บทที่ 3 เริ่มต้นชีวิตใหม่

2193 Words
“อะไรนะ..ยัยเด็กซื่อบื้อคนนั้นมันหายไปเหรอ แล้วมันหายไปไหน แกตามหาตัวมันจนทั่วหรือยังห๊ะตาฉัตร” “ผมหาดีแล้วครับแม่ เมื่อคืนยัยนั่นมันบอกกับผมว่ามันจะไปเข้าห้องน้ำ แล้วหลังจากนั้นมันก็หายออกไปจากผับเลยครับ ผมกับเพื่อนช่วยกันหา แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ และอีกอย่างเมื่อคืนผมก็เมามากด้วย ผมเลยคิดว่าจะปล่อยมันไปก่อน แล้วเดี๋ยววันนี้ผมจะลองไปง้อ และพูดดี ๆ กับมันใหม่อีกครั้ง รับรองว่าวันนี้ผมจะหลอกให้มันยอมเซ็นต์เอกสารสัญญาซื้อขายที่ดิน และบ้านของพวกมันที่แม่เตรียมเอาไว้ให้..ให้ได้อย่างแน่นอนครับ” “เออดี..ยังไงแกก็รีบ ๆ ทำให้มันสำเร็จเข้าล่ะ ก่อนที่พวกมันจะจับได้ ว่าแกเป็นลูกติดของฉัน ผู้หญิงที่แย่งพ่อของพวกมันมา และมาหลอกเกาะพ่อของพวกมันกินอยู่ทุกวันนี้” “ผมรู้แล้วแหละน่า แค่นี้ก่อนนะแม่ผมจะรีบโทรไปหายัยน้ำอิงก่อน” “เออ..รีบ ๆ จัดการให้สำเร็จล่ะ” ‘ขออภัยค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามาถติดต่อได้ในขณะนี้’ “หายไปไหนของเธอวะน้ำอิง ทำไมถึงโทรไปติด หรือว่าเธอกำลังปิดเครื่องเพื่อหนีฉันงั้นเหรอวะ..โธ่โว้ย” ณฉัตรแสดงท่าทางหงุดหงิดออกมา เมื่อเขาพยายามติดต่อ และโทรไปหาน้ำอิง แต่ก็ไม่สามารถติดต่อหาเธอได้ “นี่อย่าบอกนะ ว่ากูจะต้องถ่อไปหามึงถึงบ้าน..โธ่เว้ยย..หงุดหงิดเป็นบ้า!!!” ณฉัตรบ่นออกมาด้วยความโมโห ที่คิดว่าตนจะต้องตามไปง้อน้ำอิงถึงที่บ้านของเธอ พร้อมกับต้องเล่นละครเป็นคนดีตบตาทุกคนในบ้านของเธอ เพื่อไม่ให้ทุกคนในบ้านของเธอจับได้ว่าความจริงแล้วนั้น เขามันเป็นคนเลวมากแค่ไหน “แกว่าอะไรนะ!!! พวกมันย้ายออกจากบ้านหลังนั้น และประกาศขายบ้านให้คนอื่นไปแล้วอย่างนั้นเหรอ..ตาฉัตรนะตาฉัตร..นี่แหนะ..นี่แหนะ..แกไปทำอีท่าไหนมาฮ่ะ พวกมันถึงได้หนีแกไปได้” “โอ้ยครับแม่..ผมพยายามติดต่อ และโทรไปหายัยเด็กน้ำอิงนั่นแล้ว แต่มันปิดเครื่อง และบล็อกการติดต่อจากผมทุกช่องทาง แถมที่บ้านของมันตอนนี้ก็ติดประกาศขายไปแล้วด้วย” “หรือว่าพวกมันจะไหวตัวทัน..แล้วนี่แกไปทำอีท่าไหนฮ่ะตาฉัตร ยัยเด็กน้ำอิงซื่อบื้อนั้นมันถึงได้กล้าทิ้งแกไป..หรือว่าตอนนี้พวกมันจะรู้ความจริงแล้วว่าแกเป็นลูกชายของฉัน?” “เป็นไปไม่ได้หรอกครับแม่..โง่ ๆ แบบยัยนั่นจะไปรู้อะไร และผมก็ไม่เชื่อว่ายัยเด็กนั่นจะกล้าทิ้งผมไปแบบนี้จริง ๆ ยัยเด็กนั่นมันรักผมจะตาย มันต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่ ไม่อย่างนั้นพวกมันก็คงไม่ประกาศขายบ้าน และหอบผ้าหอบผ่อนหนีกันไปทั้งบ้านแบบนั้นแน่” “พวกมันหนีไปแบบนี้..แล้วทีนี้ฉันจะทำยังไงล่ะ เงินก็ไม่ได้ ที่ดินก็ไม่มี ทรัพย์สมบัติอะไรก็ไม่เหลือติดตัวฉันสักอย่าง หนี้สินก็พะรุงพะรัง แถมฉันยังต้องเลี้ยงดูไอ้แก่นั่นที่ตอนนี้มันมีแค่ตัวอีกด้วย บริษัทของมันก็กำลังจะล้มละลาย” “แม่เลิกกับคุณลุงสุกิจ พ่อของยัยน้ำอิงแล้วหาผัวใหม่สิครับแม่” “เลิกหน่ะฉันเลิกแน่ แต่แกคิดว่าแก่ ๆ อย่างฉันนี่ ยังจะมีใครโง่มาเอาฉันอีกเหรอตาฉัตร” “แม่ยังสวย แถมลีลายังเด็ดอีกด้วย ผมเชื่อ..ว่าจะต้องมีไอ้แก่หน้าโง่คนไหนสักคนที่มาหลงคารมของแม่อย่างแน่นอนครับ” “ฉันว่าแกไปหาหลอกเงินจากผู้หญิงมาให้ฉันน่าจะง่ายกว่านะตาฉัตร” “แม่หมายความว่าไง?” “แกก็ใช้หน้าตา และหุ่นที่ยั่วใจสาวของแกให้เป็นประโยชน์หน่อยสิ..เดี๋ยวนี้ผู้หญิงน่ะมันร่านจะตาย แค่มีผู้ชายหล่อ ๆ หุ่นแซ่บ ๆ มาจีบ พวกมันก็พร้อมพลีกายแถมพร้อมจ่ายพร้อมเปย์ให้ไม่อั้นอยู่แล้ว” “นี่แม่จะให้ผมไปขายตัวเหรอ?” “แล้วแกมีวิธีไหนที่ดีกว่านี้ และหาเงินได้เร็วกว่านี้มั้ยล่ะ อีกอย่างแกก็ไม่ได้เสียอะไร แถมยังได้นอนกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าอีกด้วยนะ แบบนี้แกไม่ชอบหรือไง” “แม่!!!” ณฉัตรมองหน้าเมยาวีแม่บังเกิดเกล้าของตัวเองด้วยความรู้สึกสะท้านในใจ เพราะไม่คิดมาก่อนเลยว่าผู้เป็นแม่จะกว่าแสดงความคิด และยื่นข้อเสนอแนะวิธีการแบบนี้เพื่อที่จะให้เขาหาเงินมาให้กับตัวเองด้วยวิธีขายตัวแบบนี้ “แกอย่ามาทำท่ารังเกียจฉันแบบนี้นะตาฉัตร แกอย่าลืมสิ ว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ฉันหามาได้ และเลี้ยงแกมาจนโตได้ขนาดนี้นั้น มันก็เงินที่ฉันขายตัว และเอาตัวเข้าแลก หรือบางทีก็ไปหลอกไอ้พวกผู้ชายแก่ ๆ และหน้าโง่มาทั้งนั้น เราสองคนแม่ลูกถึงได้รอดกันมาจนถึงทุกวันนี้ได้” “ครับ..ผมไม่มีวันลืม” “ถ้าแกไม่ลืม..งั้นตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่แกจะต้องตอบแทนบุญคุณของฉันบ้าง..ไปหาเงินมาให้แม่นะลูกรัก หามาให้ได้เยอะ ๆ แม่จะได้เอาเงินไปลงทุน และใช้หนี้..ต่อไปเราสองคนแม่ลูกจะได้สุขสบายยังไงล่ะครับ..ลูกชายคนเก่งของแม่” เมยาวีเอื้อมมือไปลูบเบา ๆ ที่ใบหน้าหล่อของบุตรชาย พร้อมกับดึงณฉัตรมาสวมกอดเอาไว้อย่างทะนุถนอม ราวกับว่าเขาคือไข่ในหินที่เธอฟูมฟักมาเป็นอย่างดี “เอาเป็นว่าผมจะพยายามตามหายัยเด็กนั่นให้เจอให้ได้เร็ว ๆ ก็แล้วกันนะครับแม่” “ถึงแกจะตามหามันตอนนี้ ฉันว่ามันก็ไม่มีประโยชน์แล้วล่ะตาฉัตร เพราะตอนนี้นังนั่นมันประกาศขายบ้าน และที่ดินนั่นไปแล้วนี่” “แต่มันยังขายไม่ได้นี่ครับ ถ้ามันยังไม่ได้ขายเราก็ยังมีโอกาสครับแม่” ณฉัตรไม่รับปากว่าเขาจะทำตามคำเสนอแนะของผู้เป็นแม่บังเกิดเกล้า แต่สิ่งที่เขารับปากกับผู้เป็นแม่ของเขาไปนั้นก็คือ การตามหาตัวผู้หญิงที่ชื่อน้ำอิง ลูกสาวของคุณสุกิจสามีใหม่ของแม่ เพื่อที่เขาจะได้หลอก และบังคับให้เธอเซ็นต์มอบที่ดินผืนนั้นให้กับแม่ของเขาให้จนได้นั่นเอง @จังหวัดเชียงใหม่ “เฮ้อ…!!!” “จะถอนหายใจเสียงดังแบบนั้นทำไมคะพี่กัน” น้ำอิงถามออกมาหลังที่ได้ยินเสียงถอนหายใจของพิงกันพี่สาวของเธอที่ตอนนี้กำลังช่วยคุณพิศมัยแม่ของเธอจัดเสื้อผ้า และของใช้ต่าง ๆ ให้เข้าที่เข้าทาง เพราะตอนนี้เธอ และครอบครัวได้ย้ายเข้ามาอยู่ภายในบ้านหลังใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ทุกคนได้ตัดสินใจครั้งใหญ่ในการเดินทางไกล และหนีออกมาจากบ้านหลังเดิมเพื่อหนีจากปัญหาต่าง ๆ ที่รุมเร้าครอบครัวของเธอมาเป็นเวลานานหลายสิบปี “พี่รู้สึกโล่ง..ตอนนี้มันเหมือนตัวเองได้ยกภูเขาออกจากอกยังไงก็ไม่รู้..อีกอย่างบรรยากาศที่นี่ก็ดีมาก ๆ แถมอากาศก็บริสุทธิ์มากจนทำให้พี่รู้สึกผ่อนคลาย ราวกับว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาพี่ไม่เคยรู้สึกสบายใจแบบนี้มาก่อนเลย” “อิงก็หวังว่าบ้านหลังนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ครอบครัวของเราทุกคนมีความสุข เหมือนกับครอบครัวอื่น ๆ เขาสักทีนะคะ” “น้าอิงขา..คุณแม่ขา..คุณยายขาตอนนี้แพรไหมหิวแล้วค่ะ บ้านหลังนี้มีอะไรให้แพรไหมกินบ้างมั้ยคะ” “ตายจริง..นี่ก็เย็นมากแล้ว มัวแต่จัดข้าวจัดของจนลืมเตรียมอาหารเย็นไว้เลย ทำยังไงดีล่ะ” “นั่นสิ..แม่ก็ลืมเรื่องอาหารเย็นไปสนิทเลย..หนูแพรรอยายหน่อยนะคะ เดี๋ยวยายจะเดินออกไปดู ว่าแถวนี้พอจะมีร้านอาหารสดหรือตลาดบ้างมั้ย เดี๋ยวยายจะรีบไปหาซื้อของสดมาเตรียมทำอาหารเย็นอร่อย ๆ ให้หนูทานนะคะ” “อย่าเลยค่ะแม่..เดี๋ยวมื้อนี้น้าอิงจะเป็นเจ้ามือ พาทุกคนไปเลี้ยงฉลองสำหรับบ้านใหม่ และชีวิตใหม่ของพวกเราดีมั้ยคะ” “เย้ ๆ ดีค่ะน้าอิง” “จะดีเหรอยัยอิง..หนูใช้เงินเก็บที่มีอยู่ไปเยอะแล้วนะ ไหนจะค่าเดินทาง ค่าขนย้ายของ และยังจะมีค่าดาวส์บ้านหลังใหม่หลังนี้อีกด้วย” “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะคะแม่..ตอนนี้อิงยังพอมีเงินเก็บอยู่อีกก้อนค่ะ มันยังพอให้เราสี่คนอยู่กันได้อย่างสบาย ๆ ไปอีกสักระยะเลยค่ะ และอีกอย่างตอนนี้อิงก็ยื่นใบสมัครเป็นครูที่โรงเรียนอนุบาลในเมืองมาแล้วด้วย รอแค่เขาตอบรับมาก็เท่านั้นค่ะ” “แต่แม่..” “ไม่มีแต่แล้วค่ะแม่..ไปกันเถอะค่ะ เราออกไปหาอะไรอร่อย ๆ กินกันดีกว่านะคะ ตอนนี้แพรไหมเองก็คงจะหิวมาก ๆ แล้วด้วย จริงมั้ยคะหนูแพรไหม” “จริงค่ะ..น้าอิงคนสวย และใจดีที่สุดในโลก” “ช่างพูดนะเรา..งั้นเราไปกันเลยดีกว่าค่ะ” ทุกคนต่างพากันยิ้มให้กับความน่ารัก และช่างพูดประจบเอาใจของหนูแพรไหม เด็กน้อยที่เป็นขวัญใจของทุกคนภายในบ้าน ก่อนที่ทั้งสี่คนจะพากันออกไปหาร้านอาหาร เพื่อทานอาหารเย็นนอกบ้านด้วยกันเป็นครั้งแรก หลังจากที่ได้ย้ายมาอยู่ในสถานที่แห่งใหม่ แห่งนี้ “เอ่อ..คุณลุงคะ ทำไมร้านอาหารมันถึงได้อยู่ไกลขนาดนี้ล่ะคะ..นี่ฉันกับครอบครัวนั่งรถของคุณลุงมาเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้วนะคะ” น้ำอิงหันไปถามคนขับรถที่เธอจ้างให้พามาส่งที่ร้านอาหารด้วยความสงสัย เพราะตอนนี้เธอกับครอบครัวได้นั่งรถมาเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมาถึงร้านอาหารเลยสักนิด และตอนนี้แพรไหมหลานสาวของเธอก็เริ่มจะงอแงเพราะความหิวแล้วด้วย “แถวนี้ไม่มีร้านอาหารหรอกยัยหนู..ถ้าจะทานข้าวที่ร้านอาหารก็ต้องนั่งรถเข้าเมืองเกือบห้าสิบกิโลโน้นแน่ะ รออีกหน่อยนะ นี่ก็ใกล้จะถึงแล้ว” “ถ้าร้านอาหารจะอยู่ไกลขนาดนี้ พี่ว่าต่อไปเรามาเปิดร้านอาหารกันซะเองเลยดีมั้ยยัยอิง” พิงกันที่คิดอะไรดี ๆ ขึ้นมาได้รีบเอ่ยถามความคิดเห็นกับน้องสาวของเธอออกมาทันที “เป็นความคิดที่ดีมาก ๆ เลยค่ะพี่กัน แม่ครัวใหญ่ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารของเราก็มีแล้วคือคุณแม่ครัวพิสมัย ส่วนพี่กันก็รับหน้าที่เป็นผู้จัดการคอยดูแลเรื่องขนมหวาน และเครื่องดื่ม” “หนูแพรจะเป็นเด็กเสิร์ฟให้คุณแม่ และคุณยายเองค่ะ” “เก่งมากค่ะหลานสาวของน้า” “นี่เราสองคนไม่ได้พูดเล่นใช่มั้ย ยัยกัน ยัยอิง” “ตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่คุณแม่แล้วล่ะค่ะ ว่าจะเห็นด้วยกับความคิดของอิง และพี่กันหรือเปล่า” “แม่เห็นด้วย..เพราะแม่เองก็ชอบทำอาหาร และแม่ก็ไม่อยากอยู่ว่าง ๆ ให้ลูก ๆ คอยเลี้ยงดูเป็นภาระของลูกอีกแล้ว ถ้าแม่พอจะช่วยอะไรลูก ๆ ทั้งสองคนได้ แม่เองก็ยินดีช่วย” “อิงดีใจที่สุดเลยค่ะแม่..อิงหวังว่าต่อไปนี้เราจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กันแบบจริง ๆ ซะทีนะคะ” “สู้ไปด้วยกันอีกสักตั้งนะลูก” คุณพิศมัยยิ้มให้กำลังใจบุตรสาวของท่านทั้งสองคน ก่อนที่ทั้งสี่คนจะเดินทางไปทานอาหารเย็นที่เกือบจะกลายเป็นอาหารค่ำด้วยกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองของจังหวัดเชียงใหม่แห่งนี้ด้วยกันอย่างมีความสุขกับการที่จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ของทุกคน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD