้มเบาๆ จนเกิดรอยจ้ำสีกุหลาบจางๆ ทอปัดพยายามดันร่างเขาออกห่าง แต่วงแขนแข็งแรงยิ่งกลับกอดรัดเธอไว้แน่นกว่าเดิม "ไม่ใช่เรื่องของคุณสาม ปล่อยปัดนะคะ" หัวใจของเธอเต้นระรัว พยายามข่มเสียงตัวเองให้เป็นปกติอย่างที่สุด "ไม่ปล่อยหรอก! เฮียคิดถึงปัด" เขากดสายตาลงต่ำ มืออีกข้างจับคางมนเล็กของเธอไว้แน่นบังคับให้เธอสบตาเพื่อให้รู้ว่าถ้อยคำนี้ของเขาเป็นความจริง "ปล่อยปัด!" "คิดถึงเฮียไหมครับ?" เขาเอ่ยถามเสียงทุ้มต่ำแหบพร่า ความรู้สึกมากมายปรากฏอยู่ในดวงตาสีนิลเข้มที่พร้อมจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ เมื่อสัมผัสกับความนุ่มนิ่มในอ้อมแขน "ไม่ค่ะ ...ไม่คิดถึง" ไม่เลยสักนิดเดียว "โกหกเฮียนะครับ" ดวงตาคมเข้มหลุบต่ำขณะไล้มองเรียวปากอิ่มจิ้มลิ้มที่เคยลิ้มลองและเขารู้ดีว่ารสชาติของมันหอมหวานแค่ไหน "อื้อออออ" ไม่ทันจะเอ่ยปรามต่อ ลมหายใจของเธอก็เหมือนจะขาดห้วง เมื่อริมฝีปากหยักบดจูบลงมาอย่างหนักหน่วงจาบจ้วง ปิดทุกถ้อยคำเจรจาให้หลุดหายไปในลำคอ ***********
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD