ผู้หญิงร้ายกาจ 1/3

1050 Words
ไอรินเอ่ยออกอย่างมาดมั่นพร้อมกับถ่ายทอดความเจ็บปวดออกมาในน้ำเสียงและแววตา คุณพ่อลูกหนึ่งอย่างคิรากรยังคงทำหน้าที่ดูแลลูกชายอย่างเต็มที่ แม้ชีวิตครอบครัวจะไม่สมบูรณ์แบบแต่เขาก็ใส่ใจและเอาใจใส่เด็กชายตัวน้อยสุดความสามารถเท่าที่พ่อคนหนึ่งจะทำได้ เขาเลือกพาลูกออกมาอยู่คอนโดตั้งแต่แยกทางกับไอริณ เพราะความเห็นต่างและความขัดแย้งในครอบครัวที่เกิดขึ้นหลังจากหย่าขาดกับแม่ของลูก ส่งผลให้นักธุรกิจหนุ่มเลือกที่จะเลี้ยงดูลูกชายด้วยตัวเอง แม้กะรัตจะขอร้องหลายครั้งหลายคราให้เขาและลูกชายย้ายกลับไปที่บ้านแต่คิรากรก็ยังคงปฏิเสธเพราะไม่อยากปล่อยให้ลูกชายต้องได้ฟังผู้เป็นแม่พูดถึงไอริณในทางเสียหาย “พี่คีย์ทานข้าวลูก ป๋าสั่งไก่ทอดของโปรดของพี่มาให้ด้วยนะ” พ่อครัวจำเป็นแกะกล่องอาหารมาจัดใส่จานเตรียมให้ลูกชาย คนตัวเล็กเดินคอตกทำหน้าบึ้งเดินมานั่งประจำที่ราวกับถูกบังคับ “ไม่กินได้ไหมอะ พี่ไม่หิวครับป๋า” เด็กชายเลื่อนจานอาหารบนโต๊ะออกห่างตัว “ไม่หิวก็ต้องกินนะครับคนเก่ง จะได้มีแรงไปวิ่งที่ฟิตเนสกับป๋าไง” คิรากรพยายามเกลี้ยกล่อมคนตรงหน้าสุดกำลัง “ก็พี่ไม่อยากกิน” เด็กชายส่ายหน้าไปมาไม่ยอมท่าเดียว คนเป็นพ่อจึงเดินมานั่งข้างๆ “ไม่สบายรึเปล่าฮึ ทีเมื่อวานยังแย่งป๋ากินไก่ทอดอยู่เลย” มือหนายกขึ้นแตะหน้าผากคนตัวเล็กด้วยความห่วงใย น้อยครั้งนักที่คนตรงหน้าจะงอแง ซึ่งการจัดการเหตุการณ์แบบนี้ในแต่ละครั้งก็เล่นเอาเขาเหงื่อตกไปเยอะเหมือนกัน “ป๋าครับ พี่อยากคุยกับมามี้” เด็กชายบอกสิ่งที่ต้องการพร้อมใบหน้าเศร้าๆ “ไม่ได้ครับ ที่อังกฤษตอนนี้น่าจะสิบโมงกว่ามามี้คงทำงาน เราคุยกันแล้วไงว่าจะคุยตอนที่มามี้ว่างเท่านั้นรอก่อนได้ไหมอีกสองชั่วโมงเดี๋ยวป๋าโทรให้” คิรากรพยายามให้เหตุผลกับลูกอย่างที่ผ่านมาแต่ครั้งนี้กลับไม่ได้ผล… “ถ้าไม่ได้คุยกับมามี้ตอนนี้ พี่ก็จะไม่กินข้าว!” “คีย์! ชักจะดื้อใหญ่แล้วนะ เรื่องแบบนี้ไม่ควรเอามาล้อเล่น ป๋าไม่ง้อนะจะบอกให้ไม่กินก็ไม่ต้องกิน!” น้ำเสียงหนักแน่นและใบหน้าเคร่งขรึมของคนเป็นพ่อทำให้เด็กชายสะดุ้ง “ฮึก! ฮือ! ป๋าว่าพี่ ป๋าใจร้าย พี่ไม่รักป๋าแล้ว!” คนตัวเล็กร้องไห้น้ำตาอาบแก้มวิ่งเข้าห้องนอนด้วยความเสียใจ “เดี๋ยว! คีย์! คีย์!” คิรากรไม่เคยตีลูกและไม่เคยด่าทอหรือขึ้นเสียงใส่ แต่ครั้งนี้เขาเก็บอารมณ์ไม่อยู่จริงๆ ก๊อกๆ “คีย์! เปิดประตูให้ป๋าเดี๋ยวนี้นะ” มือหนาบิดลูกบิดไปมาแต่มันกลับถูกล็อกด้วยฝีมือของคนด้านใน “ไม่! ฮึก! ฮือ!” เด็กชายยกมือขึ้นปาดน้ำตา มองไปยังประตูห้องที่คั่นกลางระหว่างพ่อและตัวเอง “คีย์! ป๋าโมโหแล้วนะบอกให้เปิดไง แค่ออกมาทานข้าวมันยากเย็นขนาดนั้นเลยใช่ไหม?” คนเป็นพ่อกำหมัดแน่นอย่างข่มอารมณ์ “ฮึก! ฮือ! จะคุยกับมามี้! อยากอยู่กับมามี้!” เด็กชายตะโกนลั่นห้องอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “จะงอนก็งอนไป ป๋าไม่ง้อนะ” เป็นเขาที่เสียงอ่อนลงเมื่อคิดได้ว่าตัวเองก็ผิดที่เผลอขึ้นเสียงกับลูก “ฮึก! ฮือ” เสียงร้องไห้ของคนตัวเล็กคือสิ่งที่เขาไม่อยากได้ยินเพราะได้ฟังทีไรมันบีบหัวใจของเขาทุกครั้ง คิรากรเดินวนไปมาที่หน้าห้องนอนของลูกชายด้วยความกังวล ก่อนจะตัดสินใจต่อสายโทรศัพท์ไปหาแม่ของลูกในที่สุด “ไอซ์ พี่เองนะ” “โทรมาทำไมคะ ลูกเป็นอะไรรึเปล่า?” ไอริณรีบถามเพราะปกติ คิรากรไม่ค่อยโทรมาเวลาที่เธอทำงาน “คุณไอซ์ครับ เรียบร้อยแล้วนะครับ” เสียงที่แทรกเข้ามาเป็นเสียงผู้ชายทำให้คิรากรคิ้วขมวดขึ้นมาทันที “ขอบคุณค่ะ” ไอริณหันไปคุยกับพนักงานขณะที่ถือสายโทรศัพท์กับอดีตสามี “ไอซ์อยู่ไหนทำไมพี่ได้ยินเสียงผู้ชาย?” เขาถามออกไปอย่างรวดเร็ว “ถ้าไม่เกี่ยวกับลูก ไอซ์จะวางแล้วนะ...” “เดี๋ยว! คือ…ลูกไม่ยอมกินข้าว ล็อกห้องหนีพี่ พี่บอกให้เปิดก็ยังไม่ยอมเปิดพี่ไม่รู้จะทำยังไง” “อะไรนะ! แล้วพี่ดุแกรึเปล่า?” ไอริณถามเช่นนี้เพราะรู้นิสัยของลูกชายและนิสัยของคิรากรเป็นอย่างดี “คือ…” “พูดความจริงมาค่ะ คนอย่างคีย์ถ้าไม่โดนดุหรือขัดใจแกจะไม่เป็นแบบนี้” เธอให้เหตุผลตามจริง “ก็ลูกไม่ยอมทานข้าวเพราะอยากคุยกับไอซ์ พี่กลัวว่าจะไปกวนเวลางานของไอซ์เลยไม่โทรให้ แล้วลูกก็งอแงอย่างที่พี่เล่าให้ฟัง” “ไอซ์เคยบอกพี่คินแล้วว่าถ้าอะไรที่เกี่ยวกับลูกให้โทรมาได้เลยไม่ต้องรอ” “แต่พี่เห็นว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่อยากตามใจจนเคยตัว” เขาเองก็มีเหตุผลของเขาเช่นกัน เห็นแบบนี้ใช่ว่าเขาจะตามใจลูกเสียทุกอย่าง “กับลูกแม้จะเรื่องเล็ก พี่ก็ควรจะใส่ใจ มีโอกาสได้ดูแลก็ทำให้เต็มที่ไม่ใช่ทำแบบทิ้งๆ ขว้างๆ” “พี่ไม่เคยทิ้งขว้างลูกนะ” “ทุกคนก็พูดเอาดีใส่ตัวกันทั้งนั้นแหละค่ะ” “นี่ไอซ์!” “อย่าเพิ่งชวนทะเลาะ เอากุญแจสำรองไปเปิดประตูห้องลูก แล้วก็เอาโทรศัพท์ไปให้ลูก ไอซ์จะคุยกับแกเอง” “แต่…” “ถ้ากลัวเสียฟอร์มก็แค่ยื่นโทรศัพท์ให้ลูกก็พอค่ะ ที่เหลือเดี๋ยวไอซ์จัดการเอง” “พี่ไม่ได้กลัวเสียฟอร์ม แต่แค่ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดกับลูกยังไง” “เปิดประตูแล้วบอกว่าโทรหาไอซ์ให้แล้ว เดี๋ยวลูกก็จะวิ่งมาหาพี่เอง” “มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกมั้ง?” “ก็ลองดูก่อนสิคะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD