1:กฎเหล็กที่เอาไว้แหก
กฎเหล็กที่เอาไว้แหก:
“อื้อออ…พี่ซันระ…แรงอีกซืดดด…ละ…ลึกเข้ามาลึกๆ …”
คำวอนขอของคนที่นอนอยู่ใต้ร่างทำให้ผมต้องเร่งจังหวะกายให้หนักขึ้น เสียงคราง คำวอนขอ เสียงหอบหายใจ เหงื่อ สายตาที่มองกัน มันทำให้ผมรู้สึกดี
ผมชอบเซ็กซ์…
ใครจะโลกสวยเขินอายเรื่องนี้ยังไงผมไม่สนเพราะสำหรับผมมันคือความชอบ ผมทำมันได้ทุกวันไม่ต่างจากการทานอาหารสามมื้อแน่นอนว่าผมไม่ได้ทานอาหารจานเดิมทุกมื้อและทุกวัน รสชาติของแต่ละคนต่างกันไปไม่ต่างจากอาหารมันเป็นเสน่ห์ที่ต้องค้นหารสชาติที่ถูกใจเพื่อที่จะกินซ้ำได้บ่อยๆ แบบไม่เบื่อ
แต่ผมยังไม่เจอคนนั้น…
คนที่กินเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ…
ผมปล่อยให้พวกเขาเข้ามาในชีวิตแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ไม่มีใครเป็นเจ้าของครอบครองเป็นภาระผูกพันกันทางใจ ทุกคนรู้ว่าต่างต้องการอะไรและต้องยืนอยู่ในจุดไหนของกันและกัน
“อูยยย…เต้…อ่ะ…อ่าส์”
“จะแตก…ซืดดด…จะแตกแล้วครับ…อื้อออ” สิ้นคำอีกฝ่ายก็เกร็งไปทั้งตัวทำเอาผมเสียวไปด้วยสาวเอวเข้าออกได้ไม่นานก็หลั่งตามไป
ผมดึงถุงยางออกมองความเป็นชายยังพองขยายอย่างต้องการแต่มันไม่มีเวลาแล้ว
เต้ต้องไปทำงาน…
ผมจับลำรูดขึ้นลงปลดปล่อยความอัดอั้นที่ยังคั่งค้างอยู่ภายใน เด็กหนุ่มที่นอนอยู่ตรงโซฟาลุกขึ้นนั่งขยับเข้ามาหาก่อนจะยึดครองความเป็นชายของผมเข้าไปในปากอย่างช่ำชอง
ปากหนาบดขยี้ดูดอมสลับกับตวัดปลายลิ้นโลมเลียตั้งแต่ส่วนหัวจนถึงโคนอมให้ลึกดูดให้แรงนั่นคือสิ่งที่เต้ทำ
“อือออ…ซืดดด…” ผมจับบ่าเต้เอาไว้มั่นพอใจที่เขาทำมันได้ดี สายตาคมเงยขึ้นมามองสบอย่างยุยั่ว
สองมือประคองความเป็นชายขยับรูดอย่างรู้จังหวะปลายลิ้นร้อนเลียตวัดปลายหัวที่ฉ่ำเยิ้มก่อนจะดูดแรงๆ สลับกับตวัดลิ้นเลีย
“เชี่ย…อูยยเสียวไอ้เต้…” ผมก้มลงมองเด็กหนุ่มที่ยิ้มให้ผมเหมือนท้าทาย
“แตกสิครับ…ใส่ปากผม” พูดจบเต้ก็บดดูดอมครอบความเป็นชายผมอีกครั้ง
“ซืดดด…อูยยย…เชี่ยยย…” ผมเด้งเอวสวนเข้าไปในปากมันตามสัญชาตญาณเร่งจังหวะเร็วขึ้นโดนฟันครูดแต่ก็ไม่สนใจเพราะความเสียวมันมีมากกว่า
“อือออ…” เสียงเต้ครางในลำคอไม่นานผมก็ปลดปล่อยทุกอย่างอีกครั้งในปากของมัน
มันกลืนทั้งหมดลงคอยืดตัวขึ้นมาหมายจะอ้อนขอจูบจากผมเป็นรางวัลแต่เป็นผมเองที่เบือนหน้าหนีผลักมันออกห่างตัว
ผมไม่จูบกับคู่นอนครับ…
ความบริสุทธิ์เดียวที่ผมเก็บเอาไว้ให้คนรักในอนาคตคือปากของผม ไม่เคยมีอวัยวะใดได้รุกล้ำเข้าไปไม่มีใครได้จูบและไม่เคยใช้ปากอมให้ใครทั้งนั้น
“ไปแต่งตัวใกล้จะเข้างานแล้ว” ผมบอกมันเสียงเครียด
“ทำไมไม่จูบครับ”
“อย่าถามกูบอกให้มึงแต่งตัว”
“พี่ไม่จูบผมเลยสักครั้ง” เต้ยังตัดพ้อ
“อย่าให้กูโมโหไอ้เต้! ...” ผมเสียงเข้มกว่าเก่า
เต้จ้องผมเหมือนขัดใจแต่สุดท้ายก็ยอมลุกขึ้นแต่งตัว ผมหยิบทิชชูมาเช็ดทำความสะอาดแล้วก็หันไปหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่เช่นกัน มันแต่งตัวเสร็จแล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่พูดอะไรกับผม ประตูยังไม่ทันปิดดีไอ้ยูก็เดินสวนเข้ามา
มันกอดอกนั่งพิงขอบโต๊ะทำงานมองผมด้วยสายตาแปลกๆ ผมเลยหันหลังให้มันขณะติดกระดุมเสื้อ
“เฮียแม่ง…โคตรเซ็กซี่ว่ะ”
“ไอ้เชี่ยชมแบบนี้กูขนลุก!” ผมหันไปดุไอ้ยู
มันเป็นรุ่นน้องสมัยมัธยมเราสนิทกันเพราะเหตุผลของรสนิยมทางเพศ สมัยนั้นมันไม่ได้เปิดกว้างนักจะเปิดเผยความชอบให้เพื่อนทุกคนรู้ก็เป็นเรื่องยากนอกจากคนที่รสนิยมเดียวกัน มันคือเพื่อนเที่ยวเพื่อนกินและกลายเป็นเพื่อนสนิทในที่สุด
ลืมบอกไปครับ
ผมชื่อซัน อายุ 28 เป็นเจ้าของคลับGeeGคลับเกย์ส่วนไอ้นั่นชื่อยู อายุ27 เป็นผู้จัดการร้านแล้วก็เป็นหุ้นส่วนด้วย
“ถ้าผมเป็นรับจะนอนให้เฮียจัดสักน้ำคงรู้สึกดีนะ” มันยิ้ม
“เชี่ย! ...นี่มึงมองกูแล้วแข็งเหรอไอ้เวร!” ผมมองไอ้ยูอย่างระแวง
“ฮ่าๆ …เปล่าๆ เฮีย…รุกยิ่งมีน้อยผมต้องรักษาตัวเองไว้” มันยิ้ม
“แล้วมึงมีไร?”
“เอ่อ…มองเฮียจนลืมฮ่าๆ …วันนี้จะมีเด็กใหม่มาออดิชั่นนะ”
“ทำไมมึงไม่บอกกูก่อนกูปล่อยไปหลายน้ำแล้วเนี่ย…”
“ฮ่าๆ …อันนี้ก็ช่วยไม่ได้นะเฮียหน้ามืดเองมาถึงก็เรียกไอ้เต้เข้าห้องผมจะบอกอะไรทัน”
“มึงนี่นะ…”
“ให้ผมเทสแทนมั้ยล่ะเฮีย…”
“ดูก่อน” ผมว่าหันไปมองมันที่ยังยิ้มไม่เลิก “มึงเลิกใส่เสื้อฮาวายซะทีได้มั้ยเห็นทีไรกูนึกว่าวันสงกรานต์” มันยักไหล่แบบไม่ใส่ใจก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานผมไป
"เปลี่ยนใจได้นะเฮียผมพร้อมปฏิบัติหน้าที่แทนเฮียเสมอ" ไอ้ยูยื่นหน้าเข้ามาอีกครั้ง
"ไปไกลๆตีน!" ผมโวยใส่มันก็หัวเราะแล้วปิดประตูจากไป
ตอนนี้รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาแล้วครับ…
ออดิชั่นที่พูดถึงคือการคัดนายแบบหนุ่มหล่อหน้าตาดี รูปร่างดีเข้ามาทำงานเอนเตอร์เทนลูกค้าบนเวทีครับ เรามีคอนเซ็ปมีโชว์ที่สลับเปลี่ยนทุกวันเพื่อเรียกลูกค้า ทุกคนต้องเต้นต้องโชว์ร่างกายแลกกับดริ้งลูกค้าซึ่งมันก็คือเงินที่ลูกค้ามีสิทธิ์จะยัดใส่ตรงไหนก็ได้แต่…
ห้ามให้ลูกค้าจับโดนอวัยวะที่อยู่ในกางเกง ไม่มีการล้วงควักรูดอมใดๆ ทั้งสิ้น
