Ep.6 ถ่านไฟเก่า
“หักห้ามใจตัวเองอยู่เหรอครับน้องกอหญ้า”
“พะ พูดอะไรของพี่”
“สีหน้าเราดูลำบากใจนะ”
“ยังไงคะ”
“กลัวจะตกหลุมรักพี่อีกครั้งใช่ไหม”
“แหวะ หลงตัวเอง”
“พี่หลงตัวเองก็ใช่ แต่คงจะมีอีกคนที่กำลังหลงพี่อยู่แน่ๆ”
“...”
“แถวๆ นี้ ไม่ใกล้ไม่ไกล”
… “ไม่แกล้งแล้วครับ หน้าแดงเชียว”
เมื่อเขาแกล้งฉันจนพอใจ ใบหน้าฉันก็ร้อนผ่าวทันที หน้าฉันต้องแดงมากแน่ๆ อุณหภูมิห้องเย็นขนาดนี้ทำไมมันรู้สึกร้อนจังเลยนะ กอหญ้าเอ้ยแก ห้ามหลุดเด็ดขาด
พอร์ช
ต้านไหวก็ต้านไปครับ แต่เมื่อผมตั้งใจทำอะไรสักอย่าง ผลตอบรับมันต้องเป็นที่น่าพอใจแน่นอน สาระพัดความเอาอกเอาใจ การที่กอหญ้าถูกเอาใจใส่บ่อยๆ ผมเชื่อว่าไม่นานเกินรอเธอจะต้องใจอ่อนให้ผมแน่นอน เพราะเมื่อก่อนผมก็ดูแลและเอาใจใส่เธอแบบนี้เหมือนกัน เพียงแต่ตอนนั้นผมไม่ได้คิดกับเธอเกินคำว่าน้องสาว และตอนนี้มันแตกต่างออกไป ความรู้สึกตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว อยากได้ อยากครอบครอง นี่คือสิ่งที่ผมต้องการ
~~~
กว่าจะทานอาหารเสร็จเรียบร้อยก็ใช้เวลานานพอสมควร เพราะกอหญ้ามีความสุขกับการทานอาหารเป็นอย่างมาก เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กที่ทานเก่ง และเธอก็เป็นคนที่ชอบทานอาหารรสจัดจ้าน พอร์ชรู้และจดจำรายละเอียดเกี่ยวกับกอหญ้าได้ดีทุกอย่าง เพียงแค่ตอนนั้นเขาไม่ได้คิดกับเธอแบบเชิงชู้สาว และในตอนนั้นเขาก็รู้ตัวว่าการตกปากรับคำเพียงเพราะเกรงใจมันทำให้เขาเองอึดอัดและทำให้กอหญ้าเองก็เสียใจ การสารภาพรักของกอหญ้าในตอนนั้น เขาก็แค่คิดว่าลองดูก็ได้ไม่เสียหายอะไร เพราะคนที่เขารอในตอนนั้นก็ปฎิเสธเขา เขาก็เลยอยากลองรักกับกอหญ้าดูสักครั้ง แต่สุดท้ายแล้วเขาถึงได้เข้าใจว่าความรู้สึกมันฝืนกันไม่ได้
“ทานข้าวเสร็จแล้ว พี่พอร์ชควรจะกลับไปได้แล้วนะคะ”
“หนังท้องตึง หนังตาก็หย่อน”
“หือ” กอหญ้างงตาใส เธอต้องการให้พอร์ชกลับไปได้แล้ว เพราะการที่อยู่ด้วยกันสองต่อสองมันก็ไม่น่าไว้วางใจเท่าไหร่นัก เธอสังเกตแววตาที่พอร์ชมองมาอย่างสื่อความหมายหลายต่อหลายครั้ง เธอแค่ทำเป็นไม่รู้ แต่ความจริงแล้วเธอรู้ทุกอย่าง จึงเอ่ยปากไล่พอร์ชกลับไป
“อิ่มแล้วมันรู้สึกง่วงครับ พี่ของีบหน่อยนะ” พูดจบพอร์ชก็เดินตรงไปที่โซฟาตัวยาวทันที เขาเอนตัวนอนลงจริงๆ เพียงแต่ไม่ได้ง่วง เขาทำเพื่อถ่วงเวลาอยากใกล้ชิดกอหญ้าในนานที่สุด
“ไม่ได้นะคะ พี่จะทำอะไรตามใจแบบนี้ไม่ได้”
“เราจะให้พี่ขับรถกลับทั้งที่พี่ง่วงเนี่ยนะ”
“...”
“อย่าใจร้ายนักเลยครับ”
คำนี้ฉันควรเป็นคนพูดมากกว่านะ เขาสิใจร้าย ใจร้ายที่สุด ใจร้ายที่ทำฉันเสียใจ และอยู่ๆก็มาทำตัวสนใจฉัน หยอดฉัน ต้องการอะไรกันแน่ เอาจริงๆ ฉันเองก็ไม่มั่นใจหรอกนะว่าถ้าฉันให้โอกาสพี่พอร์ชแล้วเขาจะไม่ทำให้ฉันเสียใจอีก
ฉันเองก็ไม่มั่นใจ…
จากที่แกล้งหลับ กลายเป็นว่าพอร์ชหลับจริง ส่วนกอหญ้าเองก็หนีไปนอนในห้องนอนเธอเหมือนกัน เพราะเมื่อคืนไม่ได้พักก่อนเท่าที่ควร เวลาผ่านเลยไปจนกระทั่งท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม
19.00 น.
“อื้อ นี่ฉันหลับไปนานขนาดนี้เลยเหรอ ตั้งใจจะงีบสักหนึ่งชั่วโมงเองนะ”
… “ว่าแต่พี่พอร์ชกลับไปหรือยังนะ”
… “กลับแล้วละมั้ง ค่ำแล้วนี่เนอะ” เธอพูดกับตัวเองและเมื่อคิดแบบนั้น จึงเดินอย่างสบายใจเข้าห้องน้ำไปเพื่ออาบน้ำทันที
“สดชื่นจังเลย”
กอหญ้าอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย ใส่ชุดนอนสบายๆ กางเกงผ้าขาสั้น เสื้อยืดตัวใหญ่ที่ซักจนผ้านิ่มแต่ก็ไม่ยอมซื้อใหม่สักที เพราะชุดใหม่กว่าจะซักจนนุ่มได้ขนาดนี้ก็ใช้เวลานานพอสมควร เสื้อนอนของเธอผ่านการใช้งานเป็นปีๆ มาแล้วทั้งนั้น ไม่ใช่แค่ผ้านุ่มใส่สบายนะ แต่มันยังระบายอากาศได้ดีอีกด้วยเพราะเสื้อขาดเป็นรูหลายรูเลยล่ะ
เมื่อแต่งตัวเรียบร้อยก็ทาแป้งฝุ่นที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ทั้งยังทาลิปมันบำรุงริมฝีปากที่มีกลิ่นหอมจากผลไม้อีกด้วย
แกร๊ก…
ประตูห้องนอนเปิดออกจากคนด้านในห้อง แต่ทว่าเมื่อเดินออกมากลับได้ยินเสียงทีวีที่ถูกเปิดทิ้งไว้ และเมื่อเดินใกล้เข้าไปเรื่อยๆ กลับได้กลิ่นหอมของอาหาร พลันทำให้ท้องน้อยๆ ของเธอส่งเสียงร้องราวกับประท้วงว่าหิวเอามากๆ
กอหญ้าเดินเข้ามาในครัวเพื่อมาดูให้มั่นใจว่าพอร์ชยังไม่กลับไป เธอยืนมองแผ่นหลังกว้างของรุ่นพี่ที่เคยตกหลุมรัก ไม่สิ ยังรักอยู่ต่างหาก พอกลับมาเจอกันกลับได้รู้สึกถึงก้นบึ้งของหัวใจว่ายังคงรักไม่เคยเปลี่ยน ไม่เคยลดน้อยลงเลยสักนิด ราวกับว่าพร้อมให้อภัยทันทีหากเขาเอ่ยปากขอโอกาสเธอแบบจริงจัง เธอยืนมองเขาอยู่อย่างนั้นนานสองนาน รอยยิ้มหวานปรากฎบนใบหน้าอย่างลืมตัว แต่ก็ต้องชะงักเมื่อผู้ชายที่เธอกำลังยืนมองด้วยสายตาที่สื่อความหมายนั้นหันกลับมามองเธอ ทว่า
“...”
กอหญ้าตกใจที่พอร์ชหันมามองอย่างกะทันหัน
“...”
