ตอนที่6

1935 Words
"นี่ฉันให้ ฉันได้มาจากที่ทำงานน่ะ นายเอาไปกินเถอะ" ดรีมยื่นกล่องขนมปังพร้อมกับน้ำผลไม้หนึ่งกล่อง ที่ทางผับมีแจกให้กับพนักงานในแต่ละวัน "ให้ผม? ทำไมคุณไม่เอาไปกินเองล่ะ เอาไปเถอะผมไม่หิว" "ถือว่าเป็นค่าตอบแทนพิเศษก็แล้วกัน แล้วอีกอย่างนายเป็นคนพูดกับผู้โดยสารเพราะมากๆเลยนะขี่รถก็ดี มันดูปลอดภัยดี...รับไปสิ แล้วก็คราวหน้าถ้าเราเจอกันอีก นายควรใส่เสื้อวินด้วยนะ" "...ขอบคุณนะครับ ถ้างั้นผมรับเอาไว้ก็แล้วกัน" ดรีมยิ้มตอบแล้วหันหลังเดินเข้าแฟลตไป ในขณะที่ดิเชร์ยังคงมองเธอเดินเข้าไปด้านในจนกระทั่งเห็นว่าเธอเดินเข้าห้องที่อยู่ใต้บันได "...ห้องใต้บันได มันแคบมากเลยนะนั่น" เขาพูดพึมพำกับตัวเองก่อนจะขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับไปที่รถยนต์คันหรูที่ขับตามเขาอยู่ห่างๆตลอดเส้นทาง โดยมีคนคอยรอขี่มอเตอร์ไซค์ขับกลับตามรถยนต์ที่ดิเชร์นั่ง "ขอบคุณครับพี่คานโลพี่เจมส์" ทันทีที่ได้นั่งเบาะบนรถเขาก็เอ่ยขอบคุณคนที่นั่งอยู่ฝั่งซ้ายของรถ และคนที่กำลังหมุนพวงมาลัยรถอยู่ "ด้วยความยินดีครับนายน้อย กลับบ้านเลยนะครับ" ดิเชร์พยักหน้าตอบในขณะที่สายตาคมมองออกไปนอกตัวรถ "คุณดรีมคือคนเดียวกันกับเมื่อสามปีก่อนใช่ไหมครับนายน้อย พรหมลิขิตแน่ๆ" คานโลถามขึ้นเพื่อความแน่ใจ เมื่อมองกระจกหน้ารถก็เห็นใบหน้าคมของนายน้อยพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนที่เขาเสริมอีกประโยคหนึ่ง ใบหน้าหล่อคมของดิเชร์ ส่ายหน้าเบาๆกับความคิดของคานโล 'พรหมลิขิตอะไรกันเรากับพี่เขาเป็นแค่คนแปลกหน้ากัน แล้วบังเอิญมาเจอกันอีกครั้งก็เท่านั้น...' "พี่คานโลครับติดต่อการไฟฟ้าให้เปลี่ยนหลอดไฟในซอยด้วยนะครับ แล้วก็ไม่ต้องให้พ่อกับแม่รู้นะครับ" 'แล้วเรากำลังทำอะไรอยู่ในตอนนี้ บ้าไปแล้วดิเชร์' "ได้ครับนายน้อย แต่ถ้านายใหญ่รู้เองล่ะครับ" คานโลถามกลับ ดิเชร์เอนหลังพิงพนักเบาะหนังนุ่มภายในรถยนต์คันหรูที่สมรรถนะสัญชาติยุโรปอย่างสบายใจก่อนจะตอบกลับคานโล "ก็...ถ้าพ่ออยากรู้อะไรเพิ่มเติมก็ให้พ่อมาถามผมเองก็แล้วกันครับ" ดิเชร์พูดก่อนจะแกะกล่องขนมปังดูด้านในที่ทางผับของเขาเป็นคนสั่งให้กับลูกน้องทุกคนเพื่อเป็นอาหารว่างระหว่างทำงาน ดิเชร์ยิ้มบางๆแล้ววางกล่องขนมปังบนเบาะรถยนต์ที่ข้างตัวก่อนจะกดเปิดหน้าจอโทรศัพท์มือถือของตนเองเพื่อเลื่อนดูกล้องวงจรปิดในผับต่อ เช้าวันรุ่งขึ้น บ้านเสนีต์ ร่างสูงโปร่งไหล่กว้างอกผาย ใบหน้าหล่อรูปไข่ คิ้วเข้ม ดวงตาคมกริบน่าค้นหา จมูกโด่งเป็นสัน ผิวขาวผ่อง ยืนส่องกระจกเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของการแต่งกาย ดิเชร์อยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวสวมคู่กับกางเกงสแล็คสีดำดูเรียบร้อยและเป็นทางการ วันนี้เป็นวันที่เขาต้องเข้าไปฝึกงานที่บริษัทโซแอลกรุ๊ป โดยมีพ่อของเขาเป็นเจ้าของที่ควบตำแหน่งประธานกรรมการของบริษัท "อรุณสวัสดิ์ครับแม่ อรุณสวัสดิ์ครับพ่อ" ดิเชร์เดินไปหอมแก้มน่านฟ้าก่อนจะเดินไปหอมแก้มน้ำป่าแล้วเดินตรงไปที่น้องสาวที่กำลังจะอ้าปากเตรียมจะพูดอะไรสักอย่างกับเขา แต่ทว่าช้ากว่าคนเป็นแม่เพียงเสี้ยววินาที "จ๊ะ นั่งสิแม่เตรียมแซนด์วิชเอาไว้ให้ จะได้เอาไปกินที่ทำงานเพื่อหิว" "ขอบคุณครับแม่" "พี่เชร์คนหล่อ วันนี้แวะไปส่งฟ้าที่โรงเรียนได้ไหมคะ" ดิเชร์เดินมาหยุดตรงข้างๆกับม่านฟ้า แล้วเลื่อนเก้าอี้ออกเพื่อจะนั่งลงที่ข้างๆกัน "เดี๋ยวพี่ไปฝึกงานสายวันนี้ต้องเข้าเร็วเพราะต้องยื่นเอกสาร ให้พ่อไปส่งสิ" ดิเชร์พูดพลางดึงแก้มป่องๆอย่างมันเขี้ยว "พี่เชร์คนหล่อใจร้าย...ถ้าอย่างนั้นพี่เชร์ต้องจองบัตรให้ฟ้าทั้งหมดสี่ใบนะ ไม่อย่างงั้นฟ้าไม่ยอม...พ่อขา..." "เช้านี้อ้อนจัง เดี๋ยวพ่อไปส่งตกลงไหม" น้ำป่ายิ้มกว้างให้กับสองพี่น้องที่กำลังต่างใช้สายตากดดันกันอยู่ "ก็ได้ค่ะ พ่อไปส่งฟ้านะคะ" "ได้เลยเจ้าหญิงของพ่อ...แล้วเชร์ขาดเหลืออะไรไหมมีแข่งเดือนหน้าแล้วนี่" "ไม่มีครับพ่อ ทุกอย่างเรียบร้อยแต่ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมผมจะรีบพ่อเลยครับ" "แต่แม่เหมือนได้ข่าวว่าสแตนทีมของเชร์ ขายบัตรหมดแล้วนี่" "โห...พี่เชร์งั้นฟ้าก็อดดิ" "ครับแม่...ฟ้าก็ไปนั่งดูที่พิทไง ไม่เห็นต้องไปนั่งที่สแตนเลย" ดิเชร์หันไปตอบน่านฟ้าก่อนจะหันมาบอกม่านฟ้าคนเป็นน้อง "แม่เห็นด้วยนะ ไปกันทั้งหมดสี่คนเอง" "เอาอย่างงั้นก็ได้ค่ะแม่" "พ่อครับ ช่วงนี้ผมขอขี่ไอ้แก่ไปฝึกงานนะครับ" "มีอะไรหรือเปล่า" น้ำป่ายกถ้วยกาแฟขึ้นจิบก่อนจะถามออกไป "ไม่มีครับพ่อ แค่เผื่อไว้ครับ ถ้าเกิดมีพนักงานเห็นว่าผมนั่งรถยนต์ไปทำงาน แถมยังมีคนขับให้อีก มันจะดูไม่ค่อยดีสำหรับนักศึกษาฝึกงานครับ" "แล้วแต่ลูกเลยพ่อเชื่อใจเชร์ ตัดสินใจเองได้เลยถ้าสิ่งที่เชร์ต้องทำมันถูกต้อง เพราะต่อจากนี้เชร์ต้องพร้อมที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมในสิ่งที่พ่อเตรียมเอาไว้ให้ก็พอ" "ครับพ่อ" บริษัทโซแอล ดิเชร์หลังที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ที่ใต้ตึก ก็เดินตรงเข้าไปด้านในโดยที่ไม่ได้สนใจว่าพนักงานที่อยู่เคาน์เตอร์แผนกต้อนรับกำลังมองเขาด้วยท่าทีที่สนใจมากพอที่จะทำให้อีกคนสะกิดเรียกเมื่อเห็นว่าผู้ชายคนนั้นเดินเข้าไปในลิฟต์แล้ว "มองเหลียวหลังเลยนะ" "ก็เด็กเขาหล่อ ใครๆก็ต้องอยากมองป่ะ" "ฉันว่าน้องเขาดูคุ้นๆนะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน" "เหรอ...ก็คงจะมาตอนที่ยื่นเอกสารขอเป็นนักศึกษาฝึกงานล่ะมั้ง รอบนี้มาฝึกที่นี่ตั้งสี่คน" แผนกบุคคลในตอนนี้มีนักศึกษานั่งรอเวลารายงานตัวทั้งหมดสี่คน และหนึ่งในนั้นก็คือดิเชร์ ดูบัวส์ เขาจงใจใช้นามสกุลเดิมของแม่ในการขอเข้าฝึกงานเพื่อไม่ให้เป็นที่สนใจในกลุ่มพนักงานของบริษัท เพื่อหลีกเลี่ยงอะไรหลายๆอย่างและที่สำคัญก็เพื่อความสบายใจ "ดิเชร์ ดูบัวส์ เดี๋ยวไปกับพี่นะ พี่จะไปส่งที่ห้องที่ประธาน" "ผมไปเองได้นะครับ" ดิเชร์กระซิบบอกหัวหน้าแผนกบุคคลเพราะเธอรู้ว่า ดิเชร์คือลูกชายของเจ้าของบริษัทและจะมีอีกคนที่จำเป็นต้องรู้ว่าดิเชร์คือใครก็คืออดิศักดิ์ที่เป็นหัวหน้าแผนกที่ดิเชร์จะไปฝึกงาน "เอางั้นเหรอคะ...ถ้างั้นตามสบายเลยค่ะคุณดิเชร์...อะ แฮ่ม เดี๋ยวดิเชร์กดลิฟต์ไปหาคนนี้ที่แผนกตามหน้าเอกสารนี้เลยนะคะพี่เขียนรายละเอียดให้แล้วค่ะ" ประโยคแรกเธอพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาเพื่อไม่ให้คนอื่นได้ยิน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงที่ดูจริงจังขึ้น "ขอบคุณครับ" ดิเชร์เดินตรงไปตามทางเดินของแผนกบุคคลเพื่อไปรอลิฟต์ที่ขึ้นไปที่ชั้นของผู้บริหาร ติ้ง!! เสียงประตูลิฟต์เปิดออก ร่างบางที่อยู่ในชุดแต่งกายเรียบร้อยก็เดินออกมาจากลิฟต์โดยที่ไม่ได้มองว่ามีคนยืนอยู่ที่หน้าประตูลิฟต์ พลั่ก!ตุ๊บ! "โอ๊ยย!" ร่างบางที่รีบเดินออกจากลิฟต์โดยไม่ทันได้ดูว่ามีคนยืนจ่ออยู่ตรงหน้าลิฟต์ เลยทำให้เธอเดินชนเข้ากับดิเชร์อย่างเต็มแรงจนร่างของเธอกระเด็นลงไปนั่งพับเพียบกับพื้น ดีหน่อยตรงที่ว่ามีคนกดปุ่มเปิดลิฟต์ค้างรอเอาไว้อยู่ "เอ่อ..." 'จะเรียกว่าอะไรดีล่ะ...อะไรจะบังเอิญขนาดนี้หรือจะเป็นเหมือนอย่างที่พี่คานโลพูด' ดิเชร์ได้แต่ยืนนิ่ง นึกในใจและรู้สึกแปลกใจกับสิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ "ยัง" ดรีมตวัดสายตาขึ้นมองคนที่กำลังมองเธออยู่เช่นกัน แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจเสียเท่าไหร่ แต่...เมื่อเธอได้เห็นใบหน้าของชายหนุ่มตรงหน้าหัวใจของเธอก็เริ่มเต้นแรงแถมยังรู้สึกร้อนๆวูบวาบไปทั่วร่างกาย พยายามที่จะเก็บกดความรู้สึกเอาไว้ไม่แสดงออกมาให้อีกคนได้เห็น "ครับ?" ดิเชร์ขานรับแบบงงๆ แต่ใบหน้าหล่อกลับอมยิ้มอยู่บางๆบนใบหน้า ไม่ทันที่ดรีมจะสังเกตเห็น "ยังไม่รีบช่วยอีก ชนแรงเป็นบ้าอย่างกับแร...ง..." ดรีมไม่ทันที่จะพูดจบประโยคเป็นดิเชร์ที่พูดแทรกขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี "แต่คุณมาชนผมเองนะ" ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มอย่างกับว่าตอนนี้เขากำลังอารมณ์ดีสุดๆ "นี่! ฉันรู้หรอกน่า...โอเคฉันผิด ขอโทษที่ฉันเดินไม่ดูแต่ช่วยดึงมือฉันขึ้นหน่อยได้ไหม" ดรีมหน้าเจื่อนอย่างสำนึกผิดแล้วรีบเอ่ยคำขอโทษและด้วยกระโปรงยาวทรงสอบทำให้ดรีมลุกขึ้นได้ยากเธอจึงเอ่ยเรียกคนตรงหน้าให้ช่วยดึงมือขึ้น "ครับๆ มาผมช่วย" หลังจากตอบรับแบบงงๆ ดิเชร์ก็ก้มลงจับตรงต้นแขนทั้งสองข้างของดรีมเพื่อช่วยพยุงให้ขึ้นมาจากพื้น โดยไม่ได้สนใจมือขาวๆที่ดรีมยื่นให้กับเขา จึงทำให้ใบหน้าของทั้งสองห่างกันไม่ถึงสองนิ้ว นั่นมันก็ทำให้ดรีมถึงกับเสียอาการอีกครั้ง "นี่นาย!! จริงๆเลย ถ้าเป็นคนอื่นคงโวยวายนายลั่นแผนกแน่" ดรีมบ่นเพื่อปกปิดความเขินอาย พลางเอามือปัดกระโปรงเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้า ในขณะเดียวกันคนในลิฟต์ก็กดปิดประตูลิฟต์เมื่อเห็นว่าคนหน้าลิฟต์คงยังไม่เข้าลิฟต์ในตอนนี้ ดรีมยังคงยืนมองหน้าคนตรงหน้าอยู่หลายวินาที เธอไล่มองใบหน้าที่คมสัน ดวงตาสีเข้มเป็นประกายดูเหมือนจะมีแรงดึงดูดมหาศาลในดวงตาสีเข้มคู่นั้น เช่นเดียวกันกับดิเชร์ที่ไม่สามารถละลายตาจากใบหน้าสวยของหญิงสาวรุ่นพี่ไม่ได้เลย คลับคล้ายคลับคลาราวกับว่าเธอเคยเห็นผู้ชายคนนี้ที่ไหนมาก่อน แต่ทว่าต้องส่ายหน้าไปมาเพื่อสลัดความคิดที่ว่าคงเป็นไปไม่ได้หรอก มั้ง เปลี่ยนเป็นชื่นชมคนตรงหน้าแทน 'หล่อจังลูกครึ่งแน่ๆ' ดรีมคิดขึ้นในใจ ในขณะที่สายตาเธอก็มองไปที่ป้ายพนักงานที่แขวนคออยู่ได้บอกตำแหน่งงานชัดเจน "นักศึกษาฝึกงานเหรอเรา...ได้ฝึกที่แผนกไหนล่ะ ไปถูกไหม" ดรีมรู้สึกถึงการทำงานของหัวใจ มันกำลังทำงานหนักเป็นอย่างมาก "ถูกครับแต่ถ้าคุณอยากจะไปส่งผม ผมก็ไม่ขัดนะครับ" คำพูดของดิเชร์ทำให้ดรีมถึงกับทำหน้าไม่ถูก จึงได้กระแอมขึ้นมาเบาๆก่อนจะตอบออกไป "ดีแล้วล่ะที่ไปถูก ถ้างั้นฉันไปก่อนนะ" "พี่ครับ" สรรพนามที่ดิเชร์ใช้เรียกดรีม ทำให้สองเท้าเล็กถึงกับหยุดชะงักแล้วหันไปตามเสียงเรียกที่อยู่ที่ด้านหลัง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD