“กินข้าวด้วยกันก่อนไหมคะ”
เห็นว่ามาถึงตัวเมืองก็เย็นมากแล้ว อรกมลไม่เคยกินข้าวร่วมโต๊ะกับชัชวีร์มาก่อน แต่ตอนนี้สถานะของทั้งคู่นั้นเปลี่ยนไป เธอเป็นผู้หญิงของเขาแล้ว แสดงว่าเป็นคนรักของชัชวีร์ มีสิทธิ์นั่งกินข้าวด้วยกันสองต่อสองได้
“ก็ดีเหมือนกัน กินข้าวก่อนแล้วค่อยกลับ”
เธอแค่ลองถามไปอย่างนั้น แต่ไม่คิดว่าชัชวีร์จะตอบตกลง หญิงสาวคลี่ยิ้มดีใจ เผลอเลื่อนมือไปกอดแขนของหนุ่มเจ้าของไร่ เขาหันมากระตุกยิ้มมุมปากให้เธอเล็กน้อย ก่อนจะบอกให้เธอนั่งดี ๆ เพราะต้องใช้สมาธิจดจ่อกับเส้นทางข้างหน้า
ไปถึงร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมือง ทั้งสองก็พากันสั่งอาหาร ขณะนั่งรอชัชวีร์ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายไปหาคุณย่าฉายรวี เพราะเกรงว่าจะเป็นห่วงที่ไม่เห็นไปกินข้าวร่วมกับคนในบ้าน
“ผมไม่ได้ไปกินข้าวด้วยนะครับ พอดีมาทำธุระในตัวเมือง กว่าจะกลับถึงบ้านก็คงดึก”
คนนั่งฟังคราแรกใบหน้ายังคงสดใส ทว่าเมื่อได้ยินคำว่ามาทำธุระจากปากของชัชวีร์ รอยยิ้มที่มีก็เจื่อนลงทันใด เกิดคำถามขึ้นในใจว่าทำไมเขาถึงไม่บอกไปตามตรงว่ามาส่งเธอ
“พี่วีร์มาทำธุระเหรอคะ”
“ธุระของฉันก็มาส่งเธอไง”
อรกมลคลี่ยิ้มเล็กน้อยราวกับคนไม่คิดอะไร จากนั้นเธอก็ไม่ได้ถามอะไรต่อจนกระทั่งอาหารที่สั่งมาเสิร์ฟ
สามสิบนาทีต่อมา รถของชัชวีร์ได้จอดลงตรงหน้าหอพัก มือของหญิงสาวกำสายกระเป๋าสะพายม้วนวนไปมา เพราะยังไม่อยากลงจากรถ
นับจากนี้อีกห้าวันกว่าจะเจอหน้ากันอีก ทำไมเขาถึงไม่พูดอะไรกับเธอเลยว่าต่อจากนี้ความสัมพันธ์ที่บอกว่าเธอเป็นผู้หญิงของเขาจะดำเนินต่อไปอย่างไร อรกมลจึงรวบรวมความกล้าแล้วถามออกไป
“พี่วีร์คะ อัยย์ขอคอนแท็กต์หน่อยได้ไหม”
“ได้สิ”
คำสั้น ๆ ที่ได้ฟัง ทำให้อรกมลมีรอยยิ้มกว้างขึ้นมาอย่างดีใจ
ทั้งสองหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแลกช่องทางการติดต่อของกันและกัน เขาทำตามที่อีกฝ่ายร้องขอแล้ว ถึงเวลาเรียกสิ่งตอบแทนจากเธอบ้าง
ชัชวีร์วางโทรศัพท์ลงบนตัก เลื่อนมือไปรั้งท้ายทอยของหญิงสาวให้ขยับเข้ามาหากัน ริมฝีปากหยักจูบลงที่ริมฝีปากอวบอิ่ม แทรกลิ้นอุ่นเข้าไปในโพรงปากที่เผยอเปิดรับอย่างเต็มใจ
เขาจูบเธออยู่หลายนาที กวาดต้อนความหวานเข้าปากจนพึงพอใจก็ผละริมฝีปากออก วางหน้าผากแนบชิดกัน พ่นลมหายใจถี่กระชั้นเป่ารดใบหน้าที่แดงระเรื่อ ยังนึกติดใจความสาวที่ได้รับเมื่อคืนไม่หาย ถ้าไม่ติดว่าเป็นหอพักที่ห้ามบุคคลภายนอกเข้า เขาคงจะขึ้นไปส่งเธอถึงบนห้อง มีอะไรกันเสร็จแล้วค่อยกลับ
“ได้ในสิ่งที่ต้องการไปแล้ว ตาฉันขอเธอบ้าง”
“ขออะไรคะ” เธอให้เขาได้ทุกอย่าง ขอแค่เป็นสิ่งที่ไม่เกินกำลัง
“อย่าให้ใครรู้เรื่องของเรา”
อรกมลเพิ่งจะดีใจกับความน่ารักของชัชวีร์ และสัมผัสวาบหวามที่เขามอบให้ทางริมฝีปากได้ไม่นาน คิ้วเรียวก็ขมวดเข้าหากันเล็กน้อยอย่างเป็นคำถาม
“ทำไมคะ”
“เธอก็รู้ว่าคุณแม่เป็นคนยังไง ถ้าท่านรู้เรื่องของเรา เธอกับฉันยังจะคบกันได้อยู่ไหม”
แม่ของชัชวีร์เป็นคนเจ้ากี้เจ้าการ ฝีปากก็ไม่ธรรมดา ประโยคสวยหรูแต่แฝงด้วยถ้อยคำเหน็บแนมจิกกัดได้แสบทรวง ถ้ามีใครโชคร้ายโดนคุณรุ่งวิภาด่าขึ้นมา มีหวังได้หน้าชาหูชากันไม่มากก็น้อย
ตอนเด็กอรกมลมักจะโดนตำหนิเป็นประจำว่าคอยเกาะคุณย่าและหวังสมบัติของไร่สิงหเนวินทร์ ถึงไม่ยอมจากไปไหนเสียที จึงรู้สึกเกรงกลัวกับเรื่องความสัมพันธ์ที่เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น เกรงว่าถ้าแม่ของเขารู้จะกีดกันไม่ให้คบกันอย่างแน่นอน
ทว่าขณะนั่งนิ่งอย่างใช้ความคิด มือข้างขวาของเธอก็ถูกกอบกุมด้วยมือของชัชวีร์ อรกมลหันใบหน้าและดวงตาวูบไหวไปสบกับสายตาคู่คมที่จ้องมองมาอย่างสับสน ไม่รู้ว่าจะจัดการกับความคิดที่ปั่นป่วนอย่างไรดี
“สิ้นเดือนนี้คอนโดที่ปล่อยเช่าจะมีคนย้ายออก เธอย้ายไปอยู่ที่นั่นนะ ถ้าฉันเข้าตัวเมืองจะได้มานอนกับเธอได้”
“...” หญิงสาวยังคงนั่งนิ่ง จ้องใบหน้าหล่อเข้มอย่างไม่มีคำตอบ
ชัชวีร์เลื่อนมือขึ้นไปลูบเรือนผมของเธออย่างเบามือ ขยับใบหน้าเข้าไปจูบที่ริมฝีปากของอรกมลแผ่วเบา ก่อนจะเอ่ย
“ให้เวลาฉันหน่อยนะ ฉันจะทำให้คุณแม่ยอมรับเรื่องที่เราคบกัน แต่ว่ารอให้เรียนจบก่อนดีกว่า อัยย์เป็นผู้หญิงของฉันแล้ว ฉันไม่มีวันทอดทิ้งเธอแน่นอน”
ถ้อยคำของเขาเป็นทั้งประโยคขอร้องและให้คำมั่น หัวใจคนฟังเหมือนมีน้ำมาหล่อเลี้ยงให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง อรกมลรีบพยักหน้าอย่างไม่ต้องคิดให้เสียเวลา
“ค่ะ อัยย์จะรอนะคะ”
เธอจะเก็บเรื่องราวทุกอย่างไว้เป็นความลับ ไม่ให้ใครล่วงรู้อย่างที่เขาต้องการ
*****
วันสุดท้ายของเดือน อรกมลก็ได้ย้ายออกจากหอพักไปอยู่คอนโดตามที่ชัชวีร์ต้องการ เธอไม่ให้ใครมาช่วยเก็บของ แม้แต่เพื่อนสนิทอย่างเขมิกาก็ยังไม่รู้ว่าเธอมีคนรัก
ย้ายออกก่อนแล้วค่อยบอกเพื่อนทีหลังก็ยังไม่สาย เพราะเธอพักอยู่ในห้องนี้คนเดียว ส่วนเขมิกาอยู่คอนโดอีกที่หนึ่ง
ช่วงบ่ายชัชวีร์รีบเคลียร์งานในไร่ก็มุ่งหน้ามาหาเธอที่หอพัก ขนย้ายข้าวของเข้าไปอยู่คอนโดของเขาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากเท่าไร ยังคงเดินทางไปเรียนได้สะดวกไม่ต่างจากที่เดิมมากนัก
จัดของเสร็จก็สั่งอาหารมากินที่ห้อง กินอิ่มแล้วชัชวีร์ยังไม่กลับ เขานั่งอยู่บนโซฟาดูโทรทัศน์ เธอล้างจานเสร็จจึงเดินเข้าไปหา
“พี่วีร์จะค้างที่นี่ไหมคะ”
ทันใดนั้นมือหนาก็เกี่ยวเอวของคนตัวเล็กให้นั่งลงบนตัก เลื่อนมือเชยปลายคางอรกมลให้เงยหน้าขึ้นสบตากัน
“อยากให้ฉันอยู่ด้วยไหม”
อรกมลเผยรอยยิ้มและแววตาที่เต็มไปด้วยความต้องการเอาไว้ไม่มิด ทำไมเธอจะไม่อยากให้เขาอยู่ด้วย นับตั้งแต่คืนนั้นจนกระทั่งวันนี้ก็สิบวันแล้วที่ชัชวีร์ไม่มาหาเธอเลย เวลาที่โทรหากันก็มีน้อยนิด คุยกันแค่ไม่กี่ประโยคเขาก็ขอวางสายเพราะเหนื่อยจากงานในไร่ ทำเอาเธอแอบน้อยใจอยู่ไม่น้อย
หญิงสาวจูบที่ริมฝีปากหยักแผ่วเบาก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“ค่ะ อัยย์อยากให้พี่วีร์อยู่ด้วย”
“แต่ฉันไม่ได้เอาเสื้อผ้ามา ถ้าอยากให้อยู่ด้วยคงต้องแก้ผ้านอนทั้งคืน”
น้ำเสียงหยอกเย้าทำให้พวงแก้มคนบนตักแดงก่ำ หญิงสาวอมยิ้มจนปวดแก้ม แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้เพราะเธอก็ต้องการเขาเช่นเดียวกัน
ชัชวีร์ตกลงอยู่กับเธอในคืนนี้ เขาเข้าไปอาบน้ำก่อน เสร็จแล้วก็ถึงคราอรกมลอาบบ้าง หลังจากนั้นชุดนอนของหญิงสาวก็ไม่จำเป็นที่จะต้องสวมใส่อีกต่อไป