ร่างเล็กในชุดนอนสีเทาอ่อนทิ้งตัวลงบนที่นอนสีชมพูหนานุ่มแววตาคู่สวยมองเพดานไม้ ครุ่นคิดหาร้อยแปดวิธีที่จะนำเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลของพ่อ
เงินติดตัวตอนนี้มีไม่ถึงห้าร้อยด้วยซ้ำลำพังตัว คนเดียวต่อให้ ที่ทำงานสามแห่งที่ทำอยู่จ่ายเงินเดือนก็ไม่พอจ่ายอยู่ดี
สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ก็คือหาหยิบยืมจากคนรู้จัก ช่วงนี้ได้ข่าวมาว่าบ้านอาเฆข น้องชายของพ่อกำลังไปได้สวยพวกเค้าอาจช่วยเราได้บ้าง พรุ่งนี้เช้าเธอคงจะต้องลองไปคุยกับอาตัวเองสักหน่อย และต้องมีหนทางแน่ๆ หลักจากสมองครุ่นคิดวิธีออกมา พราวฟ้าก็กลับผ่อนคลายขึ้น มาบ้าง จนผล็อยหลับไป
เช้าตรู่..
มือเรียวบิดไปมามองแสงสว่างอ่อนๆ ที่สาดส่องเข้ามาภายในห้องนอน
"ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีน่ะพราวฟ้า"
พราวฟ้าเอ่ยอวยพรให้กับตัวเอง พร้อมกับรีบลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว วันนี้หญิงสาวเลือกที่จะสวมชุดที่สบายที่สุด
"งั้นเอาเป็นชุดเสื้อยืดสีขาวกับกระโปรงกรีบรอบสีชมพูสั้นเหนือเข่าละกัน "
หลังจากแต่งตัวเสร็จสิ้น ก็ไม่รอช้ารีบหยิบกุญแจมอเตอร์ไซค์เวสป้าสีฟ้าอ่อนคู่ใจที่วางอยู่เพื่อออกเดินทางไปบ้านอาของเธอ
พราวฟ้าสะพายกระเป๋าคู่ใจพร้อมกับสวมรองเท้าผ้าใบสีขาวง่ายต่อการเดินทางก่อนจะขับรถมอเตอร์ไซค์แล่นออกไปบนถนน มือบางบิดช้าจนแทบจะคลาน
"ขับช้าแบบนี้มึงเดินเถอะ "
รถที่ขับตามมาตะโกนด่าทอเธอด้วยคำหยาบคาย
"ขอโทษค่ะ"
ทว่าพราวฟ้าก็ทำได้เพียงขับต่อไปแบบเดิมเพราะสิ่งที่เธอกลัวที่สุดก็คือความเร็วและอุบัติเหตุ เพราะถึงยังไงบ้านของอาเฆขก็ไม่ได้ไกลนัก
พราวฟ้าครุ่นคิดในหัวระหว่างขับรถผ่านหมู่บ้านจัดสรรค์มากมายราคาหลายสิบล้าน
" ถึงแล้ว เย้"
พราวฟ้ารีบจอดรถพลันถอดหมวกกันน็อคออก สีหน้าเธอฉายแววมีความหวังอย่างเห็นได้ชัด
"อาเฆขคะอาเฆข"
พราวตะโกนเรียกชายหนุ่มวัยกลางคนหน้าประตูรั้วบ้าน ก่อนจะวิ่งไปกดกริ่งหน้าประตู
"มาหาใครคะ"
เสียงแม่บ้านเดินอออกมาก่อนจะเอ่ยถาม
"อ้าว...คุณพราวเองหรอคะ ป้าคิดว่าใคร มาหาคุณเฆขหรอคะ "
"ใช่ค่ะคุณอาอยู่ไหมคะ"
"คุณเฆขไปทำธุระค่ะไม่นานก็กลับคุณพราวเข้ามานั่งในบ้านก่อนดีกว่าค่ะ ข้างนอกลมแรงเหมือนฝนจะตกด้วย"
" ขอบคุณมากค่ะ"
พราวฟ้าเดินตามป้าแม่บ้านเข้าไปนั่งรอด้านใน ก่อนที่เสียงรถหน้าประตูรั้วจะดังขึ้น
"คุณเฆขลับมาพอดีเลยค่ะ ป้าไปเปิดประตูให้ก่อนนะคะ"