สิ่งเหล่านั้นจะเกิดขึ้นได้เมื่อเลิกงานร้านปิดแล้วเท่านั้นร้านจะหักเปอร์เซ็นต์ถ้านายแบบออกไปกับลูกค้าแต่ถ้าใครออกไปกับลูกค้าแล้วไม่แจ้งก็จะมีการลงโทษ มันเป็นเหตุผลด้านความปลอดภัยบางทีอาจเจอล่อซื้อจากตำรวจหรือเจอลูกค้าโรคจิต
ไม่ได้ออดิชั่นเด็กใหม่มานานมากแล้วได้เจออะไรสดๆ ใหม่ๆ ค่อยสดชื่นขึ้นมาหน่อย คนอื่นอาจจะยึดกฎที่ว่าห้ามยุ่งกับเด็กในร้านไม่เช่นนั้นจะเสียการปกครองแต่นั้นมันใช้ไม่ได้กับผมหรอกนะครับ
นายแบบทุกคนในร้านผ่านมือผมมาแล้วทั้งนั้นและมีหลายคนที่ยังผ่านมือผมซ้ำหลังจากจบการออดิชั่น ผมรู้จักนิสัยใจคอทุกคนดี
ไอ้เต้ก็เป็นหนึ่งในนั้นและที่ผ่านมายังไม่มีปัญหาเรื่องการหึงหวงหรือแย่งชิงผมแต่อย่างใดทุกคนรู้ว่าต้องทำตัวแบบไหนถึงจะได้รับความเมตตาจากผม
เสียงจังหวะดนตรีบีทหนักทำเอาหัวใจของนักศึกษาหนุ่มเต้นรัวยิ่งกว่าเก่า
‘นี่กูบ้าไปแล้วเหรอวะ’
พีพีถามตัวเองเมื่อคิดถึงสิ่งที่กำลังตัดสินใจทำลงไป ประกาศรับสมัครนายแบบของร้านGeeGทำให้เขาเดินเข้ามาข้างในอย่างไม่ลังเล เขาเคยมาเที่ยวที่นี่สองครั้งแต่ถ้าจะให้มาทำงานมันก็….
รู้ดีว่านายแบบที่ว่าต้องทำอะไร ภาพแบงค์สีแดงปึกใหญ่ยัดอยู่ในกางเกงนายแบบยังจำได้ติดตา
แต่จะทำไงได้ล่ะ… ชะตาชีวิตเขาพลิกเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือจากนักศึกษาแพทย์ที่วันๆ ก็สนใจแต่การเรียนกินเที่ยวกับเพื่อนตามประสาไม่ต้องหาเงินส่งเสียตัวเองเรียน
แต่ตอนนี้เขาต้องทำ
พ่อกับแม่เขาเลิกกัน…
และพ่อเลือกจะมีครอบครัวใหม่โดยไม่มีเขาในชีวิต
เสียงดนตรีที่ดังขึ้นทำให้พีพีหันไปมอง ชายร่างสูงขาวหน้าตาก็ดีก้าวเข้ามาในห้องเสื้อเชิตแขนสั้นลวดลายสดใสแปลกตาขัดกับกางเกงยีนส์ที่ซีดขาดทำให้พีพีต้องหยุดมอง
“น้องที่มาสมัครคราวก่อนใช่มั้ย”
“ครับ”
“พี่ชื่อยูนะเป็นผู้จัดการร้าน”
“สวัสดีครับ” พีพียกมือไหว้
ชายตรงหน้ารับไหว้และชวนพูดคุยอย่างอารมณ์ดีสัมภาษณ์นิดหน่อยที่เหลือก็อธิบายลักษณะงานของนายแบบขอบเขตที่ทำได้และห้ามทำซึ่งถ้ารับข้อตกลงนี้ได้ก็จะต้องไปออดิชั่นอีกครั้งนึง
“ออดิชั่น”
“ใช่…เฮียซัน…พี่หมายถึงเจ้าของที่นี่น่ะแกจะเป็นคนคัดเลือกเอง”
“ผมต้องทำไงครับ”
“ก็…เต้น”
“แค่นั้นเหรอครับ”
“นายไม่ต้องถามหรอกไปถึงเฮียเขาจะบอกเองว่าแต่...…นายเรียนหมอจริงๆ เหรอ”
“ครับ…”
“เจ๋งว่ะไม่เคยมีว่าที่คุณหมอมาทำงานแบบนี้เลย”
“ผมจำเป็นต้องใช้เงินครับ”
“เข้าใจ…ใครๆ ก็ต้องใช้เงินกันทั้งนั้นวันนี้พร้อมมั้ยล่ะเฮียซันเข้าร้านพอดีจะออดิชั่นเลยก็ได้นะ”
“ครับ…”
“งั้นก็รอในห้องนี้แหล่ะ” พูดจบยูก็ลุกออกจากห้องไป