ตอนที่2 หาทางกลับบ้าน
"ไปเสีย พวกขอทาน พวกเจ้าคงรู้ข่าวที่คุณหนูบ้านคหบดีหายตัว จึงอยากตกถังข้าวสารสินะ ไปได้แล้วอย่ามาเกะกะวุ่นวายแถวนี้"
"เป็นข้าจริงๆนะใต้เท้า พาข้าไปหาท่านพ่อก็ได้"
"เสียงดังเอะอะอะไรกัน" เสียงรองเจ้ากรมตรวจตราเอ่ยทักดังมา
"ขอทานพวกนี้แอบอ้างว่าเป็นบุตรีคหบดีขอรับ" ผู้ตรวจการหน้าประตูรายงานรองเจ้ากรม
"ข้ามิได้แอบอ้าง ท่านเพียงพาข้าไปหาท่านพ่อก็จะรู้ความจริง" เด็กน้อยท่าทีขึงขังจริงจัง แต่เมื่อมองดูสภาพนางและผู้ติดตามแล้ว ยากที่จะเชื่อได้ว่านางคือคุณหนู
"คหบดีหวงเดินทางกลับแล้ว เจ้ามีหลักฐานยืนยันตัวตนหรือไม่"
"มีสิ กำไลหยกของข้ามีชื่อข้า เอ่อ..." หยุนซื่อมองดูที่แขนที่ว่างเปล่าของตัวเอง พลางนึกถึงภาพที่แม่รองถอดเปลี่ยนชุดให้ ซ้ำยังถอดเอากำไลหยกกลมของนางไปอีก
"เช่นนั้นเจ้าก็ไม่มีหลักฐานใดๆสินะ เอาหละ ข้าว่าพวกเจ้ากลับบ้านไปเถิด ข้ายังมีงานต้องทำอีกเยอะ" รองเจ้ากรมกล่าวปัด แล้วเดินจากไป
"แต่ข้าคือหวงหยุนซื่อจริงๆนะ ใต้เท้า! เดี๋ยวก่อนใต้เท้า" เด็กน้อยยังคงดึงดัน แต่ก็โดนขวางด้วยผู้ตรวจการหน้าประตู
"เฮย...กลับไปเสียเถอะ อย่ามาก่อความวุ่นวายที่นี่ ไปเถอะ ไปๆ" ทั้ง4คนเดินกลับออกมาด้วยความผิดหวัง
"ทำอย่างไรดีข้าอยู่ในสภาพเช่นนี้ มันก็ยากที่จะเชื่อ หลักฐานติดตัวข้าก็ไม่มีสักชิ้น เมื่อคืนพักที่ไหนข้ายังไม่รู้เลย ข้าเกลียดตัวเองจริง ๆ หากข้าฝึกช่วยตัวเอง หัดช่างสังเกตไว้บ้าง ก็คงไม่ต้องเสียใจเช่นวันนี้"
"อย่ายอมแพ้ง่าย ๆ สิ เจ้าต้องได้กลับบ้านแน่" เสี่ยวหลินปลอบใจ
"ข้าอยากกลับบ้าน เสี่ยวหลิน ฮือ ๆ" หยุนซื่อกอดสหายที่นางมีอยู่เพียงคนเดียวในตอนนี้ร้องไห้
"ไม่ได้ ข้าจะร้องไห้อ่อนแอเช่นนี้ไม่ได้ ข้าจะไม่ยอมแพ้ ต้องหาทางกลับบ้านให้ได้" หยุนซื่อถอนกายจากอ้อมกอดสหาย ยกมือน้อยขึ้นปาดน้ำตาจนแห้ง
"ต้องอย่างนี้สิ สหายข้า" เด็กทั้งสองยิ้มบางให้แก่กัน
..........................
"วางใจเถอะท่านพี่ ข้าให้ใต้เท้าจงพี่ข้าช่วยตามหาแล้ว เขาเป็นคนกว้างขวางในแคว้นจิง ต้องเจอซื่อเอ๋อร์ในเร็ววันเป็นแน่ งานใหญ่ก็สำคัญไม่อาจเลี่ยงได้ ท่านอย่าห่วงเลย ทางนี้ปล่อยให้พี่ใหญ่ข้าจัดการเถิด" จงซู่เหวินเอ่ยกับคหบดีหวงผู้เป็นสามี
"อย่างไรเสียข้าก็อดห่วงไม่ได้ ซื่อเอ๋อร์ยังเล็กนัก แม้นางจะเป็นเด็กฉลาด แต่นางก็ไม่เคยอยู่ลำพังมาก่อน ป่านนี้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้างก็ไม่รู้" คหบดีหวงได้แต่นั่งกุมขมับอยู่บนรถม้า ต้องใช้เวลาถึงสิบวัน กว่าจะถึงแคว้นอู๋
................................
หมู่บ้านแดนสวรรค์
"พานางกลับมาอีกทำไมเล่า เสี่ยวหลิน ลำพังพวกเจ้าสามคนข้าก็แทบจะหาข้าวให้กินไม่ทันแล้ว" ฮุยอู๋กงเอ่ยร้องเมื่อเห็นเมื่อเห็นเด็กซนเพิ่มจำนวนเป็นสี่
"ท่านอาจารย์ นางน่าสงสารออก ให้นางอยู่ด้วยเถอะนะ นะ นะ ๆ ท่านอาจารย์" เสี่ยวหลินอ้อนอาจารย์ฮุย อาจารย์เองก็มองหน้าเด็กหญิงอย่างลำบากใจ
"ยามนี้ ข้าเองก็อยู่ในสภาพยื่นมือไม่เห็นนิ้ว แต่หากมันทำให้ท่านลำบากใจ ข้าก็คงต้องขอลา ขอบคุณสำหรับอาหาร" เด็กหญิงเอ่ยอย่างรันทดแล้วโค้งคำนับเพื่อจะจากลา
"เจ้ามาจากต่างบ้านต่างเมือง ไร้ญาติขาดมิตร เจ้าแน่ใจนะว่าเจ้าจะอยู่คนเดียวได้" อาจารย์ฮุยเอ่ยทัดทาน
"ทางเลือกของข้า มีแค่เผชิญหน้ากับปัญหา มีเท่านั้นจริงๆ"
"เอาหละ ๆ เจ้าตัวนิดเดียวยังมีใจห้าวหาญได้ถึงเพียงนี้ ข้าก็ใช่ว่าจะใจไม้ไส้ระกำขนาดนั้น ข้าให้เจ้าอยู่ที่นี่ได้ แต่ต้องช่วยกันทำงาน"
"จริงหรือเจ้าคะ ขอบคุณอาจารย์ฮุยที่เมตตา"
"ดีๆๆ ข้าจะหาที่นอนให้เจ้านะ" เสี่ยวหลินดีใจที่จะมีนางมาร่วมเป็นหนึ่งในครอบครัว แต่อาจารย์ฮุยก็ปรามนางเสียก่อน
"เสี่ยวหลิน! ให้นางจัดการเอง เจ้าไปฝึกได้แล้ว เดี๋ยวจะค่ำเสียก่อน"
"ฝึก? ฝึกอะไรหรือเจ้าคะ" หยุนซื่อน้อยเอียงคอใคร่รู้
"ฝึกวรยุทธ์ เจ้าอยากจะลองฝึกดูบ้างหรือไม่"
"โอ้ นึกไม่ถึงว่าที่นี่จะมีการฝึกวรยุทธ์ด้วย อาจารย์ฮุย ข้าอยากฝึก" หยุนซื่อรู้สึกตื่นเต้น ปกตินางก็ชอบเล่นซนจนได้แผลอยู่เป็นประจำ
"ฮึ เช่นนั้น เตรียมที่นอนสำหรับคืนนี้เสร็จแล้วค่อยตามออกไป"
6เดือนผ่านไป
การเข้าหาทางการเป็นเรื่องที่ทำให้นางเสียเวลา ไม่มีใครอยากจะเสวนากับขอทานสกปรกมอมแมมอย่างนาง เด็กน้อยจึงคิดหาวิธีที่จะกลับบ้านด้วยตัวเอง นางใส่ใจดูแลรูปลักษณ์เป็นพิเศษ ขยันอาบน้ำ ทำความสะอาดเสื้อผ้าให้ดูดีอยู่เสมอแม้จะเก่าขาดก็ตาม ทั้งนี้ก็เพื่อการเจรจาที่ง่ายขึ้น
ทุกวัน นางจะต้องฝึกวรยุทธกับอาจารย์ฮุย แล้วต้องออกไปขอทาน เด็กน้อยในชุดเก่ามอซอแต่หน้าตาน่าเอ็นดู ทั้งยังยิ้มแย้มอารมณ์ดี ดึงดูดสายตาผู้คนได้มาก ใช่จะมีแต่ขอทานน่าสงสารที่หาเงินได้เยอะ แต่ขอทานดูดีอย่างนางก็หาเงินได้ไม่น้อยเช่นกัน แต่มันก็ยังไม่เพียงพอที่จะส่งนางกลับบ้านอยู่ดี
นางเริ่มหาข้อมูลจากตำรา บันทึกการเดินทาง และหนังสือต่างๆเกี่ยวกับภูมิศาสตร์และเมืองอู๋ ที่ร้านขายหนังสือเล็กๆนั้นคือแหล่งความรู้ที่ดีที่สุดสำหรับนาง
"ข้าเห็นเจ้าเปิดเล่มนี้มาหลายรอบแล้ว เมื่อไรจะซื้อเสียที"
"รอข้าหาเงินครบก่อน ข้าจะซื้อมัน และข้าก็ยังอยากได้อีกหลายเล่มด้วย"
"เฮย...เจ้าขอทานน้อย ลำพังจะหาเลี้ยงปากท้องยังลำบาก กว่าเจ้าจะหาเงินได้ ผู้อื่นก็คงจะซื้อมันไปเสียแล้ว"
"นั่นนะสิ ข้าต้องหาเงินให้ได้มากกว่านี้ แต่จะทำอย่างไรดี" นางพึมพำกับตัวเอง
เถ้าแก่หยิบหนังสือมาเล่มหนึ่ง แล้วยกยิ้ม
"คืออะไร?" เด็กหญิงเอ่ยถาม
"หนังสือนิยาย แทนที่เจ้าจะสนใจบันทึกการเดินทางราคาแพงนั่น ข้าว่าเจ้าควรหาความสำราญกับเล่มนี้ดีกว่า นี่ ข้าจะบอกอะไรให้นะ ใครได้อ่านเล่มนี้ ล้วนแล้วแต่ติดใจอยากติดตามต่อทุกรายไป ที่สำคัญ ราคาเพียง1ใน10ของหนังสือที่เจ้าอยากได้เท่านั้น"
"ใครอ่านก็ติดเช่นนั้นหรือ ข้าคิดอะไรดีๆออกแล้ว เถ้าแก่ นี่ท่านกำลังหลอกขายของให้เด็กอย่างข้าหรือ"
"หลอกเหลิกอันใดกัน ข้าเห็นเจ้าเป็นขอทานพิเศษที่อ่านออกเขียนได้ ข้าจึงอยากสนับสนุนให้เจ้าได้มีหนังสือไว้อ่านสักเล่มก็เท่านั้น" หยุนซื่อเดินไปยังชั้นเก็บหนังสือนิยายของร้าน จึงยิ้มบาง แล้วหันมามองเถ้าแก่
"นิยายเรื่องนี้ มีมากถึง12ตอน หากอ่านเล่มแรกก็ต้องอ่านจนจบ คำนวณแล้ว ราคาที่ข้าต้องจ่าย มันมากกว่าบันทึกการเดินทางเล่มนั้นเสียอีก เถ้าแก่ ไม่เรียกว่าหลอกขาย จะเรียกว่าอะไร หากใครๆ รู้เข้าท่านจะกลายเป็นขี้ปากชาวบ้านได้นะ"
"ขอทานน้อย เจ้านี่ก็ฉลาดไม่เบาเลยนะ ก็ได้ๆเช่นนั้นข้าขายทั้งชุดนี้ในราคาเพียงครึ่งเดียว" เมื่อถูกรู้ทันเถ้าแก่จึงพยายามเสนอขายในราคาที่นางพอใจ แม้เขาจะขาดทุนบ้างก็ตาม
"ตกลง แต่ข้าจะนำเงินมาให้ครั้งละ1เล่มเท่านั้น"
"ได้ ตามใจเจ้าเลย ขอเพียงเจ้าไม่ปากเสียเป็นพอ"
"ตกลง คนอย่างข้า คำไหนคำนั้น"
เด็กน้อยยิ้มร่าให้กับหนังสือนิยายที่เพิ่งได้มาใหม่ นางเดินออกจากร้านด้วยท่าทีสบายใจโดยไม่รู้ตัวว่ามีคนกำลังจ้องมองนางอยู่
"ใช่นางหรือไม่"
"ขอรับนายท่าน นางคือคุณหนูหวง ตอนนี้นางอยู่กับฮุยอู๋กง ที่หมู่บ้านแดนสวรรค์ขอรับ"
"ช่างเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาดเสียจริง มิน่าน้องสาวข้าจึงได้หวั่นเกรงนางยิ่ง ยังดีที่น้องข้าสั่งให้แค่เด็กคนนี้หายสาบสูญ อย่างน้อยนางก็ยังมีโอกาสได้ใช้ชีวิตแม้มันจะลำบากบ้างก็ตาม เจ้าเอาเงินนี่ไปจ่ายค่าหนังสือให้นางเสีย"
"ขอรับนายท่าน"
ใต้เท้าจงตำแหน่งนายทะเบียนราษฎร์ ผู้เป็นพี่ชายของจงฮูหยินแม่เลี้ยงของหยุนซื่อต้องยอมทำเรื่องที่ผิดมโนธรรม ที่เขามีทุกวันนี้ได้ ก็ด้วยทรัพย์สินของน้องสาวที่ช่วยสนับสนุนจนเขาได้เป็นขุนนาง แม้จะไม่เต็มใจเท่าใด แต่ก็ยากที่จะปฏิเสธน้องสาวที่มากแผนการอย่างจงฮูหยิน เขาเกรงว่าหากไม่ช่วยนางทำเรื่องครั้งนี้ เด็กน้อยที่ไม่รู้ประสีประสา จะไม่มีแม้แต่โอกาสได้ใช้ชีวิต
"เจ้าคือขุมทรัพย์ของข้า เจ้านิยาย ต่อไปนี้เจ้าต้องหาเงินให้ข้า ฮ่า ๆ ลำบากพวกเจ้าแล้ว" หยุนซื่อกำลังมีแผนใหม่ในการหาเงิน เป้าหมายในการได้กลับบ้านของนางใกล้เข้ามาแล้ว
...........................