ตอนที่3จอมยุทธ์ฝึกหัด
"นายท่าน หมอเหรินไม่อยู่ เจ้าคะ ไม่มีใครเห็นนางเลยเจ้าค่ะ ลี่ลี่กลับมาจากโอสถสถาน นางตามหาหมอจนทั่ว แต่กลับไม่มีผู้ใดพบเห็นนางมาตั้งแต่เช้าแล้ว
ห้าวเฟยกอดซีเย่ไว้แน่น พลันจูบแล้วจูบอีก เป็นภาพที่น่าปวดใจยิ่งนัก ทันใดนั้นเอง"
"..."
"หยุดอ่านทำไมเล่า อ่านต่อสิ ข้ากำลังลุ้นอยู่ สรุปแล้วเป็นอย่างไร นางเอกตายหรือไม่ อ่านต่อเร็ว" สตรีวัยกลางคน เร่งเร้าให้หยุนซื่ออ่านนิยายต่อ
"คงไม่ได้แล้วแหละท่านป้า นี่จบตอนพอดี ข้ากำลังเก็บเงินรอซื้อตอนต่อไปอยู่ ท่ารออีกสัก6-7วัน ไว้ข้าหาเงินซื้อมันมาได้ ข้าจะรีบมาอ่านให้ท่านฟังก็แล้วกัน"
"หา! ตั้ง7วันเชียวหรือ ไม่รอมันแล้ว เอาเงินนี่ไป แล้วรีบไปซื้อมาอ่านให้ให้ข้าฟัง" หญิงผู้นั้นรีบควักเงินใส่มือให้ขอทานน้อย
"ท่านป้า มันเกินมาตั้ง10อีแปะ" เด็กน้อยคืนเงินส่วนที่เกินมาให้กับนาง
"ไม่ต้องคืน ส่วนต่างนี้ข้าให้เจ้าเป็นรางวัล"หญิงผู้นั้นไม่รับเงินคืน ซ้ำยังบีบมือให้นางเก็บเงินนั้นไว้
"ขอบคุณเจ้าค่ะ เช่นนั้นไว้พรุ่งนี้ ข้าจะมาอ่านให้ท่านฟัง"
"ดีๆ มาให้ไวด้วยล่ะ" เด็กน้อยยิ้มกว้างแล้วเดินจากไป
"หกสิบสอง หกสิบสาม หกสิบสี่ เฮ้อ! ชื่นใจ ข้าอ่านนิยายวันเดียวได้มากกว่านั่งขอทานครึ่งเดือนเสียอีก ฮึ ๆ ซื้อไก่ให้อาจารย์สักตัวดีกว่า" หยุนซื่อหลบนับเงินอยู่ในตรอกเล็กๆ นางตระเวนอ่านนิยายโดยไม่เรียกร้องค่าจ้าง แต่ลูกค้าของนางก็พอใจและยอมจ่ายเงินเล็กน้อยเพื่อเป็นรางวัลให้นาง ฮูหยินบ้านหลังสุดท้ายถึงขั้นยอมจ่ายค่าหนังสือแทนนางด้วยซ้ำ
"เจ้าหัวขโมย!! คืนถุงเงินข้ามาเดี๋ยวนี้นะ" เสียงเอะอะไม่ไกลจากจุดที่หยุนซื่อยืนอยู่มากนัก นางจึงรีบวิ่งไปดูเหตุการณ์
เด็กเกเรสี่ห้าคน กำลังยืนล้อมเด็กชายที่แต่งตัวดูดี น่าจะมาจากตระกูลที่มีฐานะ และถุงเงินที่เจ้าอ้วนนั่นถืออยู่ มันก็ดูไม่สมฐานะของผู้ถือเลยสักนิด
"อะไรกัน ถุงนี้อยู่ในมือข้า มันก็คือของข้า เจ้าต่างหากที่คิดจะเป็นขโมย อยากได้ก็เข้ามาเอาสิ"
"โอ๊ย!! ใครปาก้อนหินใส่ข้าออกมาเดี๋ยวนี้นะ" เด็กอ้วนเกเรกวาดสายตามองหาที่มาของก้อนหิน
"คิดว่าตัวโตแล้วจะรังแกคนตัวเล็กได้ง่ายๆหรือ" เด็กหญิงพลันเดินออกมาจากที่ซ่อน
"เจ้าขอทานปากดี อย่ายุ่งเรื่องชาวบ้าน เอาเวลาไปหาเคาะถ้วยเถอะ"
"หุบปาก! คืนเงินให้เขาเสียแล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า"
"เพ่ย! ข้าต้องกลัวลูกนกหัดบินอย่างเจ้าเช่นนั้นหรือ ฮ่าๆๆๆ" เด็กอ้วนและวงวารพากันหัวเราะนางเสียงลั่น
"ไม่กลัวตายก็เข้ามา!!!" หยุนซื่อท้าทาย
"เฮ้ย!! พวกเจ้า สั่งสอนนาง"
ลูกสมุนสองคนเดินตรงมาหานาง แต่เป็นนางที่ออกหมัดเตะต่อยจนเด็กชายสองคนนั้นล้มหงายไปคนละทิศละทาง เด็กอ้วนผู้เป็นหัวหน้าเห็นท่าไม่ดี จึงสั่งลูกน้องที่เหลือเข้าเสริม เด็กชายกอดคอหยุนซื่อไว้ส่วนอีกคนก็กำหมัดอัดหน้านางจนฟันร่วงกระเด็น เด็กคนนั้นกระชากดึงคอเสื้อนาง จนทำให้เห็นไฝสีแดงที่ต้นคอเลื่อนต่ำลงมาด้านหลังเล็กน้อย
คุณชายผู้เสียหายทนมองดูไม่ไหว จึงวิ่งเข้าไปช่วย ทั้งสองช่วยกันจัดการกับเด็กเกเรทั้งสี่คน คุณชายน้อย เขาเองก็ฝึกวิทยายุทธ์เช่นกัน ศิลปะการต่อสู้ของเขาจัดว่าดีเยี่ยม เมื่อเทียบกันแล้ว นางยังห่างชั้นกับเขาจนแทบไม่เห็นฝุ่น
เขาซัดเด็กทั้งสี่จนร้องไห้ถอยหนี และพอหันกลับมาเจ้าอ้วนก็ไม่อยู่แล้ว
"เรื่องแค่นี้ข้าจัดการเองได้ ถ้าข้าไม่ต้องช่วยเจ้าคงได้ถุงเงินคืนแล้ว" คุณชายน้อยบ่นดุนาง
"เพ่ย! เลือด หา..ฟันข้า นี่ข้าช่วยเจ้าจนต้องเสียสละฟันซี่หนึ่งเชียวนะ เจ้าตอบแทนข้าด้วยคำพูดเช่นนี้หรือ?"
"เจ้ามันแส่หาเรื่องเองนี่นา เป็นมวยเพียงนิด ริอาจจะสู้คนเยอะ ช่างไม่ประมาณตนเอาเสียเลย"
"ข้าเพียงแต่เห็นใจที่เจ้าโดนรังแก ด้วยเห็นว่าเป็นเด็กหลงทางเหมือนกัน นึกไม่ถึงว่าน้ำใจของข้าจะเป็นสิ่งสูญเปล่า ชิ เสียเวลา"
"เอาหละ ข้าขอบใจเจ้าก็แล้วกันเจ้าขอทาน เจ้าต้องการอันใดตอบแทน" หยุนซื่อเพ่งมองดูเด็กชายตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วยกยิ้มที่มุมปาก
"แม้แต่คำขอบใจที่มีค่าที่สุด เจ้ายังให้อย่างไม่เต็มใจ จิ๊ๆๆ คุณชาย เจ้าคิดว่าทั้งตัวเจ้ายังจะมีอะไรที่มีค่าพอให้ข้าอยากได้อีกหรือ" หยุนซื่อส่ายหน้าเบาแล้วเดินจากไป
"ไร้ค่าเช่นนั้นหรือ แม้แต่ขอทานยังมองว่าข้าไร้ค่าเชียวหรือ เดี๋ยวก่อน เจ้าขอทาน เจ้าชื่ออะไร" ยังไม่ทันจะได้ก้าวเท้า องครักษ์ผู้ดูแลก็มาขวางไว้เสียก่อน
"องค์ชายใหญ่ ทรงปลอดภัยดีไหมพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมสมควรตายที่ปล่อยให้องค์ชายพลัดหลง รีบเสด็จกลับวังเถิดพะย่ะค่ะ ฟ้าจวนมืดแล้ว"
"แต่ว่า..."
"เสด็จเถอะพ่ะย่ะค่ะ หากองค์ฮ่องเต้เรียกหาจะเป็นเรื่องได้ เชิญเสด็จพะย่ะค่ะ องค์ชายใหญ่ เวยอี้หลุน ได้แต่ทอดสายตามองตามขอทานน้อยด้วยความรู้สึกผิด ที่ไม่ได้พูดดีๆปลอบนางแม้แต่คำเดียว มันช่างไม่ยุติธรรมกับนางเอาเสียเลย
...........................
"ดูสารรูปเจ้าสิ ไปมีเรื่องกับใครมาเจ้าบอกข้ามาเสียดีๆ ไม่เช่นนั้นข้าจะเฆี่ยนเจ้าให้หลังลาย แล้วข้าวสารกับไก่นี่เจ้าได้มาได้อย่างไร" อาจารย์ฮุยแทนที่จะดีใจกับสิ่งที่หยุนซื่อหามา เขากลับสอบสวนนาง โดยตั้งข้อสงสัยว่านางเป็นขโมย
"ข้าไม่ได้ขโมยใครมานะท่านอาจารย์ แม้จะเป็นขอทานก็ต้องมีศักดิ์ศรีของความเป็นคน ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ข้าหามาได้ด้วยความสุจริต นี่อย่างไร หนังสือนิยายของข้า ข้าอ่านหนังสือให้คนฟัง พวกเขาก็ให้เงินข้า อย่าตีข้าเลยนะ ข้าพูดความจริงทุกอย่าง"
อาจารย์ฮุยมองนางอย่างพอใจ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เด็กน้อยนี้ฉลาดและใช้ชีวิตแตกต่างจากเด็กๆทั่วไป นางเป็นเด็กขยัน ใฝ่รู้ ทำอะไรด้วยความตั้งใจและรู้จักพัฒนาตนเอง มีความคิดเป็นผู้ใหญ่เกินตัว เขาจึงเต็มใจที่จะถ่ายทอดวิชาความรู้ทั้งหมดที่มีให้กับนาง
10ปีผ่านไป
"ข้าศึกษาทุกอย่างจนแตกฉานแล้ว เหลือก็แต่หาม้าดีสักตัว ข้าพร้อมจะกลับบ้านแล้ว เย้ๆๆ" หยุนซื่อเก็บตำราลงหีบ เตรียมตัวออกไปฝึกวรยุทธ์กับอาจารย์ดังเช่นวันที่ผ่านๆมา บัดนี้ฝีมือนางรุดหน้าไปมาก เหนือกว่าเสี่ยวหลินและศิษย์พี่ของนางอีกหลายคน
"นี่ก็ผ่านมาตั้ง10ปีแล้ว เจ้ายังคิดจะกลับบ้านอีกหรือ?"
"แน่นอนสิท่านอาจารย์ ก็ที่ข้าทำทุกอย่าง ก็เพื่อการได้อยู่กับท่านพ่อ แม่รอง แล้วก็น้องสาวของข้า ข้าไปฝึกก่อนนะเจ้าคะ" เด็กหญิงยิ้มอย่างมีความหวัง
"บางทีที่พวกเขาไม่ตามหาเจ้า อาจเพราะเขาไม่ต้องการเจ้าก็ได้" อาจารย์ฮุยถอนใจ ได้แต่มองนางอย่างสงสาร แต่ก็ไม่อยากทำร้ายหรือทำลายความหวังของนาง โลกแห่งความเป็นจริง บางทีมันก็ดูโหดร้ายเกินกว่าจะยอมรับได้.