ส่วนพอร์ชตกใจและมีความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้ร่างกายของเขาขนอ่อนลุกซู่ไปทั้งตัว นั่นก็เป็นเพราะว่ากอหญ้าใส่ยืดสีขาวตัวบาง ขาดเล็กน้อยแต่มันทำให้แลดูชวนมอง ผ้าที่บางแนบเนื้อแบบนั้น เขาไล่สายตามองต่ำลงเรื่อยๆ จนกระทั่งเห็น ‘จุก’ ที่มันนูนทะลุเสื้อชี้ตั้งเด่นชัด กอหญ้าคิดว่าพอร์ชกลับไปแล้วจึงแต่งตัวสบายๆ และในตอนนี้... เธอโนบรา เสื้อที่บางขนาดนั้น พอร์ชมองทะลุผ่านเสื้อตัวนั้นไปจนสามารถจินตนาการลามกได้เพียงไม่กี่วินาที เขาก็ผู้ชายไม่ใช่พระอิฐพระปูน เห็นอะไรแบบนี้มันก็ต้องคิดเรื่องนั้นเป็นธรรมดา และนั่น… มันทำให้เขาเกิดความรู้สึกบางอย่างแต่ก็ต้องกดข่มมันเอาไว้ ทั้งที่ภายในกางเกงนั้นมันจะตึงก็ตาม
“ยะ อย่ามองนะ”
และเมื่อกอหญ้ามองตามสายตาพอร์ชจนได้รู้ว่าตัวเธอเองโนบราจึงรีบยกมือปิดสองเต้าอวบอิ่มนั้นและหันหลังเข้าห้องนอนทันที
กอหญ้าเดินออกจากห้องนอนมาอีกครั้งในสภาพที่ดูเรียบร้อยกว่าเดิม เธอสวมบราแต่ยังคงใส่เสื้อยืดเก่าๆ ตัวเดิม เพราะเธอชอบมันใส่สบาย แค่ไม่โป๊เหมือนก่อนหน้านี้ก็ถือว่าปลอดภัยแล้ว
และเมื่อเดินออกมา กอหญ้ายังคงเขินอายกับเรื่องก่อนหน้า ที่อยู่ๆ รุ่นพี่ที่เธอรักมาเห็นส่วนนั้นของเธอ เมื่อก่อนทั้งสองที่คบกันก็ไม่เคยมีอะไรเกินเลยกัน ไม่แน่ใจว่าพอร์ชให้เกียรติเธอหรือไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นกับเธอกันแน่ แต่เอาเป็นว่าทั้งสองคบกันในระยะที่ปลอดภัย
พอร์ชที่เห็นใบหน้าหวานเปื้อนสีชมพู จึงอดไม่ได้ที่จะส่งสายตาหยอกล้อให้เธอรู้สึกเขินอายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ‘น่ารักฉิบหาย’ คำนี้มันตะโกนดังๆ อยู่ในใจเขา
ในสถานการณ์ตอนนี้ประเมินได้เลยว่าทั้งคู่ ต่างคนต่างหวั่นไหว ถ่านเก่ายังร้อนไม่หมดเชื้อไฟ ดับไฟรักยังไงก็ไม่มีทางหมดไปแน่นอน
“ชุดนอนน่ารักดีนะ”
“พี่พอร์ช!!” กอหญ้าถลึงตาใส่พร้อมทั้งตะคอกเสียงดัง แต่นั่นไม่ได้ดูน่ากลัวเลยสักนิด เขาดูออกว่าเธอกำลังกลบเกลื่อนความเขินอายเรื่องนั้นอยู่
“มาครับ ทานข้าวกัน”
“หญ้านึกว่าพี่กลับไปแล้วซะอีก”
“ไล่พี่อีกแล้วนะ”
“ไม่ได้ไล่ค่ะ แต่พี่ก็ไม่ควรอยู่นานขนาดนี้ นี่ก็ค่ำแล้วนะคะ”
“โอเคครับ ใจเย็นๆ ทานข้าวเสร็จเดี๋ยวพี่กลับเลยโอเคไหม”
“ก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วค่ะ”
ทั้งสองคนนั่งทานอาหารด้วยกัน จะบอกว่าบรรยากาศโรแมนติกก็คงไม่ใช่ เพราะทั้งสองต่างก็เงียบงันใส่กัน ต่างคนต่างก็ใช้ความคิดของตัวเอง จนกระทั่งกอหญ้ามองบนโต๊ะเพื่อจะหาน้ำดื่ม ทว่าไม่มี เธอจึงเดินเข้าครัวไปหยิบขวดน้ำและแก้วน้ำ อีกอย่างก็เพื่อหลบเลี่ยงสถานการณ์ที่ค่อนข้างอึดอัด แม้เพียงไม่นานที่ได้เดินออกมามันก็ยังดี ขอแค่ออกมาตั้งหลักก่อน
✨✨✨