บทนำ 1
“วันนี้เป็นวันดีมากเลยที่เธอชวนฉันมาทานอาหารในร้านหรูๆแบบนี้ ไม่ได้มาทานตั้งนานว่าไหม” พวงชมพูเปรยด้วยน้ำเสียงสดใส ทอดมองชายหนุ่มที่คบหามาเกือบสามปีอย่างปลื้มปริ่ม เธอตัดสินใจคบหากับเพื่อนหนุ่มตั้งแต่ปีสอง จวบจนตอนนี้ทั้งคู่จบการศึกษา เหลือแค่รับปริญญาตามที่มหาวิทยาลัยกำหนดเท่านั้น ที่เหลือเธออดหวังไม่ได้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะขอหมั้นหมายเธอในค่ำคืนที่แสนพิเศษเช่นนี้
“ชมลองทานนี้ดูดีกว่านะ” ปกรณ์ว่าพลางตักอาหารรสเลิศให้หญิงสาว พร้อมยิ้มเจื่อนเล็กน้อย
“ขอบคุณนะปกรณ์” พวงชมพูยิ้มรับ ตั้งหน้าทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย พยายามควบคุมอาการสั่นประหม่า ในใจเต้นระรัว อดใจรอให้เขาขอหมั้นแทบไม่ไหว เธอและแก๊งเพื่อนสาวคาดหวังว่าเธอจะแต่งงานก่อนใคร
“ชะ..ชม หลังจากนี้กรคงคิดจริงจังกับชีวิตมากกว่านี้ พี่ชายของกรเป็นทนายที่เก่งคนหนึ่ง และครอบครัวหวังไว้กับกรและพี่ชายมาก และไม่อยากให้พวกเขาผิดหวัง” ชายหนุ่มเริ่มเกริ่นอย่างมีเหตุผล แถมยังยกตัวอย่างมาให้หญิงสาวตรงหน้าได้เข้าใจ
“อือ...หึ” หญิงสาวพยักหน้า พร้อมกับส่งยิ้มให้ปกรณ์ ก่อนจะก้มหน้าทานอาหารต่อ ทิ้งให้ปกรณ์ที่กำลังจะพูดต่ออ้าปากค้าง
“และชมเป็นผู้หญิงที่ดีมากคนหนึ่ง กรไม่เคยเจอผู้หญิงแบบชมมาก่อน...” ปกรณ์นิ่งเงียบไปชั่วอึดใจ จนทำให้คนฟังนั่งนิ่ง หยุดทานอาหารเพื่อรอคำพูดที่รอฟังมาตลอด “กรว่าเราควรจะเลิกกันเถอะ”
‘เราควรเลิกกันเถอะ!’ คำพูดเมื่อครู่ยังชัดแจ่มแจ้งในหูไม่จ่างหายไปไหน
“อะไรนะ! เธอไม่ได้จะขอหมั้นฉันหรอกเหรอกร ที่พูดมาทั้งหมดก็เพื่อบอกเลิกฉันงั้นเหรอ” หญิงสาวถามทวนยังไม่เชื่อคำพูดที่เพิ่งได้ยิน พวงชมมองใบหน้าแฟนหนุ่มอย่างไม่เชื่อ เพราะระหว่างสองคนแทบจะไม่ทะเลาะ หรือมีปัญหาเรื่องผู้หญิงมายุ่งแม้สักนิด จู่ๆปกรณ์กลับมาขอเลิกเธอซะงั้น
“ใจเย็นๆ ก่อนนะชม คือ...แบบ...ชมก็รู้ว่าที่บ้านของกรเป็นผู้ดีเก่า แล้วพวกเราก็มีหน้ามีตาในสังคม แล้วแม่ผมก็คงปลื้มเท่าไหร่ ถ้ามีลูกสะใภ้ที่ไม่เข้าใจครอบครัวของเรา...”
“ที่เธอขอเลิกกับฉัน เพียง เพราะฉันไม่มีตาในสังคมหรือไง ฐานะทางครอบครัวของฉันไม่ได้แย่ถึงขนาดนั้นเสียหน่อย” พูดจบ พวงชมพูก็โห่ร้องออกมาอย่างไม่อาย ตัดพ้อชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตา
ปกรณ์ไม่ปฏิเสธว่าฐานะทางครอบครัวของพวงชมพูนั้นดีระดับไหน ถ้าเทียบกันครอบครัวของเขาคงเทียบเธอไม่ติด ครอบครัวของพวงชมพูเติบโตมาด้วยธุรกิจน้ำพริกที่สามารถหาได้แทบทุกห้างร้าน เรียกได้ว่าครอบครัวเป็นระดับเศรษฐีก็ว่าได้ ทว่าปกรณ์ก็มีหน้าที่ต้องรักษาหน้าตาทางสังคมเช่นกัน ถึงจะรู้สึกเสียใจไม่น้อยที่ต้องทิ้งผู้หญิงอย่างพวงชมพู
“มันก็...ไม่เชิง แต่ชมก็รู้ว่ากรต้องรับความกดดันจากครอบครัวแค่ไหน เข้าใจกรเถอะนะ กรยังรักชมเหมือนเดิม” ปกรณ์ยืนมือไปกุมมือที่กำลังเช็ดน้ำตาอย่างลวก มาสคาราที่แต่งแต้มด้วยดวงตาแปดเปื้อนใบหน้า แต่นั่นก็ไม่สามารถบั่นทอนความงามจากดวงหน้าของสาวเจ้าได้
“แต่ฉันรักเธอนะกร ฉันไม่มีดีตรงไหน ฉันนมโตเกินไปหรือไง หรือฉันยังรวยไม่พอที่จะชูหน้าชูตาครอบครัวเธอ” พวงชมพูพยายามสลัดมือที่ปกรณ์กุมไว้แน่น ปากบอกว่ารักเธอ แต่การกระทำกลับตรงกันข้ามสิ้นดี น่าผิดหวังจริงๆวันนี้ควรเป็นวันดีของเธอ ทุกอย่างกลับตาลปัตรเสียนี่
“ชมฟังก่อนนะ” ปกรณ์พยายามหาเหตุผลมาอธิบายไม่ให้พวงชมพูโวยวายไปมากกว่านี้
“ไม่! คนหลอกลวง” พวงชมพูตะโกนใส่หน้าชายหนุ่มด้วยความรู้สึกทั้งรัก โกรธ น้อยใจ ผสมปนเป จนเธอเองก็แยกไม่ออกเช่นกันว่าเธอรู้สึกยังไงกันแน่ ผู้คนที่นั่งรับประทานอาหารโต๊ะอื่นต่างก็จ้องมองมาที่ปกรณ์ พร้อมกับมองสาวสวยที่น้ำตาคอลุกออกจากโต๊ะกะทันหัน ไม่สนใจปกรณ์ที่ส่งเสียงเรียกเลย
ปกรณ์ยิ้มเล็กน้อย พร้อมขอโทษคนในร้านอาหารที่ทำให้แตกตื่น รีบเรียกบริกรมาคิดค่าอาหารอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ไม่รอช้า ตามหาหญิงสาวที่ไม่รู้ว่าปานนี้คงร้องไห้ฟูมฟายไปที่ไหนแล้ว
นับว่าโชคยังเข้าข้างเขา ออกรถมาไม่ไกลก็เห็นหญิงสาวที่เขาตามหา เดินอยู่ข้างฟุตบาท ถือรองเท้าส้นสูงเดินจ้ำอ้าวอย่างไม่สนใจใคร
“ชมฟังกรก่อนนะ” ปกรณ์ชะลอความเร็วของรถยนต์ให้เท่ากับความเร็วที่หญิงสาวเดิน
“ไม่!” หญิงสาวปฏิเสธเสียงแข็ง เดินหน้าต่อไปเรื่อยๆอย่างประชดชีวิต โดยไม่หันไปมองปกรณ์สักนิด
“เดี๋ยวเท้าสวยๆของชมจะบวมเอาหรอก ถ้าเดินแบบนี้จนถึงบ้าน อีกไกลนะกว่าจะถึงบ้านของชมน่ะ มาขึ้นรถเถอะน่า ยังไงกรกับชมก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ไม่ใช่เหรอ” ปกรณ์พยายามหว่านล้อมให้พวงชมพูมาขึ้นรถ ถ้าปล่อยหญิงสาวไว้แบบนี้คงไม่มีต่อตัวเขาแน่ๆ ที่ลูกชายรัฐมนตรี ไม่มีความเป็นสุขภาพบุรุษปล่อยให้สาวน้อยต้องเดินกลับบ้านคนเดียว
“ไม่! ไปซะเถอะ เราเลิกกันแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วจะมาห่วงทำไม” พวงชมพูยังตัดพ้อไม่เลิก เธอเป็นคนที่หัวรั้นเกินกว่าจะยอมให้ใครง่ายๆ
“เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไม่สวยเอาน่า มีงานเดินแบบด้วยไม่ใช่เหรอ” ปกรณ์ที่รู้นิสัยของหญิงสาวดีนำข้อนี้มาให้เกลี้ยกล่อมเธออีกครั้ง ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะได้ผลเหมือนกัน เพราะพวงชมพูหันกลับมามองเขา แล้วหยุดเดิน
“ก็ได้” พวงชมพูไม่รอช้ารีบขึ้นรถอย่างปฏิเสธไม่ได้ จริงอย่างที่ปกรณ์ว่าถ้าเธอมัวเดินจ้ำๆประชดชีวิตต่อไปขาสองข้างคงบวมแดง แล้วถ้างานเดินในวันพรุ่งนี้เธอคงเป็นตัวตลกให้ทุกคนหัวเราะ ซึ่งเธอไม่ยอมให้มันเป็นแบบนั้นเด็ดขาด
ถึงจะยอมขึ้นรถ โดยสารกลับมาคันเดียวกับปกรณ์ พวงชมพูก็ไม่ยอมปริปากพูดกับชายหนุ่ม แม้สักคำ ถึงเขาจะช่วยคุยสารพัดเรื่อง หรืออธิบายเหตุผลที่ขอเลิกกับเธอ
“โธ่...ชม อย่านิ่งแบบนี้ซิ ผมต้องจริงจังกับอนาคตก็ควรมีหวานใจที่จริงจังกับชีวิตด้วยเช่นกัน ไม่ใช่...” ปกรณ์กำลังจะพูดต่อก็ถูกขัดจังหวะเสียก่อน
“นี่กรหาว่าชมเอาแต่สวยไปวันๆงั้นเหรอ ถ้าเราไม่ได้คบกันมานานชมก็คงไม่เชื่อเหมือนกัน ชมเรียนได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง แถมยังสร้างความภูมิใจให้คณะตั้งมากมาย” พวงชมพูพูดจบก็ร้องไห้โห่ลั่นรถยนต์คันหรูของปกรณ์ เล่นเอาเขาแทบหาคำแก้ตัวมาแทบไม่ทัน
“ผมรักคุณนะ เข้าเหตุผลของผมเถอะ ผมต้องเดินตามรอยครอบครัว ต้องหาคู่ครองที่คู่ควร และเหมาะสม ไม่ใช่นางแบบที่มัวแต่อวดเรียวขาโชว์คนอื่นเขา” ปกรณ์หันมองหญิงสาวที่ก้มหน้าก้มตาสะอื้นไห้ เขาก็รู้สึกผิดที่ต้องปฏิเสธความรักของพวงชมพู แต่อนาคตของคู่ครองเขาปฏิเสธผู้เป็นแม่ไม่ได้เสียด้วย มาคิดอีกทีก็ดีเหมือนกันที่ไม่ต้องมาทนเอาอกเอาใจพวงชมพู ที่มีความมั่นอกมั่นใจในตัวเองเกินกว่าเขา แถมเธอยังเรียนวิชาเอกหรือวิชาที่เลือกที่ทำได้คะแนนดีกว่าเขาเสียอีก จะมีผู้ชายสักกี่คนที่ยอมให้ผู้หญิงเก่งกว่าตนเองเกือบจะทุกเรื่อง