หญิงสาวพยักหน้าพร้อมกับยิ้มตอบป้าแม่บ้าน ทว่ามือสองข้างกลับจิกชายผ้ารอคนเป็นอาเดินย่างกรายเข้ามา
"จะเริ่มบอกเค้ายังไงดีนะ"
เพียงแค่ประตูรถหน้าบ้านเปิดออกเสียงดังโวยวายก็เล็ดเข้ามาด้านใน
"เฆข คุณก็รู้ว่าตอนนี้บ้านเรามีภาระมากมายคุณจะนำเงินไปลงทุนแบบนั้นได้ยัวไง ถ้าขาดทุนขึ้นมา กอล์ฟกับกายลูกเราจะเอาเงินที่ไหนไปเรียนคุณเคยคิดบ้างไหม"
" พิณ คุณก็อย่าใช้อารมณ์สิ ยังไงซะพวกเราก็ต้องได้กำไรอยู่แล้ว คุณน่ะคิดมาก ไปๆ เข้าบ้านเถอะ"
เสียงของอาเฆขและอาพิณ ภรรยาของเค้าถกเถียงกันเสียงดังลั่น ครั้นได้ยินเสียง ก็ทำเอาหญิงสาวหายใจไม่ทั่วท้อง เพราะตอนนี้พวกเค้ากำลังทะเลาะกันเรื่องเงิน หากเธอนำเรื่องเดือดร้อนของตัวเองมาขอความช่วยเหลือ พวกเค้าจะคิดยังไง
" อ้าวพราว มาตั้งแต่เมื่อไหร่"
" มาซักพักแล้วค่ะอา"
"ดีเลยอยู่ทานข้าวเย็นกับอาก่อนสิไม่ได้เจอนาน พ่อเราเป็นไงบ้าง สบายดีไหม"
พราวฟ้าทำได้เพียงอ้ำอึ้งไปพักใหญ่ เธออึดอัดใจในคำถามนั้น พลางกำมือเรียกความกล้าในตัวเองเอ่ยตอบออกไปตามตรง
"ตอนนี้คุณพ่อป่วยอยู่โรงพยาบาลค่ะ"
" เกิดอะไรขึ้น!! "
เสียงชายหนุ่มวัยกลางคนเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าตกใจเป็นอย่างมาก ก่อนจะเดินมานั่งลงบนโซฟา ตัวข้างๆ เธอพร้อมกับใช้มือหนาแตะลงบนไหล่ของหญิงสาวอย่างแผ่วเบา
"ตอนนี้คุณพ่อต้องผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ พราวไม่มีเงินมากพอจะจ่ายค่ารักษาให้คุณพ่อ คุณอาคะ พราวขอรบกวนคุณอาได้ไหมคะ "
เฆขนิ่งเงียบก่อนจะค่อยๆ ดึงมือออกจากไหล่หญิงสาว
"คือว่าตอนนนี้อา..."
"ตอนนี้อาเธอถังแตก เพราะเอาเงินไปลงทุนหุ้นจนหมด เค้าไม่มีเงินช่วยเธอหรอกพราวฟ้า"
"นี่คุณ"
เฆขเอ่ยขึ้น ก่อนจะแสดงสีหน้าซีดตก
"อย่าไปฟังอาพิณเลยนะ ตอนนี้อาไม่มีเงินจริงๆ อีกอย่าง ลูกชายอาก็เพิ่งเข้าโรงเรียนด้วย"
"ไม่เป็นไรค่ะอา ฉันยิ้มกลบเกลื่อนความผิดหวัง
"พราวขอตัวกลับก่อนนะคะ"
"อยู่ทานข้าวกับอาก่อนสิ"
"อย่าเลยค่ะอาเฆข พอดีพราวมีธุระต้องรีบไปทำ ไว้เจอกันใหม่นะคะ "
พราวฟ้ารีบวิ่งออกมาใบหน้ากลัั้นน้ำตาจนแทบรินไหลออกมา ตอนนี้เธอไร้ที่พึ่งพิงแล้วจะไปหาเงินที่ไหนกัน
หญิงฉันยืนครุ่นคิดกับตัวเองอยู่หน้าประตูรั้วบ้านอาเฆข ก่อนจะนึกขึ้นได้
"หรือเราควรไปหาเจ๊ส้มดี เผื่อนางจะมีความคิดดีๆ ช่วยเราได้"
ไวกว่าความคิด พราวฟ้ารีบสตาร์ทเครื่องรถขับออกไป หาเจ๊ส้มเจ้าของร้านกาแฟ ที่ฉันทำงานอยู่ด้วยความเร็ว....