๒
“ใครกันแน่ที่น่าสมเพช!”โต้กลับทันควันอย่างไม่ยอมสำนึกผิด!
ดวงตาคมกริบวาววับโหนกแก้มสูงเป็นสีเข้มเมื่อสิ้นเสียงของนาวี คนของชายหนุ่มต่างขยับ นาวีมองซ้ายขวาด้วยสายตาระมัดระวัง หากแต่เมื่อชายหนุ่มยกมือขึ้นเป็นเชิงห้ามอีกฝ่ายจึงค่อยโล่งอก ทว่ายังไม่คิดเจียมตัวและยังไม่คิดหยุดแค่นั้น หนำซ้ำยังได้ใจ...
“แกเองไม่ใช่หรือที่น่าสมเพช ฉันจะบอกให้เอาบุญก็ได้ ว่านังคนที่แกหลงนักหลงหนา ที่แท้มันก็อีตัวดีๆ นี่เองล่ะว๊า ไม่ใช้ญาติอะไรหร็อก! ที่สำคัญ มันยังเคยอยู่กับฉันมาแล้ว พอจะเบื่อๆ แกก็มารับเซ้งต่อพอดี ฮะ ฮะ”
กรามหนาบดเบียดจนเป็นสันนูน ดวงตาคมกริบวาววับโชนแสงเมื่อถูกเหยียดหยาม ขณะที่รินลดากรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บแค้น...
“กรี๊ดด ไอ้วี! แก ไอ้สารเลว แกมันไอ้แมงดา!!”
รินลดาโผเข้าหาหวังจะทำร้ายอีกฝ่ายให้หนำใจ แต่หากถูกศิลาปัดเอาไว้ได้ทัน ก่อนจะเป็นเขาเองที่ลงมือตะบันหน้าจนกลิ้งลงไปกองกับพรมบนพื้นห้อง อีกฝ่ายลุกขึ้นทันทีเช่นกันแต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็ถูกศิลาถลุงไม่นับ เพียงครู่เดียวใบหน้าที่เคยดูดีบัดนี้กลับยับเยินจนจำเค้าเดิมแทบไม่ได้ ร่างกายที่เคยแข็งแรงกลับล้มกองลงไปงอก่องอขิงกับพื้น เสียงครางร้องโอดโอยอีกครั้งเมื่อถูกนิรุตม์กระแทกซ้ำเข้าที่ลิ้นปีลงไปหนักๆ อีกสองทีติดกันขณะที่ศิลาหันหลังให้ ก่อนหันกลับมาแล้วมองคนสนิทปรามๆ
“ขอโทษครับ แต่ผมทนไม่ไหวจริงๆ” นิรุตม์สารภาพพลางค้อมศีรษะแล้วถอยหลังไปยืนสงบเช่นเดิม หากแต่ดวงตายังลงมองลงไปยังร่างที่นอนเจ็บด้วยความรู้สึกสาแก่ใจ
“เอามันออกไปจากห้องของฉัน แล้วต่อไปนี้อย่าได้มาให้ฉันเห็นหน้าอีกเด็ดขาด ที่ไหนมีฉันที่นั่นต้องไม่มีแก จำไว้! เอามันออกไป”
คนไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่จะพูดถูกคนของเขาหิ้วปีกออกไปในที่สุด ขณะที่รินลดายังคงยืนสั่นมองเขาอย่างวอนขอ ก่อนจะถลันเข้ามากอดขาชายหนุ่มแล้วสะอื้นไห้อ้อนวอน
“ศีล ศีลขาได้โปรดให้โอกาสลดาอีกครั้งนะคะ ลดาสัญญาว่าจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกแล้ว นะคะ”
ร่างสูงยืนนิ่ง เวลานี้เขากำลังสะกดกลั้นอารมณ์โกรธกรุ่นไม่ให้ทำร้ายหล่อน ที่สำคัญเขารู้สึกขยะแขยงผู้หญิงโสมมอย่างรินลดาเกินกว่าจะอภัยให้แล้วกลับมาอยู่ด้วยกันได้ดั่งเดิม เพราะคนเช่นเขาไม่จำเป็นต้องกินของเหลือเดนใคร แต่ก็ไม่เคยคิดดูถูกผู้หญิงที่ผ่านการใช้ชีวิตกับใครสักคนมาแล้ว เขาพร้อมที่จะให้โอกาส หากเป็นหล่อนที่ไม่รักษาโอกาสนั้นไว้เอง
“หมดโอกาสของเธอแล้วล่ะลดา เก็บข้าวของของเธอออกไปซะ แล้วอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก รุตม์หยิบสมุดเช็คมาให้ฉันที”เมื่อสมุดเช็คถูกยื่นถูกให้นายใหญ่ รินลดาสั่นหน้ารัวร้องไห้โฮเมื่อชายหนุ่มเซ็นแกร๊กลงไป
“ไม่นะคะ อย่าทำแบบนี้กับลดาได้โปรด คุณศีล...”
ครวญคร่ำพลางกอดขาอีกฝ่ายไว้แน่น กรามแข็งแกร่งขบเข้าหากันอย่างอดกลั้นก่อนบอก
“ฉันบอกให้ไปซะ ลดาปล่อยฉันเดียวนี้ถ้าไม่อยากเจ็บตัวเหมือนไอ้ญาติจอมปลอมของเธอ!”
น้ำเสียงเฉียบขาดและดวงตาลุกโชนทำให้รินลดาผงะหนี สะอื้นปานใจจะขาด แล้วสะดุ้งเฮือกเมื่อกระเป๋าเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ของหล่อนถูกจับโยนโครมลงมาตรงหน้าด้วยฝีมือชายฉกรรจ์สี่ห้าคน
“นี่คือเช็คใบสุดท้ายที่ฉันจะให้เธอ ถือเสียว่าเป็นค่าสึกหรอก้อนสุดท้ายที่ต้องอยู่กับฉันก็แล้วกัน แสนหนึ่งคิดว่าน่าจะพอ ความจริงคนอย่างเธอบาทหนึ่งก็ไม่ควรจะได้ด้วยซ้ำไป”
ศิลาพูดพลางดึงขาออกจากการกอดของอีกฝ่ายจนร่างของรินลดาทรุดลงไปกองกับพื้น แล้วเดินออกห่างทันที ดวงตาสีเข้มกวาดมองห้องชุดที่เขาเคยซื้อเอาไว้และคิดยกให้รินลดา หากแต่แล้วความเลวชั่วช้าที่อีกฝ่ายตัดไม่ขาดก็กระจ่างแล้วในวันนี้ เพราะฉะนั้นห้องนี้ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปที่เขาจะมาเยือน...
“รุตม์ จัดการประกาศขายห้องนี้ให้ด้วย” พูดจบร่างสูงก็ผละห่างออกไปโดยไม่คิดจะหันกลับมามองคนข้างหลังให้เสียสายตา เป็นเหตุให้รินลดาร้องออกมาอย่างไม่อาย หล่อนไม่เหลืออะไรนอกจากเช็คหนึ่งแสน แล้วจะไปอยู่ที่ไหน เงินที่เคยมีนาวีก็หลอกเอาไปจนเกือบหมด บ้านมีแต่ก็เหมือนไม่มี นึกถึงครั้งที่ถูกไล่ให้ออกจากบ้านเพราะทำตัวเหลวแหลก หนำซ้ำยังลักลอบมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสามีของเพื่อนจนถูกประจานและตามจองล้างจองผลาญไม่เลิกจากเพื่อนคนนั้น ทำให้มารดาอับอายจนไม่กล้าออกจากบ้าน ระยะนั้น รินลดาเก็บตัวอยู่กับบ้านระยะหนึ่ง แต่แล้วหล่อนก็พลาดอีกครั้งและถูกมารดาจับได้ว่าแอบหนีออกจากบ้านช่วงดึกแทบทุกคืน นับแต่นั้นจึงถูกมารดาตัดขาด และหากจะให้แบกหน้ากลับไป ก็คงไม่พ้นจะถูกนินทาสารพัด ไม่ได้! เธอทนไม่ได้ที่จะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยาม หญิงสาวตัดสินใจวิ่งตามร่างสูงหากแต่ถูกนิรุตม์จับไว้ได้ทัน
“ปล๊อย! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันจะไปหาคุณศีล คุณศีล! กลับมาก่อน อย่าทิ้งลดา คุณศีล...”รินลดาคร่ำครวญก่อนรูดลงฟุบกับพื้นอย่างโศกาอาดูรเมื่อถูกอีกฝ่ายสกัดไว้หนาแน่น
“คุณไปเสียเถอะ ไปก่อนที่เจ้านายของผมจะเปลี่ยนใจสั่งฆ่าผู้หญิงแพศยาอย่างคุณแทนการปล่อยไปแถมด้วยเงินอีกหนึ่งแสน”
รินลดาตาลุกวาบ เมื่อถูกอีกฝ่ายประณามหยามเหยียด
“ไอ้บ้า! แกมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉันออกไป๊!”
“ฮึ!” นิรุตม์โคลงศีรษะอย่างสมเพช จนถึงขนาดนี้ รินลดาก็ยังไม่สำนึกตน “คุณต่างหากที่ต้องออกไป เพราะผมจะให้เวลาคุณอีกแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น และถ้าคุณยังไม่ยอมออกไปผมจะจับคุณโยนออกไปเอง”
รินลดาหน้าเผือด ขณะที่อีกฝ่ายยิ้มเยือกเย็นที่มุมปาก
“อ้อ! อีกอย่างผมจะบอกอะไรให้นะว่า ดีที่เป็นคุณศีล หากเป็นผมล่ะก็ คุณตายไปตั้งแต่ยังพลอดรักกับไอ้หน้าโง่นั่นยังไม่เสร็จรอบแรกอีกจะบอกให้!” พูดจบนิรุตม์ก็หมุนตัวออกมาด้วยความสะใจ เมื่อใบหน้าที่บวมปูดไร้สีเลือดอย่างไม่น่าสงสาร คงคิดไม่ถึงละสิ ว่าพวกเขาจะเข้ามาทันได้รู้เห็นความอัปยศอดสูของหล่อนและนาวี นิรุตม์นึกย้อนไปช่วงที่หล่อนยังหลงระเริงอยู่ในวังวนกามาไม่จบสิ้นทั้งที่พวกเขาต่างมาถึงนานแล้ว ก็ก่อให้เกิดความรู้สึกสะอิดสะเอียนจนเกินจะกล่าวจริงๆ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ร่างสง่าใบหน้าเครียดขรึมนั่งเงียบอยู่ภายในรถยนต์สีดำสนิท เขามองจนร่างของรินลดาหอบหิ้วกระเป๋าออกจากคอนโดด้วยอาการประปรกกระเปลี้ย แล้วเรียกรถออกไปในที่สุดจึงได้ถอนหายใจเฮือก นิรุตม์มองเจ้านายด้วยความเห็นใจอย่างสุดซึ้ง ก่อนจะหันไปสั่งให้คนที่ทำหน้าที่โชเฟอร์ออกรถ เพราะไม่มีประโยชน์ที่จะปล่อยให้เจ้านายต้องมองภาพที่กำลังจะกลายเป็นอดีตด้วยความเจ็บช้ำมากยิ่งกว่าเดิม...
ศิลานั่งเงียบมาตลอดทาง แม้จะจัดการกับคนทรยศทั้งคู่ได้แล้วแต่ในใจเขากลับร้อนรุ่มไม่จาง ความคั่งแค้นที่ถูกหยามไม่อาจถูกขจัดได้ในทันที สุดท้ายรินลดาก็เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ แม้เขาจะให้โอกาสแต่หล่อนก็ยังทำตัวดั่งผู้หญิงไร้ค่าไร้ยางอาย ทั้งที่เขาพยามยามดึงหล่อนขึ้นจากตมให้มาอยู่ในฝูงหงส์ แต่กา... ไม่ว่าจะนานเพียงไหนก็ยังคงเป็นกา ต่อให้พยายามปกปิดสีที่แท้จริง สักวันมันก็จะโผล่งอกออกมาให้เห็น และในที่สุดรินลดาก็เป็นเช่นนั้น หล่อนก็คงจะเป็นได้แค่อีกาที่ไม่มีค่าเทียมหงส์เลยสักนิด!
ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบใบหน้าคมคายพลางถอนหายใจอีกครั้ง วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เขาคิดถึงหล่อน หมดแล้วความเชื่อถือเชื่อมั่นในตัวผู้หญิง ต่อไปนี้จะไม่มีผู้หญิงคนไหนได้เข้าใกล้เขาในฐานะคนพิเศษอีกต่อไปไม่ว่าจะดีเลิศแค่ไหนก็ตาม
พลันดวงตาคมกริบก็วาววับ เมื่อเงาของ ‘ผู้หญิง’ อีกคนวาบเข้ามาในห้วงคำนึง ผู้หญิงสวยหวาน ที่เขาแทบไม่เคยพูดคุยด้วย ผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นน้องสาวของรินลดา!
ใบหน้าที่หม่นมองชั่วคราวเริ่มสว่างไสวเมื่อคิดถึงข้อมูลใหม่ที่เพิ่งได้รับมาเมื่อไม่นานนี้เกี่ยวกับครอบครัวแท้จริงของรินลดา เพราะนอกจากอีกฝ่ายจะไม่ใช่ผู้หญิงที่ถูกสามีทิ้งแล้ว รินลดายังมีแม่และน้องสาวอีกสองคน คนที่นั่งข้างเช่นนิรุตม์ต้องขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ เมื่อเจ้านายดูท่าจะผ่อนคลายลงไปอย่างมากมายจนน่าขบคิดหาสาเหตุ
แน่นอน... ศิลากำลังคิด ว่าเขาควรจะสั่งสอนคนที่ทำกับเขาอย่างเจ็บแสนเช่นไรจึงจะสาสม